"เราจะเก็บคริสเตียโน โรนัลโดไว้ได้นานแค่ไหน"
คือคำถามที่เฟอร์กี-อเล็กซ์ เฟอร์กูสันถาม คาร์ลอส เคยรอซ ผู้ช่วยของเขาในช่วงที่ยังเป็นผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งคาร์ลอสให้ความเห็นว่า "อเล็กซ์ ถ้าคุณได้เขามาอยู่ด้วยสัก 5 ปี ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว ยังไม่เคยมีนักเตะโปรตุเกสคนไหนย้ายไปอยู่ประเทศอื่นตอนอายุ 17 แล้วอยู่ได้ยาวเกิน 5 ปีเลยนะ”
คำถามนี้เป็นคำถามที่แฝงไปด้วยความกังวลของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันที่มองไปยังซูเปอร์สตาร์ระดับโลกของทีมผู้นี้ ผู้เป็นทั้งนักเตะคนสำคัญและเปรียบเสมือนลูกที่เฟอร์กีดูแลเป็นอย่างดีเรื่อยมานับตั้งแต่เริ่มรู้จักกับโรนัลโดในฤดูร้อนปี 2003 ที่ทีมแมนฯ ยูฯ ไปเตะอุ่นเครื่องกับสปอร์ติง ลิสบอน แล้วแพ้ไป 3-1 ซึ่งนัดนั้นเองโรนัลโดเล่นงานแนวรับของแมนฯ ยูฯ แบบล้มไม่เป็นท่า
ฟอร์มการเล่นของโรนัลโด ประทับใจเฟอร์กี้ ในระดับที่ช่วงพักครึ่ง เขาบอกกับผู้บริหารปีศาจแดงว่า "ถ้าไม่ได้เซ็นสัญญากับเด็กนั่น เราจะไม่ออกสนาม"
เฟอร์กี้เล่าว่า ความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นฟอร์มการเล่นของโรนัลโด และอยากได้ตัวมาร่วมทีมในวันนั้น เขาเทียบกับการเห็นฟอร์มการเล่นอันจัดจ้านของอัจฉริยะลูกหนังของอังกฤษอย่าง พอล แกสคอยน์ ในนัดที่นิวคาสเซิลพบกับแมนฯ ยูฯ แล้วอยากได้ตัวมาร่วมทีมเช่นกัน
ต่างกันเพียงว่า พอล แกสคอยน์ เลือกย้ายจากนิวคาสเซิลไปสเปอร์ แต่สำหรับโรนัลโด ในวันรุ่งขึ้นสโมสรได้เช่าเครื่องบินเหมาลำไปรับโรนัลโด ครอบครัว เอเยนต์และทนาย เพื่อมาตกลงทำสัญญาให้เร็วที่สุด
"มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากที่ได้เห็นใครสักคนที่คุณรู้ว่า เขาจะต้องดังแน่ ๆ" นี่คือความรู้สึกของเฟอร์กี้
แล้วในปี 2003 คริสเตียโน โรนัลโด ก็กลายเป็นนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเต็มตัว
หลายสิ่งหลายอย่างที่อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้เปิดเผยในหนังสือ 'อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน :อัตชีวประวัติ' (Alex Ferguson: My Autobiography - สำนักพิมพ์ เนชั่น บุ๊ค) ว่าเขามีความประทับใจส่วนตัวกับทักษะและพัฒนาการการเล่นฟุตบอลของโรนัลโดมาก ๆ ถึงกับออกตัวว่า โรนัลโดเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดเหนือชั้นกว่าคนอื่น ๆ ที่เขาเคยดูแลมา ที่เทียบชั้นกันได้มีเพียง พอล สโคลส์ และไรอัน กิ๊กส์ ที่อยู่ช่วยต่อเติมความสำเร็จให้กับทีมปีศาจแดงมานับ 20 ปี
แม้แต่เกมที่โรนัลโดเล่นไม่ดีนัก เฟอร์กีให้ความเห็นว่า เขายังสร้างโอกาสให้เพื่อนได้ 3 ครั้งเสมอ ซึ่งปรากฏในวิดีโอบันทึกการเล่นของผู้เล่นที่มีอยู่เป็นกอง เป็นความสามารถที่ไม่น่าเชื่อที่ไม่มีครั้งไหนที่เขาสร้างโอกาสได้ไม่ถึง 3 ครั้ง
นอกจากการสับขาหลอกอันน่าตื่นตาแล้ว เขามีพร้อมทุกอย่างทั้งผลงานในสนาม พละกำลัง ทักษะการใช้เท้าทั้งสองข้าง ความสามารถในการโหม่ง ที่แม้ว่าช่วงแรก ๆ ที่ร่วมงานกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาจะเป็นนักเตะสไตล์โชว์ออฟ อยากจะโอ้อวดว่าข้านี่แหละเจ๋งที่สุด แต่เมื่อมีการปรับจูนวิธีคิดในการเล่นฟุตบอลผ่านการขัดเกลาของเฟอร์กี และทีมงาน ไปจนถึงเริ่มเข้าใจเพื่อนร่วมทีม ทำให้เขาค่อย ๆ เล่นเข้าขากับเพื่อน ๆ และสามารถมองไปที่เป้าหมายเดียวกันกับทีมได้ในที่สุด
แม้ว่าจะเคยมีดรามากับเพื่อนร่วมทีมอย่างเวย์น รูนีย์ ในการแข่งขันฟุตบอลโลกใน 2006 ที่อังกฤษพบกับโปรตุเกส หลังจากรูนีย์โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในนัดนั้น โรนัลโดหันไปขยิบตาข้างสนามกลายเป็นประเด็นดรามาระดับชาติจนมีการวิเคราะห์กันว่าโรนัลโดอาจจะไม่อยู่ในถิ่นโอลด์แทรฟเฟิร์ดแล้ว
แต่ในที่สุด ภายใต้ความช่วยเหลือและคำแนะนำของเฟอร์กี บิ๊กบอสของทั้งรูนีย์และโรนัลโด ทั้งคู่ก็เคลียร์ใจกันสำเร็จและสร้างผลงานมากมายให้กับสโมสรในเวลาต่อมา
ถามว่าเฟอร์กี เชื่อมั่นในตัวลูกทีมผู้นี้ขนาดไหน? ครั้งหนึ่งในฤดูร้อนปี 2012 ตอนนั้นโรนัลโดคือนักเตะของเรอัล มาดริดแล้ว เฟอร์กี้มีโอกาสไปร่วมตอบคำถามในรายการของ BBC กับคำถามคลาสสิคของวงการฟุตบอลในทศวรรษนั้น "ระหว่างโรนัลโดกับเมสซี ใครเก่งกว่ากัน" ซึ่งในช่วงเวลานั้นทั้งสองคนต่างแข่งกันไขว่คว้าหาความสำเร็จด้วยการเป็นคีย์แมนของทีมคู่อริเรอัล มาดริด- บาร์เซโลนาแห่งฟุตบอลลีกสเปน-ลาลีกา
นี่คือความเห็นของเฟอร์กี...
"โรนัลโดรูปร่างดีกว่าเมสซี เล่นลูกกลางอากาศได้ดีกว่า เล่นได้ทั้งสองเท้าและเร็วกว่า เมสซีมหัศจรรย์มากเวลาบอลอยู่ที่เท้า ลีลาพริ้วนุ่มราวกับบอลตกไปบนกองขนนก และเขาไม่ค่อยรู้สึกถึงแรงโน้มถ่วง สกัดล้มยากมาก" เป็นการตอบของเฟอร์กี้ที่แสดงให้เห็นว่าเชื่อมั่นในตัวอดีตลูกทีมมากขนาดไหน แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ให้เกียรติเมสซี เพราะคิดว่าทั้งสองต่างก็เก่งไม่เป็นรองกันในยุคสมัยของกันและกัน
ความผูกพันกันนอกสนามเห็นได้ชัดอีกครั้งก็เมื่อตอนการแข่งขันฟุตบอลยูโร ในปี 2016 หลังพิธีรับเหรียญรางวัลซึ่งทีมชาติโปรตุเกสชนะเลิศในทัวร์นาเมนต์นี้ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยืนข้างทางรอคอยนานีและโรนัลโด สองดาวเตะโปรตุเกสอดีตนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเพื่อสวมกอดแสดงความยินดีในความสำเร็จของลูกทีม นั่นแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ลูกทีมที่เขารักเหมือนลูกก็ไม่ปาน
ย้อนกลับไปที่ประโยคที่ว่า "เราจะเก็บคริสเตียโน โรนัลโดไว้ได้นานแค่ไหน" หากมีการพนันขันต่อจากคำพูดนี้ เชื่อแน่ว่าเคยรอชอาจจะแพ้พนัน
โรนัลโดอยู่ที่ถิ่นโอลแทรฟเฟิร์ดเป็นเวลานานถึง 6 ปี "มีใครมาขอซื้อด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติโลกแล้วละก็ เราจะยอมปล่อยนายไป" เฟอร์กีเคยพูดประโยคนี้กับโรนัลโด ก่อนที่ปี 2009 โรนัลโดจะย้ายไปเรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลกในขณะนั้นสูงถึง 80 ล้านปอนด์
เป็นการอยู่ร่วมชายคาแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 6 ฤดูกาล ที่เปี่ยมไปด้วยความสำเร็จมากมาย จากฤดูกาล 2003-2009 เขาลงสนามให้กับสโมสร 292 นัด ทำไป 118 ประตู เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 ครั้ง เป็นแชมป์เอฟเอคัพ 1 ครั้ง เป็นแชมป์ลีกคัพ 2 ครั้ง และเป็นแชมป์ยูฟาแชมเปียนส์ลีก 1 ครั้ง นี่คือความทรงจำที่ดีที่เขาประทับไว้ในใจของแฟนบอลปีศาจแดนก่อนที่จะเดินทางไปล่าฝันต่อที่สเปน
ความสัมพันธ์ที่แสนยาวนานของอเล็กซ์ เฟอร์กูสันกับคริสเตียโน โรนัลโด อันเป็นส่วนหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจในชีวิตของโรนัลโด ทำให้ในห้วงเวลานี้ หลังจากที่เขาแสดงความต้องการจะย้ายออกจากยูเวนตุส (ซึ่งมีข่าวว่าเฟอร์กีได้ต่อสายคุยกับเขาถึงการตัดสินใจสำหรับอนาคตนี้)
เขากำลังจะกลับมาที่ 'บ้านเก่า' สถานที่ที่ทำให้ CR7 แจ้งเกิดเป็นที่รู้จัก เพื่อมาสานต่อประสบการณ์ที่ดีกับแฟนบอลที่รักเขาอีกครั้ง
Welcome ????, Cristiano Ronaldo
เรื่อง: ณัฐกร เวียงอินทร์
ภาพ: Matthew Ashton / Contributor
ที่มา
หนังสือ 'อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน :อัตชีวประวัติ' (Alex Ferguson: My Autobiography - สำนักพิมพ์ เนชั่น บุ๊ค)