Tan Yu Yeh ผู้ก่อตั้ง MR. D.I.Y. เพราะไม่อยากให้คนเสียเวลาเมื่อต้องซ่อมบ้าน

จากการสังเกตเห็นว่า การจะซ่อมแซมหรือปรับปรุงบ้านแต่ละครั้ง ต้องเสียเวลาเกือบทั้งวันในการหาอุปกรณ์ต่างๆ  ทำให้ Tan Yu Yeh ชาวมาเลเซียเกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา จะดีกว่าหรือไม่ หากมีร้านที่รวบรวมอุปกรณ์ สินค้าตกแต่ง และซ่อมแซมไว้ที่เดียวกัน

นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของร้าน MR. D.I.Y. (มิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย.) สาขาแรกในปี 2548 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เป็นร้านเล็กๆ แบบดั้งเดิมที่เราเห็นกันตามร้านตึกแถวทั่วไป แต่แตกต่างกันตรงที่ Tan Yu Yeh ตั้งใจให้เป็นแหล่งรวมของอุปกรณ์ สินค้าตกแต่ง และซ่อมแซมบ้านที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง

 

โดยจุดเด่นอยู่ที่สินค้ามีความหลากหลาย คุณภาพดี และราคาจับต้องได้ง่าย ซึ่งถูกสะท้อนตั้งแต่การตั้งชื่อร้านและโลโก้ ที่ใช้ตัวการ์ตูนรูป ‘ค้อน’ กำลังยกนิ้วโป้งให้มาเป็นสัญลักษณ์หลัก สื่อให้เห็นถึงการลงมือทำด้วยตัวเอง และบ่งบอกถึงการเป็นร้านอุปกรณ์ สินค้าตกแต่ง และซ่อมแซมบ้าน

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมสโลแกน Always Low Prices เพื่อย้ำว่า ของที่ร้านนี้รับประกันราคาถูก

ด้วยคอนเซ็ปต์ดังกล่าว ทำให้ MR. D.I.Y. ได้รับการตอบรับดี ภายในไม่ถึงปีสามารถขยายร้านได้ 3 สาขา      

กระทั่งในปี 2551 เกิดจุดเปลี่ยนที่ทำให้ร้านแห่งนี้มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อ Tan Yu Yeh ตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบการเปิดร้านจากสแตนอโลนมาอยู่ในศูนย์การค้า เพราะเขาเห็นว่า จะทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้ทั้งง่ายและกว้างขึ้น

ประเดิมสาขาแรกที่ AEON Shopping Mall และขยายความร่วมมือกับสองเชนไฮเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ในมาเลเซีย ได้แก่ Giant และ Tesco (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Lotus’s หลังกลุ่มซีพีเข้าซื้อกิจการ Tesco ทั้งในไทยและมาเลเซียแล้วรีแบรนด์ใหม่)

ผลตอบรับที่ได้นั้นดีเกินคาด นับแต่นั้นมาเขาจึงหันมาโฟกัสกับการขยายสาขาตามศูนย์การค้า พร้อมกับปรับโฉมร้านให้ดูทันสมัยมากขึ้น และเพิ่มความหลากหลายของสินค้าโดยมีสินค้าให้เลือกมากกว่า 16,600 รายการ ครอบคลุมตั้งแต่หมวดฮาร์ดแวร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องใช้ในครัวเรือน, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน, อุปกรณ์ประดับยนต์, เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา, ของเล่น, ของขวัญ, อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

ที่สำคัญ ระดับราคาสินค้าที่วางขาย มีตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักพัน

นับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา MR. D.I.Y. เติบโตแบบก้าวกระโดดและขยายสาขาอย่างรวดเร็ว โดยมี 100 สาขา ภายใน 9 ปีนับตั้งแต่เปิดสาขาแรก และใช้เวลาจากนั้นอีก 3 ปี เพิ่มเป็น 250 สาขา, อีก 2 ปี เป็น 500 สาขา และอีก 1 ปี มี 600 สาขา

เมื่อโตขนาดนี้ MR. D.I.Y. จึงได้ขยายการลงทุนออกนอกประเทศในปี 2559 ด้วยการเปิดสาขาที่ไทยและบรูไน, ปี 2560 อินโดนีเซีย ปี 2561 สิงคโปร์และฟิลิปปินส์, ปี 2562 กัมพูชา, ปี 2563 อินเดีย, ปี 2564 ตุรกี และปี 2565 ที่สเปน รวมแล้ว ณ ปัจจุบัน MR. D.I.Y. มีร้านค้ามากกว่า 2,300 แห่ง มีสินค้ามากกว่า 18,000 รายการต่อสาขา, มีฐานลูกค้ากว่า 340 ล้านคน และมีพนักงานกว่า 30,000 คน

สำหรับไทย MR. D.I.Y. เข้ามาเปิดสาขาแรก ณ ซีคอน บางแค เมื่อปี 2559 จากนั้นมีการขยายสาขาเรื่อยๆ และในปี 2564 ได้แนะนำโมเดลใหม่ MR. D.I.Y. Express สำหรับในปี 2565 มีแผนจะเปิดสาขาให้ครบ 500 แห่ง และครบ 1,000 แห่งภายในปี 2569

จะเห็นได้ว่า จากร้านแบบห้องแถวเล็กๆ ตอนนี้ MR. D.I.Y. ขยายอาณาจักรยิ่งใหญ่ติดอันดับเชนร้านค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของอาเซียน ขณะที่ Tan Yu Yeh ติดอันดับ Top 10 มหาเศรษฐีของมาเลเซีย โดยปี 2563 มีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 2,400 ล้านเหรียญสหรัฐ

.

อ้างอิง

https://www.mrdiy.com/

https://www.fortune.my/tan-yu-yeh-tan-yu-wei.htm

https://en.wikipedia.org/wiki/MR.DIY

https://vulcanpost.com/719677/mr-diy-history-malaysia-home-improvement/

https://bit.ly/3vPpKT3

https://www.insage.com.my/Upload/Docs/MRDIY/MRDIY-Annual%20Report%202020.pdf#view=Full&pagemode=bookmarks

https://www.forbes.com/profile/tan-yu-yeh/?list=billionaires&sh=496954916b7b

https://www.tatlerasia.com/people/tan-yu-yeh

.

#ThePeople #Business # Tan_Yu_Yeh #MR_D_I_Y #มิสเตอร์_ดี_ไอ_วาย