read
thought
15 พ.ย. 2564 | 17:46 น.
Red Notice: หมายแดงจาก ‘อินเตอร์โพล’ ถึงเหล่า ‘นักโจรกรรมงานศิลป์’ ผู้มีปมเรื่องพ่อ
Play
Loading...
/ ***บทความชิ้นนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาภายในเรื่อง Red Notice (2021)*** /
ภาพ ‘พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย - MOCA Bangkok’ ถูกรายล้อมไปด้วยเส้นกั้นเขตสีแดงได้กลายเป็นที่พูดถึงบนโลกออนไลน์ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2021 จนผู้พบเห็นหลายคนคิดว่าอาจเกิดการโจรกรรมงานศิลป์ขึ้นภายในพิพิธภัณฑ์ แต่แท้จริงแล้วนั่นเป็นส่วนหนึ่งของความเล่นใหญ่ในการโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง ‘Red Notice’ ของ Netflix เพียงเท่านั้น
คำถามต่อมาหลังจากที่ผู้คนได้พบเห็นเส้นกั้นเขตสีแดงดังกล่าวคือ ‘Red Notice’ หรือ ‘หมายแดง’ คืออะไร?
Red Notice หรือ หมายแดง คือหมายจับระดับสูงสุด ออกโดยองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือที่รู้จักกันในนาม ‘อินเตอร์โพล’ (International Criminal Police Organization - INTERPOL) ซึ่งอินเตอร์โพลมีหน้าที่ในการออกหมายสีต่าง ๆ ตามคำร้องขอของประเทศสมาชิก เพื่อให้ประเทศสมาชิกเฝ้าระวังบุคคลที่ทางการจับตาดู เช่น ผู้ร้ายข้ามแดน โดยปัจจุบันคาดว่ามีผู้ที่ถูกออกหมายแดงกว่า 66,370 ราย แต่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะเพียง 7,669 ราย ทั้งนี้หมายแดงไม่ใช่หมายจับระหว่างประเทศ
“A Red Notice is an international wanted persons notice, but it is not an arrest warrant.” (
INTERPOL
)
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Red Notice หมายแดงนี้มาในช่วงเวลาท้ายสุดของหนัง หลังจากที่ 2 นักโจรกรรมที่เป็นคู่แข่งกันอย่าง ‘โนแลน บูธ’ (รับบทโดย ไรอัน เรย์โนลด์ส - Ryan Reynolds) และ ‘บิชอป’ (รับบทโดย กัล กาด็อต - Gal Gadot) และ 1 เจ้าหน้าที่พิเศษ ‘จอห์น ฮาร์ทลีย์’ (รับบทโดย ดเวย์น จอห์นสัน - Dwayne Johnson) ได้ทำการโจรกรรม ‘ไข่ 3 ใบของคลีโอพัตรา’ ไปจากพิพิธภัณฑ์ พ่อค้าอาวุธ และหลุมหลบภัยของนาซีได้สำเร็จ
ไข่ 3 ใบของคลีโอพัตรา
Red Notice เต็มไปด้วยการหักเหลี่ยมหักมุมของเหล่านักโจรกรรมที่อยากจะนำไข่ 3 ใบของคลีโอพัตราไปมอบให้กับมหาเศรษฐีชาวอียิปต์ในงานวันเกิดของลูกสาว ซึ่งผู้ที่นำไข่ครบชุดมามอบให้ได้สำเร็จจะได้เงิน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปครอง นั่นทำให้เจ้าหน้าที่พิเศษ จอห์น ฮาร์ทลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมงานศิลป์ จากหน่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของเอฟบีไอ ต้องเดินทางมาถึงกรุงโรม ประเทศอิตาลี พร้อมนักสืบ ‘ดาส’ (รับบทโดย ริทู อาร์ยา - Ritu Arya) เพื่อเตรียมจับจอมโจรที่ฉลาดเป็นกรดอย่าง โนแลน บูธ ไม่ให้เขาขโมยไข่ใบที่ 1 ไปได้
แน่นอนว่าภารกิจแรกของฮาร์ทลีย์สำเร็จไปด้วยดี แต่เขากลับถูกบิชอปหักหลัง และโดนดาสส่งไปเข้าคุกที่รัสเซียพร้อมบูธ เรื่องราวดำเนินต่อไปด้วยการที่ทั้งสองแหกคุกออกมาเพื่อชิงไข่ใบที่ 2 จากพ่อค้าอาวุธ แต่ก็ไม่วายถูกบิชอปมาชิงไปอีก ส่วนไข่ใบที่ 3 มีเพียงบูธเท่านั้นที่รู้ที่อยู่ ทำให้ 2 โจร และ 1 เจ้าหน้าที่ที่กลายเป็นโจรจำเป็นต้องช่วยเหลือและตลบหลังกันและกันเพื่อให้ตนเองไปถึงเป้าหมาย
พล็อตของ Red Notice ไม่ได้หวือหวาหรือซับซ้อนมากมาย แต่ก็ทำให้ผู้ชมว้าวได้ด้วยฉากแอ็กชัน มุกตลก และการหักมุมแล้วหักมุมอีก (แต่ไม่เกินความคาดหมาย) แถมเสน่ห์ของนักแสดงนำทั้ง 3 ยังทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าติดตามไปตลอด ทั้งความฮาของไรอัน เรย์โนลด์ส ความบู๊ของดเวย์น จอห์นสัน และความสวยแซ่บของกัล กาด็อต รวมไปถึงความกัดไม่ปล่อยจากฝีมือการแสดงของ ริทู อาร์ยา ที่เคยปรากฏตัวใน The Umbrella Academy Season 2 แต่น่าเสียดายว่าดันถูก 3 นักแสดงหลักกลืนบทไปบ้าง
นอกจากบทโจรกรรมที่แย่งชิงของมีค่ากันไปมา การตามล่าหาไข่ของคลีโอพัตรายังทำให้นึกถึงภาพยนตร์แนวผจญภัยอย่าง ‘ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า’ (Indiana Jones) โดยเฉพาะในภาค Raiders of the Lost Ark (1981) ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับนาซีเยอรมันและประเทศอียิปต์ รวมถึงภาค Indiana Jones and the Temple of Doom (1984) ที่มีฉากใต้ดินและเหมืองร้างสุดอลังการ แถมคลังสมบัติในภาคอื่น ๆ อย่าง Indiana Jones and the Last Crusade (1989) และ Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull (2008) ก็ยังแอบมีกลิ่นอายปะปนเข้ามาใน Red Notice ด้วย
หรือหากพูดถึงความสัมพันธ์พ่อ-ลูกของ อินเดียน่า โจนส์ กับพ่อของเขาอย่าง ดร.เฮนรี่ โจนส์ แม้ Red Notice จะไม่ได้พูดถึงความผูกพันในเชิงบวกโดยตรง แต่ตัวละครหลักทั้ง 3 กลับเริ่มอาชีพนักโจรกรรมจากการมีปมเรื่องพ่อ
รวมแก๊งนักโจรกรรมผู้มีปมเรื่องพ่อ
เจ้าหน้าที่จอห์น ฮาร์ทลีย์ มาจากหน่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของเอฟบีไอ เขาได้พูดคุยกับบูธในห้องขังที่รัสเซีย ซึ่งฮาร์ทลีย์ได้ตรวจสอบประวัติของจอมโจรสมองเพชรคนนี้มาสักพักใหญ่แล้ว
“ลูกชายร้อยตำรวจเอกชาวสวิสกลายเป็นอาชญากรตัวเอ้ได้ยังไงนะ” ฮาร์ทลีย์ถาม
“ตอนอายุ 8 ขวบ พ่อคิดว่าฉันขโมยนาฬิกาของเขา เขารักเศษโลหะนั่นมากกว่าอะไร”
บูธในวัยเด็กต้องเผชิญกับการเข้าใจผิดของผู้เป็นพ่ออยู่เกือบ 1 ปี แม้ว่าเขาจะบอกพ่อว่าไม่ได้ขโมยนาฬิกาไป แต่พ่อของเขากลับตอบว่า ‘แกขโมยไป แกโกหก’ หลังจากนั้นเด็กชายตัวน้อยก็ต้องอยู่กับความโดดเดี่ยวตลอดทั้งในวันเกิดและวันคริสต์มาส กระทั่งวันหนึ่งพ่อของเขาก็ได้รู้ว่าลูกชายพูดความจริงมาโดยตลอด และนาฬิกาก็แค่จมอยู่ใต้กองเอกสารบนโต๊ะทำงาน แต่ถึงอย่างนั้นพ่อก็ไม่ยอมขอโทษ
“พ่อฉันเป็นโจร เป็นพวกต้มตุ๋นที่เก่งที่สุด” เจ้าหน้าที่ฮาร์ทลีย์บอกกับบูธขณะที่พวกเขากำลังจะมุ่งหน้าไปหาไข่ใบที่ 3 ราวกับเป็นเรื่องตลกที่ลูกชายโจรโตขึ้นมาเป็นตำรวจ และลูกชายของตำรวจก็เติบโตขึ้นมาเป็นโจร
“พ่อทำให้ฉันเป็นฉันในวันนี้ ฉันหมกมุ่นอยู่กับการเอาชนะตลอดเวลา ต้องเป็นที่หนึ่งในสิ่งที่ฉันทำ จนฉันไม่ยอมผ่อนคลายหรือวางเฉย”
ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือโกหก แต่บิชอปเองก็มีปมเกี่ยวกับพ่อของเธอเช่นกัน เธอและบูธขับเคี่ยวกันครองตำแหน่งนักโจรกรรมงานศิลป์อันดับหนึ่งของโลก พวกเขาชื่นชอบประวัติศาสตร์งานศิลป์และเงิน แต่เหนือไปกว่านั้น พวกเขาชื่นชอบการแข่งขันที่สนุกสนานและตื่นเต้นราวกับเด็กที่ได้วิ่งเล่นในโลกของตนเองอย่างอิสระ ไร้การควบคุมจากผู้เป็นพ่อ
“พ่อผมเป็นคนที่มีความมั่นใจสูง… ผมเก็บปืนไว้แนบใจตั้งแต่วันที่ผมใช้ฆ่าเขา ตอนเด็กผมไม่เคยได้รับอนุญาตให้แตะต้อง”
จากลูกชายของพ่อผู้ไม่ยอมให้ลูกแตะต้องปืน สู่พ่อค้าอาวุธที่ครอบครองไข่ใบที่ 2 ของคลีโอพัตรา ‘ซอตโต วอเช่’ (รับบทโดย คริส ดิอาแมนโทพูโลส - Chris Diamantopoulos) ปลิดชีพพ่อของตัวเอง และเติบโตเป็นผู้ร่ำรวยในโลกมืด แถมในครั้งนี้เขายังจะได้ปะทะกับเหล่าโจรผู้มีปมเรื่องพ่ออีก 3 คนพร้อมกัน
‘พ่อ’ มักจะถูกยกให้เป็น ‘ผู้นำ’ ตามแนวคิดครอบครัวในอุดมคติสมัยก่อน ซึ่งรวมถึงการเป็นสัญลักษณ์ของ ‘ผู้มีอิทธิพลและผู้มีอำนาจ’ ตามหลักจิตวิทยา เด็กสามารถเรียนรู้และเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ที่อยู่รายล้อมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อและแม่ของพวกเขา ส่วนพฤติกรรมที่พ่อแม่ต้องพึงระวังย่อมหนีไม่พ้นเรื่องความรุนแรง การโกหก และการลักเล็กขโมยน้อย
Red Notice ทำให้เราเห็นปัญหาของผู้มีอิทธิพลในบ้านที่ใช้อำนาจของตนในทางที่ผิด หรืออาจผิดที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ถูกที่ควรคืออะไร สุดท้ายฮาร์ทลีย์ไม่ได้บอกว่าเขามาเป็นตำรวจ เพราะพ่อของเขาเป็นโจร แต่เขาต้องการเป็นโจรที่เก่งกว่าพ่อต่างหาก
โดยรวมแล้ว เราอาจไม่รู้ว่าปมเรื่องพ่อ (เชิงลึก) ของตัวละครที่เหลือคืออะไร แต่อย่างน้อยเราก็สัมผัสถึงสิ่งที่ภาพยนตร์ต้องการแสดงให้เห็นได้ว่า สมาชิกในครอบครัวถือเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อการเติบโตของเด็กเป็นอย่างมาก และพวกเขาสมควรที่จะมอบความรักความอบอุ่นให้กับเด็ก ๆ อย่างเหมาะสมก่อนที่อดีตอันขมขื่นจะกลับกลายเป็นปมในใจของเด็ก และเป็นแรงขับเคลื่อนให้พวกเขาหันหลังให้สังคมตลอดกาล
เกมโจรกรรมของเหล่าบิชอป
ในตอนจบของภาพยนตร์ บิชอปที่นำแสดงโดย กัล กาด็อต ไม่ใช่บิชอปเพียงคนเดียวของเรื่อง และการโจรกรรมแย่งชิงสมบัติกันไปมาก็ไม่ต่างจากการแข่งขัน ซึ่งพอมีชื่อบิชอปขึ้นมา เชื่อว่าใครหลายคนคงจะนึกถึง ‘หมากรุกสากล’ เป็นอย่างแรก หรืออย่างน้อยก็เป็นรองแค่บิชอป ซึ่งเป็นตำแหน่งในคริสตจักร
ฮาร์ทลีย์และบิชอปได้เฉลยว่า แท้จริงแล้วพวกเขาคือบิชอปกันทั้งคู่ เพราะบนกระดานหมากรุกมีบิชอป 2 ตัว สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามว่าแล้วเหตุใดจึงต้องเป็นบิชอป ทำไมจึงไม่เป็นคิงกับควีน ม้าหรือเรือ ในเมื่อคนที่เหลือบนโลกเป็นเพียงแค่เบี้ยของทั้ง 2 คนเท่านั้น
ความสำคัญและความสามารถของหมากแต่ละตัวบนเกมไม่เท่ากัน ควีนคือหมากที่มีความสามารถที่เรียกว่าดีที่สุดบนกระดาน ขณะที่คิงคือตัวสำคัญที่ถูกทำให้จนตรอกเมื่อไหร่ก็หมายถึงความพ่ายแพ้ ดังนั้นฮาร์ทลีย์และบิชอปจึงไม่ใช่คิงและควีน พวกเขาร่วมมือกัน และมีความสามารถที่เติมเต็มกันจนไปถึงเป้าหมาย ไม่มีใครที่เหนือกว่าใครด้วยเพศสภาพหรือความสามารถ เพราะหากจะปล้นแล้ว ต้องเป็นพวกเขาทั้งคู่
นอกจากนี้ ฮาร์ทลีย์และบิชอปก็ไม่ใช่อัศวินที่คุ้มครองพระราชาหรือพระราชินี พวกเขาไม่ใช่เรือที่ต้องคุ้มกันใครที่อยู่เหนือกว่า แต่บิชอปมีอิสระในพื้นที่ของตัวเองไม่ต่างจากบิชอปตัวจริงในศาสนจักร ยิ่งในยุคที่คริสต์ศาสนารุ่งเรือง ผู้คนเชื่อและศรัทธาโดยไม่ต้องมีการผลักดันหรือช่วยเหลือจากราชสำนัก แถมในยุคกลางยังถือว่าบิชอปมีอำนาจเทียบเท่าขุนนาง ซึ่งเป็นรองเพียงคิงและควีนด้วย
จากพื้นที่ในศาสนจักร สู่พื้นที่จัดแสดงงานศิลป์ บิชอปทั้งสองเล็งเป้าไปที่แหล่งโจรกรรมชั้นยอด ‘หากไม่ใช่เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ ใครจะเชี่ยวชาญพื้นที่และงานศิลป์ได้มากกว่าคน
นี้(ที่)
กำลังจะขโมยมัน?’ นี่แหละความน่าดูที่ ‘รอว์สัน มาร์แชล เธอร์เบอร์’ (Rawson Marshall Thurber) ผู้กำกับและผู้เขียนบทได้มอบให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้
เช่นเดียวกับความสนุกสนานและความตื่นเต้นที่สะกดคนดูให้คิดตามตลอดเวลาว่าจะมีการหักหลังกันเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ แต่ภายใต้ความเร้าอารมณ์เหล่านั้น เธอร์เบอร์ยังได้ชวนผู้ชมย้อนมองชีวิตและเบื้องหลังการกระทำของเหล่านักโจรกรรมได้อย่างมีชั้นเชิง เพื่อไม่ให้สังคมลืมไปว่า ครอบครัวยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญและมีอิทธิพลฝังใจเสมอ แม้เด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม
เรื่อง: วโรดม เตชศรีสุธี
ภาพ:
https://www.netflix.com/title/81161626
อ้างอิง:
Red Notice (2021) ออกฉายทาง Netflix
https://www.interpol.int/en/How-we-work/Notices/View-Red-Notices
https://www.interpol.int/How-we-work/Notices/Red-Notices
https://www.tnnthailand.com/news/socialtalk/2416/
https://www.mrscheckmate.com/what-chess-pieces-represent/#the-bishop-
https://thecinemaholic.com/where-was-red-notice-filmed/
https://www.johnstown.k12.oh.us/cms/lib/OH02000847/Centricity/Domain/149/The%20Middle%20Ages%20_%20clergy.html
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
‘บิ๊กโจ๊ก’ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ตำแหน่งใหญ่ขณะอายุน้อย บารมีมาก เส้นทางสีกากีติดไฮสปีด
15 ก.ย. 2566
3730
ถอดรหัส ‘Naatu Naatu’ เพลงประกอบหนังอินเดียฉากร้อง-เต้นใน RRR ได้ออสการ์-Golden Globes
13 มี.ค. 2566
7073
‘เอมิลิโอ เฟอร์นันเดส’ ชายผู้เป็นต้นแบบของตุ๊กตารางวัล ‘ออสการ์’
12 มี.ค. 2566
1019
แท็กที่เกี่ยวข้อง
Netflix
The People
Thought
Red Notice