‘กาโตะ’ น้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวที่เริ่มต้นจากความไม่เหมือนใคร และมีเจ้าของเดียวกับขนมตุ๊บตั๊บตรามังกร
เมื่อพูดถึงน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวที่มีหลากหลายรสชาติให้เลือก ‘กาโตะ’ น่าจะเป็นแบรนด์ที่หลายคนนึกขึ้นมาเป็นชื่อแรก ๆ แน่นอน และหากเปรียบเทียบเป็นช่วงอายุคน กาโตะน่าจะเป็นวัยรุ่นที่เพิ่งเรียนจบหมาด ๆ อาจจะยังไม่ได้แก่กล้าในสมรภูมิทางการค้ามากนัก แต่ก็พอจะเจนจัด ‘รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง’ ว่า อะไรคือจุดแข็งของสินค้าตัวเองมากที่สุด
กว่าจะมาเป็นกาโตะ
น้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวกาโตะเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2543 ผลิตโดย ‘บริษัท ทวีผลผลิตภัณฑ์ จำกัด’ ที่คลุกคลีอยู่กับวงการอาหารและเครื่องดื่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2519 ซึ่งมี ‘ฮั่งจั้ว แซ่โง้ว’ เป็นผู้ก่อตั้ง เช่นเดียวกับ ‘บริษัท ทวีผล 1976’ เจ้าของ ‘ขนมตุ๊บตั๊บตรามังกร’ ที่หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี (ฮั่งจั้วตั้งบริษัท ทวีผล 1976 ขึ้นมาก่อนเพื่อผลิตอาหารและขนม จากนั้นในปี พ.ศ.2535 จึงได้ตั้งบริษัท ทวีผลผลิตภัณฑ์ สำหรับขยายฐานสินค้ามากลุ่มเครื่องดื่ม)
ฐิติพงศ์ ผลธนะศักดิ์ ทายาทรุ่นที่ 3 ของน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวเคยให้สัมภาษณ์กับประชาชาติธุรกิจไว้ว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ก่อนที่กาโตะจะถือกำเนิดขึ้นนั้น น้ำมะพร้าวยังไม่ได้รับความนิยมอย่างทุกวันนี้ ส่วนใหญ่มะพร้าวจะถูกนำไปเฉาะเพื่อเก็บส่วนเนื้อรับประทาน จุดเปลี่ยนสำคัญอันเป็นที่มาของน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวกาโตะ ก็คือ พ่อและแม่ของเขา (ทายาทรุ่นที่ 2 ของทวีผลผลิตภัณฑ์) ได้พบกับงานวิจัยของอาจารย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ได้นำน้ำมะพร้าวเหลือทิ้งมาแปรรูปเป็นวุ้นมะพร้าว ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับบ้านเรา ณ เวลานั้น
เมื่อยังไม่มีใครทำ ทางพ่อและแม่ของฐิติพงศ์ จึงไม่รอช้าที่จะหยิบไอเดียดังกล่าวมาบรรจุใส่ขวดน้ำผลไม้ เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาดอาหารและเครื่องดื่ม
สำหรับชื่อแบรนด์กาโตะที่ออกจะฟังแล้วชวนนึกถึงแดนอาทิตย์อุทัยอยู่หน่อย ๆ เพราะช่วงนั้นอิทธิพลของญี่ปุ่นกำลังเริ่มเข้ามาในประเทศไทยพอดี บวกกับต้องการชื่อที่ฟังดูน่ารัก สนุก ทันสมัย จึงมองว่า กาโตะนี่แหละเหมาะสมที่สุดในเวลานั้น
ไม่เปลี่ยนแปลงแต่ต้องปรับปรุง
น้ำผลไม้กาโตะดำเนินธุรกิจเรื่อยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 กระทั่งปี พ.ศ. 2549 จึงได้มีการลงนามสนธิสัญญาร่วมกับ ‘บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)’ หรือ BJC ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์นี้แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้ในวงกว้างและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
นอกจากไอเดียเปลี่ยนน้ำมะพร้าวเป็นวุ้นมะพร้าวแล้ว ทวีผลผลิตภัณฑ์ยังได้สร้างโมเดลการทำวุ้นมะพร้าวที่แบ่งสัดส่วนในการทำซีเอสอาร์ให้กับชาวบ้านเจ้าของวัตถุดิบต้นทางอย่างมะพร้าวด้วย โดยนำผู้เชี่ยวชาญเข้าไปให้ความรู้-อธิบายกรรมวิธีการผลิตตามหลักจีเอ็มพี รวมถึงยังมีการจดทะเบียนตราฮาลาล
นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ.2543 มาถึงตอนนี้กาโตะก็ย่างเข้าปีที่ 22 พอดี สิ่งสำคัญที่ทำให้กาโตะยังติดตลาดมีฐานแฟนเหนียวแน่นตั้งแต่วัยเด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ที่โตมากับแบรนด์ และครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ไม่น้อย ก็คือ กาโตะมีการปรับเปลี่ยนให้เข้าใกล้กับกลุ่มเป้าหมายอยู่ตลอดเวลา
อย่างที่เราจะได้เห็นระยะหลังมานี้ กาโตะได้เพิ่มลูกเล่น ความสดใส ความสนุก ใส่ลงไปในแบรนด์ ทั้งตัวพรีเซนเตอร์ การตลาดที่ใช้ Music marketing เข้ามาช่วย และนอกเหนือจากรสชาติยืนพื้นที่มีจำหน่ายอยู่ตลอดทั้ง 5 รสชาติ ได้แก่ ส้ม ลิ้นจี่ สตรอว์เบอร์รี่ องุ่น และฮาวาอิฟรุตพั้นช์ ทางกาโตะได้เพิ่มรสชาติใหม่ ๆ เข้าไป เพื่อเพิ่มตัวเลือก ขยายฐานลูกค้าออกไปจากเดิม
อาทิ การออก Seasonal Product รสชาติที่จะมีให้ชิมเฉพาะบางฤดูกาลเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นเมื่อ 2-3 ปี ได้มีการออกรสชาติมะม่วงทั้งมะม่วงอกร่อง มะม่วงจี๊ด และมะม่วงแรด ซึ่งได้ผลตอบรับที่ค่อนข้างดีเลย ส่วนรสชาติเหล่านี้จะกลับมาให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึงเมื่อไรนั้น ก็คงต้องติดตามกันต่อไป
นอกจากน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว โปรดักท์ดั้งเดิมแล้ว ทางกาโตะยังขยายไลน์สินค้า ได้แก่ กาโตะเจลลี่เชค และกาโตะคูลคูล ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะเป็นแบรนด์ที่ผ่านมาถึง 3 เจเนอเรชันแล้ว แต่กาโตะยังคงไม่ลืมที่จะปรับกลยุทธ์ไปตามทิศทางตลาด และในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมตัวตนที่เป็นมาตลอด 22 ปีด้วย
อ้างอิง: http://www.taveephol.com/th/aboutus-detail
http://www.taveephol.com/th/product-list/3
http://www.taveephol.com/th/product-list/2
https://www.bjc.co.th/business/category_detail/16/language/th/fromLanding/1
https://www.prachachat.net/d-life/news-29579