บัวขาว VS ซาโตะ เส้นทางล้างแค้นของยอดนักชกไทย ผู้เคยแพ้น็อกช็อกโลก ต่อกำปั้นญี่ปุ่น

บัวขาว VS ซาโตะ เส้นทางล้างแค้นของยอดนักชกไทย ผู้เคยแพ้น็อกช็อกโลก ต่อกำปั้นญี่ปุ่น

บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักชกขวัญใจชาวไทย เคยโดน โยชิฮิโระ ซาโตะ นักมวยญี่ปุ่นน็อกในศึกเค-วัน (K-1) เมื่อปี 2008 นำมาสู่ไฟต์ล้างตาที่ไทยในปี 2022 หลังจากฝังใจมากว่า 14 ปี

บัวขาว บัญชาเมฆ ถือว่าเป็นหนึ่งในนักมวยไทยระดับตำนานของประเทศไทย เจ้าตัวคือหนึ่งในบุคคลสำคัญที่นำพาศิลปะแม่ไม้มวยไทยไปเผยแพร่บนเวทีการแข่งขันในระดับโลกทั้งในรูปแบบของมวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง

โดยผลงานเด่นที่ทำให้ชื่อเสียงของเจ้าตัวเป็นที่ประจักษ์ต่อแฟนมวยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติก็คือการเป็นแชมป์ศึกเค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ แชมเปียนชิพ (K-1 World MAX Championships) 2 สมัย ในปี 2004 และ 2006 รวมทั้งการเป็นรองแชมป์อีก 2 สมัยในปี 2005 และ 2014

นอกจากนี้ บัวขาว บัญชาเมฆ ยังสามารถครองเข็มขัดแชมป์โลกมวยไทยของสภามวยโลกหรือดับบลิวบีซี (WBC) และสภามวยไทยโลกหรือดับบลิวเอ็มซี (WMC) ได้อีกด้วย รวมทั้งยังเป็นแชมป์มวยไทยรายการพิเศษอย่างไทยไฟต์ (Thai Fight) ในปี 2011 และ 2012 อีกด้วย

ตลอดอาชีพการชกมวยไทยของ บัวขาว บัญชาเมฆ ต้องต่อสู้กับนักมวยมากมายหลายคน แต่มีนักมวยเพียงคนเดียวที่เจ้าตัวจะไม่มีวันลืมเลือน เพราะนักมวยคนนี้คือคนที่สามารถยัดเยียดความปราชัยให้กับยอดนักมวยไทยได้แบบไม่มีทางสู้ เป็นความพ่ายแพ้ในแบบน็อกเอาต์เพียงครั้งเดียวของ บัวขาว บัญชาเมฆ

โยชิฮิโระ ซาโตะ คือนักมวยญี่ปุ่นผู้ซึ่งเอาชนะบัวขาว บัญชาเมฆ ด้วยการน็อกเอาต์ในยกที่ 3 ของศึกเค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ แชมเปียนชิพ 2008 รอบ 8 คนสุดท้าย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทำให้แชมป์เก่า 2 สมัยชาวไทยต้องตกรอบพลาดการไปชิงแชมป์สมัยที่ 3 อย่างบอบช้ำทั้งกายและใจ

วันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจของโยชิฮิโระ ซาโตะ และเส้นทางการพบกันของทั้งคู่บนสังเวียนมวยไทย การรอคอยกว่า 14 ปีของ บัวขาว บัญชาเมฆ เพื่อที่จะชำระสิ่งที่ยังค้างคาอยู่ในใจ ผลจะเป็นเช่นใด สามารถตามอ่านได้จากบทความนี้ครับ

เส้นทางสังเวียนเลือดของโยชิฮิโระ ซาโตะ

โยชิฮิโระ ซาโตะ เป็นนักมวยคิกบ็อกซิ่งชาวญี่ปุ่น โดยเริ่มชกครั้งแรกในปี 1998 ก่อนจะทำสถิติชนะ 11 ไฟต์จากจำนวนทั้งสิ้น 12 ไฟต์ จนช่วงปลายปี 2001 เจ้าตัวมีโอกาสขึ้นชกกับมิลาน สเตวิช นักมวยจากประเทศเซอร์เบียในการชิงแชมป์สมาคมคิกบ็อกซิ่งโลกหรือดับบลิวเคเอ (WKA) รุ่นเวลเตอร์เวท และโยชิฮิโระ ซาโตะ ก็สามารถคว้าแชมป์ไปครองได้จากการเอาชนะเทคนิเกิล น็อกเอาท์หรือทีเคโอ (TKO) ในยกที่ 4

ปี 2002-2003 โยชิฮิโระ ซาโตะ ยังชกทำฟอร์มได้อย่างต่อเนื่องสามารถเอาชนะได้ 6 ไฟต์จากจำนวนทั้งสิ้น 7 ไฟต์ ก่อนจะขึ้นป้องกันตำแหน่งแชมป์ดับบลิวเคเอ (WKA) รุ่นเวลเตอร์เวทกับเก้าล้าน เก้าวิชิต นักมวยชาวไทยดีกรีเจ้าของแชมป์มวยไทยเวทีลุมพินี แชมป์โลกมวยไทยของสภามวยไทยโลกหรือดับบลิวเอ็มซี (WMC) และเป็นอดีตรองแชมป์ศึกเค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ แชมเปียนชิพ 2002

ไฟต์นี้ชกกันเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2003 และก็เป็นโยชิฮิโระ ซาโตะ ที่สามารถเอาชนะคะแนนนักมวยชาวไทยมากประสบการณ์ได้อย่างเป็นเอกฉันท์เมื่อชกกันครบ 5 ยก

ชัยชนะดังกล่าวทำให้ในปีถัดมา โยชิฮิโระ ซาโตะ มีโอกาสได้ขึ้นชกที่เวทีลุมพินี ประเทศไทย ในศึกใหญ่อย่างมวยไทยลุมพินีเกริกไกร โดยจะต้องพบกับช้างเผือก ช.ศรีประเสริฐ

เกมการชกเป็นไปอย่างสนุกก่อนที่ โยชิฮิโระ ซาโตะ จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปแบบเทคนิเกิล น็อกเอาต์ในยกที่ 4

อย่างไรก็ดีชื่อของ โยชิฮิโระ ซาโตะ ยังสามารถทำการตลาดได้ แม้จะไม่สามารถมาคว้าชัยชนะที่เวทีลุมพินีได้ เพราะการที่เจ้าตัวได้มีโอกาสมาร่วมชกรายการใหญ่บนสังเวียนที่ถือว่าเป็นหนึ่งในสองยอดสังเวียนมวยไทย เป็นประสบการณ์และโปรไฟล์ชั้นดี

บัวขาว VS ซาโตะ เส้นทางล้างแค้นของยอดนักชกไทย ผู้เคยแพ้น็อกช็อกโลก ต่อกำปั้นญี่ปุ่น

ประมาณครึ่งปีถัดมา โยชิฮิโระ ซาโตะ มีโอกาสกลับมาชกในรายการมวยไทยลุมพินีเกริกไกรอีกครั้ง หลังจากกลับไปชกทำฟอร์มเอาชนะน็อกปีเตอร์ ครุก นักมวยสหราชอาณาจักรที่บ้านเกิดของตัวเอง

โดยในไฟต์นี้ โยชิฮิโระ ซาโตะถูกประกบให้ชกกับดีเซลเล็ก รุ่งเรืองยนต์ และก็เป็นนักชกเลือดซามูไรที่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเอาชนะน็อกนักมวยชาวไทยไปได้ตั้งแต่ยกแรกของการแข่งขัน

จากผลงานของ โยชิฮิโระ ซาโตะ ที่สะสมประสบการณ์และชัยชนะในช่วงระหว่างปี 2000-2004 ทำให้เจ้าตัวมีโอกาสได้เข้าร่วมการแข่งขันศึกเค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ แชมเปียนชิพ ในปี 2005 เป็นครั้งแรกและเป็นจุดเริ่มต้นที่กำลังจะส่งให้ชื่อของ โยชิฮิโระ ซาโตะ เป็นที่จดจำของแฟนมวยในฐานะผู้พิชิตยอดมวยไทยอย่างบัวขาว บัญชาเมฆ

เค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ จุดกำเนิดไฟต์บัวขาว-ซาโตะ

ศึกการแข่งขันเค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ แชมเปียนชิพ เริ่มต้นจัดการแข่งขันในปี 2002 ที่ประเทศญี่ปุ่นโดยเป็นศึกใหญ่ที่ได้รับการยอมรับจากแฟนกีฬาทั่วไป และเป็นศึกการแข่งขันที่สร้างชื่อให้กับบัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักมวยไทย โดยบัวขาวนั้นสามารถคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวได้ 2 สมัย ในปี 2004 และ 2006 รวมทั้งเป็นรองแชมป์อีก 2 สมัยในปี 2005 และ 2014 โดยในช่วงยุคปี 2004-2009 นั้น ถือว่าเป็นยุคทองของบัวขาว บัญชาเมฆ กับเค-วัน (K-1)

บัวขาว บัญชาเมฆ มีโอกาสพบกับโยชิฮิโระ ซาโตะครั้งแรกในศึกเค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ แชมเปียนชิพ 2006 รอบ 8 คนสุดท้าย โดยบัวขาวปล่อยหมัดฮุกซ้ายส่งโยชิฮิโระ ซาโตะพ่ายน็อกไปในยกที่ 2 ของการแข่งขันก่อนที่เจ้าตัวจะสามารถไปคว้าแชมป์รายการดังกล่าวได้ในที่สุด

ปี 2008 ทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้งในรายการเค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ แจแปน ทัวร์นาเมนต์ (K-1 World MAX Japan Tournament) ครั้งนี้เกมการชกเป็นไปอย่างสูสีก่อนที่จะเป็นบัวขาว บัญชาเมฆที่สามารถเบียดเอาชนะคะแนนไปได้ในยกตัดสิน และการพ่ายแพ้ในไฟต์นี้ของโยชิฮิโระ ซาโตะ ก็ทำให้เจ้าตัวคับข้องใจและรอคอยโอกาสที่จะได้แก้มือกันอีกครั้ง

วันที่ 7 กรกฎาคม ปี 2008 ในการแข่งขันรายการเค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ แชมเปียนชิพ (K-1 World MAX Championships) รอบ 8 คนสุดท้ายทั้งคู่ได้โคจรมาพบกันอีกครั้ง โดยการพบกันในครั้งนี้ ถ้าว่ากันตามหน้าเสื่อแล้ว บัวขาว บัญชาเมฆ ดูจะได้เปรียบนักชกเจ้าถิ่นอยู่พอสมควร เรียกได้ว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาด โยชิฮิโระ ซาโตะ จะเป็นเพียงทางผ่านให้บัวขาวไปคว้าแชมป์เค-วัน สมัยที่ 3

เกมการชกดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น เมื่อ 2 ยกแรกเป็นบัวขาว บัญชาเมฆที่สามารถเดินหน้าบุกสาดอาวุธทั้งแข้งทั้งหมัดใส่โยชิฮิโระ ซาโตะ ได้อย่างต่อเนื่อง บัวขาว ต้องการพิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นยอดมวยไทยของตัวเอง โดยเจ้าตัวต้องการส่งซาโตะไปนอนกองกับพื้นเวทีให้ได้

ด้านโยชิฮิโระ ซาโตะ แม้จะโดนอาวุธไปสารพัดแต่ด้วยความแข็งแรงของร่างกายที่ผ่านการฟิตซ้อมมาอย่างดี จึงไม่มีอาการอ่อนกำลังให้เห็นแต่อย่างใด

ในยกที่ 3 บัวขาว บัญชาเมฆ ยังคงเปิดเกมบุกใส่ซาโตะแบบไม่ยั้ง แต่นักชกญี่ปุ่นก็สามารถป้องกันอาวุธของนักชกไทยได้เป็นอย่างดี

และในจังหวะที่เวลาเหลืออีก 1 นาทีครึ่ง อาการล้าก็บังเกิดแก่นักชกไทย เพราะการเร่งออกอาวุธมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งนี่นับเป็นวินาทีทองของโยชิฮิโระ ซาโตะ นักมวยเจ้าถิ่น โดยซาโตะ จัดทั้งเข่าและหมัดฮุกขวาส่งบัวขาวหลับกลางอากาศพ่ายน็อกเป็นครั้งแรกในชีวิต

ปี 2013 บัวขาว บัญชาเมฆกลับมาพบโยชิฮิโระ ซาโตะ อีกครั้งในรูปแบบการชกในกติกาของมวยไทยในศึกแม็กซ์ มวยไทย ครั้งที่ 4 (MAX Muay Thai 4) ไฟต์นี้บัวขาวต้องการล้างตาอย่างเต็มที่ บัวขาวยังคงจัดแม่ไม้มวยไทยใส่อย่างต่อเนื่องทั้งเถรกวาดลาน มอญยันหลัก และแม่ไม้มวยไทยอีกมากมาย และในท้ายที่สุดก็เป็นบัวขาว บัญชาเมฆ ที่สามารถล้างตาเอาชนะคะแนนไปได้

บัวขาว VS ซาโตะ เส้นทางล้างแค้นของยอดนักชกไทย ผู้เคยแพ้น็อกช็อกโลก ต่อกำปั้นญี่ปุ่น

กลับมาเจอกันอีกครั้งในราชดําเนิน เวิลด์ ซีรีส์

ล่าสุดค่ำคืนของวันที่ 28 ตุลาคม 2022 ศึกราชดําเนิน เวิลด์ ซีรีส์ (Rajadamnern World Series) ได้นำเอามวยคู่นี้กลับมาพบกันอีกครั้งโดยเป็นการชกกันในกติกาของคิกบ็อกซิ่ง และเป็นมวยคู่ชกโชว์หรือเอ็กซิบิชั่น แมตช์ในรายการ KAT Presents Legend of Rajadamnern

ซึ่งผลการแข่งขันจบลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ยกแรก เมื่อบัวขาว บัญชาเมฆ สามารถปล่อยหมัดฮุกขวา ส่งโยชิฮิโระ ซาโตะ ลงไปกองกับพื้นก่อนหมดเวลายกแรก 50 วินาทีเท่านั้น

ภายหลังเกมการแข่งขันโยชิฮิโระ ซาโตะ ได้กล่าวว่า สาเหตุที่เจ้าตัวพ่ายแพ้ในวันนี้ เพราะเลิกชกมวยไปแล้ว ต่างกับบัวขาวที่ยังฟิตซ้อมและลงสนามอย่างสม่ำเสมอ

แต่อย่างไรเจ้าตัวก็รู้สึกดีใจมากที่ได้มีโอกาสมาชกที่เวทีราชดําเนินแห่งนี้ เพราะนี่คือครั้งแรกของซาโตะกับเวทีระดับตำนานเวทีนี้

 

เรื่อง: ธิษณา ธนคลัง (แฟนพันธุ์แท้เอเชียนเกมส์)