เอ็มเม็ต โคเฮน มือเปียโนแจซเลือดใหม่ เน็ตไอดอลสายดนตรี ใช้ไลฟ์สตรีมพลิกวิกฤตเป็นโอกาส

• เอ็มเม็ต โคเฮน นักเปียโนแจซรุ่นใหม่ที่มาแรงในยุคนี้มีจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขามีชื่อเสียงวงกว้างมากขึ้นจากไลฟ์สตรีมในอะพาร์ตเมนต์
• ไลฟ์สตรีมของเขาทำให้ศิลปินแถวหน้าของโลกสนใจมาร่วมงาน และทำให้เขาเป็นจุดสนใจของวงการแจซ สืบเนื่องมาถึงช่วงสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายแล้ว

เอ็มเม็ต โคเฮน (Emmet Cohen) เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมาในช่วงสถานการณ์โควิด-19 จากการที่เขาเริ่มสตรีม Live From Emmet's Place จากอะพาร์ตเมนต์ของเขา

ในช่วงแรก โคเฮน และเพื่อนร่วมวงดนตรีของเขาอีก 2 คนที่เล่นดนตรีด้วยกัน ได้แก่ Russell Hall มือเบส และ Kyle Poole มือกลอง จัดทำลิงก์ที่สามารถให้ทิปได้ไว้ให้สำหรับผู้ชมที่ต้องการให้กำลังใจการแสดงของพวกเขา

จากคลิปวิดีโอ Live Streaming ที่เขาได้แสดงดนตรีกับ Cyrille Aimee ในเพลง “La Vie en rose” ซึ่งมีคนเข้ารับชมกว่า 5 ล้านคน จากนั้น Session ก็ขยายออกไปอย่างแพร่หลาย

มีนักดนตรีรวมถึงนักร้องที่มีชื่อเสียงในแวดวงแจ๊ส อาทิ Veronica Swift, Joy F. Brown, Joe Lovano, Buster Willaims, Arturo Sandoval, Paquito D’rivera, George Coleman, Ron Carter, Jimmy Cobb, Samara Joy, Houston Person, Peter Bernstein, Christian McBride, Russell Malone, Albert Tootie Heath Benny Golson และนักดนตรีที่มีชื่อเสียงอีกมากมายก็ได้เข้าร่วมแสดงดนตรีกับเขาที่อะพาร์ตเมนต์เพื่อ Live Streaming

มีนักดนตรีและนักร้องได้ร่วมสตรีมสดกับเขาไม่ต่ำกว่า 90 รายการ โดยอ้างอิงจากโพสต์บน YouTube ในช่วงมิถุนายน ค.ศ.2022 จำนวนการดูวีดีโอของ Emmet Cohen ได้เพิ่มขึ้นจาก 1.6 ล้านวิว ในเดือนมกราคม ค.ศ.2021 เป็น 11.4 ล้านวิว ในเดือนเมษายน ค.ศ.2022

คริส โรบินสัน เขียนบทความกล่าวถึงเขาว่า สมาคมนักข่าวแจซโหวตให้โคเฮนเป็น ‘ผู้ผลิตสตรีมสดแห่งปี’ ประจำปี ค.ศ.2022 ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า เอ็มเม็ต โคเฮน ได้เปลี่ยนวิกฤตจากสถานการณ์ไวรัสทั่วโลกที่ทำให้ให้นักดนตรีไม่สามารถแสดงดนตรีสดได้ ให้เป็นโอกาสของเขา ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักเขามากขึ้น

เอ็มเมต โคเฮน เกิดที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เขาเริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่อายุ 3 ขวบ และได้เข้ารับการศึกษาที่มหาวิทยาลัยดนตรีในสหรัฐอเมริกา จนจบการศึกษาระดับปริญญาโทที่ Manhattan School Of Music เขาได้พำนักอยู่ในนครนิวยอร์ก

โคเฮน มีผลงานบันทึกเสียงมากมาย อาทิ In The Element (ค.ศ.2011), Infinity (ค.ศ.2013), Master Legacy Series (ค.ศ.2018 -2019), Future Stride (ค.ศ.2021), Uptown In Orbit (ค.ศ.2022) โดยได้บันทึกเสียงร่วมกับศิลปินแจ๊สระดับตำนาน อาทิ Ron Carter, Herlin Riley, Jimmy Cobb, George Coleman, Albert “Tootie” Heath, Benny Golson, Sean Jones เป็นต้น

โคเฮน แสดงดนตรีตามเทศกาลดนตรีต่าง ๆ ทั้งในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ อาทิ SF Jazz Festival, Monterey Jazz Festival, Newport Jazz Festival, North Sea Jazz Festival (ฮอลแลนด์), Bern Jazz Festival (สวิตเซอร์แลนด์) ไปจนถึงตามเว็บไซต์ของเขา ตามสถานที่แสดงสด รวมถึง Village Vanguard, Blue Note, Dizzy's Club Coca-Cola, Birdland, Jazz Standard และ Lincoln Center ในนครนิวยอร์ก, Kennedy Center ในวอชิงตัน ดี.ซี., Ronnie Scott's ในลอนดอน, Jazzhaus Montmartre ในโคเปนเฮเกน และ Cotton Club ในโตเกียว

เขาขึ้นแสดงดนตรีในตำแหน่งนักเปียโนเป็นเวลายาวนาน โดยแสดงเป็นวงหลักในช่วงดึกประจำสัปดาห์ที่ Smoke Jazz ในนครนิวยอร์ก ในปี ค.ศ.2019 โคเฮน ได้รับรางวัลที่ 1 จากรางวัล American Pianist Awards ทำให้เขาได้รับรางวัล Cole Porter Fellowship ประจำปี ค.ศ.2019 จาก American Pianists Association ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนเป็นจำนวนเงิน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมสัญญาบันทึกเสียงกับค่ายเพลง Mack Avenue Records ในปี ค.ศ.2021

ต่อมา โคเฮน ยังได้ออกผลงานอัลบั้มแรกกับค่ายเพลง Mack Avenue Records ชื่ออัลบั้ม Future Stride

สไตล์การเล่นดนตรีของโคเฮน ค่อนข้างมีการผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง จังหวะสวิง, สไตล์เปียโน, ภาษาของดนตรีบีบ็อบ (Bebop), เสียงที่มีลักษณะดนตรีบลูส์ หรือที่เรียกว่า Bluesy รวมถึงความใหม่ของดนตรีในลักษณะโมเดิร์นแจซ การนำเสนอในรูปแบบเปียโนทรีโอที่ไม่ได้เก่าและใหม่ เป็นการผสมผสานในการเล่นที่ลงตัว มีการนำเสนอแนวทางการเล่นโดยเปลี่ยนโครงสร้างของเพลงที่น่าสนใจ การทำส่วนเริ่ม ส่วนจบของเพลง รวมถึงเทคนิคในการบรรเลงเปียโนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น Brock Chords, Voicing, สไตล์ที่มาจากนักเปียโนแจ๊สที่เป็นต้นแบบในยุคเก่า ๆ อาทิ Oscar Peterson, Erroll Garner, Cedar Walton, McCoy Tyner

จะเห็นได้ว่านอกจากที่โคเฮนเป็นนักดนตรีเปียโนแจซที่มีฝีมือแล้ว เขายังเล็งเห็นถึงวิกฤตของโลกจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ทุกอย่างหยุดลง ส่งผลกระทบให้นักดนตรีทั่วโลกไม่สามารถแสดงดนตรีได้ โดยนำสิ่งที่ทุกคนมีอยู่ คือที่พักอาศัย มาเป็นสถานที่แสดงดนตรี และแสดงถึงความใส่ใจที่เขาทำให้คุณภาพเสียงและการถ่ายทำสตรีมมิ่งมีคุณภาพ ทำให้เขาประสบความสำเร็จจนทุกคนในโลกรู้จักเขามากขึ้น ซึ่งในโลกสมัยใหม่ ผู้ที่เป็นนักดนตรีอาจจะต้องใส่ใจในเรื่องการแสดงสตรีมมิ่งหรือการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อทำให้ผู้คนได้เห็นความสามารถมากขึ้น

ในระหว่างวันที่ 27 – 29 มกราคม พ.ศ.2566 ถือเป็นโอกาสพิเศษที่โครงการเทศกาลดนตรีแจ๊สนานาชาติเพื่อการเรียนรู้ (Thailand International Jazz Conference 2023, TIJC2023) จัดโดย วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำวง Emmet Cohen Trio เข้าร่วมแสดงดนตรีในโครงการ

และอาจกล่าวได้ว่า การแสดงครั้งนี้จะเป็นการแสดงแรกของเขาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งงานเทศกาลดนตรีแจซนานาชาติเพื่อการเรียนรู้ได้นำวงดนตรีทั้งจากประเทศไทยและระดับนานาชาติ จากทวีปอเมริกาและยุโรป เข้าร่วมแสดงดนตรีกว่า 50 วง รวมถึงยังมี Workshop, Masterclass จากศิลปินแจซระดับโลก เริ่มตั้งแต่เช้าไปจนถึงค่ำ เพื่อที่จะให้ผู้รักในดนตรีแจ๊สได้รับความรู้ และมีความสุขร่วมกันตลอดสุดสัปดาห์เลยทีเดียว

ศิลปินที่เข้าร่วมแสดงดนตรีในครั้งนี้ อาทิ Luca Ciarla Quintet Feat. Mike Del Ferro, Laurent De Wilde trio, Sketchbook Quartet, Sandro Roy Unity Duo, East Side Jazz Initiative, Music 101 Feat. Delfeayo Marsalis & Javon Jackson อาจกล่าวได้ว่า เทศกาลดนตรีแจซนานาชาติเพื่อการเรียนรู้ในครั้งนี้ จัดขึ้นสำหรับผู้ที่เป็นคอดนตรีแจ๊สโดยเฉพาะ และไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

ติดตามรายละเอียดงานและตารางการแสดงจากที่นี่