คลิกฟังข่าว!!
กำลังโหลด
read
interview
28 มี.ค. 2562 | 13:33 น.
สัมภาษณ์ Jeremyville เพราะทุกอย่างคือศิลปะ
ย้อนกลับไปช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา หากใครเดินเล่นช็อปปิ้งบริเวณห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุง อาจจะคุ้นตากับภาพการ์ตูนลายเส้นสุดน่ารักสีสันสดใส พร้อมข้อความชวนคิดเกี่ยวกับชีวิต เจ้าของผลงานนั้นคือ
Jeremyville
ศิลปินชื่อดังระดับโลก ผู้ติดระดับ 100 Best Illustrator จากนิตยสาร New York Times
ล่าสุดเขาเดินทางกลับมาไทยอีกครั้งในงานเปิดตัวบริการธนาคารเพื่อดิจิทัลเจเนอเรชันแห่งแรกในอาเซียน TMRW จากธนาคาร UOB เพื่อถ่ายทอดภาพอนาคตในจินตนาการภายใต้คอนเซ็ปต์
“A Smarter TMRW”
โดยเหตุผลที่ UOB เลือก Jeremyville มาร่วมโปรเจกต์ครั้งนี้ ก็เพราะเขาเป็นศิลปินที่มีอิทธิพลต่อมิลเลนเนียลสูง เป็นไอดอลสำหรับใครหลาย ๆ คนที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางที่ตนเองรักและใฝ่ฝัน Jeremyville จึงเป็นตัวแทนศิลปะของคนรุ่นใหม่ที่เชื่อมโยงถึงทุกคน
The People มีโอกาสได้คุยกับ Jeremyville เพื่อทำความรู้จักตัวตนในงานศิลปะของเขาให้มากขึ้น
The People:
คุณรู้จักศิลปะตั้งแต่ตอนไหน และศิลปะมีอิทธิพลอะไรกับคุณบ้าง
Jeremyville
:
ศิลปะคือทุกอย่างรอบตัวเรา งานศิลปะไม่ใช่แค่งานเขียน วาดภาพ หรืองานปั้น แต่คือทุกอย่าง ยกตัวอย่าง ผมสร้างงานศิลปะครั้งแรกตั้งแต่ 8 ขวบ เป็นการทำอาหารซึ่งก็คือการทำงานศิลปะอย่างหนึ่ง หรือการนำเสื้อผ้ามาตัดแต่งใหม่เป็นงานที่ผมสร้างสรรค์ขึ้นมาเอง เรียกว่าทำงานศิลปะมาตั้งแต่เด็ก
ผมคิดว่าเราทุกคนล้วนเป็นงานศิลปะที่ไม่เหมือนกันสักชิ้นเดียว มันคือตัวตนของเรา อยู่ในเลือดเนื้อและจิตวิญญาณของทุกคน เพราะแต่ละคนมีสไตล์และแนวทางของตัวเอง ตอนนี้ไม่มีการแบ่งแยกว่า ใครวาดรูปก็ต้องวาดรูปอย่างเดียว มันอยู่ในตัวตนว่าอยากสร้างสรรค์อะไร หรือแสดงออกตัวตนทางศิลปะอย่างไร ทุกคนล้วนสามารถทำได้ทั้งนั้น
The People:
โดยปกติแล้ว คุณใช้อะไรเป็นหลักการในการทำงานศิลปะ
Jeremyville
:
สัญชาตญาณครับ สัญชาตญาณคือทุกอย่าง แต่ละวันผมไม่ได้วางแผนว่าจะวาดภาพอะไร เห็นอะไรแล้วก็วาดออกมาตามสัญชาตญาณของความเป็นศิลปะ เหมือนกับสิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องการนั่นคือการควบคุมความเป็นไปได้ ฉะนั้นการทำงานจึงเกิดขึ้นตามสัญชาตญาณ ผลงานของผมจึงสด ใหม่ และคิดได้แบบทันทีทันใด งานศิลปะจึงเป็นความแอ็บสแตร็กส์ บวกกับตัวตนของผมที่ความเอ็นเตอร์เทนเมนต์อยู่ในตัว ผมจึงมักวาดอะไรตามอารมณ์
แต่ผมไม่ได้ทำงานศิลปะคนเดียว เพราะผลงานจะเปิดช่องว่างตอนท้ายเอาไว้เสมอ เหลือพื้นที่ให้คนอื่นมีส่วนร่วม หรือมีประสบการณ์ร่วม ฉะนั้นสไตล์งานไม่ใช่ว่าศิลปินเป็นคนคนหนึ่ง และตัวผลงานเป็นอีกคนหนึ่ง แต่ผมมองว่าคนรุ่นใหม่เห็นงานศิลปะเหมือนการเดินทาง ศิลปะช่วยเปิดประตูไปสู่โลกใบใหม่ ไปมีส่วนร่วมกับสิ่งอื่นหรือคนอื่นมากขึ้น ทุกวันนี้ไม่มีการแบ่งแยกตัวตนกับผลงานอย่างชัดเจนต่อไปแล้ว เส้นที่เคยแยกมันเบลอไปหมด แล้วค่อย ๆ เปิด เข้ามาร่วมกันได้สนิทมากขึ้น
The People:
ช่วยเล่ากระบวนการทำงานศิลปะของคุณให้ฟังหน่อยว่าเริ่มจากอะไร
Jeremyville
:
ผมมีสมุดสเก็ตช์ภาพหนึ่งเล่มที่วาดไปเรื่อย ๆ โดยให้ความสำคัญกับการเป็นตัวของตัวเอง ไม่คิดมากไป ไม่นึกถึงคำจำกัดความ และอย่าไปจำกัดตัวเอง ก็เหมือนงานศิลปะของผมที่บอกว่าอย่าคิดมากเกินไป แค่ Unthink และปล่อยความคิดให้เป็นอิสระ การทำงานของผมจึงเป็นกระบวนการทำงานที่ใครๆ ก็ทำได้ แค่มีสมุดสเก็ตช์สักเล่ม ปล่อยความคิดให้ไหลเรื่อย ๆ
The People:
ความคิดสดใหม่เกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน
Jeremyville
:
บ่อยครับ เพราะเป็นนิสัยปกติที่ผมจะวาดตลอดเวลา ไม่ว่าจะใช้ดินสอ, ปากกา หรือ iPad Pro ทั้งวาดรูปหรือเขียนข้อความ แต่สิ่งสำคัญคือการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ว่าไอเดียแรกดีเสมอ แต่เราต้องแก้ไขปรับปรุงตลอดเวลา นี่คือส่วนหนึ่งของความเป็นผม ทั้งรูปและตัวหนังสือที่เขียนจะมีจิตวิญญาณแห่งศิลปะของมันเอง
The People:
ในหมู่บ้าน
Jeremyville มีอะไรซ่อนอยู่
Jeremyville
:
คอนเซ็ปต์ภายใต้ชื่อ Jeremyville ก็คือ... มันเป็นห้วงความคิดของผมครับ เป็นดินแดนในจินตนาการที่คุณสามารถเข้าไปเยี่ยมชมและค้นพบคุณสมบัติร่วมกันในทุกคน เช่น การเล่นสนุก ความเห็นอกเห็นใจ ความรัก การพัฒนาตนเอง และการเคารพธรรมชาติและสัตว์ หมู่บ้าน Jeremyville เติบโตอยู่ตลอดเวลา แต่ละโปรเจกต์ขยับขยายไปยังเมืองต่าง ๆ แต่ละคาแรกเตอร์เพิ่มประชากรเรื่อย ๆ ผลิตภัณฑ์ที่เราสร้างคือสิ่งประดิษฐ์ที่รวบรวมมาจาก “การเดินทางสู่หมู่บ้าน Jeremyville” (A Trip to Jeremyville)
The People:
หนึ่งในภาพวาดที่เห็นบ่อย ๆ คือ ภาพหัวใจหรืออะไรสักอย่างกอดกัน, ถ้าเป็นไปได้ ตอนนี้อยากกอดใคร เพราะอะไร
Jeremyville
:
โลกนี้ครับ เพราะผมคิดว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่เจ็บปวด ปัญหา และความวุ่นวายครับ
The People:
เมื่อโลกกลายเป็นดิจิทัลหมดแล้ว การวาดรูปโดยใช้มือต้องปรับตัวหรือมีความท้าทายอย่างไรบ้าง
Jeremyville
:
ถ้าเป็นไอเดียสด ผมมักจะวาดมือตลอด แต่การวาดงานจริง ๆ จะแปรผันไปตามแพลตฟอร์มมีเดียที่หลากหลาย
ผมจะมีทีมในการทำงาน เวลามีไอเดียอะไรก็จะบอกทีมในการทำงานตามแพลตฟอร์มนั้น ๆ ทีมงานของผมเปรียบเสมือนเครื่องจักร งานศิลปะเปรียบเสมือนน้ำมันหล่อเลี้ยงให้เครื่องจักรทำงานไปเรื่อย ๆ ส่วนตัวผมเป็นนายช่างคอยถ่ายน้ำมัน เปลี่ยนน้ำมัน หรือกดปุ่มทำงาน เพื่อให้เครื่องจักรหรือทีมงานผลิตผลงานออกมา ซึ่งไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ผลงานปลายทางจะบอกตัวตนของศิลปินอย่างแท้จริง นั่นก็คือการเล่าจิตวิญญาณของงานศิลปะ
ส่วนตัวผมยังสนุกกับการวาดรูปในทุกรูปแบบ อุปกรณ์ไม่สำคัญอะไรเลย เช่น ถ้าผมเอาโทรศัพท์มาเรียง แค่นี้ก็ถือว่าเป็นงานศิลปะ อย่าไปจำกัดงานศิลปะอยู่แค่การวาดรูป หรือการทำอย่างใดเป็นอย่างหนึ่งเท่านั้น ถ้าเกิดคุณบอกว่า “ไม่ เรียงโทรศัพท์อีกแบบดีกว่า” นั่นก็ไม่ผิด เพราะเป็นการแสดงออกซึ่งจิตวิญญาณความเป็นศิลปะของคุณ ไม่ใช่แค่ของศิลปินแต่เพียงผู้เดียว
ฉะนั้นอย่าไปยึดติดกับรูปแบบมากครับ ทั้งกระดาษ ปากกา ชอล์ก iPad กิ่งไม้ขีดพื้นดิน หรือสเปรย์พ่นกำแพง มันอยู่ในจิตวิญญาณต่างหากว่าจะแสดงอะไรออกมา ไม่ได้อยู่ว่าคุณใช้อุปกรณ์อะไรในการแสดงศิลปะออกมา
The People:
แล้ว
จิตวิญญาณแห่งศิลปะคืออะไร
Jeremyville
:
เป็นการเชื่อมโยงกับวิญญาณของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ หรือเป็นใครก็ตาม ผมมีแนวคิดจากเพื่อน ๆ หรือแฟนคลับที่ส่งข้อความมาบอกว่า งานศิลปะของผมไปสัมผัสชีวิตพวกเขาอะไรบ้าง ผมเก็บทุกข้อความ และนั่นคือจุดเชื่อมโยงระหว่างศิลปะกับตัวตนใครสักคน และก็ต้องขอบคุณที่ผมมีส่วนร่วมในชีวิตของทุกคนด้วย
The People:
คิดว่าอะไรทำให้ศิลปินสักคนประสบความสำเร็จ
Jeremyville
:
การมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และมีบางสิ่งที่จะนำเสนอ
The People:
เดินทางไป
หลายประเทศแล้ว คิดว่า
มิลเลนเนียลแต่ละประเทศแตกต่างหรือเหมือนกันอย่างไร
Jeremyville
:
มิลเลนเนียลเป็นวัยที่ทุกคนมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนไปเลยว่า ใครเป็นอย่างไร ผมให้คุณค่ากับความเป็นตัวของตัวเองมากนะครับ เพราะมิฉะนั้นทุกคนก็เหมือนกันไปหมด ความเป็นตัวของตัวเองมีค่ามากที่สุดแล้ว
The People:
คอนเซปต์งานครั้งนี้คือ “
A Smarter Tomorrow”
คุณมี m
essage
อะไรมาถ่ายทอดบ้าง
Jeremyville
:
คิด วิเคราะห์ และประเมินทุกสิ่งทุกอย่างอีกครั้งในมุมมองที่แตกต่างออกไป มันเป็นการสร้างมุมมองในแง่ดีสำหรับพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
The People:
อยากเห็น
Tomorrow
ของโลกนี้เป็นไปอย่างไร
Jeremyville
:
ยอมรับกันมากขึ้น เปิดใจกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น More LOVE. More CONNECTION ครับ
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
‘บิ๊กโจ๊ก’ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ตำแหน่งใหญ่ขณะอายุน้อย บารมีมาก เส้นทางสีกากีติดไฮสปีด
15 ก.ย. 2566
3006
แท็กที่เกี่ยวข้อง
Interview
The People
ศิลปิน
Jeremyville