บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล: ศิลปินนักสู้ผู้เป็นทั้งนักแสดง นักร้อง และนักธุรกิจ กับเส้นทางความฝันและการเดินหน้าเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง
แม้จะได้รับบทบาทเป็นนักแสดงอย่าง ‘หมอเต่า’ มาสมทบในซีรีส์ ‘รักฉุดใจนายฉุกเฉิน (My Ambulance)’ แต่ศิลปินมากความสามารถอย่าง ‘บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล’ ก็สามารถเฉิดฉายความสามารถของตนเองจนครองใจแฟน ๆ ไปมากมายหลายคน เส้นทางสายการแสดงนับเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่บิวกิ้นสนใจ โดยเชื้อเพลิงที่จุดประกายให้เขาอยากก้าวสู่ความท้าทายในเส้นทางสายนี้กำเนิดจากซีรีส์วัยรุ่นชื่อดังอย่าง ‘ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น’
จากการชักชวนของเพื่อนพ่ออย่าง ก้อง-ปิยะ เศวตพิกุล ที่ถือเป็นการเปิดประตูสู่ค่ายนาดาวบางกอกของของบิวกิ้น จนได้มีโอกาสเริ่มงานแสดงแล้วจึงมาเป็นที่รู้จักในบทหมอเต่าจนมีกระแสคู่จิ้นกับ ‘ทิวเขา’ ที่นำแสดงโดย พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร เพื่อนสนินที่รู้จักกันตั้งแต่นอกจอ ด้วยความสามารถ ความบันเทิง เสียงหัวเราะ และความรู้สึกดี ๆ ที่ส่งต่อจากบิวกิ้นจากในจอซีรีส์สู่ผู้ชมทางบ้านอย่างต่อเนื่องจึงทำให้มีแฟน ๆ มากมายติดตามและชื่นชอบผลงานของเขา
สืบเนื่องจากกระแสคู่จิ้น บิวกิ้น-พีพี ดังที่กล่าวไปก่อนหน้า จึงก่อให้เกิดแรงบรรดาลใจให้นาดาวเริ่มโปรเจคที่จะสานต่อและฉายสปอตไลท์ไปที่เคมีของกระแสคู่จิ้นของทั้งคู่อย่างซีรีส์เรื่อง ‘แปลรักฉันด้วยใจเธอ’ ที่ถือเป็นซีรีส์วายเรื่องแรกจากทางค่ายที่ไม่เพียงแต่เล่าเรื่องราวในช่วงเปลี่ยนผ่านวัยแบบ Coming of Age ของ ‘เต๋’ และ ‘โอ้เอ๋ว’ แต่เป็นซีรีส์ที่มอบประสบการณ์ต่าง ๆ หลายด้านให้บิวกิ้นเติบโตขึ้นกว่าเดิมด้วย ไม่ว่าจะในแง่ความเข้าใจโลกเข้าใจแง่มุมความอ่อนไหวของมนุษย์มากขึ้นหรือในแง่ประสบการณ์ในชีวิตดังเช่นการได้เรียนดำน้ำหรือเรียนภาษาจีนที่ตัวละครจะต้องใช้ในเรื่อง
ไม่เพียงแค่ซีรีส์เรื่อง ‘แปลรักฉันด้วยใจเธอ’ เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชมเป็นอย่างมาก แต่ฝีมือการแสดงของบิวกิ้นในบทเต๋ก็ทำให้เจ้าตัวกวาดรางวัลการแสดงไปมากมาย นับว่าเป็นหมุดหมายแห่งความสำเร็จของบิวกิ้นที่ประจักษ์ชัดเป็นอย่างมาก โดยนอกจากการแสดงแล้ว เขายังชนะรางวัลในด้านของเพลงประกอบที่เจ้าตัวร้องเองด้วย
ในแขนงของการแสดงก็นับได้ว่าบิวกิ้นประสบความสำเร็จและเติบโตจากความมุ่งมั่นของตัวเองอย่างมาก ความสามารถของเขาถูกพิสูจน์ผ่านงานที่มีคุณภาพและเสียงตอบรับของผู้ชมมากมายหลายด้าน จึงทำให้เขาถือเป็นนักแสดงดาวรุ่งอีกคนหนึ่งที่น่าจับตามองกับผลงานในอนาคตเป็นอย่างมาก
แต่ด้วยใจนักสู้ที่ชอบพุ่งเข้าชนกับอุปสรรคความท้าทายนี้เองทำให้ความสามารถและผลงานของบิวกิ้นไม่ได้หยุดอยู่แค่เส้นทางการแสดง
หลักการที่บิวกิ้นเชื่อเสมอมาคือเมื่อถึงคราวที่ต้องสวมหมวกนักแสดง ตัวเขาต้องเป็นนักแสดงอย่างเต็มรูปแบบและทุ่มเทสุดความสามารถที่จะกลายเป็นตัวละครเหล่านั้นให้สมบทบท และเมื่อถึงคราวที่ต้องสร้างสรรค์บทเพลงและเปล่งเสียงขับร้อง เขาก็ต้องส่งมอบผลงานที่ดีในฐานะนักร้องให้ดีที่สุด เพราะ ‘ศิลปิน’ คือสิ่งที่บิวกิ้นเป็น เมื่อถึงเวลาแสดงเขาคือนักแสดง เมื่อคราวที่ต้องทำเพลง นักดนตรีก็คือสิ่งที่เขาเป็น
ไม่เพียงแต่บทบาทหมอเต่า ใน ‘รักฉุดใจนายฉุกเฉิน’ เท่านั้นที่เปรียบดั่งการแจ้งเกิดแบบจุดพลุที่สว่างไสวทั่วท้องฟ้าและชี้ให้เห็นถึงความสามารถของบิวกิ้น เพราะในซีรีส์เรื่องเดียวกันนี้เองเขาได้มีโอกาสแสดงฝีมือในฐานะศิลปินนักร้องกับบทเพลงที่มีนามว่า ‘You Are My Everything’ เพื่อประกอบในซีรีส์ดังกล่าว โดยมีเสียงตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามจากแฟน ๆ มากมายจนยอดวิวพุ่งทะลุไปกว่า 20 ล้าน กรณีนี้ก็เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าไม่เพียงแค่บทบาทของหมอเต่าคู่จิ้นทิวเขาเท่านั้นที่ทำให้คนดูมากมายหลายคนเห็นถึงความสามารถของบิวกิ้น แต่เป็นบทเพลงดังกล่าวด้วย
ภายหลังเพลง You Are My Everything บิวกิ้นก็มีผลงานเพลงตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ อย่าง ‘กีดกัน’ ‘แปลไม่ออก’ และ ‘โคตรพิเศษ’ ตามมาด้วยอีกหลากหลายเพลงรวมถึงเพลงประกอบใน ‘แปลรักฉันด้วยใจเธอ ภาค 2’ ด้วย หากจะพูดถึงผลงานล่าสุดก็นับเป็นการยกระดับความท้าทายในการสร้างผลงานเพลงไปอีกขั้น ในบทเพลงที่มีนามว่า ‘I ไม่ O (IXO)’
ในซิงเกิ้ลล่าสุดนี้ นับเป็นบททดสอบที่ท้าทายด่านใหม่ของบิวกิ้น เนื่องจากเป็นผลงานที่ตัวเขาได้ลงมาใส่ความเป็นตัวเองและได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ในหลายมิติมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการใส่แนวดนตรีที่ตัวเองชอบอย่างเพลงแนวโซลและซิตี้ป๊อปลงไป นอกจากนั้นเจ้าตัวก็ได้ลองมาศึกษาเรียนรู้และลองทำในหลาย ๆ ขั้นตอน นับเป็นโปรเจคต์ที่ใส่ความเป็นตัวเองลงไปมากเลยทีเดียว เพราะการตัดสินใจหลาย ๆ อย่างมาจากเจ้าตัวเอง ตั้งแต่เนื้อหา แนวเพลง หรือแม้กระทั่งทีมงาน นับเป็นก้าวใหม่ที่ท้าทายแต่ก็ทำให้เส้นทางศิลปินของบิวกิ้นก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง
นอกจากจะเป็นศิลปินมากความสามารถที่ลงแรงเต็มที่ไม่ว่าจะในแขนงของการแสดงจนกวาดรางวัลมามากมายหรือการทำเพลงคุณภาพที่พิสูจน์ผ่านความสำเร็จและเสียงตอบรับจากแฟน ๆ แล้ว บัณฑิตจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี หลักสูตรนานาชาติ (BBA) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังได้ท้าทายตัวเองอีกขั้นหนึ่งโดยการเปิดประตูสู่เส้นทางสายธุรกิจกับแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอย่าง ‘WITAL’ ที่เจ้าตัวเป็นผู้ก่อตั้งและดำรงตำแหน่ง CEO ด้วยตนเอง
นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงใจนักสู้ซึ่งท้าทายตัวเองอยู่เสมอ เพราะบิวกิ้นไม่เพียงแค่เป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ใหม่ของตนเท่านั้น แต่ยังจูงมือแบรนด์ที่ก่อกำเนิดขึ้นท่ามกลางผลกระทบของชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนไปอย่างการระบาดของโรคโควิด-19 ให้ค่อย ๆ เติบโตและฝ่าฟันอุปสรรคไปพร้อม ๆ กับตัวเขาเอง เพราะไม่ว่าจะเป็นการบริหารทิศทางของแบรนด์ วางคอนเซปต์สินค้า และดูแลขั้นตอนการผลิตของสินค้าที่จะปล่อยสู่ตลาด
จากเรื่องราวของศิลปินและนักธุรกิจนามว่า บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล น่าจะทำให้ใครหลายคนเห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของชายผู้นี้ว่าเขาคือ ‘นักสู้’
ในหลายบทสัมภาษณ์ บิวกิ้นมักจะกล่าวเสมอว่าตัวเขาเป็นคนที่ชอบไล่ตามความหลงใหลของตัวเองและเรียนรู้จากบทเรียนที่ทุกอุปสรรคและปัญหาทิ้งไว้ให้เขา ขวากหนามต่าง ๆ ที่อาจทิ่มแทงและเหนี่ยวรั้งเส้นทางการเดินทางอาจทำให้ทุกอย่างดูยาก แต่ด้วยความพยายามและความมุ่งมั่นตั้งใจจริง เราจะสามารถผ่านมันมาได้ และที่สำคัญไปกว่านั้น เราจะเติบโตขึ้นและเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
เรื่อง: รัฐฐกรณ์ ศิริฤกษ์
ภาพ: Youtube / Nadao Music
อ้างอิง:
https://positioningmag.com/1372225
https://readthecloud.co/billkin-putthipong-assaratanakul/
https://themomentum.co/theframe-billkin/
https://www.thairath.co.th/entertain/news/2196340
https://www.gqthailand.com/views/article/billkin-on-the-next
https://th.hellomagazine.com/education/บิวกิ้น-พุฒิพงศ์
https://www.pptvhd36.com/news/ข่าวบันเทิง/156511