เซร์คิโอ ‘กุน’ อเกวโร: วีรบุรุษดาวซัลโวผู้เขียนตำนาน 93:20 ให้แมนฯ ซิตี้
“อเกวโรรรรรรรรรร... ผมสาบานได้เลยว่าคุณจะไม่มีทางได้เห็นอะไรแบบนี้อีกแล้ว”
มาร์ติน ไทเลอร์ ผู้บรรยายช่องสกาย สปอร์ต ตะโกนชื่อศูนย์หน้าทีม ‘เรือใบสีฟ้า’ จนเสียงหลง พร้อมพูดประโยคต่อมาด้วยความประหลาดใจกับภาพที่เห็นเบื้องหน้า หลัง กุน อเกวโร สร้างปาฏิหาริย์ด้วยการหลุดขึ้นไปยิงประตูชัยให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เฉือนชนะควีนส์พาร์กเรนเจอร์ส ด้วยสกอร์ 3 - 2 ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดสุดท้ายของฤดูกาล เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2012
ความพิเศษของลูกนี้นอกจากจะเป็นประตูชัยที่เกิดขึ้นในช่วงท้ายของการทดเวลานาทีที่ 93 กับอีก 20 วินาทีแล้ว มันยังเป็นประตูที่ทำให้ซิตี้ แย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกไปจากแชมป์เก่าและคู่ปรับร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า หลังจบฤดูกาล 2011 - 2012 ด้วยแต้มเท่ากัน 89 คะแนน
ด้วยเหตุนี้ ลูกที่กุนทำได้จึงกลายเป็นหนึ่งในประตูดราม่าที่สุดตลอดกาลของวงการฟุตบอลอังกฤษ เพราะนอกจากจะพาซิตี้กระชากถ้วยแชมป์มาได้แบบหัวใจแทบวายแล้ว ยังทำให้ ‘เรือใบสีฟ้า’ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี และกลายเป็นจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของแชมป์ขาประจำทีมใหม่ในพรีเมียร์ลีก
ในนัดอำลาสโมสรในเวทีพรีเมียร์ลีกของ กุน อเกวโร กับเอฟเวอร์ตัน (เขาทิ้งท้ายด้วยการลงสำรองกดให้ทีมรักถึงสองประตู) หลังรับใช้ในถิ่นเอติฮัด สเตเดียมมานาน 10 ปี ซิตี้จัดพิธีบอกลาเขาและฉลองแชมป์ฤดูกาล 2020 - 2021 อย่างสมเกียรติ พร้อมเปิดตัวชุดแข่งใหม่ของฤดูกาล 2021 - 2022 ซึ่งสกรีนตัวเลข 93:20 ที่เป็นนาทีประวัติศาสตร์ของสโมสรลงบนคอเสื้อด้านใน เพื่อระลึกถึงประตูชัยของอเกวโร ในฐานะวีรบุรุษผู้สร้างตำนานบทใหม่ให้กับทีม ‘เรือใบสีฟ้า’
กำเนิดวีรบุรุษ
เซร์คิโอ ‘กุน’ อเกวโร เกิดวันที่ 2 มิถุนายนปี 1988 ในครอบครัวยากจน ชานกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา บิดาของเขามีอาชีพรับจ้างทั่วไป และมีรายได้เสริมจากการลงเล่นฟุตบอลให้ทีมท้องถิ่นช่วงสุดสัปดาห์ ดังนั้น พรสวรรค์เชิงลูกหนังส่วนหนึ่งจึงอาจมาจากบิดาของตัวเอง
“สิ่งที่ผมจำได้ดีที่สุดในวัยเด็กคือที่หน้าบ้านของผมมีสนามฟุตบอล และตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ผมก็ออกไปเล่นกับลูกบอลทุกวัน” อเกวโรเล่าความหลัง
สนามบอลที่ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์พูดถึง คือลานดินโล่ง ๆ ไร้หญ้า และมีกรอบประตูทำจากเศษไม้นำมาต่อกัน โดยกิจกรรมยามว่างของเขา ถ้าไม่ดูการ์ตูนอยู่หน้าทีวี ก็มาอยู่ที่สนามบอลแห่งนี้ทุกวัน ส่วนชื่อเล่น กุน (Kun) ที่สกรีนด้านหลังเสื้อแข่งของตัวเอง มาจากตัวการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง กุม-กุม (Kum-Kum) ที่เขาชื่นชอบ จนบรรดาญาติผู้ใหญ่ใช้เรียกแทนชื่อจริงมาตั้งแต่เด็ก
ประสบการณ์จากการเล่นฟุตบอลตั้งแต่เล็ก ผนวกพรสวรรค์ในตัว ทำให้กุนกลายเป็นนักเตะที่โดดเด่นกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน และได้เป็นนักเตะเยาวชนของทีมอินดิเพนเดนเต้ สโมสรฟุตบอลอาชีพในบ้านเกิดตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบ
อินดิเพนเดนเต้ ส่งกุนลงประเดิมสนามเป็นตัวสำรองให้ทีมชุดใหญ่ในนัดดวลกับซานโลเรนโซ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2003 ทำให้เขากลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงเล่นลีกสูงสุดของอาร์เจนตินา ขณะมีอายุเพียง 15 ปี กับอีก 33 วัน
“เขามีความแข็งแรง ครองบอลดี เล่นในพื้นที่แคบยอดเยี่ยม ถ้าจะให้เปรียบกับนักเตะคล้ายกันที่ผุดขึ้นมาในหัวทันทีก็คงจะเป็น โรมาริโอ (ตำนานศูนย์หน้า) ชาวบราซิล” ทิม วิกเคอรี ผู้เชี่ยวชาญฟุตบอลอเมริกาใต้กล่าวกับบีบีซี
ความยอดเยี่ยมที่ว่านี้ คือเหตุผลที่ทำให้ปี 2006 แอตเลติโก มาดริด ตัดสินใจควักเงิน 20 ล้านยูโร ดึงตัว กุน อเกวโร มาเล่นในลาลีกาสเปน ก่อนขายต่อให้กับแมนฯ ซิตี้ ในปี 2011 ด้วยมูลค่า 35 ล้านปอนด์
แชมป์โลกรุ่นเล็ก
เหตุผลที่ซิตี้ยอมทุ่มเงินจำนวนมากคว้าศูนย์หน้าร่างเล็ก วัย 22 ปี มาร่วมทัพมาจากฝีเท้าอันจัดจ้าน ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วทั้งในลาลีกา และเวทีโลก โดยก่อนมาซิตี้ กุนพาทีม ‘ฟ้าขาว’ อาร์เจนตินา คว้าแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี (U-20) มาครองได้ถึง 2 สมัย (2005, 2007) และคว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้อีกสมัย (2008)
ในแคมป์เยาวชน ‘ฟ้าขาว’ ยุคนั้น กุนได้รับการจับตาไม่น้อยไปกว่าลิโอเนล เมสซี เนื่องจากปี 2007 ที่อาร์เจนตินาคว้าแชมป์โลก U-20 ที่แคนาดา กุนคว้าตำแหน่งดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์โดยทำได้ 6 ประตู และปัจจุบัน เขายังเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลอันดับ 3 ของอาร์เจนตินา ยิงไปทั้งหมด 41 ประตู เป็นรองแค่ เมสซี (71) กับกาเบรียล บาติสตูตา (54) เท่านั้น
กุน และเมสซี มีความสนิทสนมกันถึงขั้นที่เมสซี รับเป็นพ่อทูนหัว (godfather) ให้กับเบนจามิน ลูกชายของกุน ตามธรรมเนียมของชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังมักพักห้องเดียวกันในแคมป์ทีมชาติ และตอนเปิดตัวหนังสือบันทึกเรื่องราวชีวิตส่วนตัว ‘Sergio Kun Aguero: Born to Rise: My Story’ ในปี 2014 ก็ได้เมสซีมาช่วยเขียนคำนำในหนังสือดังกล่าวให้ด้วย
นอกจากความสัมพันธ์ที่ดีกับเมสซีแล้ว กุนยังเป็นอดีตลูกเขยของดิเอโก มาราโดนา ตำนานวีรบุรุษทีม ‘ฟ้าขาว’ ผู้ล่วงลับ โดยในปี 2008 ปีเดียวกับที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก กุนเข้าพิธีวิวาห์กับ จิอันนีนา ลูกสาวของมาราโดนา และมีลูกด้วยกัน 1 คน คือ เบนจามิน ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกทางกันหลังอยู่กินด้วยกันได้ 4 ปี
“เบนจามิน ลูกชายของผมใช้ชีวิตอยู่ที่อาร์เจนตินากับแม่ของเขา ผมจึงต้องใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวเป็นส่วนใหญ่” กุนเปิดใจถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวหลังหย่าร้าง
ตำนานเรือใบสีฟ้า
แม้ชีวิตครอบครัวจะล้มเหลว แต่กุนยังคงปักหลักอยู่ที่แมนเชสเตอร์ เพราะความชอบส่วนตัวเรื่องสภาพอากาศที่มีฝนตกชุก ทำให้นอนหลับได้ดี นอกจากนี้ บรรดาแฟนบอล เพื่อนร่วมทีม และสตาฟฟ์ของสโมสร ก็มีส่วนช่วยให้เขาไม่รู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยว
“ความรักและการยอมรับที่ได้ (ในแมนเชสเตอร์) มีความหมายมากสำหรับผม มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะอยู่ห่างไกลครอบครัว โดยเฉพาะกับเบนจามิน ลูกชายของผม”
นิสัยส่วนตัวของกุนมีส่วนสำคัญที่ทำให้เขาเข้ากันได้ดีกับทุกคน โดยคนรอบตัวล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ผู้นี้เป็นคนมีอารมณ์ขัน ถ่อมตัว เป็นมิตร และมีวินัย
“เขาเป็นที่รักอย่างเหลือเชื่อของบรรดาสตาฟฟ์หลังบ้าน เขาเป็นคนนิสัยดีมาก และคุณภาพในฐานะผู้เล่นก็ไม่จำเป็นต้องเพิ่มอะไรเข้าไปแล้ว เพราะตัวเลขสถิติต่าง ๆ บอกแล้วว่าเขาน่าเหลือเชื่อเพียงใด” เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี้ กล่าวถึงนักเตะหมายเลข 10 ของทีม
“นอกสนามเขาเป็นคนดีมาก เป็นธรรมชาติและถ่อมตัว เขาอารมณ์ดีเสมอ พูดตรง ๆ ผมแทบไม่เคยเห็นว่าจะมีเรื่องอะไรที่ทำให้เขาหัวเสียหรือโกรธได้สักที” เมสซีช่วยยืนยันพฤติกรรมของเพื่อนรักอีกแรง
แม้เพื่อนร่วมทีมแมนฯ ซิตี้ บางคนบอกว่า กุนอาจดูเป็นนักเตะที่ไม่ค่อยกระตือรือร้นตอนซ้อม แต่ในยามลงสนาม เขามีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม และใช้พรสวรรค์ที่มีทำเพื่อทีมอย่างไม่เห็นแก่ตัว
ตลอด 10 ปี กับซิตี้ (2011 - 2021) กุนทำประตูให้ ‘เรือใบสีฟ้า’ ทุกรายการไปทั้งหมด 260 ลูก พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 5 สมัย แชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย และลีกคัพอีก 6 สมัย (ยังเหลือลุ้น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อีกถ้วย) นับเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร
หากนับเฉพาะพรีเมียร์ลีกก่อนนัดสั่งลา เขาลงเล่นให้ซิตี้ไป 275 นัด ทำไป 184 ประตู นับเป็นนักเตะต่างชาติที่ทำประตูได้สูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก และเป็นดาวซัลโวตลอดกาลอันดับ 4 ของลีก รองจากนักเตะอังกฤษ 3 คน คือ อลัน เชียเรอร์, เวย์น รูนีย์ และแอนดี โคล นอกจากนี้ยังเคยคว้ารางวัลรองเท้าทองคำในฐานะดาวซัลโวสูงสุดประจำฤดูกาล 2014 - 2015 โดยทำไปคนเดียว 26 ประตู
วีรบุรุษนักล่า
“ยามเขามีความฟิตได้ลงซ้อมและลงแข่งต่อเนื่อง เขาคล้ายโรมาริโอ เขาเหมือนสิงโตที่อยู่ในป่า ซึ่งขย้ำฝั่งตรงข้ามได้ทุกเวลา” เป๊ป กวาร์ดิโอลา บรรยายถึงความร้ายกาจของกุน
หากวิเคราะห์เบื้องหลังความสำเร็จของกุนในฐานะศูนย์หน้าที่มีความครบเครื่อง แม้จะถนัดเท้าขวาแต่ก็สามารถทำประตูด้วยเท้าซ้าย และโหม่งทำประตูได้แม้จะมีส่วนสูงเพียง 170 ซม. สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มาพร้อมพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจากสมรรถภาพร่างกาย ความมีวินัย และความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างต่อเนื่อง
“แม้เขาจะมีรูปร่างค่อนข้างเล็กตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เขามีต้นขาที่ใหญ่ซึ่งทำให้ระเบิดพลังออกมาได้ดีจริง ๆ” ไบรอัน มาร์วูด ผู้อำนวยการฟุตบอลของซิตี้ กล่าวถึงความพิเศษทางร่างกายของกุน
ต้นขาอันทรงพลังทำให้กุนสามารถวิ่งออกตัวได้รวดเร็ว ทรงตัวได้ดี และครองบอลวางเท้ายิงประตูได้ยอดเยี่ยม
ขณะเดียวกัน เขายังมีวินัยทั้งในและนอกสนาม แม้จะชอบดื่มสังสรรค์ยามค่ำคืนเหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่ก็รู้จักควบคุมตัวเองและรู้เวลา ไม่เคยก่อปัญหาจนกระทบต่อสุขภาพ รวมถึงการฝึกซ้อมและเกมการแข่งขัน
ส่วนอีกเคล็ดลับสำคัญ คือการมุ่งมั่นทำการบ้านด้วยการศึกษาคู่ต่อสู้ก่อนลงสนามทุกนัดตามตำราซุนวูที่ว่า ‘รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง’
“เขาใช้เวลามากมายไปกับการศึกษาผู้รักษาประตู เขาคิดตลอดเวลาเกี่ยวกับนายทวารคนต่อไปที่จะเจอในกรณีที่ต้องดวลกันตัวต่อตัว และเขาต้องยิงอย่างไรให้ผ่านมือผู้รักษาประตูคนนั้น” วิลลี กาบาเยโร อดีตนายทวารเพื่อนร่วมสโมสร และเพื่อนร่วมชาติชาวอาร์เจนตินาเผย
การศึกษาคู่แข่งของกุนไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเพียงอย่างเดียว บรรดาเพื่อนร่วมทีมยังกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาช่วยแนะนำทุกคนในทีมเพื่อรับมือคู่ต่อสู้ที่เขารู้จัก ไม่เว้นแม้แต่ศูนย์หน้าทีมเดียวกันที่พร้อมแย่งตำแหน่งตัวจริงในสนามไปจากเขาได้ทุกเวลา
“เขาพูดคุยกับผมเยอะมากทั้งเรื่องเกมการแข่งขัน การเขี่ยลูกเริ่มเล่น เกี่ยวกับกองหลังและผู้รักษาประตูฝั่งตรงข้าม เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก” กาเบรียล เชซุส ศูนย์หน้ารุ่นน้องชาวบราซิลที่ระยะหลังมักได้ลงตัวจริงแทนกุน กล่าวถึงเพื่อนร่วมทีมรุ่นพี่ในตำแหน่งเดียวกัน
ทั้งพรสวรรค์ การรักษาร่างกายอย่างมีวินัย ความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมทีม และหมั่นศึกษาคู่แข่งเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเคล็ดลับที่ทำให้กุนกลายเป็นตำนานของทั้งสโมสร และพรีเมียร์ลีก
หลังหมดสัญญารับใช้ ‘เรือใบสีฟ้า’ มาเป็นเวลา 10 ปีเต็ม กุนในวัยย่าง 33 ปีตัดสินใจย้ายไปเล่นให้ทีมบาร์เซโลนา ในลาลีกาสเปน ระหว่างเข้าสู่ช่วงบั้นปลายชีวิตค้าแข้ง
“เมื่อผมแขวนสตั๊ดไปแล้ว ผมจะจดจำช่วงเวลานี้เสมอ เพราะมันคือหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของผม” กุนกล่าวถึงประสบการณ์และตำนานที่เขาร่วมสร้างกับซิตี้
ขณะที่ ปาโบล ซาบาเลตา อดีตเพื่อนร่วมสโมสรและทีมชาติอาร์เจนตินา สดุดีดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร โดยเชื่อมั่นว่า ลูกยิงในช่วงทดเวลาที่เป็นจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ยุคใหม่ของ ‘เรือใบสีฟ้า’ จะทำให้ชื่อของ เซร์คิโอ กุน อเกวโร กลายเป็นตำนานของเหล่า ‘ซิตีเซน’ พร้อมทิ้งท้ายว่า
“เสียงตะโกนดังลั่นที่ว่า ‘อเกวโรรรรรรรรรร!’ ในนาทีที่ 93 จะอยู่ในความทรงจำของแฟน ๆ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทุกคนตลอดไป”
ข้อมูลอ้างอิง:
www.youtube.com/watch?v=oepskn9gjDI
https://theathletic.com/1486526/2020/01/12/sergio-aguero-thierry-henry-breaks-record-premier-league/
https://www.goal.com/story/making-sergio-aguero/
https://www.bbc.com/sport/football/57111816
https://www.theguardian.com/football/2021/may/21/sergio-aguero-manchester-city-bid-legend-farewell
https://www.mancity.com/news/mens/our-fans-will-show-the-world-how-much-sergio-means-to-them-says-pep-63757200
https://www.standard.co.uk/sport/football/sergio-aguero-goal-man-city-qpr-martin-tyler-commentary-premier-league-title-a4438451.html
ภาพ: Matt McNulty / Gettyimages