24 พ.ค. 2562 | 15:29 น.
“ผมมีเพื่อนรักสามคนที่ตายเพราะยาเสพติดก่อนที่พวกเขาจะอายุ 26 ปี และในปี 1993 ตอนที่ผมอายุ 30 ผมก็เพิ่งจะเข้าใจว่ายาเสพติดมันทำลายชีวิตผมไปขนาดไหน ผมจึงลาขาดจากมันได้”
นี่คือคำบอกเล่าของ ฟลี (Flea) จากบทความ The Temptation of Drugs Is a Bitch ที่เขาเขียนลงใน TIME เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 เพื่อรณรงค์ไม่ใช้สารระงับอาการปวดโอปิออยด์ ซึ่งมีผลข้างเคียงเป็นสารเสพติด ฟลีคือมือเบสประจำวง Red Hot Chili Peppers วงฟังก์ร็อคระดับตำนาน กับควบตำแหน่งสุดยอดมือเบสที่คนในแวดวงดนตรีต่างก็ยกนิ้วให้กับลวดลายการเล่นที่ไม่เป็นสองรองใคร เช่นเดียวกับนักดนตรีชื่อดังอีกหลายคน ฟลีและเพื่อนร่วมวงของเขามักจะตกเป็นข่าวเรื่องการใช้สารเสพติดอยู่เสมอ
จุดเด่นของฟลีที่ทำให้เขากลายมาเป็นสุดยอดมือเบสแห่งยุค 90s ได้อย่างไร้ข้อกังขา ก็คงจะหนีไม่พ้นเทคนิคการ slap เบส หรือการใช้มือขวาตบลงบนสายเบสสลับกับเกี่ยวสายขึ้น แทนการเกี่ยวสายขึ้นเพียงอย่างเดียวแบบมือเบสคนอื่น ๆ เทคนิคที่ว่ากลายมาเป็นจุดขายของชายคนนี้พอ ๆ กับท่าทางการเล่นเบสที่เห็นแล้วเป็นต้องอยากโยกตาม หรือไม่ก็ปรบมือดัง ๆ ให้กับความแสบและกวนโอ๊ยที่เข้ากับภาพลักษณ์รั่ว ๆ มัน ๆ ของวงได้อย่างลงตัว
หากจะยกตัวอย่างวีรกรรมสุดซ่าสมัยยังหนุ่มของขาร็อคกลุ่มนี้ ก็อย่างเช่นการเปลือยกายโดยมีเพียงถุงเท้าสวมครอบน้องชายเอาไว้ แล้ววาดลวดลายบนเวทีกันอย่างสุดมัน สร้างความฮือฮาในหน้าหนังสือพิมพ์บันเทิงช่วงนั้นอยู่ไม่น้อย ซึ่งแม้ปัจจุบันวงพริกแดงจะลดดีกรีความร้อนแรงสมชื่อลงมาบ้างแล้ว ด้วยวัยที่เพิ่มขึ้นจนจะย่างเข้าปีที่ 60 กันแทบทุกคน (ยกเว้น จอช คลิงฮอฟเฟอร์ มือกีตาร์คนล่าสุดที่มีอายุ 30 กว่าปี ซึ่งกลางเดือนธันวาคม ปี 2019 จอชก็โบกมือลาวงไปเรียบร้อย โดยมี จอห์น ฟรูชานเต้ (John Frusciante) มือกีตาร์คนเดิมเข้ามาแทน) แต่ยังรักษามาตรฐานความเก๋าเกมทางดนตรีไว้ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ทั้งคีดีสและฟลีก็ยังยึดมั่นในวัฒนธรรมเปลือยอกพกเบสและไมโครโฟนอยู่เช่นเดิม จนมีแฟน ๆ เก็บไปแซวว่า งานไหนที่สองคนนี้ไม่ถอดเสื้อ ก็เท่ากับว่าไม่ใช่คีดีสและฟลีตัวจริงเสียงจริงไปเสียอย่างนั้น
[caption id="attachment_7816" align="aligncenter" width="1078"] ฟลี[/caption]ชีวิตในวัยเด็กของฟลี หรือชื่อจริง ไมเคิล ปีเตอร์ บัลซารี ไม่ได้ราบรื่นนัก เขาเกิดในครอบครัวชาวประมงในเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย แต่ก็ไม่ได้อาศัยอยู่ที่นั่นนาน เพราะการเลิกราของพ่อแม่ ทำให้เด็กชายบัลซารีที่มีอายุเพียง 4 ขวบ ต้องโยกย้ายมายังนิวยอร์กพร้อมแม่และพี่สาว และย้ายบ้านอีกครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน ชีวิตวัยเรียนรู้ของบัลซารีจึงเริ่มต้นขึ้นที่ลอสแอนเจลิส ที่ที่พ่อเลี้ยงของเขา วอลเตอร์ เออเบิร์น จูเนียร์ (Walter Urban Jr) นักดนตรีแจ๊ส อาศัยอยู่
เด็กชายบัลซารีเติบโตขึ้นโดยซึมซับอิทธิพลทางดนตรีมาจากพ่อเลี้ยง เขาหัดเล่นกลองและทรัมเป็ตโดยมีความฝันว่าในอนาคตจะเป็นนักดนตรีแจ๊ส ความฝันในวัยเด็กของเขาคงจะเป็นจริงได้ไม่ยาก ถ้าพ่อเลี้ยงผู้เปิดโลกทางดนตรีของเขาไม่เป็นคนขี้เมาหยำเปและโมโหร้ายจนทำให้บัลซารีเกิดความเครียด และตัดสินใจบำบัดความเครียดด้วยการสูบกัญชาตั้งแต่อายุเพียง 11 ปี
บัลซารีไม่ค่อยมีเพื่อน ด้วยความชอบทางดนตรีที่แตกต่างไปจากเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน ทำให้เขากลายเป็นแกะดำ จนกระทั่งได้เจอกับ แจ็ค ไอออนส์ (Jack Irons), ฮิลเลล สโลวัก (Hillel Slovak) และ แอนโทนี คีดีส (Anthony Kiedis) สามคนนี้เองที่ช่วยกันเปิดโลกทางดนตรีให้บัลซารีอีกครั้ง คราวนี้บัลซารีได้ทำความรู้จักกับดนตรีร็อคผ่านงานเพลงของ จิมี่ เฮนดริกซ์ (Jimi Hendrix) และเริ่มหัดเล่นเบสสลับกับการเสพยาแบบไม่มีใครห้ามใคร เพราะประวัติของแต่ละคนก็โชกโชนไม่ใช่เล่น อย่างเช่นคีดีสที่มีพ่อเป็นผู้ขายยารายใหญ่เลยทีเดียว
บัลซารีที่ได้ชื่อใหม่มาว่า “ฟลี” ที่แปลว่าหมัด จากนิสัยไม่อยู่นิ่ง กระโดดไปกระโดดมาเหมือนตัวหมัด ได้มีส่วนร่วมอย่างเป็นทางการกับวงดนตรีที่เพื่อน ๆ ตั้งขึ้นเพียงไม่นาน ก่อนจะแยกทางไปหาประสบการณ์กับวงดนตรีพังก์ร็อคที่ชื่อว่า “Fear” จนฝีมือเบสพัฒนาไปไกล วันหนึ่งเขาได้กลับมาคุยกับเพื่อนเก่าเรื่องวงอีกครั้ง และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของวงร็อคหลุดโลกที่มีชื่อวงสุดเผ็ดร้อนอย่าง “Red Hot Chili Peppers”
แต่ชื่อวงเท่ ๆ แสบ ๆ นี้ก็ไม่ได้ถูกตั้งขึ้นเป็นชื่อแรกและชื่อเดียวของกลุ่มเพื่อนจอมกวนอย่างพวกเขา เพราะมันถูกเปลี่ยนมาจากชื่อที่ใครฟังก็ต้องร้องเอ๊ะ ! อย่าง “Tony Flow and The Miraculously Majestic Masters of Mayhem”
ยุคแรกเริ่มของ Red Hot Chili Peppers ไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างอะไรนัก ด้วยยุค 80s เป็นยุคของเพลงป็อป ฮิปฮอป และวงแฮร์แบนด์เสียมากกว่า ล้มลุกคลุกคลานอยู่พักใหญ่ จนไอออนส์และสโลวักถอนตัวจากวงไปและทยอยกลับเข้ามาใหม่ กระแสตอบรับที่มีต่อวงจึงเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ
มิถุนายน ปี 1988 สโลวักเสียชีวิตจากการเสพเฮโรอีนเกินขนาด เป็นสาเหตุให้ไอออนส์ถอนตัวไปจากวงอีกรอบ คีดีสและฟลีตัดสินใจที่จะเดินหน้าวงต่อเพื่อสานต่อสิ่งที่พวกเขาเริ่มมาด้วยกัน พร้อมกับ จอห์น ฟรูชานเต้ มือกีตาร์ และ แชด สมิธ (chad smith) มือกลอง ที่เข้ามาแทน ความสำเร็จของวงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดหลังจากนั้น Mother’s Milk (1989), Blood Sugar Sex Magik (1991), Californication (1999), By the Way (2002) และ Stadium Arcadium (2006) กลายเป็นอัลบั้มที่ใคร ๆ ต่างก็อยากมีไว้ในครอบครอง
หลังจากอัลบั้ม Blood Sugar Sex Magik ตรงกันข้ามกับชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้น สุขภาพของสมาชิกในวงกลับมีแต่ย่ำแย่ลงทุกวันจากการเสพยา และความเครียดที่ต้องรับมือกับการเป็นคนดัง รวมทั้งคิวงานที่ยาวเหยียด จอห์น ฟรูชานเต้ ตัดสินใจออกจากวงไปเพราะอาการติดยา ส่วนคนที่เหลือก็ประสบปัญหาหนักไม่แพ้กัน ฟลีเองถึงขั้นถูกหมอสั่งให้ลด ละ เลิก ยาเสพติดอย่างจริงจัง บวกกับภาวะซึมเศร้าที่เริ่มหนักขึ้นทุกทีของฟลี ก็ทำให้เส้นทางของวงพริกแดงเป๋ไม่เป็นท่า ซึ่งกว่าวงจะเข้ารูปเข้ารอย และตามตื๊อเพื่อนเก่าอย่างฟรูชานเต้ให้กลับเข้ามาร่วมวงอีกครั้งได้ ก็กินเวลาล่วงเลยมาถึงปี 1998
[caption id="attachment_7818" align="aligncenter" width="1128"] ฟลี กับ แอนโทนี คีดิส นักร้องนำเพื่อนซี้[/caption]ผลผลิตจากการต่อสู้กับยาเสพติดของสมาชิกในวงนี่เอง ที่ตกผลึกมาเป็นอัลบั้ม Californication (1999) ที่มีเพลงอย่าง Scar Tissue บอกเล่าเรื่องราวการเติบโตของพวกเขา “ตำรวจไล่ล่าผม ส่วนพ่อค้ายาก็ฆ่าผมทั้งเป็น” ฟลีกล่าวถึงประสบการณ์บนเส้นทางสายเมาของตัวเอง
“ชีวิตนั้นแสนเจ็บปวด โลกใบนี้ก็แสนน่ากลัว และการเสพยาก็ง่ายกว่าการก้าวผ่านความเจ็บปวด ความวิตกกังวล บาดแผล และความผิดหวังไปได้ด้วยตัวเอง แต่การเริ่มเสพมันเพียงหนึ่งครั้ง จะตามมาด้วยบทเรียนที่หนักหนาที่สุด ตอนนี้เรายังมีโอกาสที่จะข้ามผ่านมันเพื่อที่จะมีชีวิตที่มีความสุขจริง ๆ โดยไม่ต้องตกอยู่ภายใต้ความสุขปลอม ๆ จากอำนาจยาเสพติด”
นี่คือคำพูดปิดท้ายบทความชิ้นนั้นของฟลี มือเบสมาดกวนที่ไม่ได้เติบโตมาอย่างเพียบพร้อมและมีชีวิตที่ขาวสะอาด ฟลีเลือกที่จะใช้ชีวิตในวัยเด็ก วัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ เรียกได้ว่าเกินครึ่งชีวิตไปกับกัญชา โคเคน เฮโรอีนและเสียงดนตรี จนถึงวันที่เขาสามารถตัดเนื้อร้ายอย่างยาเสพติดออกไปได้ ก่อนจะเริ่มใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง และคนอื่นที่รักเสียงดนตรีไม่ต่างกับเขา ด้วยการเปิดองค์กรไม่แสวงกำไร อย่าง “Silverlake Conservatory of Music” เพื่อให้การสนับสนุนกับเด็ก ๆ ที่รักการเล่นดนตรีแต่ไม่มีเงินทุน ซึ่งแน่นอนว่ามีเพื่อนรักอย่างคีดีสอยู่ในรายชื่อบอร์ดบริหารด้วย
เรื่อง : จิรภิญญา สมเทพ (The People Junior)
ที่มา :
https://www.rockhall.com/inductees/red-hot-chili-peppers
http://time.com/5168435/flea-temptation-drug-addiction-opioid-crisis/