05 มิ.ย. 2562 | 15:59 น.

โซฟี เทอร์เนอร์ คาดหวังชีวิตกึ่งธรรมดา หลังสิ้นสุดหน้าที่ใน GOTs

“เราไม่รู้ว่าซีรีส์ที่เราเล่นนั้นจะเป็นประเภทไหน เราไม่รู้เลยว่า HBO คืออะไร มันเหมือนว่าเราต่างกระโดดลงไปในจุดลึกที่สุดของห้วงแห่งความมืด” นี่คือคำพูดของ โซฟี เทอร์เนอร์ (Sophie Turner) นักแสดงสาวผู้รับบท “ซานซา สตาร์ก” เมื่อย้อนนึกถึงวันเข้าทดสอบบทเพื่อร่วมแสดงในซีรีส์บัลลังก์เหล็ก Game of Thrones ขณะอายุเพียง 13 ปี เพราะแต่เดิมเธอเองเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาจากนอร์ธแธมป์ตัน ที่เรียนการแสดงเพื่อเป็นงานอดิเรกเท่านั้น ก่อนที่บทบาทดังกล่าวจะสร้างชื่อให้เธอก้าวเข้าสู่เส้นทางนักแสดงอาชีพเต็มตัว “ตอนอายุ 13 คุณไม่ได้เตรียมตัวตกอยู่ในสายตาสื่อหรอก คุณก็แค่อยากแสดงเฉย ๆ การตกอยู่ในสายตาสาธารณะมันยากเอาการเหมือนกัน” สำหรับเธอแล้ว บทบาทของซานซาค่อย ๆ เติบโตจากตัวเบี้ยในกระดานสู่ฐานะผู้เล่นเกมตัวฉกาจ เปลี่ยนแปลงจากตัวละครที่ดูไร้ประโยชน์ ซานซาพบเจอประสบการณ์สารพัดที่ขัดเกลาให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ไม่ต่างอะไรจากตัวจริงของเทอร์เนอร์ ที่ต้องเดินทางออกจากบ้านเกิด พบเจอประสบการณ์ในวงการ กระทั่งเติบโตมาเป็นหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่ง โดยเฉพาะอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ซีรีส์เรื่องนี้สอนเธอก็คือ เซ็กซ์ “ฉันได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเซ็กซ์จากซีรีส์เรื่องนี้ รวมไปถึงความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ด้วย” นั่นเป็นเพราะตัวละครซานซาเคยถูกข่มขืนอย่างโหดร้ายในซีซัน 5 ทำให้เธอเข้าใจความเจ็บปวดของผู้หญิง “ฉันได้เรียนรู้เรื่องนี้อย่างดีเลยทีเดียว และนั่นเป็นสาเหตุที่ผลักดันให้ฉันกลายเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ”

ปี 2017 เทอร์เนอร์กลายเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับองค์กรการกุศล Women for Women International ที่ให้คำปรึกษาทางชีวิตสำหรับผู้หญิงทั่วโลก ซึ่งเธอยังเดินทางไปพบปะผู้หญิง ณ ประเทศรวันดาในทวีปแอฟริกา ประเทศที่องค์การสหประชาชาติเคยสำรวจว่ามีผู้หญิงกว่า 500,000 คน ถูกข่มขืนระหว่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในปี 1994 ไม่เพียงเท่านั้น การแสดงซีรีส์เรื่องนี้ยังพาเธอไปรู้จักกับสภาวะซึมเศร้า (Depression) เทอร์เนอร์เคยให้สัมภาษณ์ในรายการของ ดร. ฟิลล์ (Dr. Phil) ว่า ช่วงอายุ 17 ปี เธอเริ่มรู้สึกแปลกแยกจากการเป็นนักแสดงโทรทัศน์และต้องอยู่คนเดียว ประกอบกับคอมเมนต์ทางโซเชียลมีเดียที่วิจารณ์รูปลักษณ์และความสามารถทางการแสดงของเธอ นั่นทำให้ปัญหาทุกอย่างประดังประเดเข้ามาในชีวิต “มีคอมเมนต์ดี ๆ สัก 10 คอมเมนต์ แต่คุณกลับไม่สนใจมัน แต่คอมเมนต์แย่ ๆ เพียงคอมเมนต์เดียว กลับทำให้คุณไปไม่เป็น”

สภาวะตอนนั้นเทอร์เนอร์ปิดกั้นตัวเองจากคนรอบข้าง เว้นแค่แต่ เมซีย์ วิลเลียมส์ (Maisie Williams) ผู้รับบท “อาร์ยา สตาร์ก” เพื่อนสาวที่เข้าใจประสบการณ์การถูกวิพากษ์วิจารณ์ทางโซเชียลมีเดียเช่นกัน และคู่หมั้น (ที่ปัจจุบันแต่งงานกันแล้ว) ของเธอ โจ โจนาส (Joe Jonas) “ฉันจะไม่ถูกตัดสินโดยเขา เขาเคยเห็นจุดย่ำแย่ของฉันมาแล้ว” ด้วยเหตุนี้ หลังจากเธอสิ้นสุดการแสดงซีรีส์ Game of Thrones โซฟี เทอร์เนอร์ จึงวางแผนให้ตัวเองกลับไปใช้ชีวิตแบบคนปกติเสียที “ฉันรู้สึกว่าตัวเองมีจิตวิญญาณที่แก่กว่าอายุจริง เหมือนฉันเติบโตพอเข้าใจชีวิต เจอผู้ชายและผู้หญิงมาเพียงพอแล้ว ฉันไม่คิดว่าตัวเองอายุ 22 ฉันเหมือนอายุ 27, 28 ซึ่งมีความเป็นเด็กหญิงเป็นองค์ประกอบหนึ่งของชีวิต” [caption id="attachment_8337" align="aligncenter" width="1024"]

โจ โจนาส และ โซฟี เทอร์เนอร์[/caption] หลังจากนี้เราจะเห็นผลงานการแสดงของเทอร์เนอร์ในหนังอินดีจำนวนหนึ่งที่กำลังรอวันฉาย ทั้งหนังดรามาตะวันตก Huntsville และ หนังโรแมนติก-คอเมดี Time Freak รวมถึงการเล่นเป็น “จีน เกรย์” ใน X-Men: Dark Phoenix (2019) ภาพยนตร์ปิดฉากแฟรนไชส์ X-Men ที่อยู่คู่ 20th Century Fox มานานกว่า 19 ปี ก่อนจะเปลี่ยนผ่านสู่ Marvel อย่างเป็นทางการ เทอร์เนอร์เล่าบรรยากาศในกองถ่ายว่าเหมือนเป็นค่ายฤดูร้อน ที่ต้องอยู่ร่วมกองถ่ายเดียวกับดาราเบอร์ยักษ์ เช่น เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ หรือ ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ “มันเหมือนการที่พวกเรากลุ่มใหญ่ ๆ ยกโขยงกันออกไปดื่ม ไปกิน และทำอะไรสนุก ๆ ด้วยกัน” ขณะที่ผู้กำกับ ไซมอน คินเบิร์ก (Simon Kinberg) อดีตโปรดิวเซอร์ที่อยู่คู่แฟรนไชส์มาอย่างยาวนาน บอกว่า หนังเรื่องนี้จะซื่อตรงต่อต้นฉบับหนังสือการ์ตูน Dark Phoenix Saga ให้มากที่สุด ว่าด้วยเรื่องราวเมื่อ จีน เกรย์ เกิดอุบัติเหตุได้รับพลังคอสมิคที่ยิ่งใหญ่แต่ไม่อาจควบคุมได้ ทำให้เธอพัฒนาศักยภาพซึ่งนำไปสู่หนทางอันเลวร้าย ล่าสุดทั้งทีมงานและนักแสดงต่างให้สัมภาษณ์ใน Entertainment Weekly ว่า X-Men: Dark Pheonix จะมีการหักมุมครั้งใหญ่ และเตรียมใจยอมรับจุดจบที่ทุกคนคาดไม่ถึง “ฉันรู้ว่า Dark Phoenix เป็นหนึ่งในเรื่องราวที่แฟน ๆ หลงรักในจักรวาล X-Men และไซมอนก็ไว้วางใจให้ฉันรับผิดชอบมันด้วยเกียรติที่ยิ่งใหญ่ ฉันตื่นเต้นจริง ๆ”