โมโมโกะ ซากุระ: จากความทรงจำวัยเยาว์ในยุค 70s สู่เรื่องราวของ ‘หนูน้อยจอมซ่า มารุโกะจัง'
เด็กหญิง 9 ขวบ ตากลม ผมสั้น สวมเอี๊ยมสีแดงเข้าชุดกับรองเท้าคนนี้มีชื่อว่า ‘มารุโกะจัง’ (Maruko-chan) ตัวเอกของการ์ตูนเรื่อง ‘หนูน้อยจอมซ่า มารุโกะจัง’ (Chibi Maruko-chan) ผลงานจากปลายปากกาของ ‘โมโมโกะ ซากุระ’ (Momoko Sakura)
มารุโกะไม่มีเวทมนตร์ ไม่ได้ทำภารกิจยิ่งใหญ่ ไม่มีปริศนาให้ตื่นเต้นระทึกใจ มีเพียงเรื่องราวอันเรียบง่ายในบ้านและโรงเรียนของเธอ แต่เหตุใดเรื่องราวของเด็กหญิงเอี๊ยมแดงคนนี้ กลับครองใจผู้ชมทั้งในญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศไทย ตั้งแต่เริ่มออกอากาศครั้งแรกเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว
ชวนมาย้อนวันวานไปหาคำตอบตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่ ‘โมโมโกะ ซากุระ’ จรดปากกาถ่ายทอดเรื่องราวของเด็กหญิงจอมซ่าออกมาเป็น ‘มารุโกะจัง’ ที่หลายคนหลงรัก
ความทรงจำในยุค70s
‘โมโมโกะ ซากุระ’ คือนามปากกาของ ‘มิกิ มิอุระ’ (Miki Miura) ผู้เก็บงำชีวิตส่วนตัวไว้แบบ ‘ส่วนตัว’ อย่างแท้จริง เพราะเธอแทบจะไม่ออกกล้องหรือให้สัมภาษณ์กับสื่อใด ๆ ด้วยความต้องการอยากจะใช้ชีวิตทั่วไปอย่างเงียบสงบ ผู้คนจึงคุ้นเคยกับนามปากกาและใบหน้าของหนูน้อยมารุโกะเสียมากกว่า (ในบทความต่อไปนี้ ผู้เขียนจะขอแทนชื่อ มิกิ มิอุระ ว่า ‘โมโมโกะ ซากุระ’ ตามนามปากกาของเธอ)
โมโมโกะ ซากุระ เกิดวันที่ 8 พฤษภาคม ปี 1965 ในเมืองชิมิซุ (Shimizu) จังหวัดชิซุโอะกะ (Shizuoka) ประเทศญี่ปุ่น เธอสนใจการเขียนการ์ตูนมาตั้งแต่วัยเรียนจนถึงวัยทำงาน โดยเว็บไซต์ onegai-kaeru.jp ระบุว่าซากุระเข้าทำงานประจำในบริษัทแห่งหนึ่งควบคู่ไปกับการเขียนมังงะ แต่ระหว่างการทำงาน มีหลายคราวที่ซากุระนั่งสัปหงก จนเจ้านายเริ่มตั้งคำถามว่า เธอจะเลือกงานที่บริษัทหรือไปเขียนมังงะแทน ?
หลังจากทำงานในบริษัทนี้ได้ 2 เดือน ซากุระจึงตัดสินใจลาออกมาเป็นนักเขียนการ์ตูนอย่างเต็มตัว โดยผลงาน ‘Chibi Maruko Chan’ เล่มแรกถูกตีพิมพ์และจัดจำหน่ายเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 1987 ก่อนเรื่องราวเหล่านี้จะถูกนำมาดัดแปลงเป็นอนิเมะที่ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ทาง Fuji TV ของประเทศญี่ปุ่น หลังจากนั้น มารุโกะจัง ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในอนิเมะที่ดำเนินรายการมาอย่างยาวนาน และมีเรตติ้งสูงลิ่วในญี่ปุ่น
หากสังเกตนามปากกา วันเดือนปีและสถานที่เกิดของมารุโกะจัง จะพบว่าตรงกับข้อมูลของโมโมโกะ ซากุระเป๊ะ ๆ นั่นเป็นเพราะเธอตั้งใจให้มารุโกะจังเป็นเหมือนตัวแทนที่บอกเล่าเรื่องราวในวัย 9 ขวบของตัวเธอเอง แม้จะไม่ได้เขียนจากเรื่องจริงทั้งหมด แต่ก็พอจะทำให้เราได้รู้จักมุมมองความคิด ครอบครัว และคนรอบตัวของซากุระมากขึ้น
การ์ตูนเรื่องนี้จึงเปรียบเสมือนไดอารี่ของเด็กประถมฯ คนหนึ่ง ในยุคสมัยที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้า และโซเชียลมีเดียยังไม่ได้เป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวัน ทำให้ผู้ชมได้เรียนรู้ทั้งวัฒนธรรม เช่น เทศกาลทานาบาตะ และได้กลิ่นอายวิถีชีวิต การแต่งกาย ไปจนถึงไอดอลสุดป็อปของญี่ปุ่นในยุค 70s เช่น โมโมเอะ ยามากูจิ (Momoe Yamaguchi) ที่มารุโกะชื่นชอบ หรือ ฮิเดกิ ไซโจ (Hideki Saijo) ป็อปไอดอลชายในดวงใจของพี่สาวมารุโกะจัง
มากกว่าความทรงจำ คือการเข้าไปนั่งอยู่ภายในใจ
นอกจากวัฒนธรรมและภาพเหตุการณ์ในยุคสมัยนั้น เหตุผลที่ทำให้มารุโกะจังกลายเป็นอนิเมะสุดฮิตในหลากหลายประเทศ คงเพราะไม่ได้เน้นประเด็นสอนใจมากเท่ากับการ ‘เข้าไปนั่งในใจ’ ของผู้ชมที่กาลครั้งหนึ่งอาจเคยมีประสบการณ์ร่วมกับมารุโกะจังเช่น วันที่ไม่อยากไปโรงเรียน ขี้เกียจทำการบ้าน แม้แต่ความรู้สึกว่าช่วงเวลาที่ครูใหญ่พูดหน้าเสาธงนั้นช่างยาวนานเสียเหลือเกิน
ส่วนชีวิตในครอบครัว ก็มีบางฉากที่ชวนให้หวนถึงวันเก่า ๆ เช่น เรื่องราวบนโต๊ะอาหารที่คุณแม่เคี่ยวเข็ญให้มารุโกะกินข้าวจนหมดจาน โดยให้เหตุผลกับลูกว่า ‘ยังมีคนอดอยากอีกจำนวนมาก’ ส่วนคุณปู่ก็เริ่มเล่าถึงความหลังในช่วงสงครามที่ตนเองต้องอดอยากมากกว่าตอนนี้ หรืออีกฉากหนึ่งที่พ่อของมารุโกะชอบดูเบสบอลมากจนไม่ยอมเปลี่ยนช่อง กลายเป็นศึกชิงช่องทีวีของคนในบ้านเพราะบ้านหลังนี้มีทีวีอยู่เพียงเครื่องเดียว
นอกจากเนื้อหาแล้ว ลายเส้นที่ไม่ซับซ้อน สีสันสดใสสบายตา โดยเฉพาะภาพอาหารชวนหิว (จนทำให้ผู้เขียนเฝ้าฝันถึงเมนูแกงกะหรี่และช็อกโกแลตฝรั่งเศสไปหลายวัน) อาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เด็ก ๆ หลายคนติดอกติดใจการ์ตูนเรื่องนี้ก็เป็นได้
มารุโกะจังจึงเป็นมากกว่าการ์ตูนที่ดูเพื่อความเพลิดเพลิน แต่ชวนให้เรานึกถึงวัยเยาว์หรือวันเก่า ๆ กับคนในครอบครัว เพื่อน โรงเรียน แม้กระทั่งคำถามที่เราเคยสงสัยในวัยเด็ก ซึ่งเรื่องราวของมารุโกะจังยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งวันที่ 15 สิงหาคม 2018 ได้มีข่าวที่ทำให้แฟน ๆ มารุโกะจังสลดใจ เมื่อโมโมโกะ ซากุระ ได้จากโลกใบนี้ไปอย่างไม่หวนกลับ ด้วยโรคมะเร็งเต้านม
แม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอจะไม่ได้เปิดเผยชีวิตส่วนตัวมากนัก แต่การที่เธอหยิบยกเรื่องราวรอบตัวและวัยเด็กมาใส่ไว้ในอนิเมะเรื่องนี้ ก็อาจจะทำให้เราได้รู้จักและผูกพันกับซากุระในฐานะเด็กหญิงวัย 9 ขวบ และทุกครั้งที่ได้กลับไปดูมารุโกะจัง ก็คงเหมือนการเปิดอ่านไดอารี่ของโมโมโกะ ซากุระ ที่ไม่ว่าจะนานแค่ไหน เรื่องราวเหล่านี้ก็ยังอบอุ่นหัวใจและอยู่ในความทรงจำเสมอมา…
ที่มา:
http://en.chinaculture.org/2018-08/28/content_1257435.htm
https://www.japantimes.co.jp/news/2018/08/27/national/momoko-sakura-creator-chibi-maruko-chan-dies-breast-cancer/
https://www.newsweek.com/momoko-sakura-dead-breast-cancer-1091473
https://chibi-maruko-chan.fandom.com/wiki/Momoko_Sakura
https://chibi-maruko-chan.fandom.com/wiki/Chibi_Maruko-chan_(series)
https://www.onegai-kaeru.jp/2018/08/29/japan-voice-actor-news-momoko-sakura-who-created-chibi-maruko-chan-passed-away-at-53-year-old/
https://peoplepill.com/people/momoko-sakura
https://unseenjapan.com/sakura-momoko-legacy/
ที่มาภาพ:
https://twitter.com/cgtnofficial/status/1034055697363681286
http://chibimaruko-chan.net/