วทันยา อมตานนท์: จากบุญเติม สู่ ‘เต่าบิน’ คาเฟ่อัตโนมัติฝีมือคนไทย ที่ขอเป็นความสุนทรีย์เล็ก ๆ ระหว่างทาง

วทันยา อมตานนท์: จากบุญเติม สู่ ‘เต่าบิน’ คาเฟ่อัตโนมัติฝีมือคนไทย ที่ขอเป็นความสุนทรีย์เล็ก ๆ ระหว่างทาง

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายในเมืองกรุง สถานที่ที่ผู้คนมักจะใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบอยู่เสมอ เวลาที่วิ่งไล่เข้ามาอย่างกระชั้น ทำให้พวกเขาไม่มีแม้แต่เสี้ยววินาทีที่จะหันมาคิดใช้ชีวิตตามวิถีที่ตัวเองวาดฝัน แม้แต่การจะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการลิ้มลองเครื่องดื่มดี ๆ สักแก้วในตอนเช้าก่อนเริ่มงาน หรือจิบชาร้อนระหว่างวันเพื่อผ่อนคลายความเครียด ก็ถูกกรอบของเวลาพรากความสุนทรีย์เหล่านี้ไปจนหมด ซึ่ง ‘ตอง - วทันยา อมตานนท์’ เองก็เข้าใจถึงข้อจำกัดนี้เป็นอย่างดี

วทันยา อมตานนท์: จากบุญเติม สู่ ‘เต่าบิน’ คาเฟ่อัตโนมัติฝีมือคนไทย ที่ขอเป็นความสุนทรีย์เล็ก ๆ ระหว่างทาง

วทันยา อมตานนท์ คือผู้บริหารธุรกิจเต่าบิน (Taobin) ตู้กดน้ำอัตโนมัติที่นิยามตัวเองว่าเป็น ‘คาเฟ่’ ขนาดย่อม ใช้พื้นที่เพียงแค่ 1x1 ตารางเมตร เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แถมยังมีเมนูให้เลือกมากกว่า 170 เมนู ตั้งแต่น้ำหวาน ชา กาแฟ ไปจนถึงกัญชา อีกทั้งยังมีเครื่องดื่มทางเลือกสำหรับผู้รักสุขภาพอย่างเวย์โปรตีนให้เลือกสรรได้ภายในตู้เดียวอีกต่างหาก! The People ชวนมาฟังเรื่องราวของ ตอง - วทันยา อมตานนท์ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการคิดค้นตู้กดน้ำอัตโนมัติ จนกลายมาเป็นคาเฟ่อัตโนมัติที่ขอแค่ได้ลองกดมาดื่มสักครั้ง รับรองว่าต้องมีซ้ำสองแน่ ๆ “เราต้องการให้ความรู้สึกของลูกค้าที่มากดตู้ของเรา มีความรู้สึกเหมือนได้รับเครื่องดื่มจากร้านดี ๆ มาทาน” ตองเล่าถึงความตั้งใจแรกเริ่มในการคิดค้นตู้เต่าบิน เต่าบินเริ่มต้นมาจากบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด บริษัทพัฒนาตู้กดสินค้าอัตโนมัติ ในเครือบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มี ‘ตู้บุญเติม’ เป็นผู้นำทัพคอยทำหน้าที่ให้บริการเติมเงินมือถือทั่วประเทศ จริง ๆ ไม่ใช่แค่เติมเงินมือถือ บุญเติมสามารถจ่ายสารพัดค่าบริการ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปต่อแถวตามห้างร้านให้เหนื่อยใจ วทันยา อมตานนท์: จากบุญเติม สู่ ‘เต่าบิน’ คาเฟ่อัตโนมัติฝีมือคนไทย ที่ขอเป็นความสุนทรีย์เล็ก ๆ ระหว่างทาง หากจะให้บรรยายถึงความยิ่งใหญ่ของฟอร์ท เราคงต้องให้จินตนาการถึงธุรกิจตู้หยอดเหรียญหรือตู้กดสินค้าอัตโนมัติว่า ภาพแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวจะเป็นอะไร แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นเจ้าตู้สีส้มอย่างบุญเติม ที่เรามักเห็นตั้งอยู่ตามหน้าร้านสะดวกซื้อ แต่กับเต่าบินรุ่นน้องที่เพิ่งเข้าสู่วงการ กลับมีเรื่องที่น่าท้าทายอยู่เต็มไปหมด เพราะตลอดระยะเวลาปีกว่าที่ตองและทีมงานร่วมกันคิดค้นตู้เต่าบิน เธอบอกกับเราว่าเจอกับข้อผิดพลาดมาเยอะ แต่เธอยืนยันว่าจะไม่หยุดพัฒนาแน่นอน “เมื่อก่อนทำแบรนด์เล็ก ๆ ชื่อว่า ‘เติมเต็ม’ ซึ่งเราก็ได้ค้นพบว่าเรายังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ เยอะมาก ๆ ในการทำธุรกิจตู้กดน้ำอัตโนมัติ” แม้เติมเต็มจะได้รับกระแสตอบรับที่ดี แต่การทำตู้กดน้ำอัตโนมัติขึ้นมาสักตู้ มีกระบวนการทำที่ซับซ้อนมากกว่าที่ตาเห็น ปัญหาทางเทคนิคก็เยอะ เรื่องการซ่อมบำรุงก็แยะอีกต่างหาก เรื่องของดีไซน์ตู้ก็เป็นปัญหาอีก ตองเลยคิดว่าคงถึงคราวต้องปรับโฉมตู้กระป๋องใหม่เสียที วทันยา อมตานนท์: จากบุญเติม สู่ ‘เต่าบิน’ คาเฟ่อัตโนมัติฝีมือคนไทย ที่ขอเป็นความสุนทรีย์เล็ก ๆ ระหว่างทาง “ทีมของเราทำงานกันหนักมากกว่าจะออกมาเป็นเต่าบิน ตองเชื่อว่าตู้เต่าบินเป็นตู้กดน้ำอัตโนมัติที่ล้ำที่สุดในโลกก็ว่าได้ ภายใต้ตู้ของเรามี Moving Part เยอะมาก ตั้งแต่ขั้นตอนการจ่ายเครื่องดื่ม แก้ว หลอด และฝา ทั้งหมดล้วนถูกควบคุมด้วยระบบหลังบ้าน ทุกอย่างถูกคำนวณไว้หมดแล้วว่าแต่ละแก้วจะใช้ผงโกโก้ ไซรัป หรือกาแฟกี่กรัม รับรองได้ว่าทุกแก้วมีคุณภาพเหมือนกัน “ตู้เต่าบินมีการผลิต คิดค้นด้วยคนไทยทั้งหมด ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ไปจนถึงซอฟต์แวร์” ตองย้ำ “บวกกับตองมีความสนใจในเทคโนโลยีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะมีพื้นฐานทางด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ประจวบกับได้ไปทำงานที่ต่างประเทศให้กับบริษัทไมโครซอฟท์ พอเริ่มทำไปสักพักเราก็เริ่มรู้สึกอิ่มตัว เราอยากจะเรียนรู้อะไรที่มันนอกเหนือจากงานที่ทำอยู่ เพราะอยากจะทำอะไรที่มันครอบคลุมทุกอย่าง อยากจะเห็นธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราตัดสินใจเริ่มคิดค้น ‘ตู้เต่าบิน’ เพื่อนำความรู้ที่เรามีตรงนี้มาพัฒนาต่อยอดและสร้างสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมา “อีกเหตุผลคือ เรารู้สึกว่าวิถีชีวิตของคนในสังคมเริ่มเปลี่ยนไป ทำให้คิดได้ว่าสุดท้ายแล้ว ชีวิตของคนเราไม่ได้มีปุ่มเปิด-ปิดสวิตช์ เหมือนกับเวลาที่ร้านค้าหรือสำนักงานที่มีเวลาเปิด-ปิด เราเลยเลือกที่จะทำตู้นี้ขึ้นมา เพื่อให้คนที่เข้างานหรือเลิกงานไม่ตรงกับเวลาทำการ มีตัวเลือกในการดื่มกินมากขึ้น” วทันยา อมตานนท์: จากบุญเติม สู่ ‘เต่าบิน’ คาเฟ่อัตโนมัติฝีมือคนไทย ที่ขอเป็นความสุนทรีย์เล็ก ๆ ระหว่างทาง นอกจากเรื่องวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปที่ทำให้เธออยากจะหันมาสร้างความสุขเล็ก ๆ ระหว่างทางให้ชาวกรุงแล้ว ตองยังบอกกับเราอีกว่าเป้าหมายของเธอยิ่งใหญ่กว่านั้น เธออยากให้คนทั่วประเทศได้ลิ้มลองเครื่องดื่มคุณภาพดีในราคาสบายกระเป๋า จึงตั้งใจคัดสรรแต่ละเมนูมาใส่ไว้ในเต่าบินแบบไม่มีกั๊ก “เมนูของเรามีหลากหลายมาก ทั้งเมนูร้อนและเย็น กาแฟก็เป็นอาราบิก้า 100% ลูกค้าก็เลยมีหลากหลายกลุ่ม หลากหลายฐานะ หลากหลายช่วงอายุ เราก็เลยอยากจะตั้งราคาไม่ให้สูงมากจนเกินไป โดยเริ่มต้นแค่ 15 บาท ส่วนเมนูกาแฟ specialty ที่เพิ่มช็อต ก็จะมีราคาพิเศษขึ้นมาหน่อยก็คือ 100 กว่าบาท “ตอนนี้เรามีกาแฟที่ใส่ได้ 3 ไทป์ ซึ่งเมล็ดกาแฟปกติของเราจะเป็นเมล็ดกาแฟคั่วเข้มกับคั่วกลาง ส่วนคั่วอ่อนเราจะขายเป็น specialty ซึ่งอาจจะเป็นกาแฟนำเข้าบ้าง บางครั้งก็เป็น single origin ส่วนกลิ่นโปรไฟล์ก็จะมีความต่างไป “อีกสิ่งหนึ่งที่ตองมองเห็นโอกาสคือ กาแฟมันมีอะไรที่มากกว่าความขม ตองอยากให้ทุกคนได้รู้จักกาแฟมากขึ้น นี่เลยเป็นเหตุผลที่ตองมีกาแฟหลากหลายรูปแบบให้เลือก” วทันยา อมตานนท์: จากบุญเติม สู่ ‘เต่าบิน’ คาเฟ่อัตโนมัติฝีมือคนไทย ที่ขอเป็นความสุนทรีย์เล็ก ๆ ระหว่างทาง เมื่อถามว่าตองให้ความสำคัญกับสิ่งไหนมากกว่ากันระหว่างหน้าตากับรสชาติ เธอตอบกลับแทบทันทีว่า ‘รสชาติ’ ทำเอาเราทั้งคู่หัวเราะออกมาพร้อมกัน เพราะในปัจจุบันร้านรวงต่าง ๆ มักเน้นภาพลักษณ์มากกว่าความอร่อย เธอบอกว่าทุกเมนูได้รับการคิดค้นจากบาริสต้าระดับมือรางวัล นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมแทบทุกคนที่ได้ลองเครื่องดื่มจากตู้เต่าบิน มักกลับมาซื้อซ้ำอีกรอบ หลังจากที่เราสังเกตว่าคนรอบตัวเริ่มกลายเป็นลูกค้าประจำของเต่าบินไปบ้างแล้ว ก็เลยลองค้นหา #เต่าบิน ในแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กดูบ้างว่าในโลกออนไลน์มีความคิดเห็นอย่างไร แล้วก็พบว่ามีแต่คนกดหัวใจให้รัว ๆ เสียงส่วนใหญ่พูดไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘อร่อย!’ แต่ก็มีบางโพสต์ที่พบปัญหาในการใช้งาน เพราะระบบที่ยังไม่เสถียรมากนัก แม้จะเป็นคำคอมเพลนที่อาจทำให้เจ้าของธุรกิจเสียหาย แต่ตองเลือกที่จะต่อสายตรงไปหาลูกค้า แล้วสอบถามปัญหาที่เกิดจากตู้กระป๋อง จนท้ายที่สุด เธอก็สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และชาวเน็ตที่ปูเสื่อรอติดตามกันอย่างใกล้ชิด วทันยา อมตานนท์: จากบุญเติม สู่ ‘เต่าบิน’ คาเฟ่อัตโนมัติฝีมือคนไทย ที่ขอเป็นความสุนทรีย์เล็ก ๆ ระหว่างทาง ‘การรับฟัง’ ที่ตองทำมาโดยตลอด ทำให้ตู้เต่าบินกลายเป็นที่รักของชาวเน็ตได้ไม่ยาก เพราะนอกเหนือจากเมนูที่หลากหลายแล้ว เธอยังพยายามเชื่อมโยงลูกค้าและเต่าบินให้มีความรู้สึกผูกพันกันมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การทำระบบสมาชิก การสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับรสชาติของเครื่องดื่ม ไปจนถึงการทำ Social Monitoring ตาม Social Media ต่าง ๆ เพื่อดูว่าในโลกออนไลน์มีความคิดเห็นต่อเต่าบินอย่างไร เต่าตัวนี้จะได้ ‘บิน’ ไปแก้ปัญหาได้ทันท่วงที สิ่งที่น่าสนใจของเต่าบินอีกอย่างหนึ่งคือ ตองแทบจะไม่เสียเงินซื้อโฆษณาโปรโมตเต่าบินเลย เพราะเธออาศัยการตลาดแบบปากต่อปาก “ตอนนี้เรายังใช้วิธีทำการตลาดแบบปากต่อปากอยู่ อีกอย่างหนึ่งคือ ตองคิดว่ายิ่งติดตั้งตู้เยอะ คนก็จะยิ่งจดจำแบรนด์เราได้ ซึ่งแต่ละสถานที่ที่เราตัดสินใจนำไปติดตั้ง จะเน้นทำเลทองเป็นหลัก คนเขาก็เดินผ่านไปผ่านมาเยอะ เหมือนเป็นการมาร์เก็ตติ้งไปในตัวโดยไม่ต้องเสียเงินโปรโมต” เต่าบินตั้งเป้าไว้ว่าจะติดตั้งตู้เต่าบิน 20,000 ตู้ ภายใน 3 ปี แม้ว่าตอนนี้จะมีเพียง 700 กว่าตู้เท่านั้น แต่สำหรับเรา ความใส่ใจที่ตองมีให้กับลูกค้า ก็ซื้อใจใครต่อใครหลายคนได้แล้ว และพวกเขานี่แหละจะกลายเป็นลูกค้าประจำในอนาคต “เรายังไปไม่ถึงไหนก็จริง แต่ถ้าทางด้านมุมมองของคนที่มีต่อตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ ตองรู้สึกว่าเต่าบินค่อนข้างทำได้ดี เพราะตองก็รู้มานานแล้วว่าคนส่วนใหญ่ที่มากดตู้ เขาไม่ค่อยคาดหวังอะไรมากนัก โดยเฉพาะเรื่องของรสชาติ แต่พอได้มาลองกับเต่าบิน มันทำให้เขาเซอร์ไพรส์กันมาก “เพราะไม่มีใครคิดว่าการกดกาแฟจากตู้มาดื่ม มันจะอร่อยได้ขนาดนี้ พอเราฟังเราก็ชื่นใจ มันทำให้เรามีกำลังใจในการทำสิ่งนี้ต่อ” เธอกล่าวพร้อมเผยรอยยิ้มเล็ก ๆ ปิดท้ายบทสนทนา   ภาพ: ดำรงค์ฤทธิ์ สถิตดำรงธรรม