05 พ.ย. 2564 | 22:36 น.
ชวนคนรักเนื้อหลบความวุ่นวายมา Steakation ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี กรุงเทพ สุขุมวิท
‘สงบ - วิวสวย - อร่อย’
คือความรู้สึกโดยสรุปหลังจากได้ ‘Steakation’ ในโรงแรมไฮแอท รีเจนซี กรุงเทพ สุขุมวิท ที่รวมเอาการพักผ่อนใกล้บ้าน มาผสานกับมื้ออาหารสำหรับคนรักเนื้อได้อย่างลงตัว
‘Steakation’ คือชื่อแพ็กเกจแสนเก๋ของโรงแรม ‘ไฮแอท รีเจนซี กรุงเทพ สุขุมวิท’ ซึ่งออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ มองเห็นวิวเมืองและฟ้ากว้าง พร้อมบริการระดับห้าดาวและอาหาร 2 มื้อสุดพิเศษ ทั้งมื้อเช้าสไตล์ All-You-Can-Eat Breakfast และมื้อค่ำที่ได้สัมผัสรสชาติเนื้อออสเตรเลียละมุนลิ้น ในเมนูอาหารไทยรสกลมกล่อม จากฝีมือของ ‘เชฟมาโนช พึ่งพร้อม’ หัวหน้าเชฟแห่ง Market Café by Khao ในเครือ ‘ข้าว’ แบรนด์ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์
ชวนมาทำความรู้จักกับแพ็กเกจที่รังสรรค์มาสำหรับการพักผ่อนไปจนถึงการ workation ในช่วงโควิด-19 ไปพร้อมกันในบทความนี้
ไฮแอท รีเจนซี กรุงเทพ สุขุมวิท เพิ่งเปิดทำการเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ก่อนจะมีการระบาดของโควิด-19 แต่ท้ายที่สุดโรงแรมแห่งนี้ก็สามารถก้าวผ่านช่วงวิกฤตมาได้ โดยมีทั้งผู้เข้าพักที่เป็นแบบระยะสั้นและระยะยาว ด้วยทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย ใกล้กับ BTS นานา บวกกับบรรยากาศอันแสนสงบที่ตั้งใจให้เป็นสถานที่พักผ่อนหลบความวุ่นวายในกรุงเทพฯ ดังนั้นตั้งแต่เดินเข้ามาบริเวณหน้าโรงแรม อย่างแรกที่พบจึงเป็นสวนและต้นไม้รายล้อม ราวกับเป็นกำแพงธรรมชาติขนาดย่อม กั้นระหว่างโรงแรมกับการจราจรแน่นขนัดบนท้องถนน
ส่วนภายในโรงแรมจะเน้นการตกแต่งสไตล์ ‘Modern Thai House’ ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา โอ่อ่า ทันสมัย แต่ยังคงความอบอุ่นและกลิ่นอายความเป็นไทยอยู่ในนั้น
สำหรับห้องในแพ็กเกจ Steakation จะเป็นห้อง ‘Club Room’ ขนาด 35 - 37 ตารางเมตร (376 - 398 ตารางฟุต) รองรับแขก 2 ท่าน โดยสามารถเปิดหน้าต่างนั่งทำงาน หรือนอนชิล ๆ รับวิวเมืองและมองฟ้ากว้างได้อย่างเต็มตา
ส่วนห้องอาบน้ำจะเป็นแบบ Walk-in ที่สามารถมองวิวได้จากภายในห้องน้ำ พร้อมอ่างอาบน้ำที่แยกเป็นสัดส่วน
หลังหย่อนใจในห้องพักแล้ว ก็ถึงเวลามื้อค่ำกับ Chef’s Table โดยเชฟมาโนช พึ่งพร้อม หัวหน้าเชฟแห่ง Market Café by Khao ในเครือ ‘ข้าว’ แบรนด์ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ของโรงแรม
“อาหารจากต่างประเทศที่เข้ามามักจะมีราคาสูง ซึ่งผมอยากให้อาหารไทยเป็นแบบนั้นบ้าง” เชฟมาโนชเล่าด้วยรอยยิ้ม ระหว่างแนะนำแต่ละเมนูให้เราฟัง
โดยเชฟเลือกรังสรรค์เนื้อวัวจากออสเตรเลียออกมาเป็น 4 เมนูรสเข้มข้นกลมกล่อมตามแบบฉบับอาหารไทย ปิดท้ายด้วยของหวานรสร่อย เหมาะกับคนรักเนื้อที่อยากได้กลิ่นอายแบบไทย ๆ และได้กลิ่นเครื่องเทศอ่อน ๆ ผสานกับเนื้อชุ่มฉ่ำละมุนลิ้นจาก True Aussie Beef and Lamb แบรนด์เนื้อคุณภาพจากออสเตรเลีย
เมนูแรกสำหรับเรียกน้ำย่อย คือ ‘เนื้อออสเตรเลียแดดเดียว รับประทานคู่กับหมกเห็ด’ ที่เชฟเลือกใช้เนื้อส่วนใบบัว (flank) ซึ่งต้องใช้วิธีปรุงด้วยความร้อนต่ำให้สุกอย่างช้า ๆ และใช้เวลานานเพื่อให้เนื้อเปื่อยนุ่ม โดยเนื้อแดดเดียวชิ้นบางนี้ให้รสชาติเค็มกำลังดี เมื่อรับประทานคู่กับหมกเห็ดยิ่งทำให้รสกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
เมนูต่อมาคือ ‘พล่าเนื้อย่าง’ โดยเชฟเลือกใช้เนื้อซี่โครง (Ribeye) ซึ่งเป็นส่วนเนื้อเลาะจากซี่โครงของวัวและนำเส้นเอ็นออกให้หมด จนได้เนื้อที่มีสัมผัสนุ่มละมุน เมื่อตัดคาวด้วยองุ่นสไลซ์แผ่นบางรวมกับเครื่องเทศอ่อน ๆ ยิ่งเป็นรสชาติที่แสนจะลงตัว
เมนูที่สามคือ ‘แกงรัญจวนเนื้อสไลซ์’ มาพร้อมน้ำซุปร้อน ๆ ให้เราราดลงบนเนื้อสันคอออสเตรเลียที่แล่เป็นชิ้นพอดีคำ โดยเนื้อส่วนนี้เป็นส่วนที่มีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหนาแน่นจึงเหมาะกับการปรุงด้วยความร้อนเป็นเวลานาน อย่างการนำมาตุ๋น ต้มด้วยไฟอ่อน ๆ เพื่อให้เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำรสชาติเข้มข้น และที่สำคัญคือกลิ่นหอมรัญจวนใจสมกับชื่อเมนูเลยทีเดียว
เมนูต่อมาคือ ‘พะแนงเนื้อย่างโบราณ รับประทานคู่กับข้าวห่อใบตอง’ ซึ่งเป็นเนื้อสันนอกหรือสะโพกบนที่ให้รสชาติที่เข้มข้นชุ่มฉ่ำ เหมาะกับการรับประทานคู่กับข้าวห่อใบตองร้อน ๆ
และปิดท้ายด้วยเมนู ‘ส้มฉุน’ ซึ่งไม่ใช่ชื่อผลไม้ แต่เป็นของหวานแบบโบราณที่ปรากฏอยู่ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน โดยส้มฉุนคือการนำผลไม้ไปลอยแก้ว ซึ่งน้ำลอยแก้วจะมีส่วนผสมของส้มซ่าที่ให้กลิ่นหอมเฉพาะตัว พร้อมเพิ่มความสดชื่นเข้าไปด้วยการโรยขิงอ่อนที่ซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ
นอกจากห้องพักและอาหาร แพ็กเกจ Steakation ยังสามารถใช้บริการเครื่องดื่มชากาแฟของ Club Lounge ได้ฟรีตลอดทั้งวัน รวมถึงบริการ Happy Hours ในช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 17.30 - 19.30 น. โดยแพ็กเกจ Steakation ราคา 5,199 บาท (สำหรับ 2 ท่าน) และสามารถจองและเข้าพักตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 - 31 มกราคม 2565
