ระเฑียร ศรีมงคล: เสริมจุดแข็งของ KTC ในปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ด้วยการปรับรูปแบบการทำงาน
*รายละเอียดจากงานแถลงข่าวทิศทางธุรกิจ KTC เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2022 ณ โรงแรมทูรานี รีสอร์ท เกาะกูด*
“ยอมโตช้า แต่ไม่โตแบบผิด ๆ”
คงจะเป็นคำนิยามที่อธิบายถึงลักษณะการทำงานของ KTC ช่วงที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี
แต่หลังจากที่ทำงานด้วยรูปแบบเดิม ๆ มายาวนานกว่า 24 ปี หลังจากบริษัทจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อปี 1996 ในที่สุด KTC ก็กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการปรับเปลี่ยนและเติบโตขึ้นในอนาคตด้วยการขยับขยายและพัฒนารูปแบบการทำงานให้เข้ากับโลกสมัยใหม่มากขึ้น
ภายใต้การบริหารงานของ ระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTC หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่มองเห็นถึงความผันผวนของปีที่ผ่านมา ทั้งจากกระแสเศรษฐกิจและโควิด-19 ที่ทำให้อะไรหลาย ๆ อย่างเกิดการเปลี่ยนแปลงแตกต่างออกไปจากเดิม
การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานและการมองธุรกิจในมุมมองใหม่ ๆ ให้มีความเป็นสตาร์ทอัพมากขึ้น จึงกลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา
“เคทีซีไม่ใช่สตาร์ทอัพ แต่เรากำลังทำงานด้วยแนวคิดแบบสตาร์ทอัพ” ระเฑียรกล่าวต่อสื่อมวลชนถึงทิศทางการทำงานที่เปลี่ยนไป
มีการเสนอโปรเจกต์พร้อมใช้ และสามารถปรับไปในทุก ๆ เดือน เพื่อให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นในการทำงาน
และหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ดูเหมือนจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น และมีการเปิดประเทศตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นต้นมานี่เอง จึงเป็นโอกาสทองที่จะผลักดันธุรกิจเคทีซีให้เติบโต และมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างสถิติใหม่ของการทำกำไรสูงสุดมากกว่า 6 พันล้านบาท
ด้วยสายตาของระเฑียรที่มองว่า ถึงแม้จะมีไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่างโอมิครอนเกิดขึ้น แต่รูปแบบการใช้ชีวิตของคนกลับแตกต่างออกไปจากการระบาดในรอบแรก ๆ อยู่มาก
ปีใหม่ก็ย่อมคู่กับสิ่งใหม่ ๆ ในปี 2022 นี้ทาง KTC จึงได้จัดแผนโมเดลธุรกิจอย่างยิ่งใหญ่ 2 โมเดล ที่จะเป็นเรือธงขับเคลื่อนธุรกิจ KTC ให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้นไปอีก ได้แก่ MAAI BY KTC และ สินเชื่อมีประกัน เคทีซี พี่เบิ้ม
สำหรับใครที่เป็นลูกค้าประจำของทาง KTC อยู่แล้ว ก็คงประทับใจกับแต้มคะแนนสะสมที่ไม่มีวันหมดอายุอย่าง KTC Forever ที่สามารถตอบโจทย์ไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน ก็สามารถใช้คะแนนอย่างครอบคลุม
และในปี 2022 นี้ก็จะมากขึ้นไปอีก เมื่อคุณจะสามารถใช้คะแนนที่ไม่มีวันหมดเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ยิ่งขึ้นไปอีกด้วย ‘MAAI BY KTC’ ความหวังใหม่ที่จะต่อยอดจุดแข็งให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม
โดยมีคะแนน MAAI POINT เป็นคะแนนกลางในการแลกเปลี่ยนกับคะแนนอื่นๆ ในกลุ่มพันธมิตรได้ด้วย เพื่อให้การแลกคะแนนมีความหลากหลาย ตรงใจกลุ่มลูกค้าสมาชิก ไม่ว่าจะแลกเป็นอีคูปอง (E-Coupon) หรือแลกสินค้าได้ที่ร้านค้าพันธมิตรทั่วไป ครอบคลุมทุกหมวดการใช้จ่าย
เพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิมของ KTC และความประทับใจแบบไม่มีวันหมดของผู้ถือบัตร
นอกจากที่จะมี MAAI BY KTC เกิดขึ้นใหม่แล้ว ในปีนี้ยังมีโมเดลธุรกิจอีกตัวที่ทาง KTC ภูมิใจนำเสนอไม่แพ้กัน นั่นก็คือ ‘สินเชื่อมีประกัน เคทีซี พี่เบิ้ม’ ที่ในปีนี้มีการเร่งขยายฐานสมาชิกต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้พอร์ตโตแบบก้าวกระโดดและบรรลุเป้าสินเชื่อที่ 11,500 ล้านบาทในปี 2022
ด้วยการรุกเข้าหากลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ผ่านการให้บริการสินเชื่อถึงบ้านของลูกค้า หรือสถานที่ที่ลูกค้าสะดวกด้วยความรวดเร็ว และผูกไปกับช่องทางของเครือข่ายธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศกว่า 900 สาขา และกรุงไทยธุรกิจ ลีสซิ่ง (KTBL) 11 สาขา
นอกจากนี้ KTC ยังมุ่งเติมเต็มช่องว่างในตลาดด้วยจุดแข็งที่เปิดรับทุกอาชีพและไม่ยุ่งยากเรื่องเอกสาร เพื่อตอกย้ำเจตนารมณ์ในการทำธุรกิจที่เปิดโอกาสและทางเลือกให้คนทำมาหากินที่ไม่ท้อทุกอาชีพ สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ไม่ยาก
ด้วยวงเงินใหญ่ที่ขยายถึง 1 ล้านบาท จากเดิม 7 แสนบาท ที่พร้อมอนุมัติใน 2 ชั่วโมง และรับเงินได้ทันที
เพราะระเฑียรเชื่อว่าตลาดมันใหญ่ และการรุกเข้าหากลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ก็คือการเปิดโอกาสให้คนที่จำเป็นจะต้องใช้เงิน สามารถเข้าถึงเงินได้อย่างง่ายและรวดเร็วมากขึ้นตามไปด้วย
ส่งผลให้ปี 2022 นี้ กลายเป็นปีที่ KTC จะพาธุรกิจจากเดิมที่อยู่ในเซฟโซน ก้าวเข้าสู่พื้นที่เล่นใหม่ ๆ ภายใต้จุดแข็งเดิมที่เสริมให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น และไม่ยอมจำนนต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
เรื่อง: มณิสร วรรณศิริกุล
ภาพ: งานแถลงข่าวทิศทางธุรกิจ KTC ในปี 2022 และ https://www.ktc.co.th/