หลายคนรู้จัก ทารอน เอเจอร์ตัน (Taron Egerton) ในภาพยนตร์แจ้งเกิด Kingsman: The Secret Service (2014) ด้วยหน้าตาอันหล่อเหลา และฝีไม้ลายมือการแสดงอันยอดเยี่ยม ทำให้เขากลายเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ใครหลายคนจับตามอง ล่าสุดเขาสลัดภาพหนุ่มน้อยสายลับ “เอ็กซี” ออก มาสวมวิญญาณนักร้องระดับเทพ เอลตัน จอห์น (Elton John) ในภาพยนตร์มิวสิคคัล – แฟนตาซี Rocketman
“นี่คือเรื่องราวดิบเกี่ยวกับมนุษย์ และการเฉลิมฉลองของชีวิตชายผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง”
ก่อนหน้านี้หนุ่มน้อยจากประเทศเวลส์ที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันสอนการแสดง Royal Academy of Dramatic Arts โดยตรง เคยกล่าวถึงเพศสภาพของตัวเองว่าเป็น “ชายแท้” และประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนในการสนับสนุน LGBT ทั้งหน้ากล้องและหลังกล้อง ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะรับบทนี้ด้วยความเต็มใจ ทั้งยังแสดงฉากร้องเพลงเอง และฉากเซ็กซ์ด้วยตนเอง
“ผมไม่อยากแสดงใครก็ตามที่เหมือนตัวเอง และผมไม่ต้องการอยู่ในโลกที่ straight (คนรักเพศตรงข้าม) ต้องแสดงเป็น straight หรือเกย์ต้องแสดงเป็นเกย์” สอดคล้องกับโซเชียลมีเดียของเขาที่เคยชื่นชมเพื่อนเกย์อย่างเปิดเผย ทั้งยังสนับสนุนอย่างเต็มที่ “ผมไม่ใช่เกย์นะ แต่เพื่อนของผมสองคนเปิดเผยเพศสภาพออกมาเมื่ออายุ 15 และผมก็ยินดีที่จะสนับสนุนในฐานะเพื่อน เราทุกคนควรรู้สึกดีกับการเป็นตัวของตัวเอง” ไม่เท่านั้น เอเจอร์ตันยังเคยให้สัมภาษณ์ขำ ๆ ว่า รู้สึกสบายใจเหมือนอยู่บ้านในคลับเกย์ มากกว่าสนามฟุตบอลเสียด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ดี การเข้ามารับบท เอลตัน จอห์น ทำให้เขาเกิดคำถามกับตัวเองว่า เราจะหาตัวตนจริง ๆ ของเกย์คนนี้อย่างไร ภายใต้เสื้อผ้าหน้าผมสุดอลังการ ความตื่นตาตื่นใจของโชว์ อารมณ์เกรี้ยวกราดสุดเหวี่ยง และมงกุฎเพชรบนหัว?
“นั่นคือคำถามที่ผมถามตัวเองครับ สุดท้ายแล้ว... ผมก็ต้องเอ่ยปากถามเขา”
[caption id="attachment_8693" align="aligncenter" width="1500"]
ทารอน เอเจอร์ตัน[/caption]
เอลตัน จอห์น เชิญเอเจอร์ตันไปที่บ้านของเขาเพื่อรับประทานอาหารและพูดคุยกัน หลังจากนั้นเขาก็เปิดบันทึกให้เอเจอร์ตันดู ซึ่งเป็นบันทึกที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อน เปิดเผยทุกอย่างยันตู้เสื้อผ้า และเล่าเรื่องทุกเรื่องให้เขาฟัง
“ผมเล่าอย่างไม่มีขีดจำกัดเลยครับ” จอห์นย้อนนึกถึงวันที่เขาพบเอเจอร์ตัน “นั่นเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดใจ ถ้าทารอนจะแสดงเป็นตัวผม เขาต้องรู้หมดทุกเรื่อง”
สำหรับเอเจอร์ตัน การพูดคุยนี้มีประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย เพราะระหว่างพวกเขามีเรื่องคล้ายคลึงกันหลายอย่าง และสิ่งที่โดนใจมากที่สุดก็คือ จอห์นเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็เป็นคนที่อ่อนไหวที่สุดคนหนึ่งเช่นกัน
“ผมรู้สึกแบบนั้นกับตัวผมเองเหมือนกัน ผมคือคนที่อ่อนไหวมาก เซนซิทีฟอย่างรุนแรง ผมคิดว่าผมมีความแข็งแกร่งแบบเดียวกับตัวละคร แต่ก็มีอารมณ์อ่อนไหวและความเปราะบางที่เหมือนกัน”
Rocketman จึงเป็นการฉายภาพความไม่มั่นคงในตัวตนของมนุษย์ ซึ่งบางครั้งการเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ เกิดจากความไม่มั่นคงที่อยากพิสูจน์บางสิ่งบางอย่างเสมอ และกลายเป็นอีกคนที่นอกเหนือจากตัวตนเดิมที่คุณเป็น เพราะถ้าทุกอย่างมั่นคงแน่นอน เราก็จะไม่พัฒนาเดินหน้าต่อไป
หนังยังนำเสนอภาพสูงสุดและต่ำสุดของ เอลตัน จอห์น อย่างตรงไปตรงมา ผ่านชีวิตยาเสพติดและร็อคแอนด์โรล ซึ่งจอห์นให้สัมภาษณ์ถึงชีวิตตัวเองว่า “ชีวิตผมมันเพี้ยนมาก เวลาต่ำก็ต่ำสุด เวลาสูงก็ลอยลิบลิ่ว น่าเสียดายที่มันไม่มีสมดุลตรงกลางเลย”
สิ่งเดียวที่อยู่เป็นเพื่อนเขาคือ “ดนตรี” ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เกิดความขัดแย้ง ช่วงเวลาที่เจ็บปวด หรือช่วงเวลาที่มีความสุข กล่าวได้ว่าดนตรีจะอยู่เคียงข้างจอห์นเสมอ เพราะดนตรีนำความสุขมาให้เขาเป็นอย่างมาก
[caption id="attachment_8694" align="aligncenter" width="1080"]
ทารอน เอเจอร์ตัน[/caption]
แน่นอนว่า เอลตัน จอห์น เป็นนักร้องระดับเทพ แต่นักแสดง ทารอน เอเจอร์ตัน ก็มีความสามารถลับ ๆ ที่เป็นนักร้องที่เก่งมากเช่นกัน ความสามารถของเอเจอร์ตันในการร้องเพลง เคยผ่านการพิสูจน์มาแล้วกับเพลง “I’m Still Standing” (ของ เอลตัน จอห์น ด้วย) ในผลงานแอนิเมชัน Sing (2016) ซึ่งใน Rocketman เขายังได้รับอนุญาตให้ตีความใหม่ เล่าเรื่องอย่างสร้างสรรค์และแตกต่าง ทำให้บทเพลงที่ร้องออกมาเหมือนพาคนดูย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลานั้น ๆ และนั่นก็คือสิ่งพิเศษที่สุดของการแสดงหนังเรื่องนี้
“ทารอนเป็นนักร้องที่เก่งมากทีเดียว” แมทธิว วอห์น (Matthew Vaughn) หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างกล่าวถึงเอเจอร์ตัน “และที่สำคัญเขาเป็นคนอ่อนไหว ซึ่งเอลตันก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน ทารอนมีความดื้อดึงในแง่ที่ดี ซึ่ง เอลตัน ก็เป็น ดังนั้นเขาจึงมีเครื่องมือครบหมดแล้ว ผมใช้สัญชาตญาณในการเลือกนักแสดง และเมื่อผมได้อ่านบทภาพยนตร์เรื่องนี้ สิ่งที่ผมเห็นก็คือทารอน นั่นคือสัญชาตญาณของผม และมันก็ส่งผลดีจริงๆ”
มีการวิจารณ์จากผู้ชมรอบแรกว่า เอเจอร์ตันไม่ได้แสดงเป็น เอลตัน จอห์น แต่เขากลายเป็น เอลตัน จอห์น เลย นอกเหนือจากนั้นแล้ว เขาก็ร้องเพลงได้เพราะที่สุดด้วย
“มันยากมากที่จะบอกว่าหนังเรื่องนี้มีความหมายกับผมอย่างไร” เอเจอร์ตันกล่าว “ประสบการณ์ในการแสดงเป็น เอลตัน ช่วยเติมเชื้อให้กับชีวิตของผม ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้รู้จักเขา เขาไม่ได้ให้คำแนะนำกับผมหรอกนะว่าจะแสดงเป็นตัวเขาอย่างไร แต่เขาจะคอยให้กำลังใจ ไม่ใช่ชี้นำ เขาอนุญาตผมในการเป็นเขาจริงๆ และผมก็ขอบคุณมาก ผมภูมิใจที่จะพูดว่าหลังจากนี้แล้ว เอลตัน จอห์น ได้กลายมาเป็นเพื่อนของผมแล้วครับ”
[caption id="attachment_8692" align="aligncenter" width="1024"]
เอลตัน จอห์น และ ทารอน เอเจอร์ตัน[/caption]
ข้อมูล
hollywoodreporter
gq-magazine
washingtonblade