08 พ.ค. 2565 | 17:42 น.

แจ็คสัน หวัง: ศิลปินผู้เต็มที่กับความฝัน และละเอียดอ่อนเหนือชั้นในทุกการกระทำ

เมื่อนานมาแล้ว ผู้เขียนเคยเห็นถ้อยคำหนึ่ง เกี่ยวกับศิลปินคนหนึ่งผ่านตา ถ้อยคำดังกล่าวบอกเล่าถึง ‘แจ็คสัน หวัง’ ด้วยวลีเรียบง่ายว่า ‘แจ็คสัน หวัง คือคนแห่งความฝัน’ - ผู้เขียนรู้จักแจ็คสันครั้งแรกเมื่อเขาโลดแล่นอยู่ในอุตสาหกรรมเคป็อป ภาพทรงจำแรกที่มีให้เขาคือสมาชิกตำแหน่งแร็ปหลักในวง ‘GOT7’ คนที่ตีลังกากลางอากาศได้ มีภาพลักษณ์อารมณ์ดี นุ่มละมุน และให้ความรู้สึกสมบูรณ์แบบเมื่อได้มอง จากจุดนั้น เวลาล่วงผ่านมาหลายปี การเฝ้ามองเขายังคงทำให้ถ้อยคำ ‘ความฝัน’ ชัดเจนในใจเราเสมอ ขณะเดียวกัน คำเรียกโดยกว้างนั้นก็กลับมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นมาตามสิ่งที่เขาทำ ความฝันคือการเดินเท้า คือย่างก้าวที่พิถีพิถัน คือการขยับเคลื่อนไปข้างหน้าทุกวันอย่างไม่หยุดยั้ง ความฝันคือความตั้งใจ เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนทว่าจับต้องได้ ความฝันแปรรูปเป็นเสียงดนตรีและท่าเต้น กลายเป็นศิลปะ กลายเป็นอัลบั้มเพลง และพาศิลปินหนึ่งชีวิตเติบโตจากจุดสตาร์ตไปได้ไกลแสนไกล ความฝันพาแจ็คสันขึ้นไปบนเวทีหลักของโคเชลลา เทศกาลดนตรีระดับโลก ในวันที่ 16 เมษายน 2022 เพื่อแสดงบทเพลงส่วนหนึ่งจากอัลบั้มล่าสุดของเขา และร่วมแจมกับ ‘ริช ไบรอัน’ (Rich Brian) แร็ปเปอร์ชาวอินโดนีเซียในสังกัด ‘88 Rising’ บริษัทสื่อและค่ายเพลงที่ร่วมงานกับแจ็คสัน หวังมาหลายปี ศิลปินหนุ่มวัย 27 ปี อยู่บนนั้น ร้องเพลง เต้น และพูดคุยกับคนดูเบื้องล่าง “นี่คือช่วงเวลาประวัติศาสตร์” เขาประกาศกับแฟน ๆ ผ่านไมโครโฟน “นี่คือ ‘เมจิก แมน’ (ชื่ออัลบั้มเวอร์ชันภาษาอังกฤษชุดใหม่) นี่คือแจ็คสัน หวัง จากประเทศจีน”

นักกีฬาฟันดาบทีมชาติที่หลงใหลในเสียงดนตรี ย้อนกลับไป ก่อนที่ความสำเร็จในเส้นทางสายดนตรีจะออกดอกออกผลจนแจ็คสันได้รับความรับและแรงสนับสนุนจากแฟน ๆ ทั่วโลก บ้านเกิดของเขาอยู่ที่เกาลูนตง ฮ่องกง - วันที่ 28 มีนาคม 1994 เด็กชายคนหนึ่งลืมตาดูโลกในฐานะบุตรคนเล็กของครอบครัวนักกีฬา ‘ริกกี หวัง’ พ่อของเขาเป็นอดีตนักกีฬาฟันดาบทีมชาติจีน และ ‘โซเฟีย โชว’ แม่ของเขาก็เป็นอดีตนักกีฬายิมนาสติกทีมชาติจีนเช่นกัน แจ็คสัน หวังเริ่มฝึกยิมนาสติกเมื่ออายุ 7 ปี เมื่ออายุได้ 10 ปีเขาก็เปลี่ยนมาฝึกฝนกีฬาฟันดาบ และได้เป็นนักกีฬาฟันดาบทีมชาติฮ่องกงอยู่ร่วม 2 ปี โดยที่ระหว่างนั้นเขาก็มีดนตรีเป็นงานอดิเรกเรื่อยมา อายุราว 17 ปี ความสามารถด้านกีฬาฟันดาบทำให้แจ็คสันได้รับทุนการศึกษาสำหรับการศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ไล่เลี่ยกับที่ชายหนุ่มผ่านการทดสอบจากค่าย JYP entertainment หนึ่งในสามค่ายยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเพลงประเทศเกาหลี ท่ามกลางถนนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงสองสาย แจ็คสันตัดสินใจทิ้งอนาคตที่สดใสบนเส้นทางกีฬา และเริ่มออกเดินเท้าก้าวแรกในฐานะเด็กฝึกหัดที่ใฝ่ฝันอยากเดบิวต์เป็นศิลปินไอดอลกรุป

ย่างก้าวแห่งความฝัน ก้าวแรกของแจ็คสันเป็นเพียงก้าวเล็ก ๆ ที่เริ่มจากจุดสตาร์ตเล็กจ้อยและรายล้อมด้วยเด็กฝึกหัดจำนวนมากที่เรียนร้อง แร็ป เต้น อยู่ใต้ชายคาค่ายเพลงเดียวกัน สองปีครึ่งให้หลัง แจ็คสันเป็นหนึ่งใน 30 คนสุดท้าย ที่มีปลายทางเป็นการถูกคัดออก หรือไม่ก็ได้เดบิวต์เป็นศิลปินเต็มตัว - หลังจากนั้น เราก็ได้รู้จักเขาในฐานะสมาชิกวง GOT7 วงบอยแบนด์ที่เดบิวต์ในปี 2014 ด้วยเพลง ‘Girls Girls Girls’ พวกเขาสร้างผลงานเพลงมากมายหลังจากนั้น และได้รับกระแสตอบรับที่ดีทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ ขวบปีแรก ๆ หลังจากเดบิวต์ นอกจากความสามารถในการแร็ปและเต้นของเขา สิ่งที่ทำให้แจ็คสันกลายเป็นที่รู้จักในเกาหลีคือความอารมณ์ดีอย่างเป็นธรรมชาติ และการออกรายการวาไรตี้ ในบทสัมภาษณ์กับนิตยสารฟอร์บส์ ชายหนุ่มเคยพูดถึงช่วงเวลานั้นเอาไว้ว่า “ผมไม่ใช่คนเกาหลี แต่ผมเดบิวต์ที่นี่ โอกาสเดียวสำหรับผม, สำหรับคนต่างชาติ คือรายการวาไรตี้” แจ็คสันรักรายการวาไรตี้ และรายการวาไรตี้ก็รักเซนส์ความตลกที่เขามี เขาจึงได้ไปออกรายการต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง ขณะเดียวกันเขาก็ไม่เคยลืมว่าเหตุผลที่ตัวเองเดินทางออกจากบ้านมาทำงานในเกาหลีนั้น เป็นเพราะเขาหลงใหลในเสียงดนตรี และอยากสร้างเพลงที่ดีให้ผู้คนฟัง อาจจะเป็นนิสัยที่ได้มาจากการเป็นนักกีฬา หรืออาจเป็นการขัดเกลาจากครอบครัวและประสบการณ์ที่ผ่าน แจ็คสัน หวังไม่ใช่คนที่จะละความตั้งใจกับอะไรง่าย ๆ ตรงกันข้าม เขาเป็นคนที่เมื่อมีเป้าหมายแล้วจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อคว้ามา ปี 2017 แจ็คสัน หวัง ก่อตั้งค่ายเพลง ‘Team Wang’ ขึ้นมาเพื่อทำงานในประเทศจีน รวมไปถึงงานเพลงเดี่ยวของเขา โดยประเดิมด้วยเพลงฮิตเพลงแรก ‘Papillon’

ถนนที่ทอดยาว และความพยายามที่งอกงามเป็นความสำเร็จ ความพยายามในการสร้างสรรค์ผลงานเดี่ยวและการมีค่ายเพลงเป็นของตัวเองทำให้แจ็คสันต้องทำงานหนักขึ้นเป็นสองเท่า “ผมมีตารางงานที่ต้องทำทั้งปี ครึ่งปีแรกทำงานกับ Team Wang ส่วนครึ่งปีหลังทำงานร่วมกับสมาชิก GOT7 และ JYP” นั่นเป็นเหตุผลที่แต่ละคืนเขาจะเหลือเวลาสำหรับพักผ่อนนอนหลับแค่ 5-6 ชั่วโมงเท่านั้น โดยนอกจากเวลาพักผ่อนแล้ว เขาจะใช้เวลาไปกับการทำงานอย่างตั้งใจ และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ เรียกได้ว่าทุกเสียงดนตรี ทุกบีต ทุกไรห์ม ที่เราได้ยินจากชายคนนี้คือสิ่งที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีแล้วทั้งสิ้น ความสำเร็จไม่ใช่สิ่งที่ได้มาโดยง่าย กลับกัน มันเป็นส่วนผสมที่เข้มข้นของความฝันกับความตั้งใจ โดยเฉพาะเมื่อแจ็คสัน หวัง ไม่ได้มีหน้าที่เป็น ‘แร็ปเปอร์’ เพียงอย่างเดียว “ผมเคยพูดว่าผมไม่ใช่แร็ปเปอร์ จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ใช่ เพราะผมทำอะไรมากกว่านั้น ผมร้องเพลง เต้น ทำการแสดงบนเวที ทุกอย่างถูกควบรวมเข้าด้วยกัน ผมเป็นผู้แสดง และผู้ให้ความบันเทิง” การเป็น ‘ผู้ให้ความบันเทิง’ นั้นต้องการความใส่ใจไม่ต่างจากงานแขนงอื่น โดยเฉพาะเมื่อแจ็คสัน หวัง คือชายหนุ่มที่พิถีพิถันกับทุกรายละเอียด เขาจึงรับหน้าที่เป็นมากกว่า ‘เอนเตอร์เทนเนอร์’ แต่เป็นคอมโพสเซอร์ โปรดิวเซอร์ วิดีโอไดเรกเตอร์ และอีกหลาย ๆ อย่าง เรียกได้ว่าทุกเพลงที่ถูกปล่อยออกมาในชื่อเขา มีจุดเริ่มต้น ไอเดีย และส่วนร่วมจากการทำงานหนักของเขาในทุก ๆ ผลงาน “เมื่อคุณร่ำรวย มีชื่อเสียงและมีเงิน คุณสามารถจ้างคนอื่นมาเขียนเพลงแทนได้ คุณสามารถจ้างโปรดิวเซอร์ที่เก่งที่สุดในโลก หรือไดเรกเตอร์ที่ดีที่สุดในโลกได้ ผมมีโอกาสนั้น แต่ผมเลือกที่จะไม่ทำ เพราะถ้าวันหนึ่งผมสูญเสียความนิยมไปล่ะ ผมจะทำอย่างไรถ้าต้องสูญเสียทุกอย่างที่มี ดังนั้นผมจึงต้องพยายามด้วยตัวเองตั้งแต่ตอนนี้” ผ่านการให้สัมภาษณ์กับสื่อเจ้าต่าง ๆ ทำให้เราได้รู้ว่าเพราะเหตุใดชายคนนี้จึงประสบความสำเร็จ แม้เขาจะเคยให้สัมภาษณ์กับ VARIETY ว่าในตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองยังห่างไกลจากคำนั้น และยังมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่าให้ไขว่คว้า อย่างที่เราได้เกริ่นไปเมื่อเริ่มบทความว่า แจ็คสัน หวัง เป็นคนแห่งความฝัน และในตอนนี้เขาฝันว่า “ผมหวังว่าสักวัน ผมจะเป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างซีกโลกตะวันออกและตะวันตก แม้ทุกวันนี้คนตะวันตกจะรู้จักคนตะวันออก คนตะวันออกรู้จักคนตะวันตกผ่านโลกอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่การท่องเที่ยวและทำงาน แต่มันยังมีเรื่องราวอีกมากที่ผู้คนยังไม่รู้ ผมหวังว่าสักวัน ผมจะพยายามเต็มที่จนสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้” แจ็คสัน หวัง เป็นคนมีฝันและมีความพยายามเป็นเลิศ นั่นคือนิยามตัวตนอย่างหนึ่งของเขา แต่ความฝันและความพยายามไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดที่ทำให้เขาโด่งดังระดับโลก ยังมีเหตุผลอื่นมากกว่านั้น - เหตุผลที่ทำให้แฟน ๆ ทั่วโลกคลั่งไคล้เขา และทำให้เขาเป็นที่จับตามองของแบรนด์ดังมากมาย ยกตัวอย่างแบรนด์ที่เขาได้เป็นพรีเซนเตอร์ ก็เช่น L'Oréal Men Expert, ARMANI, Cartier และ FENDI นั่นเป็นเพราะเขามีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร เมื่อ ‘ความละเอียดอ่อน’ ในตัวเขากลายเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนมากมายหลงใหล และหากจะเปรียบชายคนนี้เป็นกาแฟสักแก้วที่สะท้อนความละมุนที่สมบูรณ์แบบเฉกเช่นเดียวกัน ก็คงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก ‘เนสกาแฟ โกลด์ เครมมา’ กาแฟผงละเอียดสีทองคุณภาพ ที่มอบประสบการณ์กาแฟพรีเมียมครบทุกมิติสัมผัส ด้วยชั้นเครมมา และความหอม นุ่ม ละมุน ที่เพิ่งเปิดตัวแจ็คสัน หวัง เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดในภาพยนตร์โฆษณาสุดละมุนนั่นเอง

แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของ เนสกาแฟ โกลด์ เครมมา ประเทศไทย และความละเอียดอ่อนที่กลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว เนสกาแฟ โกลด์ เครมมา คือกาแฟผงละเอียดกว่าสิบเท่า สีทองบริสุทธิ์ ที่เมื่อชงด้วยน้ำร้อนแล้วผงสีทองจะละลายเผยให้เห็นชั้นเครมมาเนียนละเอียดที่การันตีถึงคุณภาพของกาแฟ โดยกาแฟไลน์นี้มีให้เลือกสองสูตรด้วยกัน คือสูตร Intense กาแฟคั่วเข้มที่หอม เข้ม กลมกล่อม และสูตร Smooth กาแฟคั่วกลางที่หอม นุ่ม โดยทั้งสองสูตรมีความละเอียด ละมุนลิ้น เหมาะสำหรับคนที่หลงใหลในห้วงสัมผัสของกาแฟ และใส่ใจเลือกสรรกาแฟคุณภาพ ทำให้ทุกแก้วเป็นช่วงเวลาแสนพิเศษ เนสกาแฟ โกลด์ เครมมา คือกาแฟที่มีคาแรกเตอร์เดียวกับ แจ็คสัน หวัง เนื่องจากแจ็คสันเป็นคนละเอียดอ่อน พิถีพิถัน และใส่ใจกับการทำงานทุกครั้งเสมอ เหมือนกับกาแฟผงละเอียดสีทอง ที่ละเอียดกว่ากาแฟทั่วไปถึง 10 เท่า นอกจากนั้นเขายังเป็นคนที่เมื่อตัดสินใจลงมือทำอะไรแล้ว ต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ผลงานออกมาสมบูรณ์แบบเต็มขั้น เปรียบได้กับชั้นเครมมาสัญลักษณ์ที่การันตีคุณภาพของกาแฟชงสดที่อยู่ในกาแฟโกลด์ เครมมาทุกแก้ว รวมไปถึงการที่เขาเป็นชายผู้สร้างความประทับใจเสมอในทุกสิ่งที่ทำ ทุกผลงานที่เขาสร้าง ทุกการวางตัว และทุกช่วงเวลาของชีวิต เช่นเดียวกับเนสกาแฟ โกลด์ เครมมา ที่มีรสชาตินุ่มละมุน เต็มรสกาแฟ ชนิดที่ใครลองแล้วเป็นต้องติดใจ แจ็คสัน หวัง เป็นผู้ชายที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ทั้งภาพลักษณ์ แบบ duality ของเขา ที่สร้างความประทับใจได้ทั้งมุมที่เท่ เข้ม สมบูรณ์แบบ และมุมที่น่ารัก ขี้เล่น ละมุนละไม โดยเขาได้รับฉายาว่าเป็น ‘ผู้ชายที่ละเอียดอ่อนที่สุดในเอเชีย’ เนื่องมาจากความละเอียด ละมุน และใส่ใจคนรอบข้างจนกลายเป็นที่รักของทุกคนที่ได้รู้จักเขา ยกตัวอย่างความละมุนของแจ็คสัน หวังคร่าว ๆ อย่างเช่นความสุภาพบุรุษของเขา เป็นที่รับรู้กันดีว่าเขาเป็นคนที่วางตัวดีเมื่อร่วมงานกับศิลปินหญิง และมี ‘Manner Hands’ มากคนหนึ่งของวงการ เขามักจะให้เกียรติและให้ระยะห่างที่พอดีกับอีกฝ่ายเสมอ อีกเสน่ห์ที่ทำให้ใคร ๆ ก็รักผู้ชายคนนี้ คือความรักเด็กและเด็กรักของแจ็คสัน เนื่องจากเขาเอ็นดูเด็กวัยกำลังซนมาก และเด็ก ๆ ก็มักจะชื่นชอบเขาเป็นพิเศษเช่นกัน ยังไม่นับการที่เขามักจะแสดงออกถึงความรักที่เขามีให้แฟนคลับของตนอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตอบทวีตที่แฟนคลับเมนชั่นหา การถ่ายรูปร่วมเฟรมและเซ็นลายเซ็นให้เสมอหากไม่ใช่เวลาและพื้นที่ส่วนตัว อีกทั้งเจ้าตัวยังเคยออกปากว่า “ผมทำทุกอย่างเพื่อแฟน ๆ ได้” อีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจแม้แต่น้อยว่าทำไมใคร ๆ ก็รักและอยากร่วมงานกับชายคนนี้ และเป็นเหตุผลที่เนสกาแฟ โกลด์ เครมมา เลือกร่วมงานกับเขา และให้ตัวตนของเขาเป็นภาพแทนเอกลักษณ์ของแบรนด์นั่นเอง