28 มิ.ย. 2565 | 12:33 น.
‘Inside SC - Freedom to Be Best’ ทำงานดี…เต็มที่ในแบบคุณ นิยามการทำงานอย่างมีอิสระเพื่อให้ทุก Gen อยากมาทำงานในทุกวัน
“เราทำงานกันแบบยืดหยุ่นมาก work from anywhere สัปดาห์ละสองวัน ที่ออฟฟิศวันจันทร์กับศุกร์ ส่วนที่โครงการให้อิสระจัดสรรเวลา Flexible time ตามลักษณะงาน เพราะเราเชื่อว่าการให้ความเชื่อใจและอิสระในการคิด จะทำให้คนทำงานอย่างมีความสุข แล้วส่งมอบงานที่ดีที่สุดให้ลูกค้า”
ครั้งแรกที่ได้ยิน พี่กุล-ศิริกุล เกรียงไกร เล่าให้เราฟังถึงรูปแบบการทำงานในตอนนี้ของ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก็แอบคิดไม่ได้ว่าน่าจะเป็นเพียงคำสวย ๆ ที่กล่าวในฐานะของการเป็น Chief People Officer เท่านั้น แต่พอได้คุยต่อแล้วเห็นรอยยิ้มพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นเป็นระยะของพวกเธอและทีมงาน ช่วยให้เราเริ่มเข้าใจมากขึ้นแล้วว่าทำไมที่นี่ถึงเป็นหนึ่งในองค์กรที่คนทุก Gen อยากมาทำงานมากที่สุด
แน่นอนว่าลำพังการปรับรูปแบบการทำงานที่เกือบทุกบริษัทก็หันมาทำแบบเดียวกันหลังวิกฤตโควิด คงไม่ใช่ต้นเหตุเดียวของความสุขที่ล้นออกมาจากคนผู้รักในงานที่ทำอยู่ทุกวัน ซึ่งเราสามารถสัมผัสได้ตลอดการสนทนา เพราะที่ผ่านมาทาง SC Asset ได้สร้างวัฒนธรรมที่ไม่ได้แค่ส่งมอบเช้าที่ดีให้กับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังหมายถึงเช้าที่ดีของทีมงาน รวมไปถึงทุกคนอีกด้วย
ถ้าถามว่าเบื้องหลังความสำเร็จที่ขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนแล้ว ยังได้เสียงตอบรับที่ดี ทั้งจากลูกค้าและผู้คนในองค์กร แม้จะเป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านวิกฤตการณ์ต่าง ๆ มากมาย คำตอบที่ได้อาจเริ่มต้นจากการให้ความสำคัญเรื่องธรรมดา ๆ อย่างการทำให้ทุกคนได้เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด
เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด
“เราเชื่อว่าการที่จะส่งมอบเช้าที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าได้ คนในองค์กรเองต้องตื่นมามีเช้าที่ดีเช่นกัน เราเลยออกแบบการทำงานเพื่อให้ทุกคนมีอิสระที่จะเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด เหมือนที่เราพูดว่า ทำงานดีเต็มที่ในแบบของคุณ โดยสร้างบรรยากาศการทำงานที่มีความเชื่อใจกัน”
หลังจากดูแลเรื่องภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ของ SC Asset ทั้งบ้านและคอนโดมากมายหลายโครงการตอนนี้ จูน-โฉมชฎา กุลดิลก Head of Corporate Brand ของ SC Asset ก็ได้หันมาดูแลการสร้าง Employer Branding ให้กับองค์กร เพื่อให้ที่นี่เป็นที่สร้างความสุขให้กับคนทำงาน
“เราเริ่มต้นจากการได้สัมภาษณ์นักศึกษาฝึกงานแล้วพวกเขาสะท้อนว่า ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยรู้จัก SC Asset แต่พอเขาได้รู้จักมากขึ้นก็พบว่าเป็นบริษัทใหญ่ที่มีเรื่องดี ๆ มากมาย จนเขาแปลกใจว่าทำไมไม่เคยรู้มาก่อนเลย เราเลยคิดว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องทำมากกว่าแค่การขายบ้านและคอนโด โดยขายสิ่งดี ๆ ขององค์กร SC Asset ให้คนรู้จักเราให้ดียิ่งขึ้น”
“ความยากของการที่กลุ่มเป้าหมายเปลี่ยนจากผู้อยู่อาศัยมาเป็นพนักงานของเราเอง คือเราไม่สามารถ segment คนออกเป็นกลุ่ม ๆ ได้เหมือนกับเวลาทำบ้านที่แบ่งตามรูปแบบการใช้งาน พื้นที่ หรือ ทำเล เพราะพนักงานของเราแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย แม้บางคนจะทำงานประเภทเดียวกัน เราเลยลองใช้วิธีให้ทุกคนได้เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด เพราะเราเชื่อว่าคนที่มีความสุขอย่างเต็มที่จะส่งมอบงานที่ดีที่สุดออกมา โดยที่เราคอยสนับสนุนและมีวัฒนธรรมองค์กรเป็นเข็มทิศให้ทุกคนสามารถเดินไปในเส้นทางเดียวกันได้”
แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากทีมผู้บริหารที่เห็นตรงกันว่าไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือสถานที่ทำงานต้องดูแลและสร้างสิ่งแวดล้อมให้มีความ worry-free เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยหรือทีมงานไม่ต้องกังวล แล้วใช้ชีวิตหรือทำงานในส่วนของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจูนเล่าว่าการสร้างสภาพแวดล้อมที่ไร้ความกังวลไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว พวกเธอเลยต้องใช้การรับฟังเสียงของพนักงานแล้วนำมาพัฒนาปรับเปลี่ยนต่อไปเรื่อย ๆ
“ที่ผ่านมาเราทำให้ที่นี่เป็นที่แรก ๆ ที่พนักงานคิดถึงเวลามีปัญหา อย่างมีพนักงานที่เสี่ยงเรื่องโควิด แทนที่เขาจะโทรหาโรงพยาบาลให้มารับ ก็กลับโทรมาที่บริษัทให้ช่วยประสานงานให้แทน” จูนเล่าเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นให้ฟัง
ออฟฟิศที่วันจันทร์ไม่น่าเบื่อ
‘ชีวิตทำงานไม่สนุกเหมือนตอนเรียนหนังสือ’ คนทำงานหลายคนน่าจะคิดแบบเดียวกัน ยิ่งสำหรับมนุษย์เงินเดือนหลายคนที่ไม่อยากมาออฟฟิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเช้าวันจันทร์ แต่สำหรับสำนักงานใหญ่ SC Asset แล้ว ทางจูนและทีมงานได้พยายามช่วยกันสร้างบรรยากาศให้ออฟฟิศ SC Asset เป็นเหมือนแคมปัสมากกว่าเป็นออฟฟิศเพื่อให้พนักงานรู้สึกว่าการมาทำงานเหมือนกับการไปเจอเพื่อน
ส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้ที่นี่น่าทำงาน มาจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบจากความต้องการจริง ๆ ของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็น Social Club ที่มีทั้งฟิตเนสพร้อมเทรนเนอร์ ลู่วิ่งขนาดใหญ่ คอร์ดแบดมินตัน โต๊ะปิงปอง โต๊ะพูลขนาดมาตรฐาน ห้องคาราโอเกะ ไปจนถึงเครื่องสร้างความบันเทิงต่าง ๆ ที่พนักงานสามารถเข้ามาใช้บริการเหล่านี้ได้ตลอดทั้งวัน
“นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ แล้วเรายังออกแบบการทำงานที่มีความยืดหยุ่นทั้ง hybrid workplace ในวันจันทร์กับวันศุกร์ แล้วมี flexi-benefit สิทธิประโยชน์ที่พนักงานเลือกได้เอง นอกเหนือจากสวัสดิการพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว เรายังมี CO.Lab ที่เป็นพื้นที่ workplace แบบเปิดเพื่อให้ทุกคนมาทำงานร่วมกับแผนกอื่นได้”
“Hybrid workplace ช่วยให้พนักงานเอาเวลาไปดูแลครอบครัว บางคนบ้านอยู่ต่างจังหวัด วันพฤหัสก็กลับบ้านไปอยู่กับลูก แล้วเวลาประชุมก็อุ้มลูกประชุมไปด้วย หลายคนเอาไปพัฒนาตัวเอง หรือไปออกกำลังกาย บางคนน้ำหนักลดลงกว่า 20 กิโลกรัม จนเขาดูดีขึ้น สุขภาพดีขึ้น เขาเลยรักตัวเองมากขึ้น แล้วรักองค์กรมายิ่งขึ้น หลังจากปรับมาเป็น hybrid workplace ได้ปีกว่า พบว่าประสิทธิภาพการทำงานก็ไม่ลดลงเลย กลับกันทำให้การเริ่มต้นในเช้าวันจันทร์ไม่ดูแย่อีกต่อไป”
“ตอนนี้เรากำลังทดลอง workcation เป็นการรวมกันของการทำงานกับการพักผ่อน ซึ่งเข้ากับรูปแบบชีวิตของคนปัจจุบันที่พนักงานสามารถออกแบบได้เอง งานก็ไม่เสีย เวลาส่วนตัวก็ได้ด้วย เป็นการออกแบบการทำงานในรูปแบบชีวิตแบบใหม่ ซึ่งเราอยู่ในช่วงทดลองถ้าโอเคก็เอามาใช้จริงได้ทันที”
วัฒนธรรมที่ทุกคนมีส่วนออกแบบ
“วัฒนธรรมของพวกเรา ส่วนหนึ่งมาจากการรับฟังเสียงพนักงาน เราเรียกว่า #SCskydive ประกอบด้วย core value หรือค่านิยมองค์กร 4 ตัวคือ Care ใส่ใจลูกค้า รู้ใจลูกค้า Courage กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ นำเสนอสิ่งใหม่ Collaboration ทำงานร่วมต่างแผนก ต่างบริษัท มุ่งมั่นไปสู่จุดหมายร่วมกัน และ Continuous Improvement เรียนรู้สิ่งใหม่ และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ”
การทำให้เสียงของทุกคนในองค์กรมีค่าด้วยการตั้งใจรับฟังเสียงของพวกเขาอย่างจริงใจ แล้วนำสิ่งที่ได้มาปรับใช้จนหลายอย่างกลายเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมองค์กร ช่วยให้พนักงานรู้สึกถึงคุณค่าในงานที่ทำ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่ง Chief People Officer ของ SC Asset ได้พูดถึงการทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่ว่า
“เราเรียนรู้ว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้วตอนนี้พนักงานส่วนใหญ่ของเราเป็น Gen Y กว่า 70% และมี Gen Z กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งคนรุ่นใหม่ชอบ flexibility ในการทำงาน เพราะสามารถจะดูแลจัดการชีวิตของตัวเองได้ เราเลยมีการทำงานที่ยืดหยุ่น แล้วดูที่ performance เป็นหลัก ซึ่งถ้าเราเข้าใจจะรู้ว่า สิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องการคือการมีพื้นที่ การได้แสดงออก การได้เป็นในสิ่งที่เขาอยากจะเป็น เราจะไปกำหนดกรอบให้เขาไม่ได้ เลยเป็นที่มาของ ‘Freedom to Be Best’ เป็นการให้อิสระเพื่อให้เขาส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเรา”
พี่กุลย้ำว่าการทำงานร่วมกับทีมงานที่มีความหลากหลายต้องใช้การเปิดใจฟัง แล้วก็เข้าใจ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูดคุยกันปรับการทำงานร่วมกัน เพื่อนำมาสู่เป้าหมายที่เป็นวัฒนธรรมขององค์กร
โลกปัจจุบันที่แม้จะหมุนตามคนรุ่นใหม่ แต่เธอบอกว่าเราต้องดูแลทุกคนในองค์กร ทำให้ SC Asset ได้ออกแบบสวัสดิการที่อิงตามความหลากหลายของคนแต่ละ Gen ซึ่งเลือกได้มากมาย อาจเลือกการทำฟัน ตัดแว่น ท่องเที่ยง สมัครฟิตเนส ทำสปา อื่น ๆ ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองในรูปแบบ Flexi-Benefits
“SC Asset ให้ความสำคัญกับพนักงานมาก หลายคนบอกว่าที่นี่ดูแลพนักงานดีมาก ดูแลในเรื่องสวัสดิการ สุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพการเงิน รวมไปถึงสุขภาพครอบครัวพนักงาน”
ดูแลในทุกมิติ
จากเป้าหมายในการส่งมอบ living solutions เพื่อสร้างทุกเช้าที่ดีให้กับลูกค้าทุกคน รวมทั้งการสร้างความยั่งยืน สร้างคุณค่า สู่ผู้คนและสิ่งแวดล้อม เป็นที่มาของนโยบาย ‘สมดุลดี สังคมดี และอนาคตดี’ ที่ทางทีมงานเรียกว่านโยบาย 3 ดี
“จากการตั้งเป้าหมายว่า SC จะเป็นองค์กรอสังหาฯ ที่น่าทำงานอันดับ 1 ด้วยนโยบายที่เรียกว่า 3 ดี คือ สมดุลดี สังคมดี และ อนาคตดี เรื่องสมดุลดี จะเห็นจากการทำงานที่ยืดหยุ่น ทำงานจากที่ไหนก็ได้ ส่วนของโครงการ ให้ flexible time จัดสรรเวลาการทำงานตามความเหมาะสมในแบบของตัวเอง ส่วนสวัสดิการ เราให้จัดสวัสดิการได้ตามความต้องการของตัวเอง เราเรียกเล่น ๆ ว่างบเปย์ตัวเอง มีข้อกำหนดคือต้องใช้เพื่อดูแลตัวเอง แล้วกลับมาทำงานได้อย่างเต็มที่ เป็นสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ที่เราให้เพิ่มนอกเหนือจากสวัสดิการอื่น ๆ ที่เราให้พนักงานอยู่แล้ว”
“สังคมดี เรามีวัฒนธรรมในการเอาใจใส่กัน นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมด้วย ดูจากสวัสดิการใหม่ ๆ ที่พนักงานทุกคนได้รับเท่ากันหมด อย่างเช่น การเจ็บป่วยที่ทุกคนก็มีโอกาสเจ็บป่วยได้เท่า ๆ กัน ดังนั้นตั้งแต่ระดับบริหารจนถึงพนักงานทั่วไป ก็จะได้รับสวัสดิการตรงนี้เท่า ๆ กัน ไปจนถึงสิทธิประโยชน์ที่ให้ทุกเพศวัยได้รับเท่ากัน อย่างการสมรสเท่าเทียม และไม่ลืมให้สิทธิประโยชน์สำหรับคนโสด เพราะเรามองเรื่องความเท่าเทียมเป็นอันดับต้น ๆ ”
“อนาคตดี เราสนับสนุนในเรื่องการเรียนรู้สิ่งใหม่ และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ให้ทุกคนเติบโตไปพร้อมกับองค์กร สนับสนุนพนักงานให้เรียนรู้ Reskill และ Upskill ทั้งการเข้าร่วมหลักสูตร การศึกษาดูงานทั้ง ในและต่างประเทศ”
พี่กุลบอกว่า เพื่อตอบโจทย์ Future of work เรามีแพลตฟอร์มให้พนักงาน เรียกว่า SCinOne ที่รวบรวมทุกอย่างที่จำเป็นไว้ในที่เดียว ให้บริการแบบ Self Service สามารถค้นหาข้อมูลด้านทรัพยากรบุคคล และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ช่วยให้คนในองค์กรได้รับประสบการณ์ที่ดีเวลาต้องติดต่อกับฝ่ายทรัพยากรบุคคล และการใช้บริการด้านต่าง ๆ
สิทธิประโยชน์และสวัสดิการใหม่ ๆ ของเรา ส่วนใหญ่มาจากการลองผิดลองถูกของทีมงาน เรื่องไหนได้รับเสียงตอบรับที่ดีก็ได้ไปต่อ ส่วนเรื่องที่ยังไม่ดีพอก็นำกลับมาปรับปรุง อย่างโครงการให้ดาวระหว่างพนักงานด้วยกันผ่านแอปพลิเคชัน ที่นอกจากแทนคำขอบคุณ ยังช่วยให้พนักงานมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ยังสร้างคุณค่าและความหมายให้กับงานที่แต่ละคนกำลังทำ รวมถึงเอาดาวที่ได้นำมาแลกเป็นของรางวัลสร้างความสนุกสนานกันในทีมได้อีกด้วย
“พนักงานในทีมบอกว่าการได้คำชมเป็นดาวหนึ่งดวง ก็ช่วยให้เช้าที่ตื่นมามีความหมายมากขึ้น บางคนถึงกับแคปหน้าจอเก็บไว้เวลาผู้บริหารให้ดาวเขา เรื่องนี้เลยเป็นวัฒนธรรมเล็ก ๆ ที่น่ารัก เพราะเป็นเรื่องที่มีคุณค่าทางใจ เป็นความรู้สึกที่มีความหมาย”
สร้างทุกเช้าที่ดีให้กับทุกคน
“สิ่งที่ทำให้ผมอยากตื่นเช้ามาทำงานที่นี่เพราะได้เก่งขึ้นในทุกวัน ผมตั้งใจว่าถ้าอยู่แล้วไม่ได้พัฒนาก็จะไปทำงานที่ท้าทายกว่า แต่ตอนนี้ก็อยู่มา 7 ปี แล้วทุกวันก็ยังมีเรื่องใหม่ ๆ ให้ทำอยู่ตลอด”
“อยากตื่นมาทำงานเพื่อที่จะได้เจอเพื่อนเจอทีมงาน เพราะที่นี่ทุกคนพร้อมจะช่วยเหลือกันหมด เป็นบรรยากาศการทำงานที่เรารู้สึกอบอุ่น”
“เสียงตอบรับดี ๆ จากงานที่เราทำ ช่วยให้เรารู้สึกมีคุณค่าแล้วอยากมาทำงานที่นี่ในทุกวัน”
“ที่นี่เปิดโอกาสให้เราทำงานได้อย่างมีอิสระแล้วสามารถดึงศักยภาพของเราอย่างเต็มที่ทำให้เราสนุกไปกับงาน”
นี่เป็นตัวอย่างจากทีมงาน SC Asset ส่วนหนึ่ง ที่ตอบคำถามว่าอะไรทำให้อยากตื่นเช้ามาทำงานที่นี่ในทุกเช้า ซึ่งคำถามเดียวกันนี้ จูนในฐานะ Head of Corporate Brand ได้ตอบว่า
“เราโชคดีที่เจองานที่ชอบมาก จนบางครั้งทำงานจนลืมวันไปเลย เพราะเราเป็นคนที่มองเห็นคุณค่าในทุกอย่างที่ได้ทำ และเรารักในการสร้างคุณค่าในสิ่งที่ทำด้วย อย่างวันนี้เรากำลังสร้างคุณค่าให้กับองค์กรในฐานะการเชิญชวนคนทุก generation ให้มาร่วมงานกับเรา ทำอย่างไรให้คนเก่งอยากทำงานที่นี่ เราเลยอยากตื่นมาเพื่อทำงานนี้ในทุกวัน ความรักในงานและความผูกพันกับทีมทำให้ไม่ได้รู้สึกว่ามาทำงานสักเท่าไหร่ เหมือนมาใช้ชีวิตมากกว่า บางครั้งก็ไม่อยากให้ถึงเสาร์อาทิตย์เลย”
‘Inside SC - Freedom to Be Best’ ทำงานดี…เต็มที่ในแบบคุณ
ถ้าเปรียบเทียบการสร้างแบรนด์เป็นเหมือนสร้างบ้าน บ้านที่ดีช่วยให้คนอยู่อาศัยมีความสุขอย่างไร แบรนด์ที่ดีที่เกิดจากการร่วมมือออกแบบของผู้คนในองค์กร ก็ช่วยให้คนได้ทำงานอย่างมีความสุขไม่ต่างกัน
“เราถามพนักงานว่า ความสุข ความทุกข์ ความหวัง เป้าหมายของพวกคุณคืออะไร เพื่อให้รู้ insight ของพนักงานแต่ละคน อย่างเช่น ความสุขของเขาคือการไม่ต้องเดินทางมาทำงานที่ออฟฟิศ กลับกันความทุกข์ของเขาคือการแบกคอมพิวเตอร์หนัก ๆ กลับบ้าน เราเลยช่วยเขาด้วยการเปลี่ยนคอมพิวเตอร์เครื่องเล็ก เพื่อเอากลับบ้านได้ง่ายขึ้น ช่วยให้เขาทำงานอย่างมีความสุข”
“ถ้าเรามีความสุขทุกด้าน เราก็สามารถไปส่งต่อความสุขให้กับทุกคนต่อไปได้ เราเลยดูแลทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ สุขกาพการเงิน ไม่ให้เขามีภาระและความกังวล เพราะถ้ามีภาระแล้วจะส่งต่อความสุขได้อย่างไร พอเขาไม่ต้องกังวลแล้ว เขาก็ให้งานที่มีความสุขกลับมา ซึ่งเราจะสัมผัสได้เลยว่าเป็นงานที่เกิดจากคนที่มีความสุข จากเดิมงานที่เป็นงานแห้ง ๆ ตอนนี้เราสัมผัสได้เลยว่าเป็นงานที่สร้างจากคนที่มีความสุขจริง ๆ ”
เพราะความสุขเป็นสิ่งที่ส่งต่อกันได้ และจุดเริ่มของความสุขส่วนหนึ่งมาจากการให้อิสระให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเอง เป็นที่มาของ Inside SC- Freedom to Be Best ทำงานดีเต็มที่ในแบบคุณ
“เราอยากให้คนรู้ว่า SC Asset ไม่ได้แค่เป็นบริษัทที่สร้างบ้านที่ดี แต่เรายังสร้างองค์กรที่ดี ที่น่ามาทำงานสำหรับทุกคน เป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถแสดงความคิด มุมมองได้หลากหลาย ซึ่งแคมเปญ Inside SC- Freedom to Be Best จะช่วยให้คนรู้จักและอยากมาทำงานกับเรามากขึ้น โดยมีเป้าหมายว่าจะเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์น่าทำงานอันดับ 1”
พร้อมติดตามรับชมเรื่องราว ‘Inside SC - Freedom to Be Best’ ทำงานดี เต็มที่ในแบบคุณ ได้ที่ http://insidesc.scasset.com
พบกันทุกช่องทางของ Inside SC
Facebook : m.scasset.com/8J6q
Instagram : m.scasset.com/8J6r
Tiktok : m.scasset.com/8J6u
Linkedin : m.scasset.com/8J75
Line@ : m.scasset.com/8J6y
