“20 ปีตำนานเน็ตไอดอลคนแรกของไทย” บอลลูน - พินทุ์สุดา ตันไพเราะห์
ในยุคที่อินเทอร์เน็ตเพิ่งเข้ามาเมืองไทยกับระบบหมุนโมเดมที่ต้องต่อผ่านสายโทรศัพท์ บัตรเติมชั่วโมงเน็ตเป็นสิ่งมีราคา ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่มีทั่วหัวมุมถนน และวัฒนธรรมเว็บบอร์ดคือรากฐานของ “พลเมืองเน็ต” ไทยและชาวโลก หากเราพูดถึง “เน็ตไอดอล” สักคนในยุคนั้นคุณจะคิดถึงใคร?
ปัจจุบัน “เน็ตไอดอล” นั้นเหมือนแทนคำเรียกคนที่โด่งดังในโลกออนไลน์ ใคร ๆ ก็สามารถเป็นเน็ตไอดอลได้ แต่ในอดีตนั้นอินเตอร์เน็ตยังไม่ได้เข้าทั่วถึง ชื่อของ “บอลลูน – พินทุ์สุดา ตันไพเราะห์” เป็นชื่อแรกที่คนมักจะนึกถึง เราจะเห็นภาพของเธออยู่ตามเว็บบอร์ดต่าง ๆ อย่าง เด็กดีดอทคอม ,พันทิปดอทคอม หรือตามภาพ Wallpaper หน้าจอคอมพิวเตอร์ในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ โดยเฉพาะภาพของบอลลูนที่นั่งเขียนหนังสือบนโต๊ะในชุดนักเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์กลายป็นหนึ่งในภาพคลาสสิกที่หลาย ๆ คนยังตราตรึง
ถ้านับการก้าวสู่วงการบันเทิงบอลลูนเริ่มถ่ายนิตยสาร Katch นิตยสารในเครือเบเกอรีมิวสิคครั้งแรก ฉบับเดือนเมษายน 2542 หรือ 20 ปีที่แล้ว! ด้วยภาพลักษณ์ที่ตากลมโตคล้ายสาวญี่ปุ่นสไตล์สมัยนิยม และทรวดทรงองค์เอวที่ดูสมบูรณ์เกินกว่านักเรียนวัยมัธยม แต่งตัวเรียบง่ายในบรรยากาศริมทะเลเสื้อยืดกางเกงขาสั้น และขี่ม้า เมื่อนิตยสารออกวางตลาด ชื่อของเธอเริ่มถูกพูดถึงว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร มีคนถามหาตามเว็บบอร์ด
บอลลูนเป็นคนแรก ๆ ที่ไม่ได้เป็นดารานักร้อง แต่มีคนเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยในยุคที่กล้องดิจิทัลยังไม่แพร่หลาย ทำให้เห็นว่าคนธรรมดาก็สามารถเป็นที่ชื่นชอบได้ ภาพของเธอถูกโพสต์ลงในเว็บบอร์ดต่าง ๆ ในอิริยาบถสบาย ๆ ไม่ใช่ภาพแฟชั่นที่ถูกเซ็ตถ่าย ชื่อเสียงนี้ทำให้เธอเริ่มได้รับการจับตา และเริ่ม MV ครั้งแรกกับศิลปิน BIG3 (หนึ่งในนั้นปัจจุบันคือ ชิน - ชินวุฒิ อินทรคูสิน) และได้รับกระแสตอบรับที่ดี เรียกได้ว่าหากคิดถึงภาพของสาวเซ็กซี่แบบใส ๆ แบ๊ว ๆ จะนึกถึงเธอทันที และอีกสัญลักษณ์หนึ่งที่สำคัญคือหากใครเป็นเน็ตไอดอลในยุคนั้นจะต้องเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสถาบันสอนดีไซน์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น แพร - ภิสารัตน์ วัชรคีรินทร์ หรือ แตงโม - ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ครั้งยังเป็นวัยรุ่น
จากนั้นเธอมีโอกาสก้าวเข้าสู่โลกแห่งภาพยนตร์ “สยิว” คือภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ ภายใต้การกำกับของ คงเดช จาตุรัตน์รัศมี ที่เล่าเรื่องสาวที่ไม่มีประสบการณ์ทางเพศแต่ต้องเขียนเรื่องเสียวลงหนังสือโป๊เพื่อเลี้ยงชีพ โดยเธอรับบทบาทเป็น “หมวย” สาวเซ็กซี่ประจำมหาวิทยาลัย ฉากที่หมวยเล่นเลิฟซีนแบบผู้หญิง-ผู้หญิงกับ “เต่า” (ผิง - พิมพาภรณ์ ลีนุตพงษ์) โดยนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ทำให้ใครหลายคนตกตะลึงไม่น้อย ปี 2547 กลายเป็นปีทองของเธอที่มีภาพยนตร์ติดต่อกัน 3 เรื่อง คืออาถรรพ์แก้บนผี, เจ้าสาวผัดไทย และขุนกระบี่ผีระบาด เรื่องสุดท้ายนี้เธอได้รับบทนางเอกเต็มตัว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำวิจารณ์
จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ เฟดตัวเองจากวงการบันเทิง โดยไปมุ่งด้านการเรียนแทนเพราะเธอพักเรื่องการเรียนระหว่างทำงาน แต่ก็มีเล่นหนังอยู่บ้างประปรายอย่างเช่น เหยิน เป๋ เหล่ เซมากูเตะ (2550) หรือ ผีตุ๋มติ๋ม (2552) แต่กระแสหนังไม่ได้ถูกพูดถึงเท่าไหร่นัก โดยช่วงนั้นเธอได้ออก VCD แฟชั่นของเธอในชื่อ “Balloon In Secret Adventure “ ให้แฟน ๆ ได้เก็บเป็นที่ระลึก เธอเคยให้สัมภาษณ์เมื่อครั้งหวนกลับมาถ่ายแฟชั่นชุดว่ายน้ำให้กับ Mars Magazine เมื่อปี 2556 ว่า “เหมือนเดี๋ยวนี้ วงการบันเทิงก็มีคนใหม่ ๆ เข้ามาในวงการเยอะ เราเข้าใจวงการบันเทิงมากว่ามันก็ต้องเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ คนเดิม ๆ หน้าซ้ำ ๆ คนก็เบื่อ เราไม่ได้กลัวว่าคนจะลืม ไม่ได้กลัวขนาดนั้น เพราะเราคิดว่าแค่ให้คนจำงานเราได้บางงาน เราก็โอเคแล้ว” (ที่มา https://mgronline.com/live/detail/9560000038322?fbclid=IwAR09KXA-5FL0y6LPLPL_VfM_xdBzmwHcqTtXYbiKPWjojPHF7U_QilgKhkI )
เธอใช้เวลาหลังการว่างเว้นงานบันเทิงดังกล่าวมุ่งมั่นไปเรียนต่อจนจบปริญญาตรี ด้านนิเทศศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยรังสิต และยังจบปริญญาโทด้านนิเทศศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพอีกด้วย บอลลูนเคยตอบคำถามที่ว่าเธอมุ่งมั่นไปเรียนเพราะลบข้อครหา “สวยใสไร้สมอง” ว่า “ก็แล้วแต่มุมมองของคนแต่ละคนมากกว่า เราก็ทำของเราในแบบที่เราควรจะทำ เราไม่ได้คิดว่าจะไปเรียนหนังสือเพื่อให้คนเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเรา”
อีกมุมมองที่น่าสนใจของเธอในฐานะสัญลักษณ์แห่งความเซ็กซี่ พูดถึงนิยามคำว่า “เซ็กซี่” เมื่อครั้งเธอตัดสินใจถ่ายชุดว่ายน้ำว่า “คิดว่าแต่ก่อนการถ่ายชุดว่ายน้ำมันเป็นอะไรที่ต้องคิดหนักกว่านี้ เพราะว่าถ้าถ่ายชุดว่ายน้ำแต่ก่อน 10 ปีที่แล้ว เขาก็จะเฮ้ย! ถ่ายชุดว่ายน้ำ แต่ทุกวันนี้รู้สึกว่า มันเป็นเรื่องปกติ รู้สึกว่า ใคร ๆ ก็ถ่าย แทบจะน้อยมากที่ไม่ถ่าย ทำให้รู้สึกว่า วงการบันเทิงมันเปิดกว้างมากขึ้นในการทำงาน เปิดกว้างในทางความคิดมากขึ้น รวมถึงคนดูด้วย” และยังพูดถึงโลกอินเตอร์เน็ตที่เคยสร้างชื่อให้เธอในยุคปัจจุบัน บอลลูนมองว่า “ถ้าเขาโชว์อย่างนั้นแล้วเขาดังไปในทางนั้น เขาพอใจแล้วเหรอที่จะดังไปในทางที่โชว์ตัวเองโป๊ ๆ ในโซเชียลมีเดียให้ดัง ๆ มันก็แล้วแต่มุมมอง มันก็คือความคิดของเขา สิทธิ์ของเขาที่เขาจะทำ ถ้าเขาคิดว่ามันดัง โพสต์เฟซบุ๊กแล้วคนมาเซฟเอารูปมันคุ้มก็ตามใจเขา”
ปัจจุบันบอลลูนยังรับงานด้านวงการบันเทิงประปราย ก่อนหน้านี้มีผลงาน MV เพลง MSN ของ Helmetheads ที่ย้อนไปเล่าเรื่องความทรงจำในยุคที่โปรแกรมแชทอย่าง MSN Messenger ครองโลก เธอถูกนำเสนอเพื่อรำลึกอดีตในยุคที่ MSN กำลังบูม
แต่ไม่ว่ายุคสมัยปัจจุบันจะมีเน็ตไอดอลหน้าใหม่เติบโตขึ้นมา บางคนก็ก้าวขึ้นไปเป็นนักแสดงหรือนางเอกระดับแถวหน้าอย่าง เต้ย - จรินทร์พร จุนเกียรติ หรือ โฟร์ - ศกลรัตน์ วรอุไร หรือบางคนดังเพียงชั่วครู่แล้วก็หายไปกับกระแสอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วและหมุนไวขึ้นทุก ๆ วัน แต่เมื่อพูดถึงเน็ตไอดอลคนแรกของไทย ไม่มีใครโค่นบัลลังก์ของ บอลลูน - พินท์ุสุดาไปได้อย่างแน่นอน แม้ว่าบอลลูนในวันนี้จะอยู่ในวัย 36 ปีก็ตามเพราะทุกวันนี้เธอยังออกกำลังกายด้วยการเข้าฟิตเนส และขี่ม้าเพื่อรักษารูปร่างของเธอได้เป็นอย่างดี
และนี่คือเรื่องราวของ “เน็ตไอดอลคนแรกของประเทศไทย”
เรื่อง: พิเชฐ ยิ่งเกียรติคุณ
ภาพ: Instagram ของ balloon_balloon