Molly Ally โมเลกุลแห่งความสุขที่พร้อมส่งต่อให้ทุกคนที่ชื่นชอบไอศกรีมและรักสุขภาพ

Molly Ally โมเลกุลแห่งความสุขที่พร้อมส่งต่อให้ทุกคนที่ชื่นชอบไอศกรีมและรักสุขภาพ

สตีฟ จอบส์ เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณอยากให้ผู้คนมีความสุข อย่าเป็นผู้นำ ให้เป็นคนขายไอศกรีม” ซึ่งคำกล่าวนี้ตรงกับความคิดของผู้ก่อตั้ง Molly Ally ไอศกรีม Plant-Based รายแรก ๆ ของไทย ที่ต้องการส่งต่อความสุขและสุขภาพดีผ่านไอศกรีมของตัวเอง

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี 2563 Molly Ally ได้ถือกำเนิดขึ้นจากไอเดียของนักศึกษาปริญญาโทที่ต้องการทำให้เกิดผลจริงทางธุรกิจ ได้แก่ ‘กานต์ชนิต บุบผาชื่น’, ‘รตี บวรมงคลศักดิ์’ และ ‘โชติมา มีมุ่งธรรม’ พัฒนาขึ้นมาภายใต้คอนเซปต์ ‘ไอศกรีมที่ดีต่อใจคนรักสุขภาพ’   

“ตัวเองเป็นคนแพ้นมแบบไม่รู้ตัว และตอนทำธุรกิจ Cafe Cococano ร้านเครื่องดื่มสายมะพร้าว ลูกค้ามักจะถามว่า มีอาหารหรือเครื่องดื่มที่ไม่มีส่วนผสมของนมหรือไม่ ทำให้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า หรือ Plant-Based จะมา จึงนำไอเดียไปเสนอเพื่อนอีกสองคน” รตี - หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Molly Ally เล่าให้ฟัง

โมเลกุลแห่งความสุขที่พร้อมจะส่งต่อให้ทุกคน

คอนเซปต์ที่วางไว้สะท้อนให้เห็นตั้งแต่การตั้งชื่อ โดย Molly แปลว่า โมเลกุลแห่งความสุข Ally แปลว่า สำหรับทุกคน รวม ๆ แล้วความหมายของ Molly Ally คือ โมเลกุลแห่งความสุขที่พร้อมจะส่งต่อให้ทุกคน

แล้วทำไมต้องเป็น ‘ไอศกรีม’? 

Molly Ally โมเลกุลแห่งความสุขที่พร้อมส่งต่อให้ทุกคนที่ชื่นชอบไอศกรีมและรักสุขภาพ

เพราะรตีเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนชอบ และเมื่อได้รับประทานแล้วจะมีความสุข แต่มักจะตามมาด้วยคำว่า ‘แต่’ เช่น แต่ไขมันเยอะ แต่แคลอรีสูง แต่น้ำตาลสูง แต่คอเลสเตอรอลสูง เป็นต้น

นั่นเป็นช่องว่างที่เธอเห็น และนำมาสู่การพัฒนา Molly Ally ไอศกรีม Plant-Based ซึ่งส่วนผสมทั้งหมดทำมาจากพืช ไม่มีส่วนผสมของนมวัวที่หลายคนอาจแพ้ รสชาติหวานก็มาจากน้ำตาลช่อดอกมะพร้าวที่กระทั่งคนเป็นเบาหวานยังรับประทานได้

พยายามให้มากกว่าไอศกรีม

“หลักการเดียวของการทำอาหารคือต้องอร่อย แม้จะเป็น Plant-Based เป็นอาหารสุขภาพ ก็ต้องอร่อย” 

โดย Molly Ally ใช้เวลาพัฒนาสูตรอยู่ประมาณ 1 ปี ภายใต้หลักการง่าย ๆ คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ตัวเราเองกินแล้วชอบ กินแล้วอร่อย และมีการทดลองทำเป็นพัน ๆ ครั้ง กว่าจะได้ 4 รสชาติแรกออกมา ได้แก่ Hera ไอศกรีม Lemon Pie โรยหน้าด้วยถั่วพิสตาชิโอและแมคคาเดเมีย, Eden Garden ไอศกรีมถั่วพิสตาชิโอ, Apollo ไอศกรีมอะโวคาโดน้ำผึ้ง และ Romeo โกโก้บัตเตอร์เข้มข้น 

Molly Ally โมเลกุลแห่งความสุขที่พร้อมส่งต่อให้ทุกคนที่ชื่นชอบไอศกรีมและรักสุขภาพ Molly Ally โมเลกุลแห่งความสุขที่พร้อมส่งต่อให้ทุกคนที่ชื่นชอบไอศกรีมและรักสุขภาพ รตีเล่าว่า การทำรสชาติและการตั้งชื่อแต่ละรส จะสร้างให้มีความแปลกใหม่ แตกต่างจากคนอื่น และให้ลูกค้าได้อะไรมากกว่ารับประทานไอศกรีม เช่น นำคาแรคเตอร์ของตัวละครมาตั้งเป็นชื่อ เช่น Hera ไอศกรีม Lemon Pie ซึ่ง Hera เป็นเทพเจ้าแห่งความรัก มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน, Romeo เป็นตัวแทนของผู้ชายที่มีความเข้มแข็ง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าจูเลียตก็จะแสดงความรักที่อ่อนโยนอยู่เสมอ ฯลฯ

ปัจจุบันไอศกรีม Molly Ally มีทั้งหมด 25 รสชาติ มีหน้าร้าน 6 สาขา อาทิ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สยามเซ็นเตอร์ เอ็มควอเทียร์ เทอร์มินอล 21 ฯลฯ

“ตอนแรกเราปูเป็นไอศกรีมออนไลน์ เพราะเกิดในช่วงโควิด-19 ณ ตอนนั้นมีโจทย์คืออยู่ให้ได้ในยุคโควิด-19 นั่นก็คือการมุ่งสู่ออนไลน์ มีการเดลิเวอรี่ แต่เพื่อให้คนเข้าถึงและสร้างการรู้จักเพิ่มขึ้น เลยมาเปิดหน้าร้าน ตอนนี้ยังไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่ม เพราะอยากโฟกัสแต่ละสาขาให้บริการลูกค้าได้ดีมากขึ้นก่อน” 

Top of Mind ในกลุ่ม Premium Healty Icecrem

ด้วยความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร และมาช่วยแก้ Pain point ของคนที่อยากรับประทานไอศกรีมแต่แพ้นมวัว ซึ่งมีคนที่ประสบปัญหานี้อยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว โดยในเอเชียมีกว่า 90% และในไทย 70% ทำให้ Molly Ally ได้รับความสนใจและกระแสตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี 

Molly Ally โมเลกุลแห่งความสุขที่พร้อมส่งต่อให้ทุกคนที่ชื่นชอบไอศกรีมและรักสุขภาพ

นอกจากนี้ ยังคว้าแชมป์ New Venture Champion 2021 การแข่งขันการประกวดแผนธุรกิจของ University of Oregon ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีทีมนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำจากทุกมุมโลกส่งแผนเข้าประกวด รวมถึงได้เงินลงทุนจากรายการ Shark Tank Thailand ซีซั่น 3   

และเป็น 1 ใน 21 เมนูของโครงการ Future Food for Sustainability ที่จะเสิร์ฟให้ผู้นำเขตเศรษฐกิจที่เข้าร่วมงานประชุม APEC 2022 ได้ลิ้มลอง 

ปัจจุบัน Molly Ally ดำเนินธุรกิจมาปีครึ่ง เติบโตขึ้น 3 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับวันที่เริ่มต้นแบรนด์ ซึ่งรตีบอกว่าเกินเป้าหมายที่คิดไว้ ส่วนเป้าหมายต่อไป ต้องการให้ Molly Ally เป็น Top of Mind ในกลุ่ม Premium Healty Icecrem ด้วยการเปลี่ยนให้กลุ่มที่ชอบรับประทานไอศกรีมปกติหันมารับประทานไอศกรีมของเธอให้ได้ หลังจากเป็นที่รู้จักในคนกลุ่ม Vegan และกลุ่ม Plant-Based ในระดับหนึ่งแล้ว 

“เราอยากเป็นเหมือนโค้ก ซีโร่ ที่วันหนึ่งจากคนดื่มโค้กธรรมดาหันมาดื่มโค้กซีโร่เลย เพราะแม้เราจะเป็น Plant-Based แต่ก็อร่อย แถมคนกินไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพด้วย หวังว่าจะทำได้ในสักวันหนึ่ง”       

Passion จุดเริ่มต้นความสำเร็จ

เมื่อถามถึงเคล็ดลับความสำเร็จของเธอ รตีบอกว่า 1. อยากให้ทำทุกอย่าง Passion ทำในสิ่งที่อยากทำ มีเป้าหมายชัดเจน และตั้งใจทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นจริง ๆ เพราะการทำธุรกิจไม่ว่าขั้นตอนไหนก็ตามล้วนแล้วต้องเผชิญกับปัญหา และสิ่งเดียวที่ทำให้ไม่ท้อ ไม่ยอมแพ้ ก็คือ Passion เรื่องนี้ 

2. เมื่อเจอกับปัญหาไม่ว่าจะหนักแค่ไหน อย่าคิดว่าทำไมถึงเจอปัญหาอีกแล้ว และอยากให้คิดว่า การทำธุรกิจคือการแก้ปัญหาหรือทำอย่างไรถึงแก้ปัญหานี้ได้มากกว่า ให้มองเหมือนการเล่นเกมที่ต้องหาทางฝ่าด่านแต่ละด่าน 

3. การทำธุรกิจสามารถเรียนรู้ได้ระหว่างทาง โดยไม่จำเป็นต้องเรียนหลักสูตรการทำธุรกิจ อย่างตัวเธอเองแม้จะเรียนด้านการตลาดและทำธุรกิจมา แต่อยากจะบอกว่า การทำงานจริงกับที่เรียนมาไม่เหมือนกันเลย ดังนั้นใครอยากทำธุรกิจ ให้ลุยได้เลย และมาเรียนรู้ระหว่างทางเอง

“ถ้ามีไอเดีย ทดลองทำเลย แผนธุรกิจก็สำคัญ เพราะใช้เป็นเป้าหมาย แต่ไม่มีบอกนะว่าระหว่างทางจะเจออะไร ต้องเรียนรู้ เมื่อมี Passion สนุกในสิ่งที่ทำ สิ่งที่ชอบ ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรจะทำให้เราเดินต่อไปได้เรื่อย ๆ”

.

ภาพ : จุลดิศ อ่อนละมุน