11 ธ.ค. 2565 | 20:10 น.
- จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม แหล่งท่องเที่ยวในโคราชที่ห่างจากตัวเมืองกว่า 20 กิโลเมตร แต่สามารถสร้างมูลค่าจากกิจกรรมต่าง ๆ ได้
- ต้อง บุตรสีชา ผู้จัดการ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม เล่าถึงแนวคิดเรื่องแหล่งท่องเที่ยว โดยมองว่า การทำงานกับชาวบ้านคือองค์ประกอบสำคัญ
อาหาร ดนตรี และวัฒนธรรมของคนอีสาน เป็นสิ่งที่คนทั่วประเทศหรือแม้แต่ทั่วโลกรู้จักดี แต่ในอีกด้าน ภาพลักษณ์ของอีสานมักถูกด้อยค่า บางคนติดกับภาพจำว่า อีสานมีทรัพยากรไม่โดดเด่นเท่ากับภูมิภาคอื่นๆ ไร้การพัฒนา แห้งแล้ง และถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
บริบทข้างต้นสะท้อนว่า ผู้คนรับรู้ต่อตัวตนความเป็นอีสานในหลายมิติ ทั้งในด้านบวกและด้านลบ ถึงเช่นนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พื้นที่นี้เป็นพื้นที่แห่งโอกาส มีแง่มุมที่น่าสนใจและปรากฏการณ์ความเปลี่ยนแปลงหลากหลายมิติซึ่งผู้คนบางกลุ่มยังนึกไม่ถึงหรือไม่เป็นที่รับรู้มาจนถึงวันนี้
เรื่องราวเหล่านี้ถูกบอกเล่าในเวที ‘อีสานกินม่วน: อีสานกับโอกาสทางธุรกิจอาหาร เกษตร ท่องเที่ยว’ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565 ที่ SRICHAN Creative Stage, ตึกคอม จังหวัดขอนแก่น นำบุคลากรแถวหน้าจากแวดวงต่าง ๆ มาบอกเล่าเรื่องราวที่จะทะลวงไปถึงแก่นของความเป็นอีสานในด้านเศรษฐกิจและสังคมยุคปัจจุบันอย่างยั่งยืน
เวทีทอล์กดังกล่าวจัดขึ้นในฐานะส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่เรียกว่า ‘เว่าถึงแก่น’ ทอล์กโชว์เพื่อให้เข้าใจภาคอีสานมากขึ้น
สำหรับกิจกรรม ‘เว่าถึงแก่น’ จัดอยู่ในส่วนหนึ่งของงาน Isan BCG Expo 2022 มหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอีสานและครั้งแรกในประเทศไทยภายใต้แนวคิด Collaboration : ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ จัดขึ้นในวันที่ 9-12 ธันวาคม 2565 ณ Khon Kaen Innovation Centre (KKIC) จังหวัดขอนแก่น
หากใครได้เดินทางมาจังหวัดนครราชสีมา น่าจะคุ้นเคยกับชื่อของ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ซึ่งตั้งอยู่ใน ตำบลตะขบ อำเภอปักธงชัย
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ห่างจากตัวเมืองกว่า 25 กิโลเมตร แต่ยังสามารถสร้างมูลค่า พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญได้ นั่นย่อมทำให้จุดท่องเที่ยวแห่งนี้น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
ต้อง บุตรสีชา ผู้จัดการ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม เล่าว่า จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อปี 2531 เป็นฟาร์มที่ดำเนินการด้วยเทคโนโลยีการเกษตรทันสมัยและกุญแจหลักของการดำเนินกิจการคือการผสมผสานระหว่างพื้นที่ทางการเกษตร และให้ความรู้ โดยเรียนรู้ทุกกระบวนการผลิตผ้าไหมอันเป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่การสาวไหม ฟอกย้อมเส้นไหมจากสีธรรมชาติ และการทอผ้าไหม
ถึงเช่นนั้นความท้าทายของการทำแหล่งท่องเที่ยวคือ การทำให้ผู้มาเยือนได้ใช้เวลามากกว่า 3-4 ชั่วโมงอยู่ในพื้นที่ ไม่ใช่เพียงแค่มาแล้วกลับ และนั่นทำให้เกิดการสร้างมูลค่าผ่านการผสมผสานหลายอย่างเข้าด้วยกัน เริ่มตั้งแต่จุดที่ 1 ทุ่งคอสมอสและแปลงเก็บผักปลอดสาร สวนผักลอยฟ้าที่คัดสรรพืชผักสมุนไพรและพืชผักสวนครัวหลากหลายสายพันธุ์
จุดที่ 2 ลานฟักทองและทุ่งวงกต ซึ่งมีทุ่งดอกไม้หลาก
จุดที่ 3 หมู่บ้านอีสาน ชมบ้านเรือนอีสานในแบบต่าง ๆ รวมทั้งศาสนาคารที่งดงามตามแบบฉบับของชาวอีสาน ซึ่งมีวิถีชีวิตและประเพณีวัฒนธรรมของชาวอีสาน เช่น บุญคูนลาน โฮงฮดน้ำ การทำเทียนพรรษา ประเพณีแห่ต้นดอกไม้
จุดที่ 4 หมู่บ้านจิม ร่วมชมและเรียนรู้กระบวนการผลิตผ้าไหมอันเลื่องชื่อและเป็นเอกลักษณ์ของจิม ทอมป์สัน ตั้งแต่วงจรชีวิตหนอนไหมที่สร้างเส้นใยธรรมชาติ การสาวไหม การฟอกย้อมเส้นไหม การทอผ้าไหมและการพิมพ์ผ้าไหม
จุดที่ 5 ตลาดจิม สวนไม้ดอกและไร่มะเขือยักษ์พันธุ์หายาก และยังสามารถเลือกซื้อผัก ผลไม้ ต้นไม้ ไม้ดอกกระถางหลากหลายสายพันธุ์
“ความท้าทายในการทำธุรกิจท่องเที่ยวนอกทำเลหลัก คือการทำงานกับชาวบ้าน ทำอย่างไรให้สามารถขายผลิตภัณฑ์ได้พยายามหลอมรวมทั้งวัฒนธรรม แหล่งสินค้าที่มีคุณภาพ พยายามดึงชุมชนมาเป็นแนวร่วม ดูประวัติศาสตร์ชุมชนนั้น ๆ ทำให้เห็นว่าการเติบโตไปด้วยกัน ให้คนได้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น ถ้ามีคนมาท่องเที่ยว พื้นที่ทำให้ธุรกิจอื่น เช่น รีสอร์ตก็ขายได้ ก๋วยเตี๋ยวก็ขายได้ เกิดการจ้างงาน ซึ่งที่จิม ทอมป์สันฯ มีการจ้างงานในชุมชนมากกว่า 200 คนในแต่ละปี”
โอกาสจากธุรกิจท่องเที่ยวจะเกิดได้ ต้องหาโอกาส ขณะที่ตลาดชุมชนถูกมองว่าคือทางรอด และต้องรู้จริงในสิ่งที่ทำ เช่น หากจะปลูกต้นไม้ต้องรู้ว่าจะโตวันไหน โรยวันไหน และช่วงไหนเหมาะจะเชิญชวนให้คนมาท่องเที่ยว