มิโนรุ ชิโรตะ : เบื้องหลัง ‘ยาคูลท์’ กับแนวคิด ‘สุขภาพดีที่เข้าถึงง่าย’

มิโนรุ ชิโรตะ : เบื้องหลัง ‘ยาคูลท์’ กับแนวคิด ‘สุขภาพดีที่เข้าถึงง่าย’
‘ยาคูลท์’ คือนมเปรี้ยวรสอร่อยที่หลายคนจดจำได้ ทั้งจากรูปลักษณ์ของขวดขนาดกะทัดรัด และสาวยาคูลท์ในชุดสีครีม-น้ำตาลใกล้เคียงกับสีของยาคูลท์ ซึ่งมักจะมาคู่กับการปั่นจักรยานหรือขี่มอเตอร์ไซค์เพื่อส่งนมเปรี้ยวยี่ห้อนี้ คงไม่แปลกนักหากเด็ก วัยรุ่น หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่ในประเทศไทยจะบอกว่า รู้จักยาคูลท์มาตั้งแต่จำความได้ เพราะแบรนด์นี้มีอายุยาวนานเกือบ 9 ทศวรรษ และเริ่มจัดจำหน่ายในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 ซึ่งหากมองย้อนกลับไปยังเบื้องหลังของการก่อตั้ง ‘ยาคูลท์’ เราจะพบกับความตั้งใจของแพทย์ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ต้องการให้ผู้คนในหมู่บ้านมีสุขภาพดีขึ้นในราคาที่จับต้องได้ โดยแพทย์คนนี้มีชื่อว่า ‘มิโนรุ ชิโรตะ’ (Minoru Shirota)    เด็กชายผู้มีฝันอยากเป็นหมอ ท่ามกลางเขาสูงในเมืองอีดะ (Iida) จังหวัดนางาโนะ (Nagano) ประเทศญี่ปุ่น เด็กชายมิโนรุ ชิโรตะ ลืมตาดูโลกในช่วงอากาศอบอุ่นของเดือนเมษายน ปี 1899 แม้สถานที่แห่งนี้จะเป็นหมู่บ้านเกษตรกรรม แต่พืชพันธุ์ต่าง ๆ กลับไม่สามารถเติบโตได้งอกงามนัก ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงมีฐานะค่อนข้างยากจน เด็กหลายคนได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ แต่โชคดีที่ชิโรตะเกิดในครอบครัวมีฐานะ เพราะบิดาของเขาเป็นทั้งพนักงานธนาคารและมีธุรกิจค้าส่งกระดาษและเลี้ยงไหมในเวลาเดียวกัน  ชิโรตะเติบโตขึ้นมาเป็นคนเฉลียวฉลาด มีอารมณ์ขัน แม้จะร่ำรวยและสุขสบาย แต่สภาพแวดล้อมรอบกายของเขาซึ่งเต็มไปด้วยเด็ก ๆ ที่มีสุขอนามัยไม่ดี ต้องกินอาหารคุณค่าทางโภชนาการต่ำ รวมทั้งเด็กหลายคนเสียชีวิตด้วยโรคบิด ทำให้ชิโรตะเริ่มมีความคิดว่า เขาอยากจะหายาที่สามารถขจัดโรคเหล่านี้ไป และตั้งปณิธานไว้ว่าเขาต้องเป็นแพทย์ให้ได้ และแล้วฝันของเขาก็เป็นจริง เมื่อชิโรตะสามารถสอบเข้าโรงเรียนแพทย์ แห่งมหาวิทยาลัยเกียวโตอิมพีเรียล (School of Kyoto Imperial University) ได้ในปี 1921 หลังจากนั้น เขาเริ่มทำวิจัยเกี่ยวกับจุลินทรีย์ในลำไส้ โดยมุ่งไปที่ยาสำหรับการ ‘ป้องกัน’ มากกว่ายาเพื่อการ ‘รักษา’ จนสามารถค้นพบ ‘แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ สายพันธุ์ชิโรตะ’ หรือ ‘จุลินทรีย์ชิโรตะ’ ในปี 1930  มิโนรุ ชิโรตะ : เบื้องหลัง ‘ยาคูลท์’ กับแนวคิด ‘สุขภาพดีที่เข้าถึงง่าย’

ภาพจาก https://www.yakultthailand.com/home

‘จุลินทรีย์ชิโรตะ’ นี้มีคุณสมบัติที่สามารถทนต่อน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร จนมีชีวิตรอดไปถึงลำไส้ของมนุษย์ เพื่อปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ รวมทั้งยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคได้ ซึ่งช่วยลดการท้องผูกและท้องเสียให้กับผู้คน การค้นพบในครั้งนี้ทำให้ชิโรตะนำมาพัฒนานมเปรี้ยวที่เรียกว่า ‘ยาคูลท์’ (มาจากคำว่า ‘Yahulto’ หมายถึง โยเกิร์ต) ในอีก 5 ปีถัดมา โดยเริ่มต้นจากแนวคิดที่ว่า ‘สุขภาพลำไส้ที่ดี คือเคล็ดลับของการมีอายุยืนยาว’   หัวใจของยาคูลท์คือสุขภาพดีที่เข้าถึงง่าย ยาคูลท์จัดจำหน่ายเป็นครั้งแรกที่เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น โดยยาคูลท์รุ่นแรก ๆ ถูกออกแบบมาเป็นขวดแก้วหลากหลายขนาด และใช้ฝาไม้ก๊อกเพื่อปิดปากขวด ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นขวดพลาสติกขนาดเล็ก รูปร่างคล้ายนาฬิกาทราย เพื่อให้ถือสะดวกและยกดื่มง่ายยิ่งขึ้น หลังจากนั้น ยาคูลท์เริ่มขยายไปไกลกว่าในญี่ปุ่น โดยเริ่มจากประเทศไต้หวันในปี 1964 ก่อนจะขยับขยายไปเป็น 40 ประเทศทั่วโลก แต่ไม่ว่าจะขยับขยายไปไกลแค่ไหน ปรัชญาของ ‘ยาคูลท์’ ก็ยังคงเป็น 3 แนวคิดสำคัญที่เรียกรวมกันว่า ‘Shirotaism’ ที่มาจากชื่อของชิโรตะ ผู้ก่อตั้งบริษัทยาคูลท์นั่นเอง โดยแนวคิดแรกของ Shirotaism คือการให้ความสำคัญกับการผลิตยาเพื่อ ‘การป้องกัน’ มากกว่า ‘การรักษา’ ส่วนแนวคิดต่อมาคือการให้ความสำคัญกับ ‘ลำไส้’ เพราะเป็นอวัยวะที่สารอาหารถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย หากลำไส้แข็งแรงก็จะทำให้คนคนนั้นมีอายุยืนยาวตามไปด้วย และแนวคิดสุดท้ายคือ การผลิตสินค้าในราคาจับต้องได้ เพื่อให้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงการมีสุขภาพที่ดี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในราคาสูง และความเข้าถึงง่ายดังกล่าวก็ได้ถูกพัฒนามาเป็นระบบ ‘สาวยาคูลท์’ ราวปี 1963 โดยมีจุดประสงค์หลักคือการให้สาวยาคูลท์เป็นเหมือนผู้ให้คำแนะนำด้านสุขภาพ ทั้งการแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับยาคูลท์และข้อมูลเกี่ยวกับจุลินทรีย์ในลำไส้ ซึ่งสาวยาคูลท์มักจะมาพร้อมจักรยานคู่ใจหรือมอเตอร์ไซค์คันเก่งอยู่บ่อย ๆ  มิโนรุ ชิโรตะ : เบื้องหลัง ‘ยาคูลท์’ กับแนวคิด ‘สุขภาพดีที่เข้าถึงง่าย’

ภาพจาก https://www.yakultthailand.com/home

เมื่อยาคูลท์เดินทางสู่ประเทศไทยไปจนถึงอวกาศ ส่วนยาคูลท์ในประเทศไทย มีจุดเริ่มต้นมาจากนายประพันธ์ เหตระกูล ที่เดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศญี่ปุ่น โดยระหว่างนั้น นายประพันธ์มีโอกาสได้ลองดื่มยาคูลท์ตอนท้องเสีย แล้วศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับยาคูลท์ ทำให้เขาตัดสินใจกลับมาก่อตั้งบริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในปี 1970 หรือประมาณปี พ.ศ. 2513 แล้วจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในอีกหนึ่งปีถัดมา นอกจากยาคูลท์จะขยายไปยังประเทศต่าง ๆ แล้ว ใน Yakult Company Profile ประจำปี 2021 - 2022 ยังระบุว่า ยาคูลท์ได้ร่วมมือกับองค์กรสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (Japan Aerospace Exploration Agency หรือ JAXA) และสำนักงานวิจัยและพัฒนาแห่งชาติ เพื่อวิจัยเกี่ยวกับสุขภาพของนักบินในสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภูมิคุ้มกัน การทำงานของลำไส้ ไปจนถึงประสิทธิภาพจากการบริโภคเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ ‘แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ สายพันธุ์ชิโรตะ’ ที่ชิโรตะค้นพบอีกด้วย ตลอดชีวิตของ มิโนรุ ชิโรตะ เขาอุทิศให้กับการศึกษาเรื่องแบคทีเรียในลำไส้ และส่งเสริมการป้องกันอาการป่วยไข้ต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งปี 1982 ชิโรตะได้จากโลกใบนี้ไปอย่างไม่หวนกลับในวัย 82 ปี ทิ้งไว้เพียงงานวิจัยและผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีขึ้น นั่นคือนมเปรี้ยวขวดเล็กที่มีชื่อว่า ‘ยาคูลท์’    ภาพ https://en.wikipedia.org/wiki/Minoru_Shirota    ที่มา: https://www.yakult.co.jp/english/ir/management/profile.html https://www.yakult.co.jp/english/pdf/profile2021-2022_en.pdf https://www.yakultthailand.com/company#:~:text=%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B5%20%E0%B8%9E.%E0%B8%A8.%202473,%E0%B8%9B%E0%B8%B5%20%E0%B8%9E.%E0%B8%A8.%202478%20%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2 https://peoplaid.com/2021/08/24/the-story-of-minoru-shirota-founder-of-yakult/ http://usahawan-yakult.blogspot.com/2011/12/story-of-dr-minoru-shirota-yakult.html