ถอดความสำเร็จยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ยืนยง 9 ทศวรรษจากนวัตกรรมและความตั้งใจที่ส่งผ่านคนรุ่นเก่าสู่คนรุ่นใหม่

Never judge a book by its cover. 
อย่าตัดสินหนังสือจากหน้าปกหากยังไม่ได้ลองอ่าน หรือสำนวนแบบไทย ๆ ที่ว่า อย่าตัดสินคนจากภายนอก น่าจะเป็นคำอธิบายยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัวได้เป็นอย่างดีว่าทำไมยาเม็ดกลม ๆ ในซองสีฟ้า-ขาวที่มีตะขาบสีแดงสด 5 ตัวนี้ ถึงเป็นที่ยอมรับของใครหลายคนมานานเกือบศตวรรษ
 

ส่วนผสมของความสำเร็จของยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว อาจไม่ได้มีส่วนผสมใด ๆ ของตะขาบที่มีพิษร้าย อย่างที่ใครหลายคนน่าจะรู้กันไปแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ตะขาบ 5 ตัวสามารถยืนหยัดเป็นแบรนด์คุณภาพได้จนถึงทุกวันนี้ มาจากส่วนผสมของความเป็นแบรนด์ที่ไม่หยุดนิ่ง เพราะมีการปรับภาพลักษณ์และการสื่อสารที่โดนใจ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ทิ้งคุณค่าเดิมที่มาจากความเชื่อและความมุ่งมั่น ที่ส่งต่อคุณค่างานที่ทำจากรุ่นสู่รุ่น 

สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว หรือเคยผ่านตาแต่ยังไม่กล้าลองเพราะกลัวจะมีส่วนผสมของสัตว์มีพิษ หรือสรรพคุณอาจไม่เป็นอย่างที่เขาเล่าลือ อยากให้อ่านเรื่องราวของยาอมแก้ไอที่อยู่คู่คนไทยมาหลายยุคหลายสมัยนี้ไปพร้อมกัน ไม่แน่ว่าหลังอ่านจนจบอาจจะมองยาอมแก้ไอเม็ดเล็ก ๆ นี้ใหม่เลยก็เป็นได้

จากสงครามสู่ตะขาบ 5 ตัว
จุดเริ่มต้นของยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ต้องย้อนไปในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 นายจุ้ยไซ หรือ นายจุ้ยไซ แซ่ซิ้ม ชาวมณฑลฝูเจี้ยนที่อพยพจากเมืองจีน เข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทยที่อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเริ่มต้นด้วยการทำสวนและเลี้ยงเป็ด ไก่ เมื่อเริ่มมีทุนจึงได้เปิดร้านขายของชำ และจากการที่เป็นผู้ช่วยปรุงยาในร้านขายยาสมัยที่อยู่เมืองจีน เขาได้นำความรู้ด้านสมุนไพรจีน มาคิดค้นต่อยอดแล้วทดลองด้วยการนำไปใช้รักษาอาการเจ็บป่วยของตัวเอง ไปจนถึงญาติมิตรและคนใกล้ตัว แต่ที่คนติดใจกันมากคือ ยาอมแก้ไอที่สามารถรักษาอาการไอได้ชะงัดนัก 

ด้วยการบอกต่อแบบปากต่อปากถึงสรรพคุณของยาอมแก้ไอตัวใหม่นี้ ทำให้เริ่มมีคนสนใจขอเจียดยานี้กลับไปรักษาอาการให้กับญาติมิตรบ้าง ในปี 2478 นายจุ้ยไซ ย้ายมาอยู่ในกรุงเทพฯ ย่านตลาดเก่า ทำงานรับจ้างในตอนกลางวัน และใช้เวลาว่างในช่วงค่ำ ปรุงยาแล้วนำไปฝากขายตามร้านขายยาต่าง ๆ ในละแวกนั้น โดยใช้ชื่อว่า 'ยาอมแก้ไอซิมเทียนฮ้อ' (沈天河) 

ต่อมายาอมแก้ไอซิมเทียนฮ้อเริ่มเป็นที่รู้จัก เขาจึงได้ออกแบบซองบรรจุโดยใช้รูปตัวเองและตะขาบ มาเป็นเครื่องหมายการค้า ซึ่งเขาได้ความคิดตอนที่เห็นตะขาบหนีน้ำขึ้นมาเกาะฝาบ้านในช่วงที่อพยพหนีภัยสงครามโลก มาอาศัยอยู่ที่อำเภอพระประแดง 

เป็นความเชื่อของแพทย์จีนโบราณในการใช้พิษแก้พิษ คนป่วยถือว่ามีพิษในร่างกาย และตะขาบก็เป็นสัตว์มีพิษ จึงนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ในการใช้พิษล้างพิษเพื่อรักษาความเจ็บป่วย อีกทั้งเลข 5 ยังเป็นเลขสิริมงคลของคนจีน จึงเป็นต้นกำเนิดของแบรนด์ยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว

หลังจากได้ตราสัญลักษณ์ก็เป็นเวลาเดียวกับที่สงครามสงบลง เขาเลยหอบหิ้วยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว พร้อมกับยาอีกหลายชนิดที่ได้ปรุงขึ้นมา เช่น ยาหม่อง, ยาแก้ปวดท้อง, ยาแก้หอบหืด และยาหอม ออกเร่ขายตามร้านขายยาวันแล้ววันเล่า 

ซินแส จุ้ยไซ สั่งสมชื่อเสียงจากการบอกต่อปากต่อปากถึงสรรพคุณทางยาที่เขาใส่ใจผลิตเองทุกเม็ดมานานกว่า 20 ปี จนถึงเวลาที่เขาพร้อมจะเปิดร้านรับตรวจอาการผู้ป่วย และขายยาสมุนไพรเป็นของตัวเอง โดยไปได้ที่แถวศาลเจ้าแซ่ซิ้ม ฝั่งธนบุรี 

แน่นอนว่าร้านนี้ต้องมีชื่อว่าร้านขายยา 'ซิมเทียนฮ้อ'
ตะขาบรุ่นสอง
ขณะที่กิจการของร้านขายยาซิมเทียนฮ้อกำลังไปได้ดี ในปี พ.ศ. 2515 นายจุ้ยไซ แซ่ซิ้ม เจ้าของสูตรยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ก็ได้จากไปทิ้งไว้เพียงสูตรยามากมายให้กับทายาท

ภายหลังการเสียชีวิตของนายจุ้ยไซ ผู้สืบทอดคือ คุณสุเทพ และคุณสุนทร สิมะวรา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซึ่งต้องออกจากงานวิศวะที่ทำอยู่มาช่วยกันรับช่วงกิจการต่อ 

การสูญเสียเสาหลักของครอบครัว ในช่วงที่ยาปฏิชีวนะแผนปัจจุบันจากต่างประเทศเริ่มไหลทะลักเข้ามาตีตลาดยาจีน ทำให้ใครหลายคนอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าอาจเป็นการปิดฉากยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ที่สืบทอดมากว่า 4 ทศวรรษลงอย่างถาวร 

แต่ความเป็นจริงแล้วการถอยหลังหนึ่งก้าวของตะขาบ 5 ตัว กลับเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ ที่จะทำให้ยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว กลายเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้ 

หนึ่งในจิ๊กซอว์ที่เป็นจุดเปลี่ยนมาจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ด้วยความที่คุณสุเทพและคุณสุนทร มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และจบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ บวกกับประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวในระหว่างการทำงานกับบริษัทข้ามชาติมาก่อน ท่านได้ตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องปิดร้านขายยาซิมเทียนฮ้อ เพื่อมุ่งมั่นในการคิดค้นและผลิตยาเพียงอย่างเดียว ภายใต้บริษัทใหม่ที่มีชื่อว่า บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด

ทั้งสองท่านซึ่งเป็นกำลังสำคัญของบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่นี้ ได้ช่วยกันปรับปรุงกระบวนการผลิตด้วยการนำความรู้ทางด้านวิศวะและเครื่องจักรที่ทันสมัยเข้ามาใช้ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2523 บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด ได้กู้เงินเพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่บริเวณถนนพระราม 2 

โดยโรงงานแห่งนี้ได้ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการผลิตของยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปอีกขั้น 

สิ่งที่รับรองได้ถึงมาตรฐานของยาอมแก้ไอตราตะขาบโฉมใหม่คือ การได้รับรองมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) รวมทั้งสามารถจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในกว่า 40 ประเทศ เพื่อเตรียมขยายตลาดส่งออก ที่สำคัญพวกเขายังได้วางแผนตั้งแผนกวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ จนได้ยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว รสชาติใหม่ ๆ เช่น บ๊วย มิ้นท์ ตะไคร้ รวมทั้งการออกแบบบรรจุภัณฑ์เป็นแบบตลับเพื่อให้มีความสะดวก ตอบโจทย์ผู้ใช้งานยิ่งขึ้นอีกด้วย

การตั้งโรงงานในครั้งนี้ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยให้ยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ได้เริ่มต้นปรับปรุงพัฒนากระบวนการผลิตใหม่ทั้งหมด ที่ช่วยให้สามารถสั่งสมประสบการณ์และเงินทุนจนพร้อมสำหรับความท้าทายครั้งใหม่ 

นั่นคือการนำยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ไปบุกตลาดประเทศที่ถือได้ว่าเป็นต้นตำรับของสูตรยานี้อย่างประเทศจีน

เอามะพร้าวห้าวไปขายสวน
บางคนอาจจะคิดว่าการเอายาจีนที่ผลิตในประเทศไทยไปขายในประเทศจีนที่เต็มไปด้วยยาจีนเมดอินไชน่าแท้ ๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการเอามะพร้าวห้าวไปขายสวน 

แต่ในเวลานั้นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้ตะขาบรุ่นสองกล้าที่จะส่งออกไปประเทศที่เป็นศูนย์รวมของศาสตร์การแพทย์แผนจีนคือ การที่ยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ได้รับเสียงตอบรับในทางบวกจากญาติมิตรรวมทั้งนักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่ ที่เคยมีโอกาสลองสัมผัสยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัวจากไทยแลนด์ แล้วติดใจในเรื่องรสชาติและสรรพคุณที่รักษาอาการไอเจ็บคอได้เป็นอย่างดี 

ปี พ.ศ. 2548 ยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว จึงได้เริ่มส่งออกไปฮ่องกงและมาเก๊าอย่างเป็นทางการ ในขณะนั้นฮ่องกงเพิ่งกลับคืนสู่อ้อมอกของจีนแผ่นดินใหญ่ได้เพียง 8 ปี การตีตลาดฮ่องกง จึงเป็นเหมือนการชิมลางเคาะประตูหน้าบ้านเพื่อเตรียมเปิดเข้าไปสู่ตลาดขนาดใหญ่ต่อไป

แน่นอนว่ายาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ไม่ใช่มะพร้าวห้าว แต่เป็นมะพร้าวกะทิเนื้อแน่นที่แม้แต่เจ้าของสวนมะพร้าวเองยังต้องการ ยืนยันได้จากการได้รางวัลสุดยอดผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม ในร้านขายยาฮ่องกง มาเก๊า ประจำปี 2021 - 2022 

การส่งออกไปที่ฮ่องกง มาเก๊าเป็นแห่งแรกในครั้งนั้น ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ทั้งยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการขยายตลาดต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย

กฎ 3 รุ่น
'รุ่นปู่สร้าง รุ่นพ่อสาน รุ่นหลานเจ๊ง'

หลายคนน่าจะเคยได้ยินมาเหมือนกันว่าธุรกิจครอบครัวจำนวนมากจะรุ่งเรืองได้ไม่เกิน 3 รุ่น หรือที่เรียกกันว่า 'กฎ 3 รุ่น'

ธุรกิจของตะขาบ 5 ตัว ก็สามารถแบ่งได้เป็น 3 รุ่นเช่นกัน คือ

รุ่นที่ 1 นายจุ้ยไซ แซ่ซิ้ม ที่เป็นผู้ก่อตั้งและคิดค้นสูตรยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว 

รุ่นที่ 2 ในการกุมบังเหียนของคุณสุเทพ และคุณสุนทร ทายาทของ นายจุ้ยไซ แซ่ซิ้ม ที่นำความรู้ทางด้านวิศวะและเครื่องจักรที่ทันสมัย พร้อมกับการสร้างโรงงานแห่งใหม่ ช่วยให้สามารถขยายกิจการไปทั่วประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบตลับใหม่ และรสชาติใหม่ ๆ ทั้งรสบ๊วย รสมิ้นท์ และรสตะไคร้ 

โดยรุ่นที่ 3 ภายใต้การบริหารงานของคุณไพบูลย์ สิมะวรา ลูกชายของคุณนิวัต สิมะวรา อีกหนึ่งทายาทตะขาบ ที่มาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายต่างประเทศ คุณอรมณส์ แก่นศักดิ์ศิริ ลูกสาวของคุณสุนทร สิมะวรา เป็นผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด และคุณกรีฑา สิมะวรา ลูกชายของคุณพันศักดิ์ สิมะวรา เป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายในประเทศและแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ 

ทายาทรุ่นที่ 3 เหล่านี้ได้เรียนรู้จากรุ่นพ่อและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงานกับองค์กรชั้นนำของไทยมากมายก่อนจะเข้ามาช่วยสานต่อธุรกิจครอบครัว ทำให้สามารถต่อยอดก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในเจเนอเรชั่นของพวกเขา โดยมีเป้าหมายในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ภายใต้แบรนด์ 5 ตะขาบและขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศให้เติบโตขึ้นจากรุ่นที่ 2 ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น โดยขยายฐานลูกค้าไปสู่คนรุ่นใหม่อย่างยั่งยืน 

ในส่วนของต่างประเทศมีการเพิ่มตัวแทนจำหน่าย ทั้งในอินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน สิงคโปร์ ลาว พม่า กัมพูชา และจะขยายสู่ประเทศอื่น ๆ ในอนาคต ได้แก่ เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง ยุโรป และรัสเซีย ต่อไป ส่วนในประเทศมีการทำการตลาดอย่างจริงจัง ในยุคนี้โดยใช้กลยุทธ์ collaboration กับแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างโดยเฉพาะกลุ่มคนใหม่ ๆ มากยิ่งขึ้น 

ไม่ว่าจะเป็นการร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำอย่าง Greyhound และการพัฒนาสินค้าร่วมกับ SAPPE จนได้เครื่องดื่มน้ำสมุนไพรขวดช็อตที่เป็นกระแสในโลกโซเชียล อยู่ช่วงหนึ่ง พร้อมทั้ง ปรับเปลี่ยนวิธีการพูด การสื่อสารที่โดนใจกับคนรุ่นใหม่ในช่วง 1 - 2 ปีที่ผ่านมา มีแคมแปญโฆษณา ทั้ง Online และ Offline ที่โด่งดังเป็นที่พูดถึงไปทั่วประเทศ  ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เก่าแก่ไม่ตกยุค ดูเท่คลาสสิกและสามารถสร้างการรับรู้และคอนเนคไปอยู่ในทุกช่วงชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้ ขณะเดียวกันยังขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปทุกซอกมุมของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อ ซูปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายของฝากนักท่องเที่ยว เรียกได้ว่าลูกค้าสามารถหาซื้อยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ได้ทั่วทุกหนแห่งในประเทศ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบสเปรย์ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาร่วมกับ สวทช. โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC) เพื่อให้ยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัวใช้ง่ายขึ้น สะดวก เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ แก้ pain point เรื่องอมแล้วลิ้นดำ และเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าไปในตัว

ทั้งยังมีการวิจัยคุณภาพเพิ่มเติมกับ สวทช. และ BIOTEC พบว่า ยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ 99.9% ภายใน 5 นาที และเป็นครั้งแรกที่ค้นพบสารจากธรรมชาติไพโรแกลลอลในยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ที่ช่วยลดอาการคออักเสบได้จริง การวิจัยนี้ยังถูกนำไปตีพิมพ์ในนิตยสารทางวิทยาศาสตร์ระดับโลกอย่าง Journal of Functional Foods อีกด้วย โดยผู้บริหารเลือกที่จะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาสื่อสารกับผู้บริโภคเพื่อให้แบรนด์สมุนไพรแผนโบราณนี้มีความน่าเชื่อถือ พิสูจน์คุณภาพอย่างเป็นสากลได้จริง ยกระดับคุณค่าของ Brand อย่างมั่นคงและยั่งยืนพร้อมก้าวสู่การเป็น Global Brand 

เมื่อปลายปี 2564 – ต้นปี 2565 ยาอมแก้ไขตราตะขาบ 5 ตัวได้ออกภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่โดยครีเอทีฟและผู้กำกับระดับโลก ต่อ-ธนญชัย ศรศรีวิชัย ที่ตอนนี้มีผู้รับชมมากกว่า 7 ล้านวิว และเพิ่งได้รับรางวัลจาก The Cannes Lions International Festival of Creativity 2022 เทศกาลโฆษณาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ในหมวด Health & Wellness Bronze Lion และ Film Bronze Lion โดยภาพยนตร์โฆษณาและการสื่อสารทั้งหมดของแบรนด์ตะขาบ 5 ตัว ได้ปรับภาพลักษณ์ให้โดนใจและเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้นโดยไม่ทิ้งคุณค่าเดิมไปแม้แต่น้อย ในส่วนของการวางแผนสื่อเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดย MI Group ยังได้รับรางวัลจาก MAAT Media Awards มาถึง 4 รางวัล เป็นการการันตีประสิทธิภาพของแคมเปญการสื่อสารได้เป็นอย่างดี

 
กฎ 3 รุ่น เลยใช้ไม่ได้กับตะขาบรุ่นที่ 3 เพราะการเข้านำทีมคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยบริหารในครั้งนี้ ช่วยทำให้แบรนด์ตะขาบ 5 ตัว สามารถเปลี่ยนผ่านจากแบรนด์เก่าแก่ที่หลายคนยังเชื่อว่าโบราณและเฉพาะกลุ่ม เป็นแบรนด์ทันสมัยที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้อย่างกลมกลืน

ถ้ายังจะเอากฎ 3 รุ่น มาใช้กับตะขาบ 5 ตัว เราคงต้องเปลี่ยนใหม่เป็น “รุ่นปู่สร้าง รุ่นพ่อสาน รุ่นหลานเจ๋ง”

สเปรย์แก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว
“บรรเทาอาการไอ ชุ่มคอ ละลายเสมหะ สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุอาการคออักเสบได้มากกว่า 99.9% ภายใน 5 นาที มีสารไพโรแกลลอล สามารถต้านทานอาการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

งานวิจัยล่าสุดจากความร่วมมือของ BIOTEC และ บริษัทห้าตะขาบ โดยการใช้เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดแมคโครฟาจ (Macrophage) ของทั้งหนูและมนุษย์นั้นพบว่า ยาอมตะขาบมีประสิทธิภาพในการลดระดับการสร้างสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ เช่น TNF-alpha, IL-6, and COX-2 ได้ตั้งแต่ในระดับการแสดงออกของยีน โดยการศึกษานี้ยังพบเป็นครั้งแรกว่า สารที่มีชื่อว่า ไพโรแกลลอล (Pyrogallol) ซึ่งเป็นสารจากธรรมชาติที่พบในยาอมและสเปรย์ตราตะขาบนั้นสามารถต้านทานการอักเสบ (Anti-inflammatory Property) ได้

โดย BIOTEC ได้ใช้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวกระบวนการอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีการตรวจวิเคราะห์ยับยั้งจุลชีพ มาพัฒนาเป็นตัวยารูปแบบใหม่ที่คงสูตรตัวยาสมุนไพรเดิมที่เป็นสมุนไพรทั้ง 6 ชนิด ทั้ง โง้วป่วยจี้ ชะเอมเทศ รากบัวหลวง เฮ้งยิ้ง เง็กเต็ก และ แบะตง จนได้สเปรย์แก้ไอมีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ไม่ต่างจากยาเม็ดอม สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุอาการคออักเสบ (Pharyngitis) ได้มากกว่า 99.9% ภายในเวลา 5 นาที

มากไปกว่านั้นในกระบวนการผลิต ยังมีการควบคุมไม่ให้ก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และการผลิตหลักยังใช้เทคโนโลยีของคนไทย เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศอีกด้วย 

การฉีดเข้าลำคอได้อย่างตรงจุดของสเปรย์แก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องอมแล้วลิ้นดำ ที่แม้จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะเกิดจากสมุนไพรที่เป็นส่วนผสมของตัวยาเวลาโดนน้ำจะมีสีดำ จึงมีผลทำให้ลิ้นมีสีดำระยะหนึ่ง นอกจากนี้ยังสามารถใช้พ่นได้บ่อยตามต้องการ ไม่ต้องรอให้เกิดอาการไอ ฉีดพ่นครั้งละ 2 - 3 ครั้งโดยไม่ทำให้เกิดการดื้อยา ช่วยให้ชุ่มคออีกด้วย
 
แม้ตอนนี้สเปรย์แก้ไอ ตราตะขาบ 5 ตัว ยังไม่เคยทดสอบกับเชื้อ COVID-19 แต่สรรพคุณการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและรักษาอาการคออักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ทำให้หลายคนเริ่มพกสเปรย์แก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ที่พกพาง่าย ฉีดสะดวก ติดตัวเวลารู้สึกมีอาการไอเพราะช่วยให้ไม่ไอจนคนรอบข้างต้องหันมามองอีกต่อไป

ลองแล้วจะรัก
แม้จะมีรางวัลการันตีมากมายทั้ง รางวัล อ.ย. Quality Award 2010 ในปี พ.ศ. 2553, รางวัล Prime Minister Export Award และสุดยอด SMEs แห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2554, รางวัล Bai Po Business Awards ครั้งที่ 15 ในปี พ.ศ. 2562, รางวัล MAAT Media Awards ในปี พ.ศ. 2565 ไปจนถึงรางวัลระดับโลกอย่าง The Cannes Lions International Festival of Creativity 2022 ในปี พ.ศ. 2565 ที่เพิ่งได้รับ 

แต่การยืนยันสรรพคุณของยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ที่มีอายุกว่า 88 ปี ที่ดีที่สุดคือการได้ทดลองใช้ด้วยตัวเอง

สำหรับคนที่ยังไม่กล้าใช้ เพราะกลัวว่าจะมีส่วนผสมของตะขาบเหมือนหน้าซอง ต้องบอกเลยว่ายาสมุนไพรนี้ไม่ได้มีส่วนผสมของตะขาบอย่างที่หลายคนสงสัย ส่วนผสมทั้งหมดของยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว เป็นสมุนไพรที่สามารถดูชื่อตัวยาได้ที่เอกสารกำกับยาที่อยู่ด้านหลังซอง ซึ่งมีให้อ่านทั้งภาษาไทย อังกฤษ และจีน 

การที่สรรพคุณของยาอมแก้ไอตะขาบ 5 ตัวมีภาษาจีนกำกับ เป็นส่วนหนึ่งให้นักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาในประเทศไทยอ่านเข้าใจ แล้วลองใช้จนติดใจ ทำให้ยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว กลายเป็นของฝากยอดนิยมที่มีการบอกต่อแบบปากต่อปากกันในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีน ถึงขนาดมียาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัวปลอมออกขายในประเทศจีนและฮ่องกง ลอกเลียนแบบโดยใช้สัญลักษณ์ที่ใกล้เคียงกันจนสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภคชาวจีนเลยทีเดียว

อยากบอกว่าใครที่จะเปิดใจลองสัมผัสยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัวเป็นครั้งแรก ขอให้ลองนับตะขาบบนซองก่อนว่ามีกี่ตัว ถ้านับเห็นตะขาบสีแดงสด 5 ตัวล้อมรูปนายจุ้ยไซ ละก็เป็นของจริงแน่นอน สามารถเอาเข้าปากได้อย่างสบายใจ
 
จากยาต้มเองสู่ตลาดโลก
เรื่องราวของตะขาบ 5 ตัว จากยาที่ต้มเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยตัวเองและญาติมิตร สู่การตั้งเป้าเป็นหนึ่งใน global market ด้านยาสมุนไพรที่มีวางจำหน่ายไปทั่วโลก สามารถถอดบทเรียนได้มากมายทั้งการใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย เข้ามาปรับใช้ในกระบวนการผลิตยาสมุนไพรแบบดั้งเดิมที่ใช้แรงงานคน ซึ่งควบคุมมาตรฐานได้ไม่เที่ยงตรงเท่าเครื่องจักร จนได้รับมาตรฐาน​ GMP และ ISO การนำคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันเข้ามาช่วยบริหารงาน เพื่อปรับให้ภาพลักษณ์แบรนด์ตะขาบ 5 ตัว ให้ทันสมัยเข้ากับลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ได้มาก

ที่สำคัญคือมีการสร้างนวัตกรรมอย่างไม่หยุดนิ่ง จากซองลูกอมมาเป็นตลับเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน การเพิ่มรสชาติอื่น ๆ ให้กินง่ายขึ้นและล่าสุดพัฒนารูปแบบใหม่เป็นแบบสเปรย์แก้ไอร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC) แล้วต่อยอดเป็นยาแก้ไอรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องในอนาคต พร้อมกับปรับภาพลักษณ์การสื่อสารที่โดนใจไปตามยุคสมัยจากรุ่นสู่รุ่นอย่างไม่หยุดนิ่ง ทำให้แบรนด์ยังคงคลาสสิก แต่ไม่ล้าสมัยตามกาลเวลาโดยไม่ทิ้งตัวตนเดิม

ตอนนี้เราเข้าถึงยาแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัวได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะมีจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ไปจนถึงร้านขายยาชั้นนำทุกร้าน อีกทั้งเวลาอยู่ที่ต่างประเทศแล้วรู้สึกเจ็บคอ ก็ยังสามารถหาซื้อได้ เพราะตอนนี้ทุกประเทศในอาเซียนมีตัวแทนนำยาแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ไปวางจำหน่ายแล้ว 

การเปลี่ยนจากผู้เล่นในประเทศไปสู่ global market ของยาอมแก้ไอเม็ดเล็ก ๆ นี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ประเทศไทยยังมีสินค้าคุณภาพดีอีกเป็นจำนวนมาก ถ้ามีการนำความรู้สมัยใหม่มาพัฒนาต่อยอดให้ได้มาตรฐานแบบยาแก้ไออมตราตะขาบ 5 ตัว ไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิต เป็นอีกจุดแข็งที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยไปสู่ตลาดสากลได้ ช่วย​เพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
 
ส่วนผสมของความสำเร็จของยาแก้ไออมตราตะขาบ 5 ตัว อาจไม่ได้มีส่วนผสมใด ๆ ของตะขาบที่มีพิษร้าย อย่างที่ใครหลายคนน่าจะรู้กันไปแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ตะขาบ 5 ตัวสามารถยืนหยัดเป็นแบรนด์คุณภาพได้จนถึงทุกวันนี้ มาจากส่วนผสมของความเป็นแบรนด์ที่ไม่หยุดนิ่ง เพราะมีการปรับภาพลักษณ์และการสื่อสารที่โดนใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ทิ้งคุณค่าเดิมที่มาจากความเชื่อและความมุ่งมั่น ที่ส่งต่อคุณค่างานที่ทำจากรุ่นสู่รุ่น 

เหมือนที่ครั้งหนึ่งคุณสุเทพได้ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุผลที่ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาสืบทอดกิจการยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว มาจากคำพูดหนึ่งของคุณพ่อ นายจุ้ยไซ แซ่ซิ้ม ที่ว่า “อาชีพขายยา นอกจากได้เงินแล้วยังได้บุญด้วย”

แม้ว่าตอนนี้เราจะสปอยล์หนังสือที่ปกมีสัตว์เลื้อยคลานน่ากลัวอย่างตะขาบไปจนหมดเล่มแล้ว แต่เชื่อว่าสุดท้ายต้องได้ลองสัมผัสด้วยตัวเองแล้วจะรู้ว่า ทำไมยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ถึงได้เป็นยาแก้ไอคู่ใจคนไทยมาทุกยุคทุกสมัยจนถึงทุกวันนี้ 

ที่มา:
http://www.takabb.com
https://www.thepeople.co/read/business/27948
https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1756464622000627
https://www.youtube.com/watch?v=ZF9me3GFmxU
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/825370
https://www.thansettakij.com/blogs/columnist/490964
https://mgronline.com/live/detail/9500000120138
https://www.fda.moph.go.th/sites/drug/MedHerbEBook/Newsletter%20MedHerb-1-2557.pdf
https://techsauce.co/saucy-thoughts/family-business-5takabb-president
https://www.thonburi-home.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538848108&Ntype=5
https://www.marketthink.co/7978
https://scitech.kpru.ac.th/portal/content/RsPA7INOZT0
https://brandinside.asia/sappe-x-takabb-functional-herbal-drink/
https://www.kasikornbank.com/th/business/sme/ksmeknowledge/article/smestory/pages/legend-brand_go-international.aspx
https://www.brandbuffet.in.th/2020/02/takabb-brand-strategy-for-sustainable/
https://www.smethailandclub.com/entrepreneur-5438-id.html
https://www.mhesi.go.th//index.php/pr/news/895-sci-update
https://new.qq.com/omn/20210413/20210413A0BVM600.html