11 พ.ย. 2564 | 15:19 น.
เพราะ ‘ทุกความฝันมีความหมาย’ ร่วมเฟ้นหาดาวดวงใหม่ กับ ‘THE POWER BAND’ เวทีประกวดดนตรีส่งท้ายปีสุดยิ่งใหญ่
ไม่ว่าโลกใบนี้จะผลัดยุค เปลี่ยนสมัย หรือหมุนเวียนไปจากวันวานอย่างไร ‘ความฝัน’ ก็ยังเป็นถ้อยคำแสนยวนใจในความรู้สึกของผู้คนเสมอ โดยสำหรับนักดนตรีแล้ว การได้ก้าวขึ้นไปยืนบนเวที ได้ร้อง เล่น และบรรเลงบทเพลงตามใจปรารถนาก็ยังเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ อันผู้ฟังมากมายนึกรัก และเพลิดเพลินไปกับการรับชมและส่งแรงเชียร์เช่นกัน
คนดนตรีอยู่คู่เวที และนักดนตรีมากมายก็แจ้งเกิดจาก ‘เวทีประกวดดนตรี’ มานักต่อนัก ดาวเด่นแห่งโลกดนตรีอย่าง ‘Kelly Clarkson’ และ ‘Jennifer Hudson’ ตามหาความฝันของตนเจอบนเวที American Idol ขณะที่ห้าหนุ่ม ‘One Direction’ พบเส้นทางที่พวกเขาตามหาขณะประกวด X Factor มนต์ขลังของเวทีประกวดดนตรีคือการพาให้นักดนตรีและผู้ฟังได้มาพบกันผ่านเพลง ขณะเดียวกัน ก็เป็นพื้นที่สำหรับการพัฒนาฝีมือของนักดนตรี จากคำตัดสินถ้อยบรรยายของเหล่ากรรมการผู้คร่ำหวอดในวงการมาอย่างยาวนานนั่นเอง
‘เวทีประกวดดนตรี’ เปรียบเสมือนสวนสนุกที่เปิดโลกแห่งความสุขของคนดนตรี ได้ปลดปล่อยพลังอย่างเต็มที่ ซึ่งครั้งหนึ่งประเทศไทยก็เคยเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แสนสนุกในลักษณะนั้น หากในปัจจุบัน เวทีประกวดดนตรีในประเทศไทยกลับมีน้อยลงมาก เนื่องจากผู้จัดการประกวดมีน้อยลง ประกอบกับในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีที่เติบโตขึ้น เหล่าศิลปินหน้าใหม่หลายวงจึงเติบโตจาก Home Studio เสียมากกว่า
แต่นั่นหมายความว่ามนต์เสน่ห์ของเวทีประกวดได้จางหายไปหรืออย่างไร? ผู้คร่ำหวอดในแวดวงดนตรีทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ไม่’ เพราะเวทีประกวดยังคงความสำคัญในหลายแง่ และการ ‘ฟังให้มาก เล่นให้เยอะ ฝึกฝนให้สม่ำเสมอ’ ยังเป็นหัวใจหลักแห่งการพัฒนาฝีมือ ‘เวทีประกวด’ จึงเปรียบเสมือนการลงสนามให้ชำนาญอยู่เสมอนั่นเอง ส่วนด้านผู้ชม การได้เฝ้ามองการแข่งขันของเหล่าผู้มีแพสชันทางดนตรีก็ยังเพลินหูและสร้างแรงบันดาลใจได้ไม่เสื่อมคลาย
ความบันเทิงทางดนตรีนับว่าเป็นสิ่งสำคัญ และจรรโลงใจ ในยุคที่ผู้คนต้องใส่ใจกับการป้องกันโรคระบาดอย่างทุกวันนี้ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย จึงจับมือกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดเวทีประกวดดนตรีสุดยิ่งใหญ่แห่งปี ‘THE POWER BAND’ เวทีประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยม ผสมเครื่องเป่า ประจำปี 2564 ผ่านการประกวดในรูปแบบ Live Streaming ในยุค New Normal COVID-19
‘ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ’ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และนักประพันธ์ระดับโลกรางวัลThe Charles Ives Awards สาขาการประพันธ์เพลง ในฐานะตัวแทนผู้ร่วมจัด THE POWER BAND ได้เล่าถึงรายละเอียดและความน่าสนใจของเวทีดังกล่าวว่า
“เวที THE POWER BAND เป็นเวทีที่มีความท้าทายอย่างมากเวทีหนึ่ง เนื่องจากมีโจทย์ให้ผู้เข้าแข่งขันต้องแต่งเพลงเอง เพื่อมุ่งเน้นเรื่องการสร้างสรรค์ ขณะที่เวทีอื่นไม่ได้บังคับ อีกทั้งการเล่นเครื่องเป่าผสมผสานกับวงดนตรีสมัยนิยมไม่ใช่เรื่องง่าย เครื่องเป่าเกิดมาจากวงโยธวาทิต เน้นการอ่านโน้ตเป็นหลัก แต่วงดนตรีใช้หูแกะเพลง ซึ่งต้องใช้สกิลที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงต้องอาศัยการวางตัวโน้ต การเรียบเรียง และความพร้อมเพรียงในการเล่นร่วมกัน ทั้งนี้ จุดมุ่งหมายสำคัญของเวทีนี้ คือ เน้นการสร้างสังคม รูปแบบการสร้าง Collaboration ระหว่างเด็กวงโยธวาทิต กับเด็กดนตรีสากล และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ให้เกิดการทำงานและเล่นดนตรีร่วมกัน มากกว่าเป็นเพียงแค่การจัดงานอีเว้นท์”
เรียกว่าน่าสนใจไม่น้อย สำหรับโจทย์ทั้งสองข้อ ทั้งการแต่งเพลงเอง และการบรรเลงดนตรีสมัยนิยมผสมเครื่องเป่า โดยการประกวดในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากมิวสิคกูรูแถวหน้าของเมืองไทยหลายท่านมานั่งเก้าอี้คณะกรรมการ
นำโดย นักปั้นศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย นิค-วิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้ก่อตั้งค่ายเพลง Genie Records รวมถึงโปรดิวเซอร์มือทอง, พล-คชภัค ผลธนโชติ ผู้บริหารค่ายเพลง Boxx Music, อีกทั้งประสบการณ์ชั้นครูของ เช่-อัคราวิชญ์ พิริโยดม นักดนตรีวง The Richman Toy และหัวหน้าสาขาวิชาดนตรีสมัยนิยม มหาวิทยาลัยมหิดล, โอ-ทฤษฎี ศรีม่วง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ มิวสิกไดเรกเตอร์ แห่งวง Jetset’er และโปรดิวเซอร์นักแต่งเพลงมือฉมัง ฟองเบียร์-ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท มิวซิกมูฟ จำกัด มาร่วมค้นหาสุดยอดวงดนตรีหน้าใหม่ในครั้งนี้
"ทุกการสร้างสรรค์งานดนตรีเริ่มจากการเรียนรู้" คือคำกล่าวของ ‘นิค-วิเชียร ฤกษ์ไพศาล’ ผู้ก่อตั้งค่ายเพลง Genie Records ผู้เชื่อมั่นในการหมั่นฝึกฝน เรียนรู้จากการแกะเพลง และการบรรเลงบนเวทีให้มากครั้ง
“ศิลปินที่มีชื่อเสียง อาทิ BodySlam, Labanoon, Clash และ KALA ล้วนผ่านเวทีประกวดมาแล้วทั้งสิ้น แต่พื้นที่แสดงความสามารถของเด็กไทยทางดนตรีในรูปแบบเวทีการประกวดในปัจจุบันกลับน้อยลงทุกวัน ถือเป็นโอกาสดีมาก ๆ ของคนในแวดวงดนตรี ที่เวที THE POWER BAND จะมาสร้างพลังและสานต่อความฝันพร้อมสร้างความคึกคักให้วงการดนตรีอีกครั้ง เพราะเป็นเวทีประกวดที่มีการส่งเสริมอย่างจริงจัง เน้นวงดนตรีที่มีการสร้างสรรค์ และความสามารถเชิงทฤษฎีที่ถูกต้อง”
ขณะที่ ‘พล-คชภัค ผลธนโชติ’ โปรดิวเซอร์มือทองพ่วงตำแหน่งผู้บริหารค่ายเพลง Boxx Music ได้แสดงความคิดเห็นว่า ‘THE POWER BAND’ คือเวทีสำหรับโอกาส “เวทีประกวดให้สิ่งดี ๆ กลับไปเสมอ ไม่ว่าจะแพ้ หรือชนะ อย่างน้อยก็ได้ชนะตัวเอง เพราะเล่นตามโจทย์ที่ได้ฝึกซ้อมมา ทั้งนี้ ที่สุดของการเป็นศิลปิน ไม่อยากให้มองแค่ความสวยหรู ว่าจะเป็นศิลปินที่อยู่เบื้องหน้าอย่างเดียว แต่ดนตรีอยู่ในทุกบทบาทที่สามารถทำได้หลายอาชีพ รวมไปถึงการทำงานเบื้องหลัง เช่น นักแต่งเพลง วิศวกรเสียง ตลอดจนช่างเทคนิคที่ดูแล ทดสอบ และเตรียมเครื่องดนตรีบนเวทีให้กับศิลปิน”
ส่วนนักดนตรีมากประสบการณ์ จากวง The Richman Toy ‘เช่-อัคราวิชญ์ พิริโยดม’ หัวหน้าสาขาวิชาดนตรีสมัยนิยม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวเสริมว่า “ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันวงการดนตรีของไทย คนรุ่นใหม่มีฝีไม้ลายมือที่ฉกาจใกล้เคียงกับต่างประเทศมาก เพราะ เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถหาไอเดียและรู้เทรนด์เพลงทั่วโลกได้ง่ายแค่เพียงปลายนิ้ว และนำเทคนิคมาปรับใช้ เรียกได้ว่า เป็นช่วงเวลาสำคัญที่อุตสาหกรรมเพลงไทยกำลังพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งในประเทศไทยเวทีการประกวด THE POWER BAND เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ส่งเสริม พัฒนา และสนับสนุนเพื่อเป็นบันไดให้เยาวชนและประชาชนคนไทยพร้อมสำหรับการก้าวสู่ระดับนานาชาติได้อย่างเต็มภาคภูมิ”
ซึ่งขณะนี้ การเฟ้นหาดาวดนตรีบนเวที ‘THE POWER BAND เวทีประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยม ผสมเครื่องเป่า ประจำปี 2564’ ได้เดินทางมาถึงการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศแล้ว ร่วมหาคำตอบว่าใครจะเป็นสุดยอดคนดนตรีคนต่อไป และรับชมมินิคอนเสิร์ตสุดพิเศษ จาก อิ้งค์-วรันธร เปานิล และ Season Five ได้ในการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook : King Power Thai Power พลังคนไทย และ Facebook : Thailand International Wind Symphony Competition วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 9.30 น. เป็นต้นไป
