26 ม.ค. 2565 | 11:26 น.

Lady Dior: เจ้าหญิงไดอานากับกระเป๋าที่โลกตกหลุมรัก

เดือนกันยายน 1995, Grand Palais ปารีส แสงแฟลชไฟจากกล้องถ่ายรูปสาดส่องอย่างร้อนแรงทันทีที่เจ้าหญิงไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ก้าวลงมาจากรถหรูคันงามบริเวณหน้า Grand Palais (อาคารประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสที่ถูกใช้เป็นสถานที่จัดนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปารีส) การปรากฏกายของเจ้าหญิงไดอานาที่ฝรั่งเศสคราวนี้ พระองค์เดินทางมาร่วมงานนิทรรศการ Cézanne Exhibition ในฐานะเจ้าบ้านที่ดี สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของฝรั่งเศส แบร์นาแด็ต ชีรัก (Bernadette Chirac - คู่สมรสของ ฌัก ชีรัก ประธานาธิบดีฝรั่งเศสในขณะนั้น) ได้ติดต่อ Dior แบรนด์แฟชั่นสุดหรูของฝรั่งเศสเพื่อจัดหาของขวัญที่ระลึกเพื่อมอบให้แด่เจ้าหญิงแห่งเวลส์ในฐานะแขกบ้านแขกเมือง ด้วยความโด่งดังและชื่อเสียงของเจ้าหญิงไดอานาที่ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร หรือหยิบจับสิ่งใดมาสวมใส่ก็มักจะเป็นที่พูดถึงในแวดวงสื่ออยู่เสมอ หลังจากที่แบรนด์ Dior ได้รับการติดต่อให้จัดหาสิ่งของมาเพื่อเป็นของกำนัลให้กับหนึ่งในเจ้าหญิงที่โด่งดังที่สุดในโลก ณ ขณะนั้น Dior จึงใช้เวลาครุ่นคิดว่าพวกเขาจะส่งของชิ้นใดเพื่อเป็นทั้งตัวแทนของฝรั่งเศส และในขณะเดียวกันก็สื่อถึงแบรนด์ Dior ด้วย พวกเขาจึงตัดสินใจส่งกระเป๋ารุ่นใหม่ของแบรนด์ที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายให้แก่แบร์นาแด็ต เพื่อให้เธอมอบให้แด่เจ้าหญิงไดอานา กระเป๋ารูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าทำจากหนังสีดำทั้งใบที่มีการเย็บลายตารางแบบ Cannage Motif บนหนังกระเป๋า โดยเจ้าลายของฝีเย็บนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากลายของเก้าอี้ Napoleon III ที่คริสเตียน ดิออร์ (Christian Dior) ใช้เป็นที่นั่งให้กับแขกในงานแฟชั่นโชว์ครั้งแรกของแบรนด์ Dior ในปี 1947 นอกจากกระเป๋าหนังสีดำทรงสี่เหลี่ยมที่ดูดีมีสไตล์พร้อมกับฝีเย็บที่เป็นเอกลักษณ์ กระเป๋าใบนี้ยังมาพร้อมกับพวงกุญแจโลหะตัวอักษร 4 ตัวคือ D-I-O-R อ่านรวมกันคือ ดิออร์ (Dior) ที่ว่ากันว่าเจ้าพวงกุญแจนี้ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากพวงกุญแจที่คริสเตียน ดิออร์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ดิออร์ชอบพกติดตัวเอาไว้เสมอ เสมือนหนึ่งเป็นของนำโชคให้กับเขาอย่างไรอย่างนั้น แต่อย่างที่เล่าเอาไว้ว่ากระเป๋ารุ่นนี้ยังไม่ได้ออกวางจำหน่าย มันจึงยังไม่มีชื่อรุ่น แต่ครั้นจะส่งมอบกระเป๋ารุ่นนี้แบบไม่มีชื่อรุ่นให้กับเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ก็คงจะกระไรอยู่ ก็เลยมีการตั้งชื่อกระเป๋ารุ่นนี้แบบไม่เป็นทางการว่า ‘Chouchou’ (ชูชู - แปลเป็นไทยความหมายประมาณว่า ของที่รักของที่ชอบ) ตัดภาพกลับมาที่ Grand Palais ในขณะที่ แบร์นาแด็ต ชีรัก มอบกระเป๋าใบนี้ให้กับเจ้าหญิงไดอานา นั่นเป็นครั้งแรกที่ภาพของกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าจากดิออร์ใบนี้ได้อวดโฉมสู่สายตาชาวโลกอย่างแท้จริง แต่เมื่อเจ้าหญิงไดอานาทรงรับกระเป๋าใบนี้ไปแล้วพระองค์จะใช้มันบ่อยแค่ไหน เรื่องนี้คงไม่อาจจะมีใครหยั่งรู้ได้ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าเจ้าหญิงไดอานาถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านแฟชั่นที่สำคัญคนหนึ่งในสมัยนั้น พระองค์คงจะมีตัวเลือกของกระเป๋ารองเท้ามากมายให้เลือกสวมใส่ แต่ปรากฏว่าเจ้าหญิงไดอานาโปรดกระเป๋ารุ่นนี้มาก สังเกตจากการที่พระองค์ทรงมีตัวเลือกมากมายให้ใช้สอย แต่พระองค์ยังทรงเลือกหยิบจับกระเป๋ารุ่น Chouchou นี้ขึ้นมาใช้อยู่บ่อยครั้ง ในโอกาสต่าง ๆ ทั้งงานเป็นทางการตอนกลางวัน หรืองานเลี้ยงตอนกลางคืน เช่น เดือนพฤศจิกายน, 1995 ในขณะที่เจ้าหญิงไดอานาเสด็จฯ ไปเยี่ยมสถานที่พักพิงเด็กที่เมืองเบอร์มิงแฮม ภาพถ่ายของกระเป๋ารุ่น Chouchou ถูกถ่ายขึ้นอีกครั้ง เมื่อแขนข้างหนึ่งของพระองค์กำลังโอบกอดเด็ก ๆ ในบ้านพักพิงเด็ก ในขณะที่แขนอีกข้างของพระองค์กำลังคล้องหูจับกระเป๋า Chouchou จาก Dior ต่อมาอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น มีภาพถ่ายพระองค์สวมใส่สูทขาวของ Versace กับกระเป๋ารุ่น Chouchou ขึ้นอีกระหว่างไปเยือนประเทศอาร์เจนตินา, หรือแม้แต่ในงานเลี้ยงที่รวบรวมเหล่าคนดังไว้ทั่วโลกอย่างงาน MET Gala ในปี 1996 เจ้าหญิงไดอานาก็ยังคงเลือกถือกระเป๋ารุ่น Chouchou นี้ออกงาน เรียกได้ว่าในระยะเวลาเพียงไม่นานหลังจากที่เจ้าหญิงไดอานาได้รู้จักกับกระเป๋า Chouchou จาก Dior พระองค์ก็ปรากฏกายพร้อมกับกระเป๋ารุ่นนี้ เสมือนหนึ่งว่าเป็นกระเป๋ารุ่นคู่ใจของพระองค์ไปเสียแล้ว ในปี 1996 Dior จึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อกระเป๋ารุ่นนี้ (หรือจะเรียกว่าตั้งชื่อกระเป๋ารุ่นนี้อย่างเป็นทางการ) ว่า Lady Dior เพื่อเป็นเกียรติแด่เจ้าหญิงไดอานา สตรีผู้เป็นที่รักและเป็นผู้นำแฟชั่นที่ทั้งโลกจับตามองที่สุดคนหนึ่งในขณะนั้น จะเพราะว่าผลจากการเปลี่ยนชื่อจาก Chouchou เป็น Lady Dior หรือเพราะว่ากระเป๋าใบนี้ถูกเผยแพร่ภาพออกมาเคียงคู่อยู่บนแขนของเจ้าหญิงไดอานาอยู่บ่อยครั้งผ่านสื่อทีวี หนังสือพิมพ์ และแมกกาซีนก็ตาม เอาเป็นว่ากระเป๋ารุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของผู้หญิงที่มีสไตล์ มีความทันสมัย และดูหรูหราแบบไม่ต้องพยายามในขณะเดียวกัน ภาพลักษณ์ที่ดีเหล่านี้สะท้อนออกมาเป็นยอดขายของกระเป๋ารุ่น Lady Dior ที่พุ่งสูงถึง 200,000 ใบภายหลังจากวันแรกที่กระเป๋ารุ่นนี้ได้ออกมาอวดโฉมให้คนทั้งโลกได้เห็นที่ Grand Palais จากปี 1995 จนถึงปัจจุบัน กระเป๋า Lady Dior ยังคงเอกลักษณ์หลายสิ่งอย่างเอาไว้ทั้งรูปทรงและพวงกุญแจตัวอักษรทั้ง 4 ที่ใช้ห้อยอยู่ที่ด้ามจับกระเป๋า แต่ดิออร์ก็เพิ่มลูกเล่นอันรวมไปถึงขนาด สี และวัสดุของกระเป๋าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าได้เลือกสรร ราคาของ Lady Dior อยู่ที่ประมาณใบละ 3,000 - 14,000 USD (ประมาณ 98,000 - 460,000 บาท, 1 USD = 32.91 บาท) ขึ้นอยู่กับขนาดและวัสดุที่นำมาทำกระเป๋า นอกจากเจ้าหญิงไดอานาแล้ว เหล่าคนดังมากมายก็ล้วนหลงใหลในความสง่างามและมีสไตล์ของกระเป๋า Lady Dior เช่นกัน เช่น นิคกี้ ฮิลตัน (Nicky Hilton), คริสติน เดวิส (Kristin Davis), เจสสิกา ซิมป์สัน (Jessica Simpson) หรือแม้แต่ลูกสะใภ้ของเจ้าหญิงไดอานา เมแกน มาร์เคิล (Meghan Markle) ก็เคยมีภาพถ่ายว่าเธอเลือกใช้กระเป๋ารุ่นนี้เช่นกัน คำว่าสง่างามเหนือกาลเวลาคงจะเป็นคำอธิบายสรุปความกระเป๋า Lady Dior ได้เป็นอย่างดี ในโลกของแฟชั่นที่ทุกอย่างหมุนเร็วไปตามกระแสของสังคมและการเปลี่ยนแปลง แต่ในระยะเวลาเกือบ 30 ปีนับจากวันที่กระเป๋า Lady Dior ได้อวดโฉมสู่สายตาชาวโลกมาจนถึงปัจจุบันนี้ มันยังคงเป็นหนึ่งในไอเทมที่ยืนหยัดและยังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้รักแฟชั่นอยู่เสมอ และเมื่อเราเห็นกระเป๋านี้เมื่อไหร่ นอกจากเราจะคิดถึงคริสเตียน ดิออร์ ผู้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างกระเป๋าใบนี้แล้ว มันยังย้ำเตือนถึงภาพของเจ้าหญิงแห่งเวลส์ที่คนทั้งโลกต่างตกหลุมรักและคิดถึงพระองค์ตราบจนทุกวันนี้ เรื่อง: มณีเนตร วรชนะนันท์ ภาพ: Getty Images ที่มา: https://www.vogue.fr/fashion/article/from-princess-diana-to-today-the-history-of-the-iconic-lady-dior-bag https://www.purseblog.com/dior/the-history-of-the-lady-dior-bag/#:~:text=Born%20in%201995%2C%20the%20first,perfect%20name%3A%20the%20Lady%20Dior. https://www.vogue.co.uk/fashion/article/princess-diana-lady-dior-bag https://luxaterra.com/lady-dior-bag/ https://www.purseblog.com/throwback-thursday/throwback-thursday-celebs-and-their-lady-dior-bags/ https://www.lifestyleasia.com/ind/style/here-is-why-lady-dior-is-considered-to-be-the-most-iconic-bag-in-the-world/ https://www.chiswickauctions.co.uk/news-item/lady-dior-an-icon/#:~:text=It%20was%20regularly%20photographed%20on,materials%20and%20the%20best%20craftsmanship%E2%80%9D.