07 พ.ค. 2564 | 16:56 น.
ที่ผ่านมา ‘ชางเผิง เจา’ (Changpeng Zhao) หรือคนในวงการเรียกเขาว่า CZ เขาได้รับคำชื่นชมมาตลอด โดยเฉพาะเรื่องของความพยายาม ความมานะจนเขาประสบความสำเร็จในเส้นทางธุรกิจที่ปั้นมากับมือ นั่นก็คือ Binance แพลตฟอร์มซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลอันดับ 1 ของโลก (วัดจากปริมาณการเทรดในแต่ละวัน)
แต่ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 เขาถูกกล่าวหาว่าได้ทำการละเมิดข้อกำหนดเรื่องการต่อต้านการฟอกเงินของสหรัฐอเมริกา และได้ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลทันที ซึ่ง CZ ก็ให้การรับสารภาพว่า บริษัท Binance อนุญาตให้ลูกค้าในสหรัฐฯ สามารถใช้แพลตฟอร์มของเขาเอง โดยไม่ต้องดำเนินการตรวจสอบระบบ KYC หรือ Know Your Customer คือกระบวนการทำความรู้จักกับลูกค้าผ่านการยืนยันตัวตน เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ อีกทั้งยังไม่ได้ตรวจสอบตามมาตรการป้องกันการฟอกเงินด้วย
อย่างไรก็ตาม CZ ได้รับการประกันตัวแล้ว โดยวางหลักประกันมูลค่า 175 ล้านดอลลาร์ และรอผลการพิจารณาคดีอีกครั้งในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2024
แต่ไม่ว่าสุดท้ายแล้วผลจะเป็นอย่างไร CZ ผิดและถูกจำคุกตามที่หลาย ๆ สื่อรายงานไว้ หรือว่าไม่มีความผิด แต่ในมุมมองของคนธุรกิจ CZ ยังเป็นหนึ่งในบุคคลตัวอย่างที่มานะและมุ่งมั่นกับสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำคนหนึ่งเลย สำหรับ CZ เขาเปรียบตัวเองว่าเป็น ‘ช่างตีเหล็ก’
และประโยคที่เขามักจะพูดบ่อย ๆ ก็คือ “ช่างตีเหล็กทำกระบี่ไม่จำเป็นต้องเป็นปรมาจารย์กังฟูเสมอไป ผมคือช่างตีเหล็ก”
CZ เปรียบตัวเองเป็น ‘ช่างตีเหล็ก’ ก็เสมือนเป็น ผู้สร้างอาวุธ หรือคริปโตเคอร์เรนซี และแพลตฟอร์มซื้อขายให้บรรดา ‘จอมยุทธ์’ หรือเหล่าเทรดเดอร์นำไปประลองฝีมือกัน โดยตนเองไม่เคยคิดจะนำอาวุธนี้มาต่อสู้กับใคร
เขาเคยได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดของโลกคริปโตฯ นอกจากนี้ บริษัทของเขายังให้บริการธุรกิจอื่นที่เกี่ยวกับระบบบล็อกเชน (blockchain) แบบครบวงจร รวมถึงเป็นเจ้าของเงินดิจิทัล BinanceCoin (BNB) และมีแพลตฟอร์มซื้อขาย-รับฝากงานศิลปะหรือสินทรัพย์อื่นในรูปดิจิทัลที่มาจากเทคโนโลยี non-fungible tokens (NFTs)
ฟังดูอาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่เด็กหนุ่มชาวจีนคนหนึ่งจะก่อตั้งธุรกิจขึ้นมาจนประสบความสำเร็จ แต่สำหรับ CZ แล้ว เรื่องราวชีวิตของเขากว่าจะมาถึงจุดนี้ มันไม่ได้สวยงามหรือโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่มาจากความมานะอุตสาหะและความชาญฉลาด ซึ่งน่าศึกษาไว้เป็นบทเรียน
มุ่งมั่นตั้งใจใฝ่รู้
ชางเผิง เจา หรือ CZ เกิดในปี ค.ศ. 1977 ที่มณฑลเจียงซู ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมชั้นนำของจีน แม่ของเขามีอาชีพครู ส่วนพ่อเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย หลังออกมาลืมตาดูโลกไม่นาน ครอบครัวต้องเผชิญมรสุมครั้งใหญ่เมื่อบิดาถูกโจมตีว่าเป็น ‘นักวิชาการฝั่งนายทุน’ จนสุดท้ายต้องหอบหิ้วครอบครัวลี้ภัยไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในแคนาดา
CZ และครอบครัวอพยพไปตั้งรกรากที่เมืองแวนคูเวอร์ ช่วงปลายทศวรรษ 1980s และเพื่อช่วยครอบครัวสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นใหม่ เขาต้องหาอาชีพเสริมทำตั้งแต่สมัยเรียนไฮสกูล โดยทำงานเป็นพนักงานขายเบอร์เกอร์ในร้านแมคโดนัลด์ในช่วงกลางวัน และรับจ๊อบเป็นเด็กปั๊มเติมน้ำมันในเวลากลางคืน
แม้จะต้องทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ก็ไม่เคยละทิ้งการศึกษาเล่าเรียน CZ มีความสนใจส่วนตัวทั้งด้านการเงินและเทคโนโลยี ก่อนตัดสินใจเรียนต่อระดับปริญญาตรีในสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยแม็คกิลล์ (McGill University) ในเมืองมอนทรีออล
หลังจบการศึกษาเขาเลือกทำงานที่ตนเองมีความรู้และสนใจ นั่นคืออาชีพในแวดวงเทคโนโลยีการเงิน (FinTech) เริ่มจากการเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ซื้อขายหุ้นให้กับตลาดหลักทรัพย์กรุงโตเกียว ของญี่ปุ่น ก่อนจะย้ายมาเป็นนักออกแบบระบบซื้อขายล่วงหน้าให้กับบลูมเบิร์ก บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนชื่อดังในนครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ
พัฒนาต่อยอดความรู้เดิม
หลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้าน FinTech เกือบ 10 ปี ก็ถึงเวลาที่ต้องออกมาหาความท้าทายใหม่ CZ ตัดสินใจลาออกจากบลูมเบิร์ก ย้ายกลับไปบ้านเกิดในปี 2005 เพื่อร่วมกับเพื่อนก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพชื่อ Fusion Systems ที่นครเซี่ยงไฮ้
ธุรกิจหลักของ Fusion Systems คือการพัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นให้กับโบรกเกอร์ ซึ่งต่อมาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในระบบซื้อขายหุ้นที่ทำธุรกรรมพร้อมกันได้จำนวนมากและทำงานรวดเร็วที่สุดในโลก มีบริษัทชั้นนำมากมายเป็นลูกค้าไม่ว่าจะเป็นเครดิต สวิส, โกลด์แมน แซคส์ และดอยซ์แบงก์
นั่นคือความสำเร็จก่อนที่เขาจะได้รู้จักกับโลกบล็อกเชน และคริปโตฯ
CZ รู้จักกับเงินคริปโตฯ ครั้งแรกในปี 2013 จากเพื่อนสนิทที่มักเล่นไพ่โป๊กเกอร์ด้วยกัน โดยเพื่อนแนะนำให้เขารู้จักบิตคอยน์ (BTC) เป็นเจ้าแรก จากนั้นเขาก็หลงใหลและไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งจากในอินเทอร์เน็ต และตระเวนเข้าร่วมงานประชุมสัมมนาต่าง ๆ จนกระทั่งมั่นใจในเทคโนโลยีนี้
เบื้องต้นเขาพยายามเกลี้ยกล่อมหุ้นส่วนใน Fusion Systems ให้หันมาลงทุนในคริปโตฯ แต่ไม่มีใครสนใจ เขาจึงตัดสินใจลาออกจากบริษัทเพื่อเดินตามความฝันใหม่ โดยเริ่มจากการขายบ้านที่เซี่ยงไฮ้ ได้เงินมา 1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำมาลงทุนในบิตคอยน์
จากนั้น CZ เริ่มหาประสบการณ์ตรงในอุตสาหกรรมบล็อกเชน ด้วยการร่วมงานกับ blockchain.info ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโตฯ ยุคบุกเบิก ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ OKCoin อีกหนึ่งบริษัทซื้อขายคริปโตฯ จนกระทั่งมั่นใจว่าเข้าใจธุรกิจนี้ดีพอ
ประจวบเหมาะกับกระแสคริปโตฯ ที่เริ่มร้อนแรง เขาตัดสินใจกระโจนลงสู่สนามนี้ ด้วยการเปิดบริษัท Binance ในเดือนกรกฎาคมปี 2017 และระดมทุนได้ 15 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการนำ BinanceCoin ออกทำ ICO (Initial Coin Offering) คล้ายการนำหุ้นออกซื้อขายครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์ หรือ IPO (Initial Public Offering)
ปรับตัวไม่ท้อต่ออุปสรรค
การเปิดตัว Binance ดูเหมือนจะราบรื่น แต่หลังจากเปิดกิจการได้เพียง 2 เดือน บริษัทก็ต้องเผชิญปัญหา เมื่อรัฐบาลจีนประกาศห้ามทำการค้าบิตคอยน์ภายในประเทศ ทำให้ CZ และทีมงานอีกกว่า 30 ชีวิต ต้องอพยพออฟฟิศจากเซี่ยงไฮ้ไปกรุงโตเกียว ก่อนจะย้ายไปไต้หวัน และประเทศอื่น ๆ ในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ดี ด้วยจุดเด่นของธุรกิจบล็อกเชน คือการเน้นทำธุรกรรมบนโลกออนไลน์ ไม่ต้องพึ่งพาสถาบันการเงินให้ยุ่งยาก ทำให้ธุรกิจมีอิสระ ไม่ต้องยึดติดกับสถานที่ตั้ง และง่ายต่อการโยกย้ายและบริหารกิจการ
นอกจากปัญหาถูกกีดกันจากภาครัฐและสถาบันการเงินทั่วไปแล้ว Binance และธุรกิจวงการเดียวกัน ยังเจอปัญหาความปลอดภัยจากการเจาะระบบข้อมูล และปัญหาเชิงเทคนิคอื่น ๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคขัดขวางการเติบโตของบล็อกเชนและเงินคริปโตฯ ที่บรรดานักลงทุนทั่วโลกหันมาจับจ้องและให้ความสนใจ
แพลตฟอร์มของ Binance เน้นการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างเงินคริปโตฯ ด้วยกันและเติบโตอย่างรวดเร็ว ทะยานจากวันเริ่ม ICO กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีวอลุ่มเทรดมากที่สุดในโลกภายในเวลาเพียง 184 วัน โดยปริมาณการซื้อขายช่วงต้นปี 2019 ตกวันละ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ และกินส่วนแบ่งตลาดที่ 25%
ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 นิตยสารฟอร์บส ยังนำเรื่องราวและรูปภาพของ CZ ไปขึ้นหน้าปก พร้อมยกย่องให้เป็นดาวรุ่งดวงใหม่แห่งวงการบล็อกเชน ผู้สร้างตัวจากศูนย์ กลายเป็นมหาเศรษฐีระดับพันล้านเหรียญสหรัฐภายในเวลาเพียง 6 เดือน โดยทรัพย์สินของเขานับถึงวันที่ 30 เมษายน 2021 มีมูลค่าสุทธิ 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐ
CZ กล่าวถึงปัจจัยความสำเร็จของ Binance ว่ามาจากการเริ่มทำธุรกิจได้ถูกเวลา และยังเป็นเจ้าแรกที่ให้บริการลูกค้าครอบคลุมทั่วโลก เพราะสามารถสื่อสารกับผู้ใช้ได้หลากหลายภาษา และมีระบบดูแลลูกค้าที่พร้อมตลอด 24 ชม. ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้ปรัชญาการทำงานเรียบง่าย นั่นคือการมอบสินค้า บริการ และความปลอดภัยที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้งาน
ปัจจุบันแม้ CZ จะสามารถสร้างตัวเองจนกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน แต่เขายังคงใช้ชีวิตเรียบง่าย อาศัยอยู่ในบ้านเช่า และไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทรัพย์สินเกือบทั้งหมดที่มีล้วนอยู่ในรูปเงินคริปโตฯ โดยให้เหตุผลว่า สภาพคล่องต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง
CZ บอกว่าชีวิตทุกวันนี้ของเขานอกจากจะไม่มีทรัพย์สินใหญ่ ๆ ที่จับต้องได้ในครอบครองแล้ว เขายังไม่มีเงินสด หรือเงินในบัญชีธนาคาร โดยทุกอย่างจะใช้จ่ายผ่านคริปโตฯ แต่หากต้องใช้เงินตราของรัฐบาล (fiat) เขาจะรูดผ่านบัตร Binance ซึ่งสามารถแปลงคริปโตฯ เป็นเงินสดเฉพาะเท่าที่จำเป็น
เปิดใจรับสิ่งใหม่เสมอ
ชายผู้นี้เชื่อมั่นว่า อุตสาหกรรมบล็อกเชน และคริปโตฯ ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น และจะเติบโตต่อไปกลายเป็นอีกหนึ่งตัวกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนกระแสหลักในอนาคต แต่ปฏิเสธที่จะทำนายเทรนด์เทคโนโลยียุคต่อไป เพราะเชื่อว่าอนาคตเต็มไปด้วยเรื่องราวไม่คาดฝัน
อย่างไรก็ตาม วิธีรับมือกับเรื่องไม่คาดฝันและความเปลี่ยนแปลงที่ดีที่สุด เขาแนะนำว่าต้องเปิดใจพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ ขณะเดียวกันก็ย้ำว่า แม้เขาจะอยู่ในวงการซื้อขายคริปโตฯ และมีเงินดิจิทัลอยู่ในมือจำนวนมาก แต่เขาก็ไม่ใช่นักเก็งกำไรสินทรัพย์เหล่านี้แต่อย่างใด
“คนส่วนใหญ่ที่ไม่สามารถอดทนต่อความเย้ายวนของผลกำไรก้อนเล็กจากการลงทุนระยะสั้น มักพลาดโอกาสได้กำไรก้อนโตจากการลงทุนระยะยาวโดยไม่รู้ตัว”
CZ โพสต์เตือนผู้ติดตามกว่าล้านคนบน Twitter และมักลงท้ายโพสต์ส่วนตัวว่า “นี่ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงิน (not financial advice)”
แม้จะออกตัวว่าไม่ใช่ที่ปรึกษาทางการเงิน แต่ประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาของผู้ก่อตั้งอาณาจักรค้าขายสกุลเงินแห่งโลกยุคใหม่ จากเด็กหนุ่มสู้ชีวิตลูกผู้ลี้ภัยกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้านในเวลารวดเร็ว สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ชางเผิง เจา หรือ CZ ไม่ใช่แค่ ‘ช่างตีเหล็ก’ ธรรมดาอีกต่อไป แต่ก้าวไปเป็น ‘ปรมาจารย์’ ผู้เชี่ยวชาญแห่งวงการคริปโตฯ ฯ ในปัจจุบัน
*หมายเหตุ: บทความนี้มีการอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิดของผู้ก่อตั้งบริษัท ในฐานความผิดละเมิดกฎต่อต้านการฟอกเงินของสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566
ภาพ: Bloomberg / Getty Images