This War of Mine: เกมสงครามจากมุมของพลเรือน สู่การระดมทุนช่วยชาวยูเครน

This War of Mine: เกมสงครามจากมุมของพลเรือน สู่การระดมทุนช่วยชาวยูเครน
“ในสงคราม ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นทหาร”   ในขณะที่หลายเกมพยายามอ้างว่าสร้างมาเพื่อ ‘ต่อต้านสงคราม’ และบอกเล่าเรื่องราวความโหดร้ายของสงครามผ่านมุมมองทหารในแนวหน้า หลายครั้งก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามันได้สร้างฐานแฟนคลับที่ชื่นชอบสงครามและทำให้สงครามดูเป็นเรื่องน่า Romanticize มากกว่าจะทำให้ผู้รับสารเข้าใจว่าทำไมสงครามไม่ควรเกิดขึ้น   เกม This War of Mine จากทีมพัฒนาสัญชาติโปแลนด์ 11-Bit Studios กลับเลือกจับประเด็นที่น้อยเกมสงครามเคยทำมาก่อน นั่นคือสงครามจากมุมของ ‘พลเรือน’ ที่ติดอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังและเสียงปืนของเมืองที่ครั้งหนึ่งเคยสวยงามและร่มรื่น นี่ไม่ใช่แค่เกมต้านสงคราม แต่เป็นเกมที่เล่าเรื่องสงครามด้วยการตีแผ่ความทุกข์ยากของผู้คน    This War of Mine ไม่ใช่เกมเนื้อหาฝั่งตะวันตกทั่วไปที่จะต้องมีจุดพีคหรือบทสรุปท้ายเรื่องบริบูรณ์ แต่มันถูกออกแบบมาเพื่อดึงอารมณ์บางอย่างในตัวผู้เล่น ไม่มีบทสรุปหรือจุดไคลแมกซ์ใด ๆ เพราะนี่คือเกมจากภูมิภาคที่เคยประสบภัยสงครามล้างเมืองมาก่อน   ตัวละครหลักในเกมไม่ใช่ทหารพร้อมอาวุธครบครัน แต่เป็นพลเรือนกลุ่มหนึ่งที่ผู้เล่นสามารถเลือก หรืออาจไปพบเจอระหว่างการสำรวจพื้นที่ พวกเขาเป็นเพียงคนตัวเล็กตัวน้อยที่ไร้อำนาจ และไม่สามารถทำอะไรเพื่อหยุดยั้งความขัดแย้งรุนแรงครั้งนี้ได้ สิ่งเดียวที่พวกเขาพอจะทำได้คือ ‘เอาชีวิตรอด’ แบบวันต่อวัน   ทุกวันคนในบ้านจะต้องคอยจัดการหาอาหาร ซ่อมแซมตัวบ้าน แลกเปลี่ยนข้าวของกับผู้มาเยือน และประดิษฐ์สิ่งของจำเป็นเพื่อเอาชีวิตรอด ตกกลางคืน การออกไปสำรวจพื้นที่เพื่อขนของกลับมาเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีทรัพยากรที่เอามาสร้างสิ่งจำเป็นได้ และผู้เล่นอาจต้องพบเจอสถานการณ์ที่ต่างกันไปในแต่ละค่ำคืน    ทุกคนในเกมล้วนมีบุคลิก นิสัยใจคอ และความต้องการที่ต่างกัน แต่ละคนยังมีประวัติส่วนตัวที่ทำให้เรารู้จักพื้นเพและตัวตนของพวกเขาพอสังเขป และนั่นทำให้เกิดคำถามทางศีลธรรมที่ต่างกันไปเมื่อผู้เล่นกระทำสิ่งที่อาจกระทบจิตใจของตัวละครเหล่านี้ ทำให้นี่เป็นการบอกเล่าสงครามอย่างมี ‘ความเป็นมนุษย์’ มากที่สุดเกมหนึ่ง    “ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นสำคัญ บางครั้งคุณต้องการใครสักคนมาช่วยอีกคน พวกเขายังเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของกันและกัน หากคุณทำอะไรขัดศีลธรรมในใจของตัวละคร พวกเขาก็จะรู้สึกเศร้าได้เช่นกัน”    พาเวล มีแยชาวสกี (Pawel Miechowski) มือเขียนบทของเกมกล่าว   เนื้อหาสงครามในเกมได้รับแรงบันดาลใจมาจากการปิดล้อมกรุงซาราเยโวช่วงปี 1992 - 1996 ระหว่างสงครามบอสเนีย และยังได้รับแรงบันดาลใจบางส่วนจากเรื่องเล่าของคนโปแลนด์ในช่วงที่กรุงวอร์ซอกำลังถูกทำลายโดยทหารเยอรมันช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมไปถึงการรบในโคโซโว และเมืองอเลปโปอีกด้วย   ทางเลือกที่ยากลำบากซึ่งรบกวนศีลธรรมและจริยธรรมของผู้เล่นเองก็เป็นส่วนที่ทำให้เราต้องกลับมานั่งถามตัวเองทุกครั้งว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเป็นเพราะสถานการณ์มันบีบบังคับหรือเป็นเรากำลังหลอกตัวเองให้เชื่อแบบนั้นกันแน่ และวันเวลาที่ผ่านไปจะยิ่งนำสถานการณ์ที่น่าลำบากใจมากยิ่งขึ้น และคุณจะรักษาความเป็นมนุษย์ท่ามกลางสถานการณ์ที่สิ้นหวังได้อย่างไร   “สิ่งที่ทำให้ผู้เล่นต้องคิดหนักคือความท้าทายทางอารมณ์” พาเวลกล่าว   “มีบทความหนึ่งใน Amnesty International ซึ่งเล่าเรื่องหญิงสาวคนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บในวันแรกของการปิดล้อมกรุงซาราเยโว เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที แต่โรงพยาบาลเปิดทำการตลอดการปิดล้อม และนั่นทำให้สิ่งจำเป็นอย่างผ้าพันแผลและยาปฏิชีวนะหมดลงอย่างรวดเร็ว เธอได้นอนเตียงข้าง ๆ หญิงชราผู้หนึ่งซึ่งทั้งคู่ต่างมีอาการย่ำแย่ในคืนนั้น และแพทย์ต้องตัดสินใจว่าควรจะช่วยใครก่อน สุดท้ายเขาตัดสินใจช่วยหญิงสาวก่อน เพราะเธอยังมีเวลาในชีวิตเหลืออีกมาก ในคืนนั้นเองหญิงชราก็จากไป”   การเล่าเรื่องราวที่แปลกใหม่ของเกมทำให้มีผู้ติดตามตั้งแต่อยู่ในขั้นตอนพัฒนา และเมื่อตัวเกมออกวางจำหน่ายในปี 2014 ก็มีแฟน ๆ ที่ตั้งตารอเข้ามาซื้อไปอย่างถล่มทลายจนคืนต้นทุนได้ภายใน 2 วันแรกเท่านั้น ภายในสิ้นปีนั้น ตัวเกมทำยอดขายไปได้ทั้งหมดถึง 7 แสนชุด จนถึงปัจจุบันก็ทำยอดขายได้มากกว่า 4.5 ล้านชุด   ความสำเร็จจากยอดขายทำให้ทีมผู้พัฒนาได้สร้างเนื้อหาเสริมในชื่อ The Little Ones ซึ่งเพิ่มเนื้อหาที่เกี่ยวกับเด็กเข้ามาด้วย ซึ่งโทนเรื่องและเกมเพลย์กลับไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าเด็กเป็นภาระแต่อย่างใด พวกเด็ก ๆ ถูกออกแบบมาอย่างสมจริง และเป็นมนุษย์ตัวน้อยที่ผู้เล่นต้องปกป้องจากโลกภายนอกอันแสนโหดร้าย นอกจากช่วยแบ่งเบางานผู้ใหญ่แล้ว เด็ก ๆ ยังช่วยสร้างกำลังใจในการเอาชีวิตต่อไปด้วย    ทางสตูดิโอยังประกาศว่ายอดขาย 10% ของ The Little Ones จะถูกนำไปบริจาคให้องค์กร War Child ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลช่วยเหลือเด็กในประเทศที่เกิดสงคราม ทั้งด้านอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และสิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้มีส่วนในการช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากจากสงครามเป็นครั้งแรก จนถึงปัจจุบันทางทีมงานได้รวบรวมเงินบริจาคจากแคมเปญนี้ให้องค์กร War Child ได้มากกว่า 500,000 ยูโร    ชื่อเสียงของ This War of Mine ในฐานะเกมที่ตีแผ่ชีวิตในห้วงเวลาแห่งสงครามได้อย่างโหดร้าย ทำให้มันถูกนำไปใช้เป็นสื่อการสอนประวัติศาสตร์ในหลายครั้ง    ในปี 2020 มาแตอุช มอราวีแยตสกี (Mateusz Morawiecki) นายกรัฐมนตรีของโปแลนด์ได้ประกาศว่าเกม This War of Mine จะถูกบรรจุในหลักสูตรการศึกษาของโปแลนด์ภายในปีนั้น ในฐานะสื่อการเรียนเรื่องหนึ่งที่นักเรียนต้องศึกษาและทำความเข้าใจไม่ต่างกับหนังสือนอกเวลา   “ผมไม่คิดว่าเราเคยเห็นเกมที่ถูกนำไปใช้ในระบบการศึกษาอย่างเป็นทางการในฐานะสื่อการเรียนมาก่อน ผมภูมิใจที่จะกล่าวว่าผลงานของ 11-Bit Studios สามารถนำไปพัฒนาการศึกษาและวัฒนธรรมในประเทศเราได้”   เกรกอร์ มีแยชาวสกี (Grzegorz Miechowski) CEO ของ 11-Bit Studios กล่าว   ความมุ่งมั่นต่อต้านสงครามของสตูดิโอแห่งนี้ยังไม่หยุดหย่อน เมื่อรัสเซียส่งกองทัพบุกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางสตูดิโอก็ได้ประณามการรุกรานครั้งนี้    และเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ทางสตูดิโอก็ออกมาประกาศว่าพวกเขาจะบริจาคยอดขายในช่วงเวลา 7 วันนับตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ให้กับองค์กรสภากาชาดแห่งยูเครน เพื่อช่วยเหลือชาวยูเครนที่กำลังประสบภัยสงครามอย่างหนัก   ต่อมาในวันที่ 4 มีนาคม 11-Bit Studios ได้ประกาศอีกครั้งว่าพวกเขาขอเปิดโอกาสให้ผู้สนใจซื้อเกมต่อเพื่อเพิ่มยอดบริจาคให้มากขึ้น จากนั้นในวันต่อมา สตูดิโอก็ได้ประกาศว่าพวกเขาสามารถปิดยอดขายเพื่อบริจาคได้มากกว่า 850,000 ยูโร และเงินก้อนแรกจำนวน 520,000 ยูโรถูกนำไปบริจาคให้สภากาชาดยูเครนเป็นที่เรียบร้อย ส่วนยอดขายที่เหลือที่ได้เพิ่มมากำลังจะถูกส่งตามไป   โดย 11-Bit Studios ยังทิ้งท้ายในข้อความที่ประณามการรุกรานยูเครนไว้ว่า   “ขอให้ข้อความนี้ส่งเสียงสะท้อนถึงทุกสิ่งที่คุณรู้เกี่ยวกับสงครามครั้งนี้ และตระหนักว่าสงครามนั้นคร่าชีวิต มันทำลายชีวิตและที่อยู่อาศัยของผู้คนอย่างไร พวกเราทั้งผู้พัฒนาเกมและผู้เล่น มาร่วมกันทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อสนับสนุนเหยื่อสงครามในยูเครนด้วยเถิด”   อ้างอิง:  https://techraptor.net/gaming/interview/art-and-war-mine-interview-11-bit-studios https://www.rockpapershotgun.com/this-war-of-mine-interview https://www.wired.com/2014/11/this-war-of-mine/ https://arstechnica.com/gaming/2019/05/war-stories-how-this-war-of-mine-manipulates-your-emotions/ https://www.usgamer.net/articles/this-war-of-mine-will-teach-history-to-polish-high-school-kids https://store.steampowered.com/news/app/282070/view/3099043827448708763 https://www.eurogamer.net/articles/2022-03-03-this-war-of-mine-studio-donates-gbp520k-to-ukraine?fbclid=IwAR0Ep7pqREHaZkSAvY_FMUG7OxDsjFuCz7QbZHlxIqyElVcWj-Mel8HtBCc .