จัสติน ลี: ทายาทมหาเศรษฐีไต้หวัน ผู้ก่อคดีล่วงละเมิดหญิงนับ 20 ราย กับคำตัดสินของศาลที่บอกว่าคุกไม่ได้(มีไว้)ขังคนจน?
คดีล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้หญิงยังคงเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เลวร้ายเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ผลของการกระทำผิดที่เกิดขึ้นทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ‘อารมณ์’ ที่ถาโถมใส่เหยื่อในเสี้ยววินาที กระทบต่อสภาพจิตใจของผู้ถูกกระทำไปอีกนาน
และหาก ‘เหยื่อ’ ต้องเผชิญหน้ากับผู้กระทำผิดที่มี ‘อำนาจ’ ล้นมือ ยิ่งกดทับทำให้เธอไม่อาจขัดขืนหรือปริปากร้องขอความช่วยเหลือ ทั้งความหวาดกลัว กลัวที่จะใช้ชีวิต กลัวที่จะทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน กลัวว่าหากเธอปริปากบอกคนในสังคมให้รับรู้ เธอจะกลายเป็นผู้ถูกอำนาจนั้นเล่นงานเสียเอง จากความกลัวนี้เองทำให้เหยื่อหลายรายเลือกที่จะปิดปากเงียบ ไม่ส่งเสียงเรียกร้องเพื่อทวงคืนความยุติธรรมที่เธอสมควรได้รับกลับคืนมา
หนึ่งในคดีอื้อฉาวทางเพศที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน และเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลโดยตรง คงหนีไม่พ้นคดีของ ‘จัสติน ลี’ (Justin Lee) ที่ก่อเหตุข่มขืนผู้หญิง 20 ราย ในปี 2012 รวมถึงถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้โดยไม่ได้รับความยินยอม
‘จัสติน ลี’ (Justin Lee) หรือ หลี่จงลุ่ย เป็นทายาทมหาเศรษฐีชาวไต้หวัน และผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจการเงิน หยวนต้า ไฟแนนเชียล โฮลดิ้ง (Yuanta Financial Holding) กิจวัตรประจำวันของเขาคือการไปเที่ยวผับในทุกเย็น หลังจากเที่ยวเล่นกับเพื่อนชนชั้นสูงจนหนำใจ เขามักจะกอดคอหญิงสาวหน้าตาดีออกจากผับไม่ซ้ำหน้า โดยเฉพาะสาวผมยาวจะได้รับความสนใจจากลีมากเป็นพิเศษ
ชื่อของ จัสติน ลี คงจะเป็นที่รู้จักในแวดวงนักธุรกิจและผู้มีอิทธิพล แต่กับชาวบ้านทั่วไปคงไม่คุ้นหูกับชื่อของเขามากนัก จนกระทั่งมีภาพหลุด 16 ภาพ และคลิป 18+ ความยาว 13 วินาทีของเศรษฐีวัย 27 ปี กำลังมีความสุขกับหญิงสาวที่มีหน้าตาคล้ายคนดังของไต้หวัน ตั้งแต่ดารา นักร้อง นางแบบร่วม 60 ชีวิต หากจะมองว่าเป็นรสนิยมส่วนตัวของชายผู้นี้ ก็คงจะหยิบยกประเด็นนี้มาพิจารณาประกอบได้ แต่สิ่งที่ผิดปกติคือในภาพและคลิปกลับมีหญิงสาวไม่ต่ำกว่า 10 รายอยู่ในสภาพคล้ายหมดสติ
หลังจากทั้งภาพและคลิปหลุดว่อนทั่วอินเทอร์เน็ต หลี่อวี้เจิ้ง (Lee Yueh-tsang) พ่อของจัสตินประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารหยวนต้า ไฟแนนเชียล โฮลดิ้งในทันที พร้อมทั้งออกมากล่าวผ่านสื่อ ขอร้องให้ลูกชายเข้ามอบตัว ยอมรับผิดในการกระทำของตัวเอง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทยอยเรียกตัวหญิงสาวที่ปรากฏในคลิปมาสอบสวน
นอกจากนี้สื่อในฮ่องกงยังเปิดเผยอีกว่า ในบรรดาหญิงสาวที่ลี ‘ขืนใจ’ มีแม่เลี้ยงของเขาอยู่ในลิสต์ด้วยเช่นกัน โดยเธอออกมาให้การกับตำรวจเพิ่มเติมว่าถูกลูกเลี้ยงมอมยาและข่มขืน ซึ่งมีส่วนช่วยเหลือให้พนักงานอัยการสามารถปะติดปะต่อการกระทำผิดของจัสตินได้ง่ายขึ้น ท้ายที่สุดแล้วก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าแม่เลี้ยงพูดความจริง
ก่อนหน้านี้ในปี 2011 มีหญิงสาวฝาแฝดคู่หนึ่งเดินทางมาแจ้งความเอาผิดกับลี ในข้อหาวางยา และบังคับขืนใจ รวมถึงโดนแอบถ่ายคลิปวิดีโอโดยไม่ยินยอม จากนั้นก็มีหญิงสาวอีก 13 คนทยอยเข้ามาให้การในทำนองเดียวกัน จนเจ้าหน้าที่สืบสวนเพิ่มอีกและพบว่ามีผู้เสียหายมากถึง 50 คน
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสืบสวนข้อเท็จจริง 1 ปี นับตั้งแต่เหยื่อคู่แรกเดินทางเข้ามาแจ้งความ ท้ายที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่ก็สามารถยืนยันถึงประเด็นนี้ได้ หลังจากแม่เลี้ยงของเขาออกมาเปิดเผยรายละเอียด และมีข้อมูลตรงกับคำให้การของเหยื่อทั้งหมด แน่นอนว่าเพียงคำพูดคงไม่สามารถมัดตัวเศรษฐีหนุ่มได้ทันที แต่เพราะมีหลักฐานทั้งภาพ ทั้งคลิปวิดีโอที่ค้นพบในคอมพิวเตอร์จากห้องพักของเขา ทำให้จัสตินไม่อาจดิ้นหลุดได้อีกต่อไป
ปฏิบัติการจับกุมจัสตินแห่งเกาะไต้หวันจึงเริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม 2012 แต่กว่าจะยอมมอบตัวเล่นเอาตำรวจไทเปวุ่นวายกันยกใหญ่ เพราะเขาเล่นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนานถึง 23 วัน!
“ลีควรให้ความร่วมมือกับตำรวจก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้ แต่เขากลับเลือกที่จะหนีและหลีกเลี่ยงการถูกสอบสวน เราต้องสูญเสียเวลา สูญเสียกำลังคนไปกับการตามหาตัวเขา และสิ่งสำคัญที่สุดคือเขาทำให้กระบวนการพิจารณาคดีล่าช้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีความสำนึกผิดใด ๆ” พนักงานอัยการให้ความเห็นต่อการหายตัวไปของลี
หลังจาก ‘หนี’ ไปสงบสติอารมณ์อยู่นาน เช้าวันที่ 23 สิงหาคม จัสตินและเพื่อนสาวได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานอัยการที่สำนักงานในกรุงไทเป พร้อมทนายความ 3 คน โดยเพื่อนที่มาพร้อมกับลีคือคนที่มอบแหล่งพักพิงให้กับเขาตลอดระยะเวลาที่หายหน้าหายตาไปจากสังคม
เนื่องจากลีไม่ยอมมารายงานตัวตามหมายจับตั้งแต่แรก ทำให้พนักงานอัยการคัดค้านการยื่นประกันตัวของเขา เพราะเห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจหนีกระบวนการยุติธรรม
ในปี 2013 ศาลได้ตัดสินให้เขาจ่ายค่าเสียหายให้กับเหยื่อคนละ 10 ล้านเหรียญไต้หวัน (ประมาณ 10 ล้านบาท) ขณะที่เหยื่ออีก 10 คนเรียกค่าเสียหาย 19 ล้านเหรียญไต้หวัน จากอาชญากรรมที่ลีก่อจากทั้งหมดเกือบ 20 คดี มีเพียงคดีเดียวเท่านั้นที่เขาสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่าไม่มีความผิด นอกจากค่าเสียหายแล้วเขายังถูกตัดสินลงโทษจำคุก 20 ปีในข้อหามอมยาและข่มขืนหญิงสาว 11 คน ก่อนข่มขืนและอัดคลิปวิดีโอ ในปี 2014 ศาลได้ตัดสินจำคุกทายาทเศรษฐีด้วยโทษสูงสุดถึง 79 ปี 7 เดือน ฐานข่มขืนและทำเซ็กซ์เทปผิดกฎหมาย แต่เขาจะได้รับบทลงโทษ 30 ปี เนื่องจากเป็นโทษสูงสุดตามกฎหมาย
กระบวนการทางกฎหมายยังดำเนินต่อเนื่องอีกหลายปี กระทั่งในปี 2018 มีรายงานจาก Taiwan News ระบุว่า ศาลสูงสุด (Supreme Court) ปัดการอุทธรณ์ของฝั่งลี มีผลให้จัสติน ลี จะรับโทษจำคุกอย่างน้อยที่ 30 ปี
แม้การกระทำของ ‘จัสติน ลี’ จะสร้างบาดแผลและความเจ็บช้ำใจให้แก่เหยื่อเกือบ 60 ราย แต่กระบวนการยุติธรรมของไต้หวันก็ได้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกแล้วว่า ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะมีสถานะทางสังคมสูงส่ง หรือมีอิทธิพลต่อสังคมมากเพียงใด แต่ประชาชน ‘ทุกคน’ ย่อมต้องอยู่ใต้กฎเกณฑ์เดียวกัน ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายได้
ภาพ: chinadaily
อ้างอิง:
http://www.taipeitimes.com/News/front/archives/2012/08/19/2003540641
http://www.taipeitimes.com/News/taiwan/archives/2017/03/08/2003666355
https://www.taiwannews.com.tw/en/news/3518727
https://web.archive.org/web/20140910195615/http://www.thestandard.com.hk/news_detail.asp?we_cat=3&art_id=137187&sid=40298052&con_type=3&d_str=20130904&fc=2
https://www.scmp.com/news/china/article/1583748/taiwanese-socialite-justin-lee-handed-80-year-prison-term-date-rapes?module=perpetual_scroll_0&pgtype=article&campaign=1583748
https://www.taipeitimes.com/News/front/archives/2014/09/03/2003598889
https://m.mgronline.com/entertainment/detail/9600000024279
https://www.thairath.co.th/content/285162