07 มิ.ย. 2565 | 18:00 น.
พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร: ศิลปินที่ทลายกำแพงความขี้อายสู่การเป็นตัวของตัวเองในแบบที่อยากจะเป็น
18นับเป็นการก้าวเดินไปข้างหน้าและเติบโตอย่างเห็นได้ชัดของศิลปินหน้าใหม่ไฟแรงผู้โอบรับความแตกต่างและมองเห็นทุกความสวยงามในแง่มุมอันหลากหลายของชีวิตอย่าง ‘พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร’ ที่ได้แสดงความสามารถของตัวเองผ่านซีรีส์และบทเพลงคุณภาพมากมายภายในไม่กี่ปีให้หลังนี้ นอกจากจะส่งมอบความบันเทิงผ่านฝีมือของตัวเองให้เหล่าผู้ชมและแฟนคลับอย่างเต็มความสามารถ ศิลปินที่ในอดีตเป็นเด็กชายขี้อายทำให้ใครหลายคนได้เห็นถึงความสวยงามของความแตกต่าง และที่สำคัญที่สุด ‘ความเป็นตัวเองของทุก ๆ คน’ ที่มีคุณค่าและความน่าสนใจซ่อนอยู่เสมอ
ปัจจุบันนี้สามารถกล่าวได้ว่าพีพีเปิดประตูและก้าวเข้าสู่บทบาทของศิลปินอย่างเต็มตัว ไม่เพียงแค่ทุ่มฝีมือกับการสมบทบาทแสดงในซีรีส์เท่านั้น แต่ยังสามารถร้องเพลงโด่งดังไปถึงประเทศจีนอีกด้วย
ผลงานทั้งหมดนี้จะบรรลุผลสำเร็จแบบเต็มรูปแบบไม่ได้ ถ้าขาด ‘ความกล้าแสดงออก’ หากมองแบบผิวเผิน ใครหลายคนอาจคิดว่าศิลปินที่สามารถแสดงและร้องเพลงได้คงไม่มีอุปสรรคกับความกล้าแสดงออกอยู่แล้ว แต่หารู้ไม่ว่ากว่าการที่พีพีจะก้าวขาขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ เบื้องหลังไม่ได้ดูง่ายเหมือนเบื้องหน้า
ตั้งแต่วัยเยาว์ เด็กชายที่มีนามว่าพีพีไม่ใช่คนกล้าแสดงออก แม้ในปัจจุบันจะแต่งตัวด้วยลุคเท่สะดุดตาใครหลายคน แต่หากลองกรอเทปกลับไปช่วงที่ยังเด็ก เขาคือเด็กขี้อายคนหนึ่งที่ไม่ได้มั่นใจในตัวเอง
พีพีเคยให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง ณ ตอนนั้น จึงทำให้เป็นคนไม่กล้าแสดงออก แต่แล้วพอถึงจุดหนึ่งในชีวิตที่มีโอกาสไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในต่างแดน ด้วยความเบื่อหน่ายในเวลาว่างที่มีมาก จึงเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง
แต่ก็ใช่ว่าความมั่นใจจะเป็นสิ่งที่ได้มาในเวลาชั่วข้ามคืน เส้นทางการพิสูจน์ตัวเองของพีพีดำเนินเรื่อยมาอย่างต่อเนื่องแม้ในปัจจุบันก็ตาม เพราะการที่จะเชื่อมั่นในตัวเองอย่างแท้จริง เราต้องสามารถที่จะพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเราทำได้ ไม่ว่าจะในด้านไหน ๆ
ดังนั้น อุปสรรคที่ตั้งอยู่รายทางไม่เพียงแค่ปัจจัยภายนอกอย่างความยากท้าทายและความคาดหวังของคนอื่น แต่เป็นการแข่งขันกับตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเอง ‘ทำได้’ ด้วย
ก่อนจะมามีชื่อเสียงและถูกจับตามองในซีรีส์ ‘รักฉุดใจนายฉุกเฉิน (My Ambulance)’ ภายใต้สังกัดของนาดาวบางกอก เจ้าตัวมีผลงานด้านโฆษณาและการถ่ายแบบมาก่อน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าบทบาทสมทบอย่าง ‘ทิวเขา’ ที่มาคู่กับ ‘หมอเต่า’ ทำให้พีพีและบิวกิ้นเป็นนักแสดงที่น่าจับตามองอย่างมากในยุคนี้ ไม่ผิดนักถ้าจะบอกว่าผลงานดังกล่าวสามารถบันทึกไว้ในฐานะหมุดหมายของจุดเริ่มต้นในเส้นทางการแสดงและการพิสูจน์ตัวเองของพีพีที่สำคัญมากจุดหนึ่ง
ภายหลังจากการทำให้ผู้ชมและแฟนคลับมากมายประทับใจในความสามารถแล้ว พีพีเผชิญกับบทพิสูจน์ครั้งใหญ่กว่าเดิมกับบทบาท ‘โอ้เอ๋ว’ ในซีรีส์วายที่ได้รับความนิยมจากเหล่าผู้ชมและผู้ติดตามมากมายอย่าง ‘แปลรักฉันด้วยใจเธอ’ ที่ถือเป็นซีรีส์เรื่องแรกที่พีพีได้รับบทนำ
จากผลงานดังกล่าวสามารถกล่าวได้ว่าเป็นความท้าทายในเส้นทางการเติบโตของพีพี และสามารถปราบมันลงได้อย่างสวยงาม ไม่เพียงแค่สร้างความประทับใจแก่ผู้ชมด้วยฝีมือความสามารถเท่านั้น แต่เป็นการย้ำเตือนกับตัวเองอีกครั้งหนึ่งว่า
“ฉันทำได้”
ไม่เพียงแค่การท้าทายตนเองในแขนงการแสดงเท่านั้นที่พีพีก้าวขาเข้าไปพิสูจน์ตัวเอง เพราะเจ้าตัวก็ได้ออกซิงเกิลที่ไม่เพียงแค่มีคุณค่าในด้านความไพเราะเท่านั้น แต่ก็มีเนื้อหาดี ๆ ที่ให้กำลังใจกับเพลง ‘It’s Okay Not To Be Alright’ เพื่อจะบอกว่าหากวันใดเหนื่อยล้าหรือท้อแท้ก็หยุดพักบ้างแต่ฉัน—พีพี—จะอยู่ข้าง ๆ เธอตรงนี้ไม่ไปไหน
“แม้ว่าฝนจะเทลงมา อีกสักเท่าไร
แค่รู้ไว้ว่าฉันจะไม่ไปไหน”
“It’s okay not to be alright”
นอกจากจะสร้างชื่อในประเทศไทยจนเป็นที่ชื่นชอบและแฟนคลับมากมายแล้ว เสียงร้องของพีพียังดังไกลไปถึงแผ่นดินจีนกับเพลง ‘กีดกัน’ ที่ในเวอร์ชั่นภาษาไทยขับร้องโดยเพื่อนสนิทคู่หูอย่างบิวกิ้น แต่เวอร์ชั่่นภาษาจีนในชื่อ ‘หรูเหอ’ จะถูกขับร้องโดยพีพี ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
นอกเหนือจากฝีมือการแสดงและผลงานที่มีคุณภาพแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้พีพีครองใจใครหลาย ๆ คนก็คงเป็นการแต่งตัวของพีพี ที่มีความพิเศษในตัวเองจนหลายคนขอยกเป็นไอดอลด้านแฟชั่นเลยทีเดียว
แต่คำอธิบายของเจ้าตัวถึงที่มาของสไตล์การแต่งตัวอันโดดเด่นนั้นช่างเรียบง่าย เพราะเจ้าตัวแค่รักการแต่งตัวและเชื่อว่าสไตล์แฟชั่นมันไม่มีขอบเขต ขอเพียงใส่แล้วตัวเองมีความสุข ไม่สำคัญว่าเสื้อผ้าชิ้นไหนจะถูกมองว่าเป็นของเพศใด เพราะท้ายที่สุดแล้วหากมันทำให้เราเดินออกไปนอกบ้านได้อย่างมั่นใจและมีความสุขกับการเป็นตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ เท่านั้นก็เป็นเหตุผลที่มากพอแล้วที่เราจะ ‘ใส่อะไรก็ได้’
เส้นทางของศิลปิน ‘สายแฟ’ นามว่า พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ไม่ใช่เส้นทางที่เรียบง่าย เพราะตลอดรายทางเขาต้องพิสูจน์ตัวเองอยู่เสมอ พิสูจน์ว่าตัวเองสามารถทำได้และเชื่อในประสิทธิภาพของตัวเองอย่างมั่นคง หากสงสัยหรือไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้หรือไม่ กรณีของพีพีชี้ให้เห็นว่าทางแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดคือ ‘กระโดดลงไปทำ’ ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
หลังจากทำมันแล้ว เราจะพบเจอคำตอบเอง ไม่สำคัญว่าคำตอบจะเป็นรูปแบบไหน แต่สำคัญที่เราเป็นคนคว้ามันมาด้วยมือของตัวเอง
ในฐานะศิลปินนักแสดง พีพีไม่เพียงมุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่ของตนให้ผลลัพธ์ออกมาให้ดีที่สุดเท่านั้น แต่ตัวเขาเองยังเป็นตัวอย่างที่ดีในการย้ำเตือนและส่งเสริมให้ทุก ๆ คนกล้าเป็นตัวของตัวเอง กล้าที่จะพิสูจน์ตัวเอง และกล้าที่จะพัฒนาตัวเอง เพราะทุก ๆ คนล้วนมีคุณค่าและความสวยงามซ่อนอยู่เสมอ
เรื่อง: รัฐฐกรณ์ ศิริฤกษ์
ภาพ: Nadao Music
อ้างอิง:
https://www.gqthailand.com/views/article/it-is-okay-to-be-who-you-are
https://www.theguitarmag.com/feature/ppkritdebutsingle/
https://www.sanook.com/campus/1400284/
https://www.tnnthailand.com/news/trueinside/104818/
https://praew.com/fashion/fashion-celebrity/443296.html
