แบรนดอน เซย์ พลเมืองดีที่ปลดอาวุธมือกราดยิงในชุมชนคนเชื้อสายจีน และคำบอกเล่านาทีชีวิต

แบรนดอน เซย์ พลเมืองดีที่ปลดอาวุธมือกราดยิงในชุมชนคนเชื้อสายจีน และคำบอกเล่านาทีชีวิต

‘แบรนดอน เซย์’ พลเมืองดีที่แย่งปืนจากมือกราดยิงชุมชนคนเชื้อสายจีนในสหรัฐอเมริกาครั้งล่าสุด ช่วงต้นปี 2023 บอกเล่าความรู้สึกและประสบการณ์วินาทีชีวิต วีรกรรมของเขาช่วยให้ผู้คนจำนวนมากรอดการถูกกราดยิงได้

  • พลเมืองดีที่ปลดอาวุธมือกราดยิงในชุมชนชาวจีนในสหรัฐอเมริกาช่วงต้นปี 2023 ได้รับคำยืนยันว่าเป็นแบรนดอน เซย์ 
  • แบรนดอน เซย์ ช่วยงานกิจการครอบครัวในออฟฟิศ ขณะที่ผู้เตรียมก่อเหตุเดินเข้ามาในอาคาร 

“ใจของผมหล่นวูบ ผมคิดว่าผมกำลังจะตาย” แบรนดอน เซย์ ชายหนุ่มผู้ปลดอาวุธคนก่อเหตุกราดยิงย่านชุมชนเชื้อสายจีนในสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังจากเขายื้อแย่งอาวุธจากผู้ก่อเหตุ ช่วยชีวิตผู้คนให้รอดมาได้จำนวนมาก

ช่วงดึกของคืนวันเสาร์ที่ 21 มกราคม (ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ) แบรนดอน เซย์ หนุ่มวัย 26 ปี กำลังทำงานในออฟฟิศจำหน่ายตั๋วที่ฮอลล์เต้นรำแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวที่ย่านอัลฮัมบรา อันเป็นพื้นที่อีกหนึ่งจุดที่ผู้ก่อเหตุกราดยิงเข้าไปหวังก่อเหตุหลังจากเพิ่งกราดยิงในฮอลล์เต้นรำอีกแห่งจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย

ขณะช่วยงานอยู่ วินาทีไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น แบรนดอน เล่าว่า ชายผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาเหมือนกับสำรวจพื้นที่ จากนั้นก็จ่ออาวุธมาที่เขา

“ผมกำลังจะตาย นี่แหละจุดจบ ชีวิตผมจะจบลง” แบรนดอน เล่าความรู้สึกในช่วงวินาทีแห่งชีวิตขณะให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น (CNN)

แต่แล้วมีบางอย่างเกิดขึ้น และผลักดันให้แบรนดอน ปรี่เข้าชายผู้ก่อเหตุ ทั้งสองยื้อแย่งกันอยู่ประมาณ 40 วินาที (แบรนดอน เล่าความรู้สึกว่า ส่วนตัวเขารู้สึกว่ามันนานกว่านั้น) กระทั่งเขาแย่งปืนจากชายผู้ก่อเหตุวัย 72 ปีมาได้

แบรนดอน เล่าว่า ขณะชุลมุนกันในระยะประชิด เขาโดนฟาดเข้าที่ใบหน้า ด้านหลังศีรษะ และด้านหลังมือหลายครั้ง

“ผมพยายามเบี่ยงทิศทางอาวุธให้ห่างจากตัวผมและห้องบอลล์รูม ให้ไปชี้อยู่ที่พื้น กรณีที่เขาเกิดยิงขึ้นมา” ณ วินาทีนั้น เขาเล่าย้อนไปถึงความคิดของตัวเองในเวลานั้นว่า “ถ้าผมปล่อยปืนไป อะไรจะเกิดกับผม ผู้คนรอบตัวผม เพื่อนผม และครอบครัวของผม”

ท้ายที่สุดแล้ว แบรนดอน สามารถแย่งปืนมาอยู่ในมือของเขาเองได้ และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาถือปืนจริงในมือตัวเอง แบรนดอน บอกว่า เขาตะโกนให้ผู้ก่อเหตุออกจากพื้นที่ไป และขู่ว่าเขาจะยิง

รายงานข่าวเผยว่า ท่าทีของชายผู้เตรียมมาก่อเหตุเหมือนไตร่ตรองหาลู่ทางจะเข้าโจมตีแบรนดอน อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เขากลับออกจากล็อบบี้ไป และวิ่งเหยาะ ๆ ไปขึ้นรถแวน หลังจากนั้น แบรนดอน จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่โดยที่มือของแบรนดอน ยังถืออาวุธที่แย่งมาได้อยู่

ทั้งนี้ รายงานข่าวก่อนหน้านี้มีข้อมูลจากสื่อต่างประเทศหลายแห่งที่ระบุว่า มีพลเมืองดี 2 คนช่วยปลดอาวุธชายผู้กราดยิงได้ แต่รายงานข่าวจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเผยแพร่วันที่ 24 มกราคม (ตามเวลาในไทย) อ้างอิงข้อมูลจากนายอำเภอท้องถิ่นชื่อโรเบิร์ต ลูนา ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแก้ไขข้อมูลว่า พลเมืองดีที่ปลดอาวุธได้คือแบรนดอน เซย์ เพียงคนเดียว ซึ่งสอดคล้องกับรายงานข่าวจากบีบีซีที่ชี้ว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดในเหตุการณ์ก็แสดงให้เห็นว่า มีแบรนดอน เซย์ เพียงคนเดียวในที่เกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่ทางการผู้เป็นแหล่งข่าวของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นให้ข้อมูลว่า อาวุธที่แบรนดอน แย่งมาได้เป็นอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติที่ถูกออกแบบมาให้บรรจุกระสุนได้จำนวนมาก ขณะที่การแย่งอาวุธมาได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาวุธนั้นจนรู้ตัวตนผู้ก่อเหตุชื่อ Huu Can Tran ซึ่งมีรายงานในภายหลังว่า เจ้าหน้าที่พบว่าเขาเสียชีวิตจากการยิงตัวเองขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจู่โจมไปที่พาหนะของเขา

เซย์ ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นถึงมุมมองที่ผู้คนมองว่าเขาเป็นคนกล้าหาญอย่างยิ่งจากการเข้าแย่งอาวุธจากผู้เตรียมก่อเหตุ เซย์ กล่าวว่า

“ผมรู้สึกว่าถ้าไม่มีความหวาดกลัว ก็ไม่อาจมีความกล้าได้”

 

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

CNN

BBC