เอ็นโกโล ก็องเต้: จากเด็กเก็บขยะ - เรียนบัญชี สู่มิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในโลก
หากพูดถึงนักฟุตบอลตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ เอ็นโกโล ก็องเต้ (N’Golo Kanté) กองกลางจอมขยันทีมชาติฝรั่งเศส ของสโมสรเชลซี อยู่ในลิสต์นี้อย่างปฏิเสธไม่ได้
ก็องเต้ พิสูจน์แล้วว่าเขาคู่ควรกับตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจากผลงานเป็นที่ประจักษ์ จากการเป็นตัวหลักของทีม และพาต้นสังกัดคว้าแชมป์มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแชมป์โลก ไปจนถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ ยูฟ่ายูโรปาลีก และล่าสุด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
นอกจากฝีเท้า และความสำเร็จบนเส้นทางลูกหนังแล้ว เรื่องราวส่วนตัวของก็องเต้ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เขาถูกยกย่องให้เป็นนักเตะสู้ชีวิตที่มีมุมมองความคิดไม่เหมือนใคร มีความสุภาพ ถ่อมตัว และเป็นที่รักของทุกคน โดยคุณสมบัติเหล่านี้ล้วนมีที่มาจากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา
เก็บขยะหาเลี้ยงครอบครัว
เอ็นโกโล ก็องเต้ เกิดในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 1991 เขาเป็นลูกผู้อพยพชาวแอฟริกาจากประเทศมาลี ครอบครัวมีฐานะยากจน มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน (ชาย 3 หญิง 1)
ก็องเต้ในวัยเด็กเคยช่วยบิดาตระเวนเก็บขยะตามข้างถนนเพื่อนำไปขายเป็นรายได้จุนเจือครอบครัว วันหนึ่ง ๆ เขาต้องเดินเท้าเก็บขยะเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร จนกระทั่งอายุ 11 ปี บิดาที่เป็นเสาหลักมาเสียชีวิตไปแบบกะทันหัน ทำให้มารดาของเขาต้องรับภาระเลี้ยงดูลูก ๆ เพียงลำพัง
หลังจากบิดาเสียชีวิต ก็องเต้ยังคงเก็บขยะขายเพื่อช่วยหาเลี้ยงครอบครัว ขณะที่มารดารับจ้างทำความสะอาดบ้าน ซึ่งเป็นอาชีพที่มีรายได้น้อย ด้วยประสบการณ์ชีวิตแบบปากกัดตีนถีบนี้ทำให้ก็องเต้ได้เรียนรู้คุณค่าของเงิน และทำให้เขาเป็นคนทุ่มเททำงานหนักเพื่อสร้างชีวิตที่ดีในอนาคต
เล่นบอลและเรียนบัญชี
หนุ่มน้อยชาวฝรั่งเศสเชื้อสายมาลีผู้นี้ เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 8 ขวบกับ ชีเอส ซูร์เอนส์ (JS Suresnes) ทีมสมัครเล่นทางตะวันตกของกรุงปารีส ก่อนย้ายมาร่วมทีมสำรองของสโมสร บูโลญจน์ (Boulogne) ในลีกล่างของฝรั่งเศส
“ผมอยู่กับทีมสำรองของบูโลญจน์ ในดิวิชั่น 6 ก่อนเลื่อนสู่ดิวิชั่น 5 ผมยังไม่ได้เล่นอาชีพ จึงตัดสินใจลงเรียนควบคู่กันไป เพราะไม่แน่ใจว่าจะหาเงินเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนักฟุตบอลได้หรือไม่
“ตอนอายุ 18 ปี ผมเรียนจบได้เข้ามหาวิทยาลัย จึงไปลงเรียนบัญชีต่ออีก 2 ปี คราวนี้พอติดทีมชุดใหญ่ ผมได้สัญญาเป็นนักเตะอาชีพเลยตัดสินใจหยุดเรียน ผมได้ประกาศนียบัตรเป็นนักบัญชี แต่ตอนนี้อยากมุ่งมั่นกับการเล่นฟุตบอลมากกว่า” ก็องเต้กล่าวหลังเซ็นสัญญาเล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกในวัย 19 ปี
จอร์ช ตูร์เนย์ ผู้จัดการทีมบูโลญจน์ เล่าถึงตอนค้นพบก็องเต้ครั้งแรกว่า
“ตอนผมเข้ามาคุมทีมใหม่ ๆ ผมจับนักเตะเยาวชนหลายคนจากศูนย์ฝึกมาทดสอบฝีเท้า รวมถึงเขาด้วย เอ็นโกโลฉายแววเข้าตาผมทันที ทั้งการเคลื่อนที่ เทคนิค ความเรียบง่าย และความอึดของเขา ทำให้ผมสงสัยเลยว่าเขามัวมาทำอะไรอยู่ที่นั่น”
ก็องเต้ลงประเดิมสนามนัดแรกให้กับบูโลญจน์ชุดใหญ่ในฐานะตัวสำรองช่วงท้ายเกมของนัดสุดท้ายในฤดูกาล 2011/12 ของลีก 2 ฝรั่งเศส จากนั้นจึงย้ายไปเล่นให้กับ ก็อง (Caen) ในฤดูกาลถัดมา และทำผลงานโดดเด่น พาก็องเลื่อนชั้นสู่ลีกเอิง และอยู่รอดบนลีกสูงสุดได้ในฤดูกาลต่อมา จนกระทั่งปี 2015 ฟอร์มไปเข้าตาแมวมองของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ควักเงิน 5.6 ล้านปอนด์ ดึงมาร่วมทีมในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
แค่ปีแรกที่ย้ายมาอังกฤษ ก็องเต้ก็กลายเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ เลสเตอร์ ซิตี้ สร้างปาฏิหาริย์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 134 ปีของสโมสรในฤดูกาล 2015/16 จนซีซันต่อมา เชลซี ทุ่มเงินถึง 32 ล้านปอนด์ คว้าตัวมาร่วมทีมในที่สุด
รางวัลและความสำเร็จ
หลังย้ายมาเชลซีปีแรก ก็องเต้ก็พาทีม ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ แห่งกรุงลอนดอน ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2016/17 ได้เช่นกัน ทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ของอังกฤษที่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้ 2 ปีซ้อนกับสโมสรต้นสังกัดที่ต่างกัน
นอกจากแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัยแล้ว ก็องเต้ยังพาเชลซีคว้าแชมป์เอฟเอคัพในฤดูกาล 2017/18 และแชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีกฤดูกาล 2018/19 ไปจนถึงยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020/2021 มาครองได้อีกด้วย
ในนามทีมชาติ ก็องเต้ประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยการพาทีม ‘ตราไก่’ ฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซียมาครองในปี 2018 และเขายังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมอีกหลายรายการทั้งในระดับโลก และระดับสโมสร
คุณสมบัติในฐานะนักเตะที่โดดเด่นของก็องเต้ คือ ความสามารถในการวิ่งไล่แย่งบอลฝั่งตรงข้ามแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โดยฤดูกาล 2015/16 ที่ได้แชมป์กับเลสเตอร์ ก็องเต้มีสถิติเข้าปะทะและเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ทั้งหมด 175 ครั้ง สูงที่สุดในพรีเมียร์ลีก
“ผู้เล่นคนนี้เขาวิ่งไม่หยุดจนผมแอบคิดว่า เขาต้องซ่อนแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟไว้จนเต็มไว้ในกางเกงแน่ ๆ” คลาวดิโอ รานิเอรี อดีตผู้จัดการทีมเลสเตอร์ชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกกล่าวติดตลก
“เขาไม่เคยหยุดวิ่งเลยแม้ตอนซ้อมจนผมต้องบอกเขาว่า ‘นี่เอ็นโกโล ช้าลงหน่อย ไม่ต้องวิ่งไล่บอลตลอดเวลาก็ได้’ เขาตอบผมว่า ‘ได้ครับบอส โอเคครับ’ แต่หลังจากนั้นแค่ 10 วินาที พอผมหันไปมองอีกที เขาก็กลับมาวิ่งเหมือนเดิมอีกครั้ง”
ความขยันของก็องเต้ เป็นที่เลื่องลือถึงขั้นที่เขาเคยบอกว่า อยากวิ่งจากบ้านมาสนามซ้อมทุกวันเพื่อเป็นการเรียกความฟิตไปในตัว แต่โชคดีที่บรรดาเพื่อนร่วมทีมเลสเตอร์ ช่วยกันห้ามไว้ ทำให้เขาล้มเลิกความตั้งใจในที่สุด
ยอดมิดฟิลด์ในฝัน
นอกจากเป็นนักเตะที่แย่งบอลเก่งและวิ่งได้ตลอด 90 นาทีแล้ว ก็องเต้ยังถือเป็นกองกลางในฝันของหลายทีม เพราะครองบอลได้ดี มักอยู่ถูกที่ถูกเวลา ซึ่งมาจากไหวพริบในการอ่านเกมได้อย่างชาญฉลาด และสามารถเปลี่ยนเกมรับเป็นเกมรุกได้อย่างรวดเร็ว
คุณสมบัติของมิดฟิลด์ในฝันนี้สะท้อนออกมาได้ดีเมื่อเลสเตอร์ ตัดสินใจขายก็องเต้ออกไปให้เชลซี แต่ก็ซื้อนักเตะใหม่อย่าง วิลเฟรด เอ็นดีดี เข้ามา ซึ่งมีลีลาและสไตล์การเล่นแทบจะถอดแบบจากก็องเต้มาไม่ผิดเพี้ยน
เหตุผลที่ทำให้ก็องเต้กลายเป็นมิดฟิลด์จอมขยัน ส่วนหนึ่งมาจากความพยายามชดเชยจุดด้อยของเขา เนื่องจากเป็นนักเตะตัวเล็กสูงเพียง 168 ซม. โดยข้อด้อยนี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้เขาเริ่มเล่นอาชีพล่าช้า เพราะบรรดาทีมใหญ่ต่างมองข้ามความสามารถของเขาไป และไปเน้นดูที่สรีระร่างกายเป็นหลัก
อีกเหตุผลที่ทำให้มิดฟิลด์ร่างเล็กผู้นี้ทุ่มเทพลังอย่างเต็มที่ให้กับเกมลูกหนัง คือมุมมองต่อโอกาสที่เข้ามาในชีวิต
“เราโชคดีที่ได้เล่นฟุตบอลเพื่อหาเลี้ยงชีพ สำหรับผมแล้ว นี่คือสิ่งที่ผมปรารถนามาตลอด การได้มาถึงจุดนี้ล้วนเป็นพรจากพระอัลเลาะห์
“มีผู้คนอีกหลายล้านคนที่ต้องการโอกาสได้ทำงานแบบที่เราทำทุกวัน และมันก็เป็นอาชีพที่มีอายุสั้น นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมจึงทุ่มเททุกอย่างลงไปในทุกโอกาสที่ได้มา
“การได้เล่นให้ทีมชาติบนเวทีโลก มันมีค่ามากกว่าเงินทองจะซื้อหามาได้ และผมก็โชคดีมากที่มีโอกาสได้ทำสิ่งนั้น”
เสน่ห์นอกสนาม
นอกจากผลงานในสนามแล้ว เรื่องราวนอกสนามของก็องเต้ ก็ได้รับคำชื่นชมไม่แพ้กัน เขาเป็นนักเตะที่ขึ้นชื่อเรื่องความสุภาพ ถ่อมตัว อารมณ์ดี และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
แม้ในสนามเขาจะเล่นในตำแหน่งที่ต้องปะทะกับคู่แข่งตลอดเวลา แต่ก็องเต้ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้เล่นที่มีน้ำใจนักกีฬามากที่สุดคนหนึ่ง ความสุภาพและเป็นมิตรที่แสดงออกมา ทำให้เขากลายเป็นที่รักของเพื่อนนักเตะร่วมอาชีพทุกคน ตลอดจนแฟนบอลฝ่ายตรงข้าม
ส่วนความเรียบง่ายในการใช้ชีวิตสะท้อนจากรถยนต์ที่ใช้ประจำ โดยก็องเต้ ยังคงขับรถยนต์มินิคูเปอร์มือสองคันเก่าราคา 20,000 ปอนด์ ซึ่งเขาซื้อมาตั้งแต่ย้ายมาเล่นในอังกฤษปีแรก แม้สัญญาฉบับใหม่ในเดือนพฤศจิกายน 2018 เขาจะได้รับค่าเหนื่อยสูงถึงสัปดาห์ละ 300,000 ปอนด์แล้วก็ตาม
แม้จะเป็นคนประหยัด ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่ก็องเต้ก็ไม่ใช่คนโลภด้วยเช่นกัน โดยรายงานระบุว่า นักเตะชาวฝรั่งเศสผู้นี้เคยปฏิเสธข้อเสนอของเชลซี ที่แนะนำให้รับค่าตัวและทำธุรกรรมผ่านบริษัทในต่างแดนเพื่อเลี่ยงอัตราภาษีที่สูง ทว่า ก็องเต้ยืนยันเต็มใจจ่ายเต็มอัตรา และไม่ต้องการใช้เทคนิคเลี่ยงภาษีใด ๆ
ความซื่อสัตย์ สุภาพ เรียบง่าย และถ่อมตัว ตลอดจนความมุ่งมั่นทุ่มเทในอาชีพค้าแข้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนหล่อหลอมจากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะไม่ได้เริ่มต้นโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ความมานะบากบั่น และทัศนคติที่ดี คือ สิ่งที่ทำให้ยอดมิดฟิลด์ที่ชื่อ เอ็นโกโล ก็องเต้ สามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้ในที่สุด
“มันค่อย ๆ เกิดขึ้นทีละเล็กละน้อย ฤดูกาลแล้วฤดูกาลเล่า จากชัยชนะและความพ่ายแพ้ ด้วยความสุขและความผิดหวัง มันล่อหลอมผมให้เป็นนักเตะคนหนึ่ง และผมคิดว่ามันช่วยให้ผมกลายเป็นผู้เล่นในแบบที่ผมเป็นอยู่ทุกวันนี้
“การได้มาถึงจุดนี้กับเชลซีในวันนี้ และโชคดีพอที่ได้เล่นในแชมเปียนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศ มันช่วยย้ำเตือนผมถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มันช่างน่าวิเศษจริง ๆ”
ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.sportskeeda.com/player/ngolo-kante
https://weaintgotnohistory.sbnation.com/.../it-wasnt...
https://www.givemesport.com/1687255-ngolo-kante-18-times...
https://www.football.london/.../chelsea-didier-drogba...
https://www.dailystar.co.uk/.../ngolo-kante-chelsea...
เรื่อง: ภานุวัตร เอื้ออุดมชัยสกุล
.
ภาพ: David Ramos/Getty Images