ฮิวจ์ กลาส: ตำนานคนสู้หมี ชีวิตจริงของผู้ไม่ยอมตายจนมาเป็นหนังออสการ์ The Revenant
แม้ชีวิตจะบัดซบ ตกต่ำ ย่ำแย่แค่ไหน หลายคนมีเหตุผลให้ต้องดิ้นสู้เอาชีวิตรอดกันต่อไป ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ให้โชคชะตา เช่นเดียวกับฮิวจ์ กลาส (Hugh Glass) ชายในตำนานนักสู้ผู้ไม่ยอมตาย แม้ธรรมชาติ สัตว์ป่า และเพื่อนมนุษย์จะโหดร้าย จนทำให้เขาปางตายมาไม่รู้กี่หน
ฮิวจ์ กลาส คือ บุคคลที่มีตัวตนจริงในต้นศตวรรษที่ 19 เรื่องราวชีวิตอันแสนทรหดของเขาเกิดขึ้นระหว่างรับจ้างบริษัทค้าขนสัตว์ Rocky Mountain Fur Company ร่วมคณะนายพรานออกเดินทางแสวงหาวัตถุดิบในป่าเขาซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ดุร้ายและอันตรายจากชนพื้นเมือง (อินเดียนแดง) ผู้ไม่เป็นมิตร
วีรกรรมที่ทำให้กลาส กลายเป็นตำนานคนสู้ชีวิตเกิดขึ้นใน ค.ศ.1823 เมื่อคณะล่าสัตว์ของเขาถูกชนพื้นเมืองเผ่าอาริการา (Arikara) ในอเมริกาโจมตีจนหนีหัวซุกหัวซุน ตัวเขาและเพื่อนที่รอดมาได้ต้องหลบหนีเข้าป่าเพื่อหาทางกลับฐานที่มั่น ก่อนจะไปเจอกับหมีกริซลีย์แม่ลูกอ่อนที่จู่โจมทำร้ายจนเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
กลาสในสภาพร่างกายร่อแร่ ถูกเพื่อนร่วมทางทิ้งไว้ให้ตายกลางป่า แต่ด้วยสภาพจิตใจที่แกร่งกว่าหินผา เขาสร้างปาฏิหาริย์ด้วยการตะเกียกตะกายลากสังขารตัวเองฝ่าภูมิประเทศและภูมิอากาศอันโหดร้าย กลับค่ายที่พักซึ่งอยู่ห่างไปหลายร้อยกิโลเมตรได้สำเร็จ
เรื่องราวการรอดตายราวปาฏิหาริย์ของฮิวจ์ กลาส กลายเป็นที่โจษขานและเป็นตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา จนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ดีกรีรางวัลออสการ์เรื่อง The Revenant ในปี 2015 โดยมีลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ รับบทเป็นชายจอมอึดที่ชื่อว่า ฮิวจ์ กลาส
คำเตือน บทความต่อไปนี้จะเปิดเผยเรื่องราวบางตอนในภาพยนตร์เรื่องนี้
ประวัติชีวิตของฮิวจ์ กลาส ก่อนเกิดเหตุการณ์ ‘คนสู้หมี’ ที่เป็นตำนานไม่มีหลักฐานยืนยันที่มาที่ไปของเขาแน่ชัด บ้างระบุว่า เขาเป็นชาวอเมริกันจากรัฐเพนซิลวาเนีย เกิดในปี ค.ศ.1783 แต่บางข้อมูลระบุว่า เขามาจากประเทศสกอตแลนด์ ในทวีปยุโรป
บางตำนานบอกว่า กลาสเคยเป็นกะลาสีเรือที่ถูกโจรสลัดในอ่าวเม็กซิโกจับตัวไป ก่อนจะหนีออกมาได้และไปอาศัยอยู่กับชนพื้นเมืองชาวอเมริกันเผ่าพอว์นี (Pawnee) จนเรียนรู้ทักษะการล่าสัตว์อย่างบีเวอร์ และควายไบสัน ขณะเดียวกันก็ชำนาญเส้นทางป่าเขาทางภาคตะวันตกของอเมริกาในยุคที่ยังเป็นดินแดนไร้ขื่อแปที่เรียกว่า Wild West
แม้ประวัติความเป็นมาของฮิวจ์ กลาส จะไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน แต่หลังจากเขาสมัครเข้าทำงานกับ Rocky Mountain Fur Company ที่ก่อตั้งโดยวิลเลียม เอช. แอชลีย์ และแอนดรูว์ เฮนรี ในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี เมื่อปี 1822 ชื่อของฮิวจ์ กลาส ก็ปรากฏอยู่ในบันทึกทางธุรกิจ รวมถึงจดหมายและคำบอกเล่าต่าง ๆ มากขึ้น
บันทึกแรกที่บอกเล่าวีรกรรมของฮิวจ์ กลาส อยู่ใน The Port Folio วารสารทางวรรณคดีในเมืองฟิลาเดลเฟีย ของสหรัฐฯ ซึ่งตีพิมพ์เมื่อปี 1825 บรรยายถึงการผจญภัยของกลาส ที่รอดชีวิตจากการถูกหมีกริซลีย์ตะปบและถูกเพื่อนทิ้งไว้กลางป่า เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในปี 1823 หรือ 2 ปีก่อนที่จะมีการตีพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรก
หลังจากเรื่องราวของเขาถูกนำมาบอกเล่าใน The Port Folio บรรดาสื่อมวลชนและนักเขียนคนอื่น ๆ ต่างก็นำการเดินทางของกลาส มาบอกเล่าต่อกันปากต่อปาก ขณะที่เจ้าตัวแม้จะอ่านออกเขียนได้ แต่ก็ไม่เคยมีใครพบบันทึกส่วนตัวหรือได้สัมภาษณ์เรื่องราวจากปากของเขาโดยตรง
สามรางวัลออสการ์กับหนังมนุษย์คืนชีพ
The Revenant ที่นำแสดงโดย ‘ลีโอ’ เป็นภาพยนตร์ของ อเลฮานโดร กอนซาเลซ อินาร์ริตู ผู้กำกับชื่อดังชาวเม็กซิกัน ที่เคยคว้ารางวัลออสการ์จากเรื่อง Birdman (2014) โดย The Revenant อ้างอิงเรื่องราวการต่อสู้ของฮิวจ์ กลาส จากหนังสือในชื่อเดียวกันของไมเคิล พังก์ (Michael Punke) นักเขียนชาวอเมริกัน ซึ่งตีพิมพ์เมื่อปี 2002
ภาพยนตร์ดังกล่าวคว้ารางวัลออสการ์มาครองได้ 3 สาขาในการประกาศรางวัลเมื่อปี 2016 ประกอบด้วยรางวัลดารานำชายยอดเยี่ยม, ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และกำกับภาพยอดเยี่ยม (Best Cinematography)
คำว่า The Revenant ในภาษาอังกฤษ หากแปลตรงตัวหมายถึง ‘คนที่ตายแล้วฟื้นคืนชีพ’ ส่วนชื่อหนังในภาษาไทยใช้สั้น ๆ ว่า ‘ต้องรอด’ ซึ่งตรงกับแกนหลักของเรื่อง เพราะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยของกลาส ในปี 1823 ระหว่างออกทริปล่าสัตว์กับคณะของแอชลีย์ และเฮนรี บริเวณตอนบนของแม่น้ำมิสซูรี
ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตมลรัฐเซาท์ ดาโกตา ของสหรัฐฯ แต่ในหนังเรื่องนี้ ผู้กำกับเลือกใช้ป่าและเทือกเขาที่ยังอุดมสมบูรณ์ในประเทศแคนาดา และอาร์เจนตินา เป็นสถานที่ถ่ายทำ
ภาพความสวยงามของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและสิงสาราสัตว์ ถูกถ่ายทอดออกมาให้สะท้อนความเป็นจริงของภยันตรายที่ซ่อนอยู่รายรอบตัว เริ่มตั้งแต่กลุ่มนักรบพื้นเมืองเผ่าอาริการา ซึ่งเข้าโจมตีคณะนักล่าค้าหนังสัตว์ของกลาส จนมีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก
หลังเอาตัวรอดจากชนพื้นเมืองที่ดุร้าย กลาสยังเผชิญกับอันตรายจากสัตว์ป่าอย่างหมีกริซลีย์แม่ลูกอ่อน ซึ่งจู่โจมทั้งตะปบและกัดเขาจนเกิดแผลเหวอะหวะไปทั้งตัว แม้รอดชีวิตมาได้ แต่อาการก็สาหัสจนสุดท้ายเพื่อนร่วมคณะใจร้ายต้องปล่อยให้เขาตายอยู่กลางป่าเพียงลำพัง
อย่างไรก็ตาม ด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง ประกอบกับแรงขับให้ต้องรอดเพื่อตามล้างแค้นเพื่อนผู้ทรยศ กลาสไม่ยอมตายและพยายามกระเสือกกระสนแบกสังขารของตัวเองฝ่าสภาพอากาศเลวร้าย รวมถึงการไล่ล่าของชนเผ่าพื้นเมืองจนกระทั่งกลับสู่ค่ายที่พักได้สำเร็จ
เรื่องจริงและเรื่องแต่ง
แม้นักประวัติศาสตร์เปิดเผยว่า รายละเอียดการผจญภัยของตัวเอกใน The Revenant หลายฉากมีการตีไข่ใส่สีเพื่อเพิ่มความเร้าใจและอรรถรสในการชม ยกตัวอย่าง สภาพภูมิประเทศที่ปกคลุมด้วยหิมะเกือบตลอดเรื่องทั้งที่เหตุการณ์จริงเกิดในช่วงเดือนสิงหาคม - ตุลาคม ซึ่งเป็นฤดูร้อน - ฤดูใบไม้ร่วง รวมถึงฉากที่กลาส ถูกชาวอินเดียนแดงไล่ล่าจนตกเขา และต้องผ่าท้องม้าเพื่อเข้าไปนอนหนีหนาวข้างในก็ล้วนไม่ใช่เรื่องจริง
กระนั้นฉากที่เขาถูกหมีตะปบจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แม้ความจริงเขาจะไม่ได้ฆ่าหมีตายด้วยตัวเองเพราะมีบรรดาเพื่อนร่วมทางอยู่ในเหตุการณ์และเข้ามาช่วย แต่เขาก็ถูกทิ้งให้ตายกลางป่าและเอาชีวิตรอดกลับออกมาได้เองจริง
“ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ เจ้าต้องสู้ เจ้าจงหายใจ และรักษาลมหายใจให้ยังอยู่ต่อไป”
ฮิวจ์ กลาส นึกถึงคำพูดที่เขาเคยบอกกับลูกชายซึ่งเกิดกับภรรยาที่เป็นชนพื้นเมืองเผ่าพอว์นี ระหว่างได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ กลาสยังจำคำพูดให้กำลังใจของอดีตคนรักที่ตายจากไปได้ดี
“ในยามเกิดพายุและเรายืนอยู่หน้าต้นไม้ หากมองไปที่กิ่งก้าน เรามั่นใจว่ามันจะหักร่วงลงมา แต่ถ้ามองไปที่ลำต้น เราจะเห็นว่ามันยังคงมั่นคงแข็งแรง”
เหตุผลที่ต้องรอด
The Revenant พูดถึงเหตุผลที่ทำให้ฮิวจ์ กลาส ไม่ยอมตายว่าเป็นเพราะต้องการกลับมาล้างแค้นชายชื่อ ‘ฟิตซ์เจอรัลด์’ เพื่อนร่วมคณะเดินทางผู้สังหารลูกชายของเขา และทิ้งให้เขาตายกลางป่า แต่นักประวัติศาสตร์ระบุว่า แม้กลาสจะเคยมีความสัมพันธ์กับหญิงพื้นเมืองเผ่าพอว์นี แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเขามีลูกด้วยกัน ดังนั้น ความอาฆาตที่เป็นแรงขับจากการสูญเสียลูกชายจึงไม่ใช่เรื่องจริง
อย่างไรก็ตาม แรงขับที่ทำให้กลาส ต้องมีชีวิตรอดตามข้อมูลในประวัติศาสตร์ คือ ความแค้น แต่เป็นแค้นต่อเพื่อนร่วมทางที่ทิ้งให้เขาตายอย่างเดียวดาย โดยยึดเอาอาวุธ ทรัพย์สิน และอุปกรณ์ยังชีพทั้งหมดในตัวเขาไปเป็นของตัวเอง
แต่ถึงแม้จะเคียดแค้นเพียงใด กลาสในชีวิตจริงก็ไม่ได้กลับไปฆ่าล้างแค้นใคร เพราะหลังจากรอดชีวิตมาได้ ความเคียดแค้นเหล่านั้นที่มีได้จางหายไป เขาให้อภัยโจทย์ทุกคนจนไม่มีเหตุนองเลือดเกิดขึ้น และยังคงทำงานอยู่ในวงการค้าขนสัตว์ต่อไปจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
ฮิวจ์ กลาส เสียชีวิตในปี 1833 ตอนอายุประมาณ 50 ปี ระหว่างปะทะกับชนพื้นเมืองคู่ปรับเก่าจากเผ่าอาริการา
แม้สุดท้ายชายผู้นี้จะจากโลกนี้ไปโดยไม่เคยบอกเล่ารายละเอียดและเคล็ดลับการเอาตัวรอดในสถานการณ์ปางตายจากปากตัวเองให้ใครทราบ
ไม่ว่าเรื่องจริงกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับชีวิตของเขาจะแตกต่างกันเพียงใด จุดประสงค์เดียวของการบอกเล่าเรื่องราวของฮิวจ์ กลาส ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และอาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต คือ การประกาศให้โลกรู้ว่า ไม่ว่าชีวิตคุณจะตกต่ำ เลวร้าย ร่อแร่เจียนตายแค่ไหน ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ จงอย่ายอมแพ้ และจงคิดไว้เสมอว่า เราต้องรอด
ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.theguardian.com/.../reel-history-the-revenant...
https://time.com/4171001/revenant-1939-true-story/
https://www.nytimes.com/.../review-the-revenant-welcome...
https://www.historyextra.com/.../the-revenant-and-the.../
#ThePeople #History #HughGlass #TheRevenant