‘เจียงเจ๋อหมิน’ อดีตผู้นำจีนยุคแดนมังกรผงาด-ใกล้ชิดตะวันตก จากไปช่วงจีนผันผวนภายใน

‘เจียงเจ๋อหมิน’ อดีตผู้นำจีนยุคแดนมังกรผงาด-ใกล้ชิดตะวันตก จากไปช่วงจีนผันผวนภายใน

เจียงเจ๋อหมิน อดีตผู้นำจีนซึ่งก้าวสู่อำนาจหลังโศกนาฏกรรมที่เทียนอันเหมิน เสียชีวิตในวัย 96 ปี ยุคที่เขามีอำนาจคือห้วงที่จีนทะยานเติบโต กระชับสัมพันธ์กับตะวันตก เขาจากไปในยุคจีนปั่นป่วนภายใน

  • เจียงเจ๋อหมิน เสียชีวิตลงจากผลของลูคีเมียและอวัยวะภายในล้มเหลวหลายส่วน
  • เขาเริ่มต้นจากบทบาทรัฐมนตรีที่บริหารจัดการอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุค 80s ก่อนขึ้นเป็นประธานาธิบดีเมื่อปี 1993

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2022 พรรคคอมมิวนิสต์จีนเผยแถลงการณ์ว่า นายเจียงเจ๋อหมิน อดีตผู้นำจีนเสียชีวิตลงจาก ลูคีเมีย (leukaemia) และมีภาวะอวัยวะภายในล้มเหลวหลายส่วน

คอการเมืองจดจำภาพลักษณ์ของเจียงเจ๋อหมิน ได้แม่นยำจากกรอบแว่นขนาดใหญ่ และอีกหนึ่งสิ่งที่คนจดจำอดีตผู้นำจีนรายนี้ได้ คือยุคที่เขามีบทบาทและอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในแดนมังกรและภายนอกแผ่นดินจีนท่ามกลางเหตุการณ์ใหญ่ระดับโลกมากมาย

เจียงเจ๋อหมิน ได้รับเลือกให้ขึ้นเป็นผู้นำจีนหลังเหตุการณ์ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปี 1989 ช่วงเวลาที่เขามีชีวิตอยู่ จีนเข้าร่วมมีปฏิสัมพันธ์กับโลกตะวันตกและประเทศมหาอำนาจหลายอีเวนต์ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิสัมพันธ์กับองค์การการค้าโลก (World Trade Organization) ไปจนถึงการส่งต่อฮ่องกง จากบริติช มาสู่จีน

เมื่อปี 1999 เจียงเจ๋อหมิน ถือเป็นผู้นำจีนคนแรกที่เดินทางไปเยือนสหราชอาณาจักร และยังเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาหลายครั้ง 

ช่วงเวลาที่เจียงเจ๋อหมิน มีอำนาจ จีนมีความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาแบบไม่ได้ร้อนระอุ ในสมัยที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช (George W. Bush) ดำรงตำแหน่งและเกิดเหตุการณ์ 9/11 ผู้ก่อการร้ายโจมตีมหาอำนาจ เจียงเจ๋อหมิน เคยเสนอปฏิบัติการร่วมในการต่อต้านก่อการร้ายกับรัฐบาลสหรัฐฯ ภายหลังเกิดการโจมตีเมื่อ 11 กันยายน 2001

เจียง เกิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 1926 ในเมืองหยางโจว (Yangzhou) ช่วงเวลานั้นจีนอยู่ภายใต้อิทธิพลของญี่ปุ่น 

เจียงเจ๋อหมิน จบการศึกษาด้านวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งแต่อายุ 21 ปี ขณะที่เขายังศึกษาในวิทยาลัย 

ช่วงเริ่มต้นอาชีพระยะแรกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในต่างประเทศมากกว่าในแผ่นดินจีน โดยฝึกฝนด้านการงานในโรงงานรถยนต์ในมอสโคว์ ที่โซเวียต เวลาต่อมาถึงสัมผัสสายงานด้านการทูตในโรเมเนีย

ในยุค 80s เจียงเจ๋อหมิน มีตำแหน่งเป็นถึงรัฐมนตรีดูแลอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และมีตำแหน่งทางการเมืองระดับหัวหน้าในเซี่ยงไฮ้ แต่ก็ยังไม่ได้มีบทบาทไปถึงระดับประเทศ

จุดเปลี่ยนที่ส่งให้เขาขึ้นสู่ตำแหน่งระดับสูงของแผ่นดินจีนคือภายหลังเหตุการณ์เทียนอันเหมิน

เจียงเจ๋อหมิง

การกวาดล้างผู้ชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองกลายเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้จีนถูกวิจารณ์จากนานาชาติ และยังทำให้เกิดความไม่ลงรอยทางแนวคิดภายในกลุ่มคนระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยมีกลุ่มคนที่เป็นทั้งฝ่ายขวาซึ่งไม่เอาแนวทางประนีประนอม และกลุ่มคนที่เห็นควรกับการปฏิรูป

เจียงเจ๋อหมินที่เคยถูกมองว่าเป็นข้าราชการที่ดำเนินงานเชื่องช้าได้รับความสนใจให้มาทำงานในระดับสูง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเขาเป็นผู้นำในสไตล์ประนีประนอมและออกแนวสายกลาง ด้วยความหวังว่าเขาจะประสานระหว่างฝั่งที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการประนีประนอมและฝั่งที่มีแนวคิดออกเสรีนิยมมาผสมผสาน

เจียงเจ๋อหมิน ขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 1993 โดยช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งสภาพเศรษฐกิจจีนแข็งแกร่ง พรรคคอมมิวนิสต์จีนกระชับอำนาจภายในได้เข้มแข็งมั่นคง จีนกลายเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของโลกที่กำลังเติบโต

ช่วงเวลาที่เขามีอำนาจ เขามีประสบการณ์ส่งผ่านฮ่องกงโดยสงบเมื่อปี 1997 จีนยังเข้าร่วมองค์การการค้าโลกเมื่อปี 2001 

อย่างไรก็ตาม เขายังถูกวิจารณ์เรื่องมาตรการกวาดล้างกลุ่มฝ่าหลุนกง ซึ่งถูกมองว่าเป็นปฏิปักษ์กับพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อปี 1999 

อีกหนึ่งสิ่งที่เขาถูกจดจำได้คือ เจียงเจ๋อหมิน กระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ และไปเยือนสหรัฐฯ หลายครั้ง 

เจียงเจ๋อหมิง เมื่อปี 2012

เจียงเจ๋อหมิน มีสิ่งที่แตกต่างจากผู้นำจีนส่วนใหญ่อีกอย่างหนึ่งคือบุคลิกและกิจกรรมส่วนตัวที่ดูจะมีสีสันมากกว่าผู้นำคนอื่น เจียงเจ๋อหมิน กล่าวถึงเอลวิส เพรสลีย์ ในงาน global summit 

หลังจากเขาลงจากอำนาจ โดยเริ่มต้นกระบวนการเปลี่ยนถ่ายตำแหน่งเมื่อพฤศจิกายน 2002 ก่อนที่ นายหูจิ่นเทา จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนในปี 2003

ขณะที่ในปี 2004 เจียงเจ๋อหมิน ก้าวลงจากตำแหน่งทางการเมืองตำแหน่งสุดท้ายของเขา หลังจากนั้นมาก็เว้นระยะห่างจากงานของรัฐบาลและไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสาธารณะ ก่อนมีรายงานว่าเขาเสียชีวิตลงในปี 2022 

แม้จะไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะแต่เจียงเจ๋อหมิน ยังมีอิทธิพลต่อการเมืองจีนอยู่ในระดับหนึ่ง เช่น การกลับมาปรากฏตัวในงานของพรรคเมื่อปี 2012 หลังจากนั้นมา เขาปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2019 เข้าร่วมงานฉลองครบรอบ 70 ปี การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน (People's Republic of China - PRC)

 

อ้างอิง:

BBC

BBC (2)