26 ก.พ. 2562 | 15:09 น.
“ขอบคุณที่เป็น Day 1 ของผม” HONNE กับโชว์ครั้งที่สามที่เล่นดีแต่ไม่ “เอนเตอร์เทน”
กลับมาเยือนบ้านเราเป็นครั้งที่สามแล้วสำหรับ “HONNE” วงดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์โซล จากลอนดอน ประเทศอังกฤษ กับคอนเสิร์ต JAMnight Live! with HONNE & Friends ที่ Thunder Dome เมืองทองธานี
‘HONNE’ เป็นการร่วมตัวกันของ แอนดี้ คลัตเตอร์บัค (ร้องนำ) และ เจมส์ แฮทเชอร์ (คีย์บอร์ด, กีตาร์) สองหนุ่มดูโอ้ที่มีความหลงใหลในดนตรีอิเล็กทรอนิกส์โซล ‘HONNE’ มีเอกลักษณ์เฉพาะในเรื่องของซาวน์ดนตรี ทำนองที่ติดหู และดนตรีที่มีการผสมผสานกลิ่นอายของ ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และโซลรวมเข้าด้วยกันไว้
ชื่อวง HONNE มาจากภาษาญี่ปุ่น (本音) มีความหมายว่า ”ความรู้สึกที่แท้จริง” ทั้งคู่มีความประทับใจกับประเทศญี่ปุ่นมาก ๆ นอกจากชื่อวงแล้วพวกเขาก็ยังเคยนำเอาชื่อญี่ปุ่นมาตั้งเป็นชื่อค่ายของพวกเขาเองอีกด้วย
นี่ถือเป็นครั้งที่สามสำหรับพวกเขาในประเทศไทยและเป็นครั้งที่สามสำหรับผมเช่นกันที่ได้ดูสองหนุ่มคนนี้ สำหรับทัวร์ในครั้งนี้เพลงส่วนใหญ่จะเป็นเพลงจากอัลบั้มใหม่ของพวกเขา “Love Me / Love Me Not” ที่เพิ่งจะปล่อยออกมาเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา
HONNE เริ่มเปิดคอนเสิร์ตของพวกเขาด้วย Me & You เพลงดังที่ได้หนุ่มหล่อเสียงดี ทอม มิชช์ มาร่วม feat. ด้วย ถือเป็นเพลงที่ชวนให้คนดูต่างร้องตามกระหึ่มฮอลล์ ก่อนต่อเนื่องความสนุกด้วยเพลงถัดไป Coastal Love เพลงจังหวะสนุกที่สะท้อนความสัมพันธ์ที่ห่างไกลกัน และเพราะความรักจึงทำให้ฝ่ายหนึ่งพร้อมจะรออีกฝั่งกลับมาเสมอ ก่อนส่งเข้าเพลงเนื้อหาน่ารัก ๆ Good Together เอาใจคนที่ชวนมากันเป็นคู่
ในช่วงแรกเสียงที่ออกมาอาจจะยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่พอเริ่มเข้าเพลงอย่าง Location Unknown และ I Got You เสียงที่ควรจะเป็นก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง ซึ่งหลังเพลงนี้หนุ่มแอนดี้ ก็ได้กล่าวทักทายแฟนเพลงด้วยประโยคเรียกเสียงกรี๊ดอย่าง “เรารักคนไทย” ก่อนจะทยอยเล่นเพลงจากอัลบั้มใหม่ล่าสุดไม่ว่าจะเป็น 306, Sometimes, I Just Wanna Go Back, I Might ก่อนปิดช่วงนี้ด้วยการโซโล่บาดใจของหนุ่มเจมส์ ในเพลง Shink และเพลง Radar ที่ทางวงเคยไปร่วมแจมกับ Whethan
นอกจากเอกลักษณ์ของวงที่มาจากการผสมผสานกันของดนตรีอิเล็กโทรนิกส์แล้ว เสน่ห์อีกอย่างของ HONNE ที่หลายคนมองข้ามคือเสียงร้องของนักร้องหญิงที่อยู่ด้านหลังอย่าง รีเบ็กก้า แพรนซ์ หรือที่เรารู้จักในชื่อ เบก้า
เบก้าไม่ใช่นักร้องคอรัสธรรมดาทั่วไป เธอเป็นอีกหนึ่งคนที่มีส่วนร่วมในเพลง Crying Over You จากอัลบั้มใหม่นี้ด้วย ซึ่งไม่แปลกที่วงจะหยิบเพลงนี้มาอยู่ในโชว์ด้วย ก่อนทางวงจะชวนสาว Anna of the North นักร้องสาวชาวนอร์วีเจียนที่เล่นเปิดคอนเสิร์ตในครั้งนี้ให้พวกเขา กลับขึ้นมาร้องในเพลง Feel So Good ก่อนที่วงจะปิดช่วงนี้และลงจากเวทีไปด้วยเพลง All In The Value และเพลงฮิตอย่าง Someone That Loves You เพลงที่ทางวงร่วม feat.กับนักร้องสาวเสียงดี อิซซี บิซู แต่แม้งานนี้สาวอิซซีจะไม่ได้มาด้วย แต่คนที่มาแทนเธออย่าง เบก้า ก็เสียงดีไม่แพ้กัน
HONNE กลับขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับเซอร์ไพรส์สุดพิเศษ ด้วยการชวนหนุ่ม ภูมิ วิภูริศ ขึ้นมาร่วมแจมในเพลง Warm on a Cold Night ซิงเกิลเปิดตัวที่ทำให้เราได้รู้จักกับพวกเขาเป็นการเรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นลั่นฮอลล์ ซึ่งหนุ่มเจมส์ยังกล่าวชมนักร้องชาวไทยของเราด้วยว่าเป็นศิลปินที่ humble มาก ๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเพลงนี้หนุ่มแอนดี้นักร้องนำเป็นคนแต่งเองท่ามกลางความมืดอีกด้วย โดยเขาเคยเล่าว่า
“ใช่แล้ว มันไม่ใช่แค่ดนตรีนะแต่มันคือการมองเห็นด้วย เราชอบบรรยากาศที่แสงน้อย ๆ ในห้องมืด ๆ โดยเฉพาะเวลาเขียนเพลง ผมรู้สึกว่ามันคือช่วงเวลาและเป็นสถานที่ที่คุณจะได้เป็นตัวเองจริง ๆ เราทุกคนต่างรู้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดเกิดขึ้นในเวลากลางคืน”
HONNE ต่อเนื่องด้วยเพลง Woman เพลงที่ทำเอาหลายคนดีใจสุด ๆ พร้อมอุทานว่า “ในที่สุดก็เล่นสักทีเว้ย” ถือเป็นเพลงที่วงโชว์ออกมาได้ดีทีเดียว โชว์ในครั้งนี้ปิดฉากอย่างสมบูรณ์ด้วยเพลงดังสุด ๆ ของพวกเขาอย่าง Day 1 เพลงนี้เป็นเพลงรัก เพลงหวานอีกเพลงที่พูดถึงความรักที่มีให้กับคนรักตั้งแต่แรกพบโดยส่วนตัวนี่ถือเป็นเพลงที่ทำให้ชื่อเสียงของ HONNE โด่งดังมากขึ้นในบ้านเรา
สิ่งที่ส่วนตัวยังคงเสียดายกับพวกเขาตลอดมา คือเรื่องของโชว์ที่ไม่ค่อยจะเอนเตอร์เทนเท่าไหร่ พวกเขาทำเพลงและเล่นสดได้ดีมาก แต่ด้วยสเกลของคนดูที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ การส่งพลังงานให้ถึงคนดูทั้งฮอลล์เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งเสมอสำหรับศิลปินที่หวังจะขึ้นเป็นพวก A List แต่ก็ต้องพูดตามตรงว่า HONNE ต้องทำให้ดีขึ้นกว่านี้ แต่ถ้าให้เทียบกับครั้งก่อน ๆ พวกเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ
HONNE ถือเป็นศิลปินที่มีฐานแฟนเพลงโตเร็วมากที่สุดวงหนึ่งในโลกตอนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าสองหนุ่มที่ทำเพลงกันเองและตั้งวงขึ้นมาในปี 2014 จะมีกราฟความสำเร็จพุ่งขึ้นเร็วขนาดนี้ ด้วยด้วยคาแรคเตอร์ของพวกเขาที่ “พูดน้อยต่อยหนัก” การเอนเตอร์เทนคนดูอาจเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องค่อย ๆ พัฒนาขึ้นมา ตามความสำเร็จทื่เร็วเกินแบบนี้
ขอขอบคุณ HAVE YOU HEARD? สำหรับการอำนวยความสะดวกในครั้งนี้ครับ
