โด ควอน : สูงสุดสู่สามัญ ราชา Stablecoin ผู้ก่อสร้างความฝันบนรากฐาน LUNA อันสั่นคลอน
ถ้าใครติดตามหน้าข่าวเกี่ยวกับโลกธุรกิจการเงินอยู่ในตอนนี้จะพอเห็นความปั่นป่วนของโลกเหรียญสกุลดิจิทัล (Cryptocurrency) อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะ Bitcoin, UST และ LUNA ที่มีการกล่าวถึงเป็นอย่างมาก โดยมูลค่าของเหรียญ LUNA ลดลงไปเกือบ 100% และ UST ลงไป 83% และ Bitcoin ร่วงไปเกือบ 20% ภายในช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมา จนกระทั่ง Binance, Bitkub และ Bitazza (กระดานเทรดเหรียญคริปโตฯ เจ้าใหญ่) ต้องถอดเหรียญ LUNA และ UST ออกไปไม่สามารถซื้อขายได้แล้วเนื่องจากมูลค่าที่ลดต่ำเกินไป (ณ เวลาที่เขียนวันที่ 14/05/2022 จนกว่าจะมีประกาศอัปเดตต่อไป)
LUNA เป็นโทเคนที่ถูกออกแบบมาบนระบบ Terra เพื่อช่วยถ่วงดุลด้วยระบบอัลกอริทึม (Algorithmic Stablecoin) ให้เหรียญ TerraUSD (UST) เป็น Stablecoin ซึ่งไอเดียของมันถือว่าน่าสนใจ (แม้ก่อนหน้านี้จะมีคนทำและล้มไปแล้วบ้างก็ตามอย่าง Titan) และมีคนสนใจที่จะซื้อและใช้เหรียญค่อนข้างเยอะ ครั้งหนึ่งเคยมีเงินหมุนในระบบด้วย UST มากกว่า 18,000 ล้านดอลลาร์ ถือเป็น Stablecoin ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะถึงจุดสิ้นสุดแล้วเพราะโอกาสที่ UST จะกลับไปมีมูลค่าเท่ากับหนึ่งดอลลาร์นั้นน่าจะเรียกว่าต้องอาศัยปาฏิหาริย์เลยก็คงไม่เกินไปนัก
เมื่อพูดถึง LUNA คงจะไม่พูดถึงคนคนนี้ไม่ได้…โด ควอน (Do Kwon) ชาวเกาหลีใต้ผู้ก่อตั้งเหรียญ LUNA นั่นเอง
ราชาของ Stablecoin
ควอนเติบโตมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจจัดจำหน่ายยาและอุปกรณ์การแพทย์ เพราะฉะนั้นเขาจึงมีโอกาสได้เดินทางไปไหนต่อไหนตั้งแต่ยังเป็นเด็ก หลายคนอาจจะเรียกเขาว่า “เด็กเนิร์ด” ในช่วงที่เป็นวัยรุ่น แต่ก็ไม่ได้เก็บเนื้อเก็บตัวแบบเด็กเนิร์ดทั่วไป เขาชอบอ่านหนังสือโดยเฉพาะเรื่องงานเขียนทฤษฎีต่าง ๆ เขาเป็นเด็กที่ฉลาด หัวไว และแน่นอนว่าชอบเรื่องเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก เรียนจบสาขาวิศวกรซอฟต์แวร์ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด หลังจากนั้นก็ได้ทำงานที่ Microsoft และ Apple แต่ก็รู้สึกว่ามันไม่ท้าทายสักเท่าไร เบื่องานที่ทำแล้วก็ลาออกมาเพื่อก่อตั้งบริษัทของตัวเองในที่สุด
บริษัทแรกของเขาชื่อว่า Anyfi ก่อตั้งในปี 2016 เพื่อที่จะช่วยแก้ไขปัญหาของสัญญาณอินเทอร์เน็ต โดยใช้เทคโนโลยีเครือข่ายเมชไร้สาย (Mesh Network) เพื่อกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปสู่พื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มาก่อน เขาระดมทุนได้ถึง 1 ล้านเหรียญฯ จากนักลงทุนและรัฐบาลของเกาหลีใต้ ซึ่งระหว่างนี้เองที่เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Cryptocurrency และตลาดของมันก็กำลังเติบโตอย่างมากในช่วงปี 2017 จึงจุดประกายความสนใจในการทำให้มันเกิดประโยชน์ และมีการใช้งานจริง ๆ ขึ้นมา นี่เป็นช่องว่างของเหรียญดิจิทัลที่หลาย ๆ คนมองว่าเป็นจุดอ่อนเพราะไม่สามารถเอามาใช้ได้จริง ควอนกลับมองว่านี่เป็นโอกาสที่ลองอะไรใหม่ ๆ
ควอนร่วมกับนิโคลัส พลาเทียส (Nicholas Platias) เพื่อนในมหาวิทยาลัยเขียนเอกสารนำเสนอข้อมูล (White Paper) เบื้องต้นสำหรับระบบการชำระเงินแบบกระจายศูนย์ที่เหมาะสมกับคนทั่วไป แนวคิดคือการมีสกุลเงินที่มีเสถียรภาพ เชื่อมโยงกับคำสั่ง ที่ทุกคนสามารถใช้ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือออฟไลน์ มันเป็นโครงการที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความหวังจากชายหนุ่มสองคนที่มีแต่ตัว ย้ายจาก Airbnb หนึ่งไปยัง Airbnb ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ จนกระทั่งได้พบกับ แดเนียล ชิน (Daniel Shin)
ชินเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทชื่อว่า Ticket Monster ที่โด่งดังในเกาหลีและประสบความสำเร็จอย่างมาก อีคอมเมิร์ซของเขาก่อตั้งขึ้นในปี 2010 ด้วยเงินเพียง 5 ล้านวอน (135,000 บาท) และเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ตอนที่พบกับควอน เขาขาย Ticket Monster ออกไปได้สักพักแล้ว ส่วนตัวกำลังมองหาคลื่นลูกใหม่ของธุรกิจเทคโนโลยีของเกาหลีที่น่าสนใจและอยากลงทุนพอดี
ความมุ่งมั่นในตัวของควอนได้ทำให้ชินรู้สึกเหมือนเห็นตัวเองในวัยเด็กและเชื่อว่าโปรเจกต์ของควอนน่าจะมีประโยชน์ไม่น้อยเลยถ้ามันเป็นจริงขึ้นมาได้ จึงก่อตั้ง Terraform Labs ขึ้นมาร่วมกันในปี 2018 เพื่อจะดูแลแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหม่ชื่อว่า Chai ซึ่งแตกต่างจากแอปพลิเคชันชำระเงินต่าง ๆ เพราะถูกสร้างขึ้นโดยใช้โครงสร้างพื้นฐานของสกุลเงินดิจิทัล เบื้องต้นจะโฟกัสไปที่ตลาดในภูมิภาคเอเชีย ตั้งเป้าหมายว่าจะขยายต่อไปในระดับโลก สามารถรับเงินในสกุลเงินไหนก็ได้ หลังจากนั้นก็แปลงไปเป็น Stablecoin ก่อนที่จ่ายให้กับคนขายของในค่าเงินในท้องถิ่นนั้น ๆ
สำหรับผู้ใช้งาน Chai เป็นเหมือนธนาคารดิจิทัล (Neo-Bank) สามารถใช้งานร่วมกับบัตรเดบิตและบัตรเครดิต กระเป๋าเงินดิจิทัล โอนเงินผ่านธนาคาร และ PayPal เพื่อให้การชอปปิงออนไลน์ง่ายขึ้น สำหรับพ่อค้า มันเป็นขั้นการชำระเงินที่เร็วกว่าและถูกกว่า ที่สำคัญเบื้องหลังเป็นเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) โดยที่ผู้ใช้งานทั้งสองฝั่งไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ที่อยู่เบื้องหลังเลย มันได้รับความสนใจมากและมีชื่อเรียกเล่น ๆ ว่า “Alipay on the Blockchain” เปรียบเทียบ Chai กับ Alipay ของจีน ภายในสิ้นปีระดมทุนได้อีก 32 ล้านดอลลาร์จาก Binance, OKEx, Huobi และ Michael Arrington ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์เทคโนโลยีชื่อดังอย่าง TechCrunch (รวมถึงอีกหลายคนเลย)
แต่หลังจากนั้น Chai ก็ถูกแยกตัวออกไปจาก Terraform Labs เพื่อจะให้มันไปสร้างประโยชน์จริง ๆ มีผู้ให้บริการหลายพันคนที่ใช้งานในนั้น และต่อมาก็ได้ทุนเพิ่มไปอีกโดยไม่เกี่ยวกับ Terraform จาก SoftBank Ventures Asia ส่วนควอนก็เป็นที่ปรึกษาให้กับ Chai และชินก็แยกตัวออกมาเพื่อโฟกัสกับครอบครัว
ตอนนี้เองที่ควอนเริ่มแสดงความสนใจเกี่ยวกับเรื่องของ Cryptocurrncy มากขึ้น จากนั้นไม่นาน Terraform Labs ก็ได้มีการเปิดตัวเหรียญ LUNA และ TerraUSD (UST) ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin ที่ไม่มีการอ้างอิงราคาตามสกุลเงินจริง แต่จะใช้อัลกอริทึมเพื่อกำหนดมูลค่าของเหรียญให้เท่ากับ 1 ดอลลาร์เสมอ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเป็น Algorithmic Stablecoin นั่นเอง
เขาถูกยกให้เป็น 1 ใน 30 under 30 ของ Forbes ในปี 2019 เป็นหนึ่งในบุคคลที่น่าจับตามองที่สุดในโลกของเหรียญคริปโตฯ
ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปเร็วมากถ้านับว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อนไอเดียนี้ยังเป็นเพียงอะไรที่จับต้องไม่ได้ด้วยซ้ำ ราคาเหรียญ LUNA ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แตะจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 119.55 เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2022 มีเงินหมุนในระบบด้วย UST มากกว่า 18,000 ล้านดอลลาร์ ถือเป็น Stablecoin ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก เขาผงาดขึ้นมาเป็นราชาแห่ง Stablecoin อย่างแท้จริง แต่แล้ว...บางอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป
Ego และความมั่นใจ
ประมาณเที่ยงคืนวันที่ 7 พฤษภาคม 2022 นักลงทุนรายใหญ่รายหนึ่งเทขายเหรียญ UST มูลค่ากว่า 285 ล้านดอลลาร์ ทำให้ราคา UST หลุด 1 ดอลลาร์ (หลุด peg) ลงไปเหลือ 0.98 ดอลลาร์/UST ตอนนั้นราคา LUNA ก็ร่วงลงไป 6% เหลือ 76.51 ดอลลาร์ สร้างความแตกตื่นให้ตลาด ก่อให้เกิดแรงเทขายจากนักลงทุนและความโกลาหลก็เริ่มเกิดขึ้น
ควอนออกมาทวีตเชิงประชดประชันในเช้าวันที่ 8 พฤษภาคม 2022 ประมาณว่ามันไม่มีอะไรหรอก คนที่แช่งอยู่ก็รอไปเถอะ
“สำหรับพวกคนที่ตั้งตารอเห็นโลกนี้ไม่มั่นคง ผมเกรงว่าคุณคงต้องรอไปจนกว่ามนุษย์จะล่มสลาย เมืองต่าง ๆ กลายเป็นเถ้าธุลี ท้องทะเลแห้งเหือด แผนที่โลกถูกขีดขึ้นใหม่ และไดโนเสาร์ฟื้นขึ้นมาเป็นเจ้าโลกอีกครั้ง โชคดีนะ”
นี่เป็นนิสัยส่วนตัวของควอนที่มักแสดงออกมาในทางลบอยู่บ่อย ๆ อาจจะด้วยความสำเร็จหรือความมั่นใจในตัวเองที่สูงเกินไป ถึงแม้ว่าจะมีคนมากมายที่ออกมาวิเคราะห์ช่องโหว่เกี่ยวกับ LUNA มากมาย บอกว่าอัลกอริทึมที่อยู่เบื้องหลัง LUNA/UST นั้นเป็นเหมือนระเบิดเวลา พร้อมแตกได้ทุกเมื่อ ควอนปิดหูปิดตาไม่รับฟัง มีหลายครั้งต่อปากต่อคำกับคนที่ไม่เห็นด้วยบนทวิตเตอร์เป็นฟืนเป็นไฟ ส่วนตัวแล้วเขาอาจจะเป็นคนฝีปากกล้า พูดจาถากถางคนอื่นอยู่บ่อย ๆ วางตัวไม่ค่อยดีนัก พูดจาคุยโตโอ้อวด มักจะทวีตข่มคนอื่นอยู่เสมอ อย่างครั้งที่ออกมาทวีตว่า จะบดขยี้เหรียญ Stablecoin อีกอันอย่าง DAI ด้วยมือของเขาเอง หรือบางทีดูถูกคนอื่นอย่าง
“ผมไม่มาเสียเวลาคุยกับคนจน ๆ บนทวิตเตอร์หรอก และไม่มีเศษเงินจะให้ด้วย”
หรือครั้งหนึ่งเขาเคยท้าพนันกับคนบนทวิตเตอร์เกี่ยวกับค่าเหรียญ LUNA ว่า “พร้อมจะพนันไหมล่ะ 200 ล้านดอลลาร์ ถ้าไม่กล้าก็หุบปากไปซะ”
ใครก็ตามที่ตั้งคำถาม/สงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำ เขาจะตอบโต้ด้วยอารมณ์ที่รุนแรงแทบจะทันทีเลย
แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้แขวะคนอื่นเกี่ยวกับ LUNA หรือ UST เพราะทุกอย่างเริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ ในวันที่ 9 พฤษภาคม ราคา LUNA ร่วง 60% เหลือแค่ 45 ดอลลาร์ และ UST ก็กลับไปที่ 1 ดอลลาร์ไม่ได้ จนล่าสุดในวันนี้แม้จะมีการขยับขึ้นลงบ้างจากการเก็งกำไร (14/05/2022) แต่ราคาของ LUNA ลดลงไปแล้วจนแทบเป็นศูนย์ และถูกถอดออกจากกระดานเทรดคริปโตฯ ใหญ่ ๆ ทั้งหมดแล้ว
ทุกอย่างเริ่มล้มระเนระนาดและมีข่าวมากมายเบื้องหลังอดีตที่ถูกกวาดออกมาจากใต้พรม ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ที่คล้ายกันของ เอลิซาเบธ โฮล์มส (Elizabeth Holmes) กับ Theranos สตาร์ตอัปยูนิคอร์นลวงโลกมูลค่ากว่าหมื่นล้านดอลลาร์เมื่อเกือบสิบปีก่อนอยู่ไม่น้อย
ถ้ายังจำได้ย้อนไปช่วงต้น ๆ ของปี 2014 โฮล์มสถูกยกย่องให้เป็นนักปฏิวัติวงการ ขึ้นปกนิตยสาร Forbes ว่าเป็นบุคคลที่จะเข้ามาเปลี่ยนวงการแพทย์ด้วยเครื่องตรวจโรคต่าง ๆ ด้วยเลือดจากแค่ปลายนิ้ว เป็นต้นแบบของนักธุรกิจหญิงที่ถูกยกย่องไว้บนหิ้ง แต่สุดท้ายทุกอย่างมาแตกก็ตอนที่คนเห็นว่าสิ่งที่เธอทำกับสิ่งที่พูดนั้นมันขัดกัน เป็นการหลอกลวงที่ขาดศีลธรรม
โฮล์มส และ ควอน มีอะไรบางอย่างลึก ๆ ที่คล้ายกันพอสมควร สำหรับคนที่ลงทุนในคริปโตฯ หรือติดตามข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้มาสักพักจะคุ้นเคยกับคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการลวงหลอกในอุตสาหกรรมนี้บ้างเช่น “Rug Pulls” หรือการโกหกเกี่ยวกับพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ที่ไม่เคยมีอยู่จริง ซึ่งถ้าอยู่ในวงการก็พอจะดูออกบ้างว่าใครเป็นใคร และใครที่กำลังพูดไม่จริง หรือหวังจะรวยทางลัด สิ่งที่พูดหรือทำนั้นจะบอกเป็นนัย ๆ ว่ามันมีกลิ่นอะไรทะแม่งสักอย่าง
แต่สำหรับควอน...ดูไม่ใช่แบบนั้น เหมือนเช่นเดียวกันกับโฮล์มส สิ่งที่เขาแสดงออกและทำตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นแสดงให้เห็นว่าเขานั้นเชื่อในสิ่งที่คิดจริง ๆ แถมช่วงสองสามวันที่ผ่านมาที่ราคา LUNA ร่วงหนักเขาก็พยายามอย่างมากที่จะหาเงินมาอุดรอยรั่วและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างน้อย ๆ มันก็แสดงให้เห็นว่าเขาก็คงเชื่อในสิ่งที่ทำจริง ๆ นั่นแหละ
ความเสียหายบนรากฐานที่สั่นคลอน
หลังจากที่ราคาเหรียญ LUNA ร่วงลงมาจนแทบไร้ค่า ข่าวเบื้องหลังทางด้านลบของควอนก็หลุดออกมาเป็นระยะ ที่น่าสนใจที่สุดคงเป็นข้อมูลจากเว็บไซต์คริปโตฯ ชื่อดังอย่าง CoinDesk ที่บอกว่าอดีตเพื่อนร่วมงานของควอนบอกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ชื่อ Basis Cash เป็นระบบที่คล้ายกับ Terra และมีอัลกอริทึมเดียวกันแต่ล้มไปเรียบร้อยก่อนหน้านั้นแล้วในช่วงปี 2020 และตอนนั้นเขาก็ใช้นามแฝงจึงไม่มีใครทราบว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือใคร มันเป็นโปรเจกต์ที่อายุไม่ยืนมากนัก เพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่เปิดตัวมูลค่าของเหรียญก็ร่วงจนแทบไม่มีค่าอะไร
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับนักลงทุนและผู้ประกอบการที่เชื่อใจในตัว UST น่าจะเกิดเป็นคดีฟ้องร้องกันอย่างแน่นอน ถ้าเข้าไปดูในกระดานสนทนาออนไลน์เกี่ยวกับเรื่องนี้หลายคนเสียบ้าน เสียรถ เสียเงินเก็บทั้งชีวิต แถมหลายคนมีโพสต์ว่าอาจจะฆ่าตัวตายเพราะเป็นหนี้มหาศาล จนต้องมีการแชร์เบอร์ติดต่อฉุกเฉินเพื่อคุยกับจิตแพทย์ด้วย
ถ้ามีการขึ้นศาลจริง ตัวของควอนเองก็ต้องพยายามโน้มน้าวให้ผู้พิพากษาและลูกขุนเชื่อว่าสิ่งที่เขาทำนั้นไม่ได้มาจากเจตนาที่ไม่โปร่งใส เขาเชื่อในโปรเจกต์นี้จริง ๆ ความล้มเหลวเกิดขึ้นอย่างไม่ได้คาดการณ์เอาไว้ และเขาไม่ได้วางแผนอะไรไว้เบื้องหลัง พอพูดแบบนี้เราก็จะนึกถึงโฮล์สมทันทีเพราะมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2022 สำนักข่าว AP ได้รายงานว่าโฮล์มส วัย 37 ปี มีความผิดตามข้อกล่าวหาฉ้อโกง 4 ข้อหา หลอกลวงให้นักลงทุนเชื่อว่า Theranos มีอุปกรณ์ที่จะตรวจหาโรคจากตัวอย่างเลือดเพียงไม่กี่หยดได้ภายในเวลารวดเร็วเป็นการกล่าวเกินจริง โฮล์มสก่อตั้งบริษัทของเธอเมื่ออายุ 19 ปี ด้วยแนวคิดที่ว่าการตรวจเลือดควรทำได้ง่ายขึ้นและสามารถตรวจได้เป็นร้อย ๆ โรคด้วยเลือดเพียงนิดเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอไม่มีข้อมูลเชิงลึกทางเทคโนโลยีว่าจะทำอย่างไรให้สำเร็จ สิ่งที่ตามมาคือความล้มเหลว หลีกเลี่ยงที่จะยอมรับความจริง ปิดบัง หลอกลวงและเบี่ยงเบนประเด็นนี้อย่างต่อเนื่องหลายปี ทนายความของโฮล์มสพยายามโต้แย้งว่าเธอทำเพราะเชื่อแบบนั้นจริง ๆ แต่สุดท้ายคณะลูกขุนต่างเชื่อว่าเธอมีความผิดฐานฉ้อโกง
สิ่งหนึ่งที่ควอนทำเหมือนกับโฮล์มสก็คือการก่อตั้งบริษัทขึ้นมาบนความเชื่อและความฝันที่ดูสวยงาม อย่างในกรณีของโฮล์มสคือการปฏิวัติวงการแพทย์และสุขภาพ ส่วนของควอนคือการสร้าง “Decentralized Stablecoin” หรือเหรียญคริปโตฯ ที่มูลค่าคงที่โดยไม่มีตัวกลาง ด้วยเทคโนโลยีที่เหมือนกับของเดิมที่เคยล้มมาแล้วกับ Basis Cash โดยเหรียญ Stablecoin ของ Terra แตกต่างจาก Stablecoin อื่น ๆ ในตลาดที่ส่วนใหญ่จะผูกมูลค่าไว้กับเงินตราอย่างดอลลาร์ แต่ Terra มีสกุลเงินที่เรียกว่า TerraUSD (UST) เหรียญชนิดนี้ไม่มีการอ้างอิงราคาตามสกุลเงินจริง แต่จะใช้อัลกอริทึมเพื่อกำหนดมูลค่าของเหรียญให้เท่ากับ 1 ดอลลาร์เสมอ โดยการเผาและสร้าง LUNA ขึ้นมาเพื่อให้มันสมดุลตลอดเวลา (ตรงนี้สามารถค้นหาเพิ่มเติมบน Google แต่จะยาวเกินไปสำหรับบทความนี้)
ระบบนี้มันทำงานมาได้เรื่อย ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งก็ถูกโจมตีและอัลกอริทึมของ Terra กลับทำงานไม่สมบูรณ์ ทั้งราคา LUNA และ UST ปรับตัวลดลงทั้งคู่ และนักลงทุนในตลาดต่างหวาดกลัวรีบเทขาย ทำให้ราคาร่วงหนักกว่าเดิมอีก จนตอนนี้กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างมากบนโลกออนไลน์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมีคนเตือนอยู่แล้วแต่ควอนก็ไม่ฟัง มีครั้งหนึ่งที่ UST หลุดราคา 1 ดอลลาร์ช่วงพฤษภาคม 2021 ควอนออกมาอธิบายและพยายามบอกว่าเดี๋ยวทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่ได้มีการแก้ไขอะไร คล้ายกับโฮล์มสตอนที่ปกปิดเรื่องความผิดพลาดของผลการตรวจเลือด เพราะทั้งคู่เชื่อว่าสุดท้ายแล้วเทคโนโลยีที่สร้างมานั้นจะยังทำงานต่อไป การปิดบังเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ใช่การโกหกสักหน่อย แค่ติดขัดเล็กน้อยเท่านั้น
อีกเหตุการณ์หนึ่งที่น่าสนใจเมื่อปลายปี 2021 มีผู้ใช้งานทวิตเตอร์คนหนึ่งชื่อว่า FreddieRaynolds ออกมาเตือนอย่างละเอียดเป็นขั้นตอนเลยว่าวิธีการที่จะล้มอัลกอริทึมของ UST ต้องทำยังไงบ้าง ต้องใช้เงินเท่าไร จะกำไรเท่าไร และจะเสียหายแบบไหน LUNA จะมีค่าเท่ากับศูนย์เพราะอะไร แต่สิ่งที่ควอนตอบกลับมาเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก
“น่าจะเป็นอะไรที่งี่เง่าที่สุดที่อ่านในรอบทศวรรษเลย เงียบก็ได้นะถ้าโง่ เศรษฐีเงินล้านที่ตามผมอยู่ ถ้าจะลองทำก็ทำเลยนะ ลองดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ควอนยังคงเดินหน้าปกป้องนวัตกรรมและแนวคิดความฝันที่เขาวาดอย่างเต็มที่ เชื่อมั่นอย่างหมดใจจนมีคนมากมายให้เงินเขาหลายหมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่าของ LUNA เพิ่มขึ้นเป็น 4 หมื่นล้านดอลลาร์ และมูลค่าตามราคาตลาดของ UST (TerraUSD) สูงถึง 18,000 ล้านดอลลาร์
แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบลง รากฐานที่สั่นคลอนไม่สามารถรองรับความฝันที่ยิ่งใหญ่และอีโก้ที่โป่งพองของเขาได้อีกต่อไป ควอนหายตัวไปเกือบสองวันหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกลับมาทวีตครั้งหนึ่งเมื่อเช้าวันที่ 14 พฤษภาคม 2022 ยอมรับว่า
“ผมยังเชื่อว่าเศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์ควรมีเงินแบบกระจายศูนย์ด้วย แต่มันชัดเจนแล้วว่า UST ในรูปแบบปัจจุบันไม่สามารถทำได้”
แน่นอนว่ายังมีคนคาดหวังว่ามันจะกลับมา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะกลับมาแบบไหน จะแก้ไขทุกอย่างให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือเปล่า ศรัทธาของผู้คนที่มีต่อ LUNA/UST จะยังหลงเหลือไหม มีข่าวที่รายงานมาว่าตอนนี้ต้องมีตำรวจไปคอยป้องกันอันตรายตัวเขาและครอบครัวที่บ้านด้วย เพราะมีผู้เสียหายตามไปบุกรุกถึงที่บ้าน ความเสียหายเกิดขึ้นในวงกว้างและมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และมันก็ทำให้เห็นว่าสิ่งที่เราเชื่อไม่จำเป็นต้องเป็นจริงเสมอไป ไม่ว่าเราจะเชื่อมากแค่ไหนก็ตาม
อ้างอิง
https://www.coindesk.com/.../do-kwon-is-the-elizabeth.../
https://www.reddit.com/.../help_me_understand_the_may.../
https://melmagazine.com/.../the-psychology-of-doubling...
https://twitter.com/Freddie.../status/1524139694388355072...
https://dailyhodl.com/.../luna-collapses-to-0-69-as.../
https://apnews.com/.../technology-business-health-apple...
https://www.coindesk.com/.../defi-rug-pull-scams-pulled.../
https://thepeople.co/elizabeth-holmes-theranos/
https://www.binance.com/.../514e0ba636e843bda47d5d740b7dadf4
https://www.coindesk.com/.../usts-do-kwon-was-behind.../
https://twitter.com/stablekwon/status/1525238418812178432...