อีธาน บราวน์ ผู้ก่อตั้ง Beyond Meat เนื้อจากพืช เพื่อโลกที่ยั่งยืนในอนาคต

อีธาน บราวน์ ผู้ก่อตั้ง Beyond Meat เนื้อจากพืช เพื่อโลกที่ยั่งยืนในอนาคต

อีธาน บราวน์ (Ethan Brown) พัฒนาเนื้อจากพืช Beyond Meat ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางเลือกให้คนไม่บริโภคเนื้อสัตว์เท่านั้น ยังช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่งด้วย

  • อีธาน บราวน์ (Ethan Brown) เป็นคนที่ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติมาตั้งแต่เด็ก
  • เขา และเป็นที่มาของ Beyond Meat  บริษัทผลิตเนื้อสัตว์จากพืช
  • แม้ตอนเริ่มต้นแรกๆ จะไม่เป็นไปตาม แต่ด้วยความพยายามของเขา ตอนนี้บริษัทแห่งนี้มีมูลค่าแสนล้านแล้ว 

จะมีสักกี่คนที่กล้าจินตนาการถึงโลกที่ผู้คนเลิกฆ่าสัตว์ เลิกทารุณกรรมสัตว์ เลิกกินเนื้อสัตว์…เพราะมี “เนื้อที่ทำจากพืช” (Plant-Based Meat) เป็นโปรตีนทางเลือกหลัก
มีชายคนหนึ่งชื่อว่า อีธาน บราวน์ (Ethan Brown) ผู้ก่อตั้ง Beyond Meat บริษัทแสนล้านซึ่งผลิตเนื้อที่ทำจากพืชได้สำเร็จ และเป็นหนึ่งในบริษัทที่จะมาปฏิวัติอุตสาหกรรมอาหารในศตวรรษนี้

ชีวิตวัยเด็กท่ามกลางธรรมชาติ
ในขณะที่เด็กอเมริกันทั่วไปเดินห้างและวิ่งเล่นในสวนสนุก แต่ Ethan Brown ใช้เวลาทุกวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์อยู่ในฟาร์มโคนมของครอบครัวในรัฐ Maryland และวิ่งเล่นท่ามกลางทุ่งนาซึ่งแวดล้อมด้วยสรรพสัตว์และธรรมชาติ
นี่คงจะเป็นจุดเริ่มต้นของความผูกพันแรกก็ว่าได้ เพราะได้สัมผัสธรรมชาติของจริง และการได้เข้าใจความเป็นส่วนหนึ่งเกื้อกูลซึ่งกันและกัน (Symbiosis) ของสัตว์ต่างๆ ในระบบนิเวศน์
เกิดคำถามขึ้นมากมายในใจ
ทำไมคนส่วนใหญ่ไม่กินหมา…แต่กินหมู?
ทำไมเราเลี้ยงสัตว์บางชนิดอย่างรักใคร่เสมือนเป็นสมาชิกครอบครัว…แต่เลี้ยงสัตว์ชนิดอื่นอย่างเวทนาเพื่อเป็นอาหาร?
ทำไมโปรตีนหลักที่คนบริโภคถึงมาจากสัตว์…มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเหรอ?
ความผูกพันกับสรรพสัตว์และธรรมชาติตลอดชีวิตวัยเด็ก ไม่ต้องแปลกใจเลยว่า เขากลายเป็นมังสวิรัติเต็มตัวเมื่อขึ้นชั้นมัธยมศึกษา (เรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่คู่กับเขามานานแล้ว)

Ethan Brown จบการศึกษาจาก University of Maryland ด้านสิ่งแวดล้อมโดยตรง ก่อนจะได้แรงบันดาลใจในการเลือกงานแรกด้วยคำถามจากผู้เป็นพ่อว่า “ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้คืออะไร?”
ตอนนั้นคำตอบที่เขาเชื่อเหลือเกินคือเรื่อง “ภาวะโลกร้อน” ซึ่งมาจากการปล่อยมลพิษจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์

สู่ภารกิจชีวิตที่ไม่เป็นไปตามคาด
เขาเริ่มเข้าทำงานที่แรกในบริษัทด้านพลังงานทางเลือก เพราะคิดว่าเทคโนโลยีพลังงานใหม่ที่สะอาดกว่า มีประสิทธิภาพกว่า จะช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อน
เขาคิดผิด…
เมื่อกาลเวลาผ่านไป ประสบการณ์จากการทำงานนำพาเขาไปค้นพบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชิ้นแล้วชิ้นเล่าที่ระบุตรงกันว่า ตัวการร้ายแรงที่สุดที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน มาจากการปล่อย ก๊าซมีเทน (Methane)
ซึ่งก๊าซมีเทนส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากโรงงานอุตสาหกรรม แต่มาจากการทำ “ปศุสัตว์” (Livestock) ต่างหาก โดยมี “วัว” เป็นตัวการที่รุนแรงที่สุด สเกลใหญ่ที่สุด

ทำไมวัวถึงเป็นปัญหา? 
ถ้าถามสาธารณชนทั่วไปว่า สาเหตุใดที่เป็นตัวการปล่อย “ก๊าซเรือนกระจก” มากที่สุดในโลก? หลายน่าจะตอบว่า…มลพิษจากรถยนต์
แต่คำตอบที่ถูกต้องคือ “ตดวัว” ต่างหาก
ตดวัวปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งอันตรายมากกว่าก๊าซ CO2 จากรถยนต์ถึง 85 เท่า
ไหนจะเรื่อง “พื้นที่” ในการเลี้ยงวัว ซึ่งใช้ที่ดินกว้างใหญ่ไพศาล
ฟาร์มเลี้ยงวัว คิดเป็น 60% ของพื้นที่เกษตรกรรมทั่วโลก แต่เนื้อวัวคิดเป็นเพียง 2% ของแคลอรีที่มนุษย์บริโภค
ต่อไปคือเรื่องทรัพยากร “น้ำ” วัวเป็นสัตว์ที่บริโภคน้ำมหาศาลโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
ในสหรัฐอเมริกา ปริมาณการใช้น้ำในการผลิตก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 100,000 ล้านแกลลอน/ปี ขณะที่ปริมาณการใช้น้ำเพื่อเลี้ยงปศุสัตว์วัวอยู่ที่ 34 ล้านล้านแกลลอน/ปี
เบอร์เกอร์เนื้อแค่ 1 ชิ้น ต้องใช้น้ำถึง 660 แกลลอนในการผลิตเลยทีเดียว
และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเรื่อง “สวัสดิภาพสัตว์” (Animal welfare) ทุกวันนี้วัวในฟาร์มอุตสาหกรรม (และสัตว์อื่น ๆ) ถูกปฏิบัติอย่างทารุณโหดร้าย ถูกขังในพื้นที่คับแคบ ไร้ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ลูกเกิดใหม่ถูกจับแยกจากแม่ทันที…ชีวิตเกิดมาเพื่อรอวันถูกฆ่าเป็นอาหาร
การพบกันที่นิยามโลกใบใหม่
การเติบโตในหน้าที่การงานของเขา ณ ตอนนั้นถือว่าดี เขาทำงานใกล้ชิดและรายงานโดยตรงต่อ CEO บริษัทเลยทีเดียว
แต่เมื่อยอมรับว่ามาผิดทาง รวมถึงภารกิจในวัยเด็ก…เขาจึงตัดสินใจลาออกมาทำตามฝันของตัวเอง
ปี 2009 Ethan Brown เดินทางไปเยือนศูนย์วิจัยของ University of Missouri ซึ่งกำลังคิดค้นเทคโนโลยีโปรตีนจากพืชที่ให้ผิวสัมผัสเหมือนเนื้อวัว และ กำลังหาทางใช้ประโยชน์ใหม่ๆ จากถั่วเหลืองอยู่
เขาเจรจาจนได้ใบอนุญาตและเทคโนโลยีนี้มาครอบครอง และก่อตั้งบริษัท “Beyond Meat” ขึ้นในปีเดียวกัน
งานแรก ๆ ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “หานักลงทุน” มาลงทุน ซึ่ง Ethan Brown ไม่ได้จำกัดบริษัทอยู่ใน Niche Market แต่ต้องการก้าวสู่ตลาด Mass ในอนาคตให้ได้
จุดยืนชัดเจนมาก…
เขาจะทำให้ Beyond Meat เข้าไปอยู่ใน McDonald’s
เขาจะทำให้คนคิดจริง ๆ ว่า การกินเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช อร่อยกว่า-ดีต่อสุขภาพกว่าการกินเนื้อสัตว์เดิม ๆ
เขามั่นใจว่าทำได้ เพราะผลการทดลองโดยควบคุมตัวแปรอื่นให้เหมือนกันหมด
บริโภคเนื้อที่มาจากสัตว์ 3 มื้อ/วัน เป็นเวลา 8 สัปดาห์
บริโภคเนื้อที่ทำจากพืช 3 มื้อ/วัน เป็นเวลา 8 สัปดาห์
ผลปรากฎว่า กลุ่มทดลองที่บริโภคเนื้อที่ทำจากพืช มีสุขภาพร่างกายที่ดีกว่า เช่น คอเลสเตอรอลน้อยกว่า / ระบบหมุนเวียนเลือดดีกว่า / ไขมันสะสมน้อยกว่า

ก้าวแรกของการปฏิวัติอุตสาหกรรมอาหาร
ปี 2012 บริษัทเปิดตัวสินค้าแรกนั่นคือ เนื้อไก่ที่ทำจากพืช (โปรตีนพืชที่มีรสชาติเหมือนกินไก่) ในชื่อสินค้าว่า “Beyond Chicken” แน่นอนว่า ผู้คนยังรู้กันในวงแคบ ช่องทางจำหน่ายมีไม่มาก ราคายังถือว่าสูง รวมถึงรสชาติที่ยังไม่ค่อยดีนัก (เมื่อเทียบกับปัจจุบัน)
แต่ปี 2013 ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลอย่าง Bill Gates ได้เลือกลงทุนใน Beyond Meat ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนอื่นมากขึ้น เขายังเรียกร้องให้ประเทศร่ำรวยปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมอาหารไปสู่ Plant-Based Food แบบ 100% ในอนาคต ช่วงนี้เองที่ Beyond Meat ได้เงินลงทุนจากนักลงทุนมาต่อยอดการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น
และในปี 2016 บริษัทเปิดตัวเนื้อวัวที่ทำจากพืชได้สำเร็จ ในชื่อ “Beyond Burger” ซึ่งให้สัมผัสและรสชาติเหมือนกินเนื้อวัวจริงๆ
แถมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า เมื่อเทียบกับเนื้อวัวปกติ เนื้อที่ทำจากพืชของ Beyond Meat
.
ใช้น้ำน้อยลง 99%
ใช้ที่ดินน้อยลง 93%
ใช้พลังงานน้อยลง 45%
ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลง 90%
.
Beyond Burger กลายเป็นความสำเร็จก้าวกระโดดครั้งแรกของบริษัท ซึ่งปูทางไปสู่การวางจำหน่ายใน Whole Foods Market ซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ของอเมริกา
ก่อนมีโอกาสไป collab กับแบรนด์ใหญ่ระดับโลก
จับมือ McDonald’s ออกเบอร์เกอร์ McPlant
จับมือ Pepsi ออกขนมขบเคี้ยวที่ทำจากโปรตีนพืช
จับมือ Dunkin’ Donuts ออกเมนูอาหารเช้าที่มำจากพืช
รายได้บริษัทเติบโตกว่า 5 เท่าภายในเวลาไม่กี่ปี และขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่ ไส้กรอก / มีทบอล / ไก่ไม่มีกระดูก และอื่น ๆ ในเวลาต่อมา
(บริษัทยังได้แรงสนับสนุนล้นหลามจากบรรดานักสิ่งแวดล้อมและชาววีแกนทั่วโลก ที่เรียกร้องให้สังคมฉุกคิดถึงเรื่องศีลธรรม / สุขภาพ / สิ่งแวดล้อม)
และในปี 2019 (ครบรอบ 10 ปีก่อตั้งบริษัท) เขานำ Beyond Meat เข้าตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ได้สำเร็จ ก่อนขึ้นแท่นบริษัทมูลค่าแสนล้านในเวลาต่อมา
เฉกเช่นทุกนวัตกรรมอันล้ำหน้า
10 กว่าปีที่แล้ว ผู้คนสงสัยว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นจริงได้เหรอ? แต่ Tesla พิสูจน์แล้วว่าได้ จนหลายเมืองต้องสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานรองรับ
…10 กว่าปีที่แล้ว ผู้คนยังไม่รู้จักคำว่า Plant-Based Meat เลยด้วยซ้ำ ไม่ก็มองว่าเนื้อที่ทำจากพืชเป็นแค่สิ่งประดิษฐ์ในหนังไซไฟในอนาคตอันห่างไกล
แต่ Beyond Meat พิสูจน์ความสำเร็จเบื้องต้นแล้วว่าทำได้จริง มาถูกทาง และพร้อมที่จะปฏิวัติวงการอาหารต่อไป (ปัจจุบัน มีสินค้าของ Beyond Meat วางจำหน่ายแล้วในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก)
เราคงทำได้แต่ให้เวลาทำหน้าที่ของมัน และเฝ้าคอยจนถึงวันที่ผู้คนส่วนใหญ่ในโลก เลิกกินเนื้อสัตว์ เลิกเบียดเบียนฆ่าสัตว์เพื่อเป็นอาหาร และเปลี่ยนมากินเนื้อที่ทำจากพืชแทน…เหมือนที่ Ethan Brown วาดฝันไว้ในตอนเด็ก
.
ภาพ: Getty Images

.

อ้างอิง

nytimes

cnbc

bloomberg

beyondmeat