read
culture
22 มี.ค. 2562 | 12:09 น.
ชอว์น เลวี โปรดิวเซอร์ระดับเทพ ผู้อยู่เบื้องหลัง Stranger Things
Play
Loading...
เริ่มต้นซีซัน 3 อย่างเป็นทางการก็กลายเป็นกระแสสร้างความตื่นเต้นไปทั่วโลกกับซีรีส์ Stranger Things ทางเน็ตฟลิกซ์ โดยเรื่องราวในเรื่องยังคงสานต่อความสัมพันธ์ของผองเพื่อน และการต่อกรกับปีศาจในโลกคู่ขนาน ภายใต้บรรยากาศใหม่วันชาติในปี 1985
แน่นอนว่าเหล่านักแสดงนำทั้งรุ่นใหญ่
เดวิด ฮาร์เบอร์, วิโนนา ไรเดอร์
หรือรุ่นเล็ก
ฟินน์ วูล์ฟฮาร์ด, มิลล์ บ็อบบี บราวน์, เกเตน มาตาราซโซ
ฯลฯ ก็กลายเป็นนักแสดงโด่งดังที่รับงานเบอร์ใหญ่เป็นที่เรียบร้อย เหนือสิ่งอื่นใดผู้ที่ต้องให้เครดิตความสำเร็จของซีรีส์นี้คงหนีไม่พ้นผู้กำกับสองพี่น้อง
แมตต์
และ
รอสส์ ดัฟเฟอร์
ผู้ปลุกปั้นซีรีส์นี้
รวมไปถึงชายอีกคนที่อยู่เบื้องหลัง และลงมานั่งกำกับด้วยตัวเองในบางตอนกับ
ชอว์น เลวี
โปรดิวเซอร์/ผู้กำกับชื่อดัง ผู้ก่อตั้ง 21 Laps Entertainment บริษัทผู้สร้างซีรีส์และภาพยนตร์ชื่อดังอีกมากมาย
เชื่อได้ว่าหลายคนคงรับชมผลงานของ ชอว์น เลวี ผ่านตามาบ้างแหละ เพราะเขาคือผู้กำกับภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง เช่น แฟรนไชส์ Night at the Museum (2006-2014), Date Night (2010), Real Steel (2011) หรือ The Internship (2013) แต่ความเก่งกาจไม่ใช่แค่การกำกับ เขายังเป็นโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์มากมาย เช่น The Spectacular Now (2013), Arrival (2016) รวมถึงซีรีส์ Stranger Things ด้วย
“ผมเลิกกำกับหนังเพื่อมาทำงานอย่างอื่นตั้งแต่ปี
2015
ตอนนั้นผมมีหนัง
2
เรื่องใน
1
ปี ทำหนังเสร็จ
11
เรื่องใน
13 ปี ผมเพิ่งมาตระหนักรู้เมื่อเพื่อน ๆ และคนในครอบครัวบอกว่า “แกมันเสพติดการกำกับมากเกินไปแล้ว
!
” ผมจึงตัดสินใจทันทีว่าพอ บังคับตัวเองให้อดทนไม่ให้กำกับอะไรมาก แม้ว่ามันจะยากก็ตาม แล้วเติมความคิดสร้างสรรค์จากการอำนวยการสร้างแทน”
สำหรับเขา ความท้าทายในการเป็นโปรดิวเซอร์ในยุคปัจจุบันคือการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของคนในวงการ ที่จู่ ๆ ก็เข้ามาเกี่ยวข้องกับหนังสักเรื่องแล้วเรียกตัวเองว่าโปรดิวเซอร์
“มันน่าหงุดหงิดชะมัด พวกเขาทำให้งานแย่ลง และคนที่ทำงานหนักอย่างพวกเราต้องแชร์ค่าธรรมเนียมและให้เครดิตให้กับคนที่ไม่ได้ทำห่าอะไรเลย นี่แหละคือปัญหาของวงการหนัง และมันห่วยแตกสิ้นดี”
สำหรับการเข้ามาอำนวยการสร้าง Stranger Things สิ่งนี้เกิดขึ้นแค่เพียง 10 นาทีในการนั่งคุยกับสองพี่น้องดัฟเฟอร์ ด้วยประสบการณ์การทำงานในวงการมานานหลายปี เขารับรู้ได้ทันทีว่า ซีรีส์เรื่องนี้ต้องดังระเบิดระเบ้อเป็นแน่
“
Stranger Things เป็นส่วนขยายขอบเขตความฝันในวัยเด็ก เรื่องราวของมันช่างสปีลเบิร์ก (
สตีเวน สปีลเบิร์ก)
และแอมบลิน (บริษัทสร้างหนังของสปีลเบิร์ก เจ้าของผลงานดังที่เป็น
Reference
มากมายให้กับซีรีส์นี้ เช่น
E.T. (1982) The Goonies (1985)
ฯลฯ) แต่มีเรื่องราวที่แปลกและแตกต่างออกไป”
เพียงแค่คุยกันเลวีก็ทราบทันทีว่าสองพี่น้องเป็นคนทำงานที่สำคัญในอนาคต เขาจึงเสนอซีรีส์นี้แก่เน็ตฟลิกซ์ และภายใน 24 ชั่วโมง พวกเขาก็ขายงานได้ทั้งซีซัน
หนึ่งในความสำเร็จของซีรีส์คือการนำบรรยากาศ และองค์ประกอบของภาพยนตร์ยุคเก่ามาใช้อย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งยังมีเรื่องราวที่ติดตามเป็นอย่างมาก เลวีหวังว่าจะมีคนดูจำนวนไม่น้อยที่ติดซีรีส์เรื่องนี้อย่างงอมแงม เพราะตัวเขาเองก็ติดเรื่องนี้ตั้งแต่พัฒนาบทแล้ว
“เนื้อหามันน่าติดตาม ผมอ่านบทแล้วเขียนโน้ตกลับไป เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่พวกเขาจะส่งบทต่อ ๆ ไปในกล่องข้อความ”
ระยะเวลาผ่านไป Stranger Things เดินทางมาถึงซีซัน 3 แล้ว ตัวละครต่าง ๆ เริ่มเติบโตเป็นวัยรุ่น ทำให้พวกเขาเริ่มเสริมเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงช่วงวัยเข้ามาเสริมด้วย นับเป็นการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตัวละครไปพร้อมกัน
อย่างไรก็ดี เรื่องราวดั้งเดิมที่สองพี่น้องดัฟเฟอร์วางไว้ Stranger Thingsจะจบที่ซีซัน 4 เท่านั้น โดยเลวีให้สัมภาษณ์กับ Entertainment Weekly ไว้ว่า
“ราวหัวใจแตกสลาย เมื่อรู้ว่าสองพี่น้องจะสร้างซีซัน
4
เป็นตอนอวสาน... ที่จริงเราตั้งใจสร้างซีซัน
4
และมีความเป็นไปได้ว่าจะสร้างซีซัน
5
แต่หลังจากนั้นก็คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้แล้ว”
เช่นเดียวกับสองพี่น้องดัฟเฟอร์ที่บอกว่า ซีซัน 3 ยังไม่ใช่ตอนจบ แต่ในซีซัน 4 หรืออาจจะ 5 เป็นการจบซีรีส์ที่ลงตัวที่สุด และบทสรุปของเรื่องราวจะเป็นหัวใจสำคัญ
แน่นอนว่า การทำงานย่อมพบช่วงเวลาท้อแท้ สำหรับเขาเคยได้รับแนวคิดว่าจากโปรดิวเซอร์ที่มีประสบการณ์ว่า ต้องทรหดอดทนอย่างถึงที่สุด และต้องเป็นคนที่ไม่รู้จักเหน็ดเหน็ด ด้วยเหตุนี้ เขาจึงพยายามหาแนวทางภาพยนตร์ใหม่ ๆ มาอำนวยการสร้างอยู่เสมอ
“ในฐานะนักดูหนังคนหนึ่ง ผมชอบความหลากหลายของภาพยนตร์ แล้วทำไมผมยังต้องเป็นผู้กำกับหรือโปรดิวเซอร์หนังแนวเดิม ๆ ด้วยละ จริงไหม?”
ข้อมูล
mentalfloss
kapook
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
‘บิ๊กโจ๊ก’ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ตำแหน่งใหญ่ขณะอายุน้อย บารมีมาก เส้นทางสีกากีติดไฮสปีด
15 ก.ย. 2566
3556
ถอดรหัส ‘Naatu Naatu’ เพลงประกอบหนังอินเดียฉากร้อง-เต้นใน RRR ได้ออสการ์-Golden Globes
13 มี.ค. 2566
6975
‘เอมิลิโอ เฟอร์นันเดส’ ชายผู้เป็นต้นแบบของตุ๊กตารางวัล ‘ออสการ์’
12 มี.ค. 2566
871
แท็กที่เกี่ยวข้อง
Culture
The People
Stranger Things
Shawn Levy