จีซู: พี่คนโตของสี่สาว BLACKPINK ที่งดงามราวเจ้าหญิง สมตำแหน่ง ‘เลดี้ดิออร์’
ถ้าเปรียบการเปล่งประกายของสมาชิกวง BLACKPINK กับความงามของดอกไม้ พวกเธอคือสี่สาวที่มาพร้อมความงามหลากหลาย สมาชิกแต่ละคนผลิกิ่ง แตกใบ และเผยเสน่ห์ชวนหลงใหลในแบบของตัวเอง - ‘จีซู’ คือพี่สาวคนโตแห่งเกิร์ลกรุปวงนี้ ที่ดึงดูดผู้คนตั้งแต่ใบหน้าสวยหวานยากละสายตา ท่าทีสุขุมซ่อนความสี่มิติ น้ำเสียงโทนต่ำกว่าสมาชิกอีกสามคนของเธอช่วยเสริมให้ทุกบทเพลงของ BLACKPINK เต็มไปด้วยเสน่ห์
เส้นทางชีวิตของดอกไม้กลีบดำชมพู ผู้งดงามและโลดแล่นในเวทีแฟชั่น จนซีอีโอแบรนด์ดิออร์ถึงกับออกปากชวนร่วมงานคนนี้เริ่มต้นที่จังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลีใต้
เด็กหญิงที่เพื่อนไม่เล่นด้วย
“พวกญาติ ๆ ไม่ยอมให้ฉันเป็นพวกด้วยเพราะว่าฉันขี้เหร่” คือถ้อยคำของจีซูเมื่อย้อนมองวัยเด็กของตัวเอง
‘คิม จีซู’ เกิดเมื่อวันที่ 3 มกราคม 1995 เธอเป็นสมาชิกคนสุดท้องของบ้านที่มีพี่สาวและพี่ชาย เด็กหญิงเล่นซนตามวัย มีเพื่อนสมัยเด็กเป็นญาติ ๆ ในละแวกเดียวกัน
“พวกเขาเรียกฉันว่าลิง” เธอเล่าถึงวันวานด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ที่ตอนนี้มองอย่างไรก็ไม่เห็นเค้าความ ‘ขี้เหร่’ แม้แต่น้อย ดวงตากลมโตนั้นทอประกายงดงามขึ้นตามวัย ในวันที่เด็กหญิงตัวเล็กเติบโตเป็นสาวรุ่น เด็กสาวที่เคยอยากเป็นนักเขียนและจิตรกรกลับได้ค้นพบความฝันใหม่ เธอเลือกเข้าศึกษาต่อระดับชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนมัธยมศิลปะการแสดงโซล (School of Performing Arts Seoul) และผ่านการออดิชันกับค่ายเพลงชื่อดังของเกาหลีอย่าง ‘YG Entertainment’ ในปี 2011 ด้วยวัย 16 ปี
ราวดอกไม้ที่ย้ายกระถางปลูก เช่นเดียวกับเด็กฝึกหัดคนอื่น ๆ ตลอดเวลาร่วมสี่ปีในห้องซ้อม YG จีซูต้องปรับตัวมากมายเพื่อให้สามารถผ่านการประเมินที่จัดขึ้นทุกเดือนได้โดยไม่ถูกคัดออก
ดอกไม้แย้มกลีบ
แม้เด็กสาวจะพอมีพื้นฐานการร้องเพลงมาแล้วในตอนเริ่มต้น แต่การฝึกฝนในรั้วค่ายเพลงนั้นต่างไปจากการเรียนโดยปกติ สิบสี่ชั่วโมงต่อวันหมดไปกับการซ้อมและเรียน เรียนและซ้อม จนกว่าทั้งกล่องเสียงและร่างกายของเธอจะจดจำทำนองร้องและจังหวะเต้นได้ขึ้นใจ
“ช่วงแรกฉันเรียนเยอะมาก ต้องเรียนเต้นถึงสามคลาสและซ้อมทุกวัน เรียนร้องเพลงกับครูอีกสองสามคน เป็นช่วงที่หนักมาก ๆ”
มากไปกว่าความแน่นขนัดของตารางเรียน สิ่งหนึ่งที่เธอจดจำได้ดีในช่วงเวลาเหล่านั้นคือการต้องห่างกับครอบครัว
“ฉันแทบไม่ได้กลับบ้าน” เธอเล่า เท้าความถึงครอบครัวใหญ่ในต่างจังหวัดของตัวเอง และเสริมว่าแม้พ่อกับแม่จะเป็นห่วงเธอมากเพียงใด พวกเขาก็ไม่เคยขัดขวางเส้นทางฝัน และบอกให้เธอพยายามอย่างสุดความสามารถอยู่เสมอ จีซูเองก็คิดเช่นนั้น อย่ายอมแพ้เพียงแค่เพราะมันยาก คือสิ่งที่เธอเตือนตัวเองเสมอ
ช่วงเวลาที่รายล้อมด้วยการฝึกฝน และการแข่งขันระหว่างกลุ่มเด็กสาวร่วมสามสิบชีวิตนั่นเองที่ถักทอเส้นใยจากรากสู่ใบ training system เหล่านั้นหล่อหลอมเธอให้งดงามดั่งดอกไม้ และแม้มันจะทำให้เธอได้พบกับครอบครัวและผู้ให้กำเนิดน้อยลง แต่จีซูก็ได้ครอบครัวใหม่เป็นเหล่าเด็กสาววัยไล่เลี่ยกัน ที่ต่างเรียกเธอด้วยคำนำหน้าว่า ‘ออนนี่’
จีซูออนนี่
ในการฝึกช่วงแรก ๆ เด็กสาวทุกคนที่เทรนในค่ายต่างต้องหมุนเวียนตัวเองไปร่วมกลุ่มกับสมาชิกคนอื่นเพื่อแสดงโชว์ต่อหน้าคณะกรรมการในการประเมินประจำเดือน และโชว์ศักยภาพที่เธอมีให้พวกเขาเห็น เพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บกระเป๋ากลับบ้าน
แม้ว่าสมาชิก BLACKPINK จะยังไม่ถูกฟอร์มให้เป็นทีมเดียวกันในช่วงเวลานั้น แต่ก็ราวกับโชคชะตาจงใจให้พวกเธอได้ใช้เวลาร่วมกันก่อนกำหนด วันแรกที่ ‘โรเซ่’ บินตรงจากออสเตรเลียมาร่วมอาศัยในหอพักของเหล่าเด็กฝึกหัดหญิง ภายในห้องพักกลับมีจีซู เจนนี่ และลิซ่าคอยท่าอยู่ก่อน
“โรเซ่เอากีตาร์มาจากออสเตรเลีย เราขอให้เธอเล่นมัน แล้วเราก็ร้องเพลงกันจนถึงเช้า”
“ร้องเพลงประสานเสียงกัน”
“เหมือนพี่จีซูจะร้องประสาน”
มิตรภาพของเหล่าเด็กฝึกเกิดขึ้นแล้ว และจีซูก็มีส่วนร่วมในการเติบโตของพวกเธอทั้งสี่ รวมไปถึงเด็กฝึกคนอื่น ๆ ในฐานะ ‘ออนนี่’ หรือ ‘พี่สาว’ เช่นเดียวกับ ‘เจนนี่’ อีกหนึ่งสมาชิกในวง BLACKPINK ที่อายุไล่เลี่ยกับจีซู พวกเธอต้องคอยให้คำปรึกษากับเด็กสาวมากมายที่ล้วนเผชิญช่วงเวลายากลำบากอย่างน้อยคนละหนึ่งครั้ง
จีซูเป็นลูกคนเล็กของบ้าน แต่กลับทำหน้าที่พี่คนโตในเหล่าเด็กมีฝันได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
“แน่นอน ฉันรู้สึกถึงความรับผิดชอบ ฉันพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการดูแลพวกสาว ๆ”
BLACKPINK IN YOUR AREA
จีซู เจนนี่ ลิซ่า โรเซ่ เข้ากันได้ดีในคราวที่ได้ฝึกเป็นทีมเดียวกัน ตำแหน่งหน้าที่ของพวกเธอชัดเจน และความสัมพันธ์ระหว่างเด็กสาวทั้งสี่ก็เป็นสิ่งล้ำค่า ทั้งสี่เล่าว่าพวกเธอไม่เคยถกเถียงกันด้วยเรื่องแอร์ไทม์ ตำแหน่งในวง หรือท่อนร้อง ซึ่งเป็นการถกเถียงที่มักเกิดขึ้นได้บ่อยในห้องซ้อม ราวกับว่าเมื่อพวกเธออยู่ด้วยกัน ร่วมมือกัน ทุกอย่างจะออกมาดีและสมบูรณ์แบบ
“เมื่อทุกคนอยู่ถูกที่ เรื่องยิ่งใหญ่ก็สามารถเกิดขึ้นได้” คือคำที่จีซูเล่าถึงความสัมพันธ์ภายในวงที่แน่นแฟ้นและลงตัวแบบที่มีแค่พวกเธอที่ทำได้
ท้ายที่สุดพวกเธอก็ถูกเลือกให้เป็นเด็กสาวสี่คนสุดท้ายที่จะได้เปิดตัวในฐานะ ‘BLACKPINK’ และเรื่องราวที่เหลือนับจากการเดบิวต์ด้วยเพลง ‘WHISTLE’ เมื่อปี 2016 ก็กลายเป็นเรื่องราวที่เล่าได้ไม่รู้จบ ถึงเด็กสาวมหัศจรรย์สี่คนที่พาเสียงดนตรีจากเกาหลีให้โด่งดังไปทั่วโลก
เลดี้ดิออร์
หลังจากเดบิวต์และส่งเพลงฮิตมากมายขึ้นประดับชาร์ตเพลงเกาหลี และเปิดตัวต่อโลกด้วยการเปล่งประกายบนเวทีโคเชลลา BLACKPINK ก็เป็นที่รู้จักในระดับสากลมากพอให้ทั้งสี่สาวกลายเป็นที่จับตามองในวงการที่ใกล้ชิดมาเนิ่นนานกับแวดวงดนตรี อย่างแฟชั่น
และแน่นอนว่าภาพลักษณ์สวยหวานประหนึ่งเจ้าหญิงของจีซูนั้นเข้ากับความหรูปนเก๋ของ ‘ดิออร์’ แบรนด์แฟชั่นแถวหน้าของโลกราวกับจับวาง
หลังจากได้ร่วมงานกับดิออร์ในตำแหน่งแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ไปเมื่อต้นปี วันที่ 28 กันยายน 2021 (หรือ 27 กันยายน 2021 ตามเวลาปารีส) ก็ถึงคราวที่พี่ใหญ่ของวงจะได้บินตรงจากเกาหลีถึงปารีส เพื่อเข้าร่วมงาน Dior Ready-to-Wear Spring-Summer 2022 Fashion Show ซึ่งบอกได้ว่าการปรากฏตัวของเธอในคราวนี้ เรียกเสียงชมจากผู้คนและสื่อมวลชนได้อย่างล้นหลาม
หนึ่งใน ‘ปรากฏการณ์จีซู’ ที่เธอได้สร้างเอาไว้ในช่วงเวลาชั่วค่ำคืนก็คือการที่รูปถ่ายของเธอจากค่ำนั้น ที่ถูกโพสต์ในอินสตาแกรมของดิออร์ ได้กลายเป็นโพสต์แรกของแบรนด์ที่ถูกกระหน่ำกดไลก์มากจนทะลุหนึ่งล้านไลก์
ด้วยความสวยและความสามารถอันเป็นที่ประจักษ์ จึงไม่น่าแปลกใจแม้แต่น้อย ที่ Pietro Beccari ซีอีโอแห่งดิออร์ จะได้เอ่ยปากทีเล่นทีจริงกับเธอตั้งแต่ครั้งแรกพบหน้าระหว่างงานแฟชั่นโชว์ว่า
“ถ้า YG ไล่จีซูออก ส่งข้อความหาผมนะ ผมรับเธอไว้เอง”
ที่มา: สารคดี BLACKPINK: Light Up the Sky