‘ไลฟ์บอย’ สบู่อายุ 128 ปีเกิดช่วงโรคระบาด และต้นกำเนิดวลี ‘พูดไปก็ไลฟ์บอย’

“พูดไปก็ไลฟ์บอย” เป็นวลีฮิตที่เคยโด่งดังในอดีต (ใครทันแสดงว่ามีอายุพอสมควรแล้ว) ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่า ต้นกำเนิดของวลีนี้มาจาก ‘ไลฟ์บอย’ (Lifebuoy) สบู่เก่าแก่อายุ 128 ปี ที่เริ่มต้นในยุคโรคระบาดของอังกฤษ และปัจจุบันได้หวนกลับมาทำตลาดในบ้านเราอีกครั้งหลังจากหายไปนานกว่า 40 ปี  

สบู่ไลฟ์บอยย์ เป็นสบู่สุขภาพในกลุ่ม Anti- Bacteria โดยมี ‘วิลเลียม ลีเวอร์’ (William Lever) ผู้ก่อตั้ง ‘ลีเวอร์’ หรือในปัจจุบันก็คือ ‘ยูนิลีเวอร์’ ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจคอนซูมเมอร์โปรดักท์ของโลกเป็นผู้พัฒนาขึ้นมาเมื่อปี 2437 ในช่วงที่อังกฤษต้องเผชิญกับการโรคระบาดทั้งโรคอหิวาต์ โรคท้องร่วง และโรคปอดบวม

สาเหตุเพราะการแพทย์ยุคนั้นมองว่า การล้างมือด้วยสบู่เป็นวิธีกำจัดเชื้อโรคได้ดีที่สุด และนอกจากคุณสมบัติ Anti- Bacteria แล้วเพื่อให้เข้าถึงคนเป็นจำนวนมากได้ วิลเลียมได้ผลิตสบู่ไลฟ์บอยออกมาขายในราคาไม่สูง ทำให้ไลฟ์บอยได้รับการตอบรับดีมาก สามารถขยายการจำหน่ายไปใน 100 ประเทศทั่วโลก (ตอนนี้มีการขายในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก รวมไปถึงอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลลิปปินส์ เวียดนาม เมียนมา กัมพูชา และไทย)

สำหรับในไทย ยูนิลีเวอร์ได้นำไลฟ์บอยเข้ามาทำตลาดในกลุ่มสบู่ก้อนช่วยระงับกลิ่นกาย ชูการมีสาร “พูราลิน” ที่ป้องกันเหงื่อไคลได้นานเป็นจุดขาย ซึ่งนับเป็นรายต้นๆ ที่เข้ามาเจาะตลาดในกลุ่มนี้ และตั้งราคาจำหน่ายไว้ 2.50 บาท จนกลายเป็นสินค้าขายดี

ความฮอตของไลฟ์บอยไม่ได้สะท้อนเพียงความนิยมในเรื่องยอดขาย ชื่อแบรนด์ยังกลายเป็นวลีฮิต ‘พูดไปก็ไลฟ์บอย’ ที่ถูกนำไปใช้ในโฆษณาโด่งดัง และถูกนำไปเป็นเพลงของ ‘ไพจิตร อักษรณรงค์’ นักร้องดังในยุคนั้น

ทว่าเมื่อการแข่งขันที่รุนแรงของตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย โดยเฉพาะสบู่ก้อน ซึ่งมีแบรนด์คู่แข่งรายใหม่เข้ามามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เซฟการ์ด, โพรเทคส์ ฯลฯ เป็นต้น ยูนิลีเวอร์ต้องใช้นโยบาย ‘มัลติแบรนด์’ ออกแบรนด์ใหม่ในสินค้ากลุ่มเดียวกันออกมาสู้ ได้แก่ ‘ฮาร์โมนี่’ ที่ตอนนี้หายไปจากตลาดบ้านเราแล้วหลายปี และ ‘วาสลีน’

กลยุทธ์ดังกล่าว แม้จะออกมาเพื่อแข่งขันกับคู่แข่ง ขณะเดียวกันก็เป็นการแย่งส่วนแบ่งการตลาดไปจากไลฟ์บอยไปเรื่อยๆ กระทั่งในสุดต้องหายไปจากตลาดในไทยไปกว่า 40 ปี และได้รีเทิร์นกลับมาอีกครั้งในปี 2563

การกลับสู่ตลาดครั้งใหม่นี้ ยูนิลีเวอร์ให้เหตุผลว่า มาจากเห็นช่องทางการตลาดและโอกาสการเติบโตของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ระบาด ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ยังคงจุดแข็งของสบู่ Anti- Bacteria ที่เคยสร้างตำนานในอดีตมาเป็นจุดขาย รวมถึงไม่ได้โฟกัสแค่ ‘สบู่ก้อน’ และ ‘สบู่เหลว’ ยังเพิ่ม ‘เจลแอลกฮอลล์ล้างมือ’ มาเป็นอีกโปรดักท์ใหม่ 

แม้จะมีดีกรีเป็นแบรนด์ระดับตำนาน แต่จากการที่หายไปกว่า 40 ปี บวกกับเจนเนอเรชั่นของผู้คนที่เปลี่ยนไป ที่สำคัญกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดร่างกายในไทยก็มีการแข่งขันสูง ดังนั้นการรีเทิร์นกลับสู่ตลาดในบ้านเราของไลฟ์บอยดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน