ที่มาของเครื่องหมายดอลลาร์ในชื่อ ‘Ke$ha’ และ ‘TiK ToK’ เพลงฮิตยุค 2010s
ถ้าในทศวรรษปัจจุบัน ‘TikTok’ หมายถึงแอปพลิเคชันแบ่งปันวิดีโอยอดฮิต เมื่อทศวรรษที่แล้ว ‘TiK ToK’ ก็คือคำที่ชวนให้นึกถึงจังหวะสนุก ๆ ซาวนด์อิเล็กทรอนิกส์ และท่อนฮิต ‘Don’t stop, make it pop. DJ, blow my speakers up’ ของสาวผมบลอนด์ดัดลอนแฟชั่น และภาพของเธอที่กำลังเต้นปลดปล่อยอารมณ์อยู่บนที่นั่งข้างคนขับในรถเปิดประทุน
บทเพลง ‘TiK ToK’ เป็นเพลงแรกที่เปลี่ยนชีวิตในเส้นทางดนตรีของ ‘Ke$ha’ หญิงสาวผู้แต่งและร้องเพลงนี้ พร้อมทั้งบรรจุมันไว้ในเดบิวต์อัลบั้ม ‘Animal’ เมื่อปี 2009 - ความฮิตแบบฉุดไม่อยู่ของมันนั้น นอกจากจะเป็นเพลงแรกที่ขึ้นอันดับ 1 ใน Billboard Hot 100 ประจำยุค 2010s แล้ว ยังเป็นเพลงจากนักร้องหญิงที่มียอดดาวน์โหลดประจำสัปดาห์สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยสถิติ 610,000 ดาวน์โหลด (ก่อนที่ ‘We Are Never Ever Getting Back Together’ ของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ จะแย่งตำแหน่งนั้นไปในอีก 3 ปีให้หลัง) และขึ้นแท่นซิงเกิลที่ขายดีที่สุดในโลก
และนี่คือเรื่องราวของ ‘Ke$ha’ ว่าด้วยเพลง ‘TiK Tok’ การถูกห้อมล้อมด้วยเรื่องราวร้าย ๆ และที่มาเครื่องหมาย ‘$’ ในชื่อของเธอ
*เนื่องด้วยปัจจุบันเธอใช้ชื่อที่ไม่มีเครื่องหมายดอลลาร์อีกต่อไป ผู้เขียนจึงขอเรียกเธอด้วยการถอดเสียงภาษาไทย เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ว่า ‘เคชา’
เด็กหญิงที่เกิดมาพร้อมหาง
“ฉันเกิดมามีหาง”
คือคำที่เคชาเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้เมื่อหลายปีก่อน และหากคุณคิดว่าเธอกำลังพูดถึง ‘หาง’ ด้วยถ้อยคำที่เป็นนามธรรมใด ๆ ละก็ เคชาได้ไขข้อสงสัยนั้นแล้วว่าไม่ใช่ เพราะเธอมีหางที่เป็นหางจริง ๆ
“มันเป็นหางเล็ก ๆ ประมาณเศษหนึ่งส่วนสี่นิ้ว พวกเขาตัดมันออกและขโมยหางฉันไปตั้งแต่เด็ก เอาจริงไหม ฉันเสียใจจริง ๆ นะ (ที่โดนขโมยหาง)”
นอกจากหางของเคชาที่ถูกหั่นสะบั้นและหายไปกับมือแพทย์สักคน สิ่งที่เธอถูกพรากไปในวัยเด็กก็คือชีวิตครอบครัวที่พร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก - เด็กหญิง เคชา โรส เซเบิร์ต (Kesha Rose Sebert) ไม่รู้ว่าพ่อของเธอคือใคร แต่ชีวิตที่มีแม่อย่าง ‘เพเบ เซเบิร์ต’ (Pebe Sebert) คอยดูแลทุกย่างก้าวอย่างห่วงใยก็ทำให้เธอไม่รู้สึกขาดหายอะไรแม้จะไม่มีผู้ชายหรือพ่อในบ้านก็ตาม
ด้วยอาชีพนักแต่งเพลงที่ถึงจะได้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานให้กับศิลปินดัง ๆ มากมาย แต่ก็ยังเข้าตำรา ‘ศิลปินไส้แห้ง’ ของผู้เป็นแม่ ทำให้เคชาเติบโตมาอย่างค่อนข้างยากจน กระนั้นเธอก็ยังสนใจในดนตรี พอเริ่มโตเป็นสาว เธอก็เข้าคลาสเรียนเขียนเพลงกับแม่ และเริ่มมีผลงานในฐานะ co-writer ให้ศิลปินชื่อดังหลายคน โดยผลงานที่สร้างชื่อแต่ไม่สร้างเงินให้กับเธอ ก็คือเพลงแรปสุดฮิตจากศิลปิน ‘Flo Rida’ อย่าง ‘Right Round’
เธอเป็นเจ้าของเสียงร้องประจำท่อนฮุกในเพลงนั้น และเพลง ‘Right Round’ นี่เอง คือที่มาที่ไป ที่ทำให้เธอหยิบเครื่องหมายดอลลาร์มาใส่ใน AKA ตัวเอง
เค ดอลลาร์ ฮา เด็กสาวผู้ทำงานฟรี
“ฉันไม่โทษเขาหรอก Flo Rida เป็นคนดีมาก ๆ มันแค่ตลกน่ะที่ฉันร่วมร้องในเพลงที่ดังขนาดนั้นแต่กลับไม่ได้ค่าตัวสักดอลลาร์เดียว”
เคชาพูดถึงที่มาของ ‘$’ ในสเตจเนมไว้แบบนั้น ราวกับว่าเธอสืบทอดคำสาปแห่งความยากจนมาจากผู้เป็นแม่ เพราะไม่ว่าเธอจะทำงานหนักแค่ไหน หรือสร้างเพลงฮิตมากเท่าไร เธอก็ยังเป็นเด็กสาวถังแตกที่ชอบไปบาร์เพื่อกินทาโก้ (toco) ฟรีอยู่วันยังค่ำ
โรงหนังเปิดเพลงที่เธอร้อง ร้านค้าเปิดเพลงที่เธอแต่ง บาร์ ร้านเหล้าทุกหนทุกแห่ง เธอได้ยินเสียงตัวเองในเพลงนั้น แต่ในกระเป๋าของเธอกลับไม่มีเงินมากพอให้จับจ่ายสินค้าในร้านสะดวกซื้อด้วยซ้ำ
“ฉันแฮปปี้กับการถังแตกนะ แล้วฉันก็แฮปปี้กับการมีเงินใช้ ไม่ว่าแบบไหนก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับฉัน ฉันสนใจแค่คนที่ดีกับฉัน และฉันก็จะทำแบบเดียวกันกับเขาด้วย แต่พูดตรง ๆ นะ ฉันละเกลียดความโลภและความตะกละของบางคนจริง ๆ”
เพื่อล้อเลียนตัวเองและคนโลภที่เธอเกลียดไปในเวลาเดียวกัน เคชาจึงกลายเป็น ‘Ke$ha’ ในช่วงเวลาที่เธอเซ็นสัญญากับค่ายเคโมซาบีเรเคิดส์ ภายใต้การนำของ ‘Dr. Luke’ และปล่อย ‘TiK ToK’ ออกสู่สายตาสาธารณชน
แปรงฟันด้วยขวดแจ็ค แดเนียลส์
“ฉันเคยเป็นผู้เช่าในบ้านที่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเฮาส์เมทกี่คน มันคือบ้านในลอเรลแคนยอนที่มีห้องพัก 7 ห้อง และเพื่อนร่วมห้องที่เปลี่ยนเข้าเปลี่ยนออกทุกเดือน มีฮิปปี้หลายคนนอนอยู่บนโซฟา
“ฉันไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั่งวันหนึ่งหลังจากคืนปาร์ตี้ ฉันตื่นมาพบว่าตัวเองถูกล้อมไปด้วยผู้หญิง 10 คนที่สวยยิ่งกว่าใคร ๆ ที่ฉันเคยรู้จัก และฉันก็รู้สึกว่า ว้าว! ฉันเหมือน ‘P. Diddy’ เลยว่ะ และนั่นแหละคือจุดเริ่มต้นและท่อนแรกของเพลง”
/ Wake up in the mornin’ feelin’ like P Diddy (hey, what up girl?)
Grab my glasses, I’m out the door, I’m gonna hit this city (let’s go) /
‘P. Diddy’ หรือ ‘Diddy’ คือชื่อของแรปเปอร์รุ่นเก๋าที่เพียบพร้อมด้วยสาว ๆ และบีตโอลด์สคูล โดยในเพลง ‘TiK ToK’ เคชาก็ได้ Diddy มาร่วมแจมในท่อน ‘hey, what up girl?’ และ ‘let’s go’ ด้วย
แน่นอนว่าพอ ‘TiK ToK’ ถูกปล่อยออกมาก็โด่งดังแบบไม่มีอะไรมากั้น ด้วยเนื้อเพลงก๋ากั่นและอารมณ์ขันของเคชา ทำให้เพลงนี้โดนใจหนุ่มสาวชาว 2010s เข้าเต็ม ๆ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีบางคนหาข้อตำหนิมาติเธอจนได้ ส่วนท่อนเจ้าปัญหาที่พาให้เธอโดนค่อนขอดก็อยู่ในเวิร์สแรกนั่นเอง
/ Before I leave, brush my teeth with a bottle of Jack
’Cause when I leave for the night, I ain’t comin’ back /
“ทุกคนดูจะโกรธเคืองกับท่อน ‘แปรงฟันด้วยแจ็ค แดเนียลส์’ (brush my teeth with a bottle of Jack) กันจริง ๆ แบบ ‘เธอสนับสนุนให้คนแปรงฟันด้วยเหล้าเบอร์เบินจริงเหรอ’ ฉันก็แบบ เออ ใช่ แปรงฟันด้วยเหล้ากันทุกวันเถอะนะ ทุกคนเลย โดยเฉพาะแม่สาวน้อยอายุแปดขวบ - ฉันหมายถึง คุณพูดอะไรของคุณน่ะ แน่นอนว่าไม่ (โว้ย)”
เรื่องราวร้ายๆที่รายล้อม
แม้อารมณ์ขันตามประสาวัยรุ่น และภาพลักษณ์แบบ ‘ฉันไม่สนหรอก’ จะเป็นที่ติดตาคอเพลงที่รู้จักเคชาจากผลงานเพลง ‘TiK ToK’ แต่ชีวิตของเธอหลังจากกลายเป็นคนดังก็ไม่ได้เรียบง่ายและสุขสบายอย่างที่คิด
ปี 2012 เปเรซ ฮิลตัน (Perez Hilton) เจ้าของบล็อกสายกอสซิปปล่อยภาพหลุดของเคชาสู่สายตาผู้คนที่กระหายเรื่องฉาว ตอนที่เธอรู้ข่าวรูปหลุด เคชากำลังเตรียมตัวสำหรับโชว์ แม้จะตกใจและเป็นกังวล แต่เธอก็มีแต่ต้องทำใจให้นิ่งและฉีกยิ้มให้กว้าง ยามที่สองเท้าก้าวขึ้นเวที เรื่องราวครั้งนั้นนำมาซึ่งจุดจบของความรักระหว่างเธอกับ แฮรอลด์ (Harold) แฟนหนุ่มที่คบหาดูใจกันอยู่ในช่วงเวลานั้น
ปี 2014 เคชาเข้ารับการรักษาโรคกินอาหารผิดปกติ (eating disorder) อันเป็นผลจากคืนวันในอุตสาหกรรมดนตรี
“ฉันค่อย ๆ อดอาหารหนักขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งฉันกินน้อยลงเท่าไร คนรอบตัวก็ยิ่งบอกว่าฉันดูดีมากขึ้นเท่านั้น (ตอนที่รับการรักษา) ฉันร้องไห้เพราะกินคาร์โบไฮเดรต ฉันรู้สึกว่าฉันกินไม่ได้ มันจะทำให้อ้วน และถ้าฉันอ้วน ฉันก็เป็นนักร้องไม่ได้ เพราะป็อปสตาร์กินข้าวไม่ได้ พวกเขาอ้วนไม่ได้”
หลังจากเข้ารับการบำบัดอยู่นานวัน ในที่สุดเคชาก็หลุดพ้นจากการอดอาหาร แต่เรื่องน่าเศร้าของเธอไม่ได้หมดเพียงเท่านั้น ในปีเดียวกัน เธอยื่นเรื่องฟ้อง ‘Dr. Luke’ โปรดิวเซอร์คู่บุญคู่กรรมของตัวเอง ด้วยข้อกล่าวหาว่าเขาวางยาและล่วงละเมิดทางเพศเธอมากกว่าหนึ่งครั้ง พร้อมทั้งให้การว่า Dr. Luke มักจะพูดจาทำร้ายจิตใจเธอ และบางครั้งก็ทำร้ายร่างกายด้วย
Dr. Luke ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และดำเนินการฟ้องเคชากลับ ทำให้ทั้งคู่ต้องเข้าออกศาลในแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์กเพื่อสู้คดีเรื่อยมานับจากนั้น ขณะที่เพื่อนร่วมงานของเคชาหลายคน ออกมาตั้งข้อสมมติฐานว่า การกระตุกหนวดเสือด้วยคำฟ้องของเคชา ทำให้โปรดิวเซอร์เจ้าเก่าของเธอมักจะขัดแข้งขัดขาในครั้งที่รู้ว่าเธอจะได้ร่วมงานกับผู้คนใหม่ ๆ อยู่เรื่อย นอกจากนั้นยังคอยบงการ และจำกัดความสร้างสรรค์ในงานเพลงของเธออีกด้วย
แม้จะยังไร้ข้อสรุปว่าการต่อสู้ระหว่างเธอกับ Dr. Luke จะเป็นอย่างไรต่อไป หากเคชาก็ไม่ได้กำลังส่งเสียงของเธออยู่เพียงลำพัง เพราะภายใต้อุตสาหกรรมเพลงป็อปที่เต็มไปด้วยความกดดันเช่นนั้น เธอยังมีเพื่อนร่วมวงการอย่าง อะเดล (Adele) เลดี้ กาก้า (Lady Gaga) เคลลี คลาร์กสัน (Kelly Clarkson) อาเรียนา แกรนเด (Ariana Grande) และเทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ที่ออกมาให้กำลังใจ และยืนหยัดส่งเสียงอยู่เคียงข้างเธอ
ที่มา: https://www.nickiswift.com/176155/inside-keshas-tragic-life/
https://www.rollingstone.com/music/music-news/kesha-and-dr-luke-everything-you-need-to-know-to-understand-the-case-106731/
https://www.songfacts.com/facts/kesha/tik-tok