ชีวิต ‘หมู ปากน้ำ’ นักสนุกเกอร์สายนักสู้ ในวันฉายแสงแห่งความสำเร็จ ล้มอดีตแชมป์โลกรัว ๆ

• หมู ปากน้ำ สร้างผลงานยอดเยี่ยมในรายการใหญ่ของโลก ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ โดยเขี่ยอดีตแชมป์โลกไปถึง 3 คนติดต่อกัน
• หมู ปากน้ำ โด่งดังจากฟอร์มการเล่นสมัยเป็นเยาวชน แต่มีช่วงสะดุด ผลงานไม่ต่อเนื่อง ก่อนกลับมาเป็นที่รู้จักเมื่อนำเพลง แสงสุดท้าย มาใช้เป็นเพลงเปิดตัว

วงการสนุกเกอร์ของไทยต่างเฝ้ารอคอยความสำเร็จในเวทีการแข่งขันสนุกเกอร์โลกมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ยุคของ ‘ต๋อง ศิษย์ฉ่อย’ หรือวัฒนา ภู่โอบอ้อม ที่ก้าวขึ้นไปเป็นมือวางอันดับโลกในช่วงยุค 90s โดยต๋องนั้นสามารถคว้าแชมป์รายการสนุกเกอร์สะสมคะแนนโลกได้ถึง 3 รายการได้แก่ Strachan Open 1992, Thailand Open 1994 และ Thailand Open 1995 รวมกับตำแหน่งรองแชมป์อีก 5 รายการ Asian Open 1989, British Open 1992, British Open 1993, International Open 1994 และ British Open 1994

เจ้าตัวยังเคยขึ้นไปถึงมือวางอันดับที่ 3 ของโลกในฤดูกาล 1994-1995 มาแล้ว โดยบรรยากาศในยุคสมัยนั้นถือได้ว่าสนุกเกอร์เป็นกีฬาที่ฟีเวอร์หรือได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ข่าวของต๋อง ศิษย์ฉ่อย มักจะได้ออกสื่อรายใหญ่เสมอ ไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร เรื่องราวของต๋อง คือสิ่งที่คนทั่วไปให้ความสนใจ

หลังจากช่วงเวลารุ่งโรจน์แห่งวงการสนุกเกอร์ผ่านพ้นไป เราจึงไม่ต้องแปลกใจว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่พูดถึงกีฬาชนิดนี้ แฟนกีฬาชาวไทยจึงมักนึกถึงแต่ความสำเร็จในยุคสมัยนั้น หลายคนตั้งคำถามว่า เมื่อไหร่เราถึงจะมีนักสนุกเกอร์ที่ไปทำผลงานในระดับโลกแบบ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ได้อีกครั้ง จวบจนมาถึงยุคปัจจุบันก็มี เทพไชยา อุ่นหนู หรือฉายาว่า เอฟ-วัน ที่ทำผลงานในปี 2019 ได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อสามารถคว้าแชมป์รายการสนุกเกอร์สะสมคะแนนโลก รายการ Snooker Shoot Out 2019 มาครองได้ แถมพ่วงมาด้วยรองแชมป์รายการ World Open 2019 ได้อีก แต่ก็ด้วยปัจจัยหลายอย่างทำให้ความสำเร็จนั้นยังไม่ต่อเนื่อง

กาลเวลาผ่านมาจนถึงการแข่งขันสนุกเกอร์สะสมคะแนนโลกรายการ World Grand Prix 2023 ที่เมืองเชลเทนแฮม ประเทศอังกฤษ ‘หมู ปากน้ำ’ หรือ นพพล แสงคำ นักสนุกเกอร์ชาวไทยมือวางอันดับ 33 ของโลกก็สร้างสิ่งมหัศจรรย์เติมเต็มความหวังให้แฟนกีฬาสอยคิวชาวไทย เมื่อสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยการผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ และระหว่างเส้นทางการแข่งขันนั้นหมูปากน้ำ ก็ปราบยอดฝีมือมาอย่างมากมาย ฉายแววการเป็นนักกีฬาความหวังใหม่ในวัย 30 กะรัต

บทความนี้จะพาทุกท่านไปย้อนดูเรื่องราวและงานความสำเร็จของ ‘หมู ปากน้ำ’ หรือ นพพล แสงคำ กันครับ

 

กวาดมาหมด ทั้งแชมป์เยาวชนเอเชีย และเยาวชนโลก

‘หมู ปากน้ำ’ หรือ นพพล แสงคำ เริ่มต้นสร้างชื่อของตัวเองในปี 2009 หลังจากที่เจ้าตัวเริ่มต้นด้วยการคว้ารองแชมป์ศึกสนุกเกอร์เยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปีชิงแชมป์เอเชีย หรือ ACBS Asian U-21 Snooker Championship ที่ประเทศอินเดีย โดยในรอบชิงชนะเลิศนั้น หมูปากน้ำ พ่ายแพ้ให้แก่ อันดา ฉาง นักกีฬาสนุกเกอร์ความหวังของจีนไป โดยในขณะนั้นหมูปากน้ำอายุเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น

จากนั้นหมู ปากน้ำ ก็เข้าร่วมการแข่งขันสนุกเกอร์เยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปีชิงแชมป์โลก หรือ IBSF World U-21 Snooker Championship ที่ประเทศอิหร่านในปีเดียวกัน และเจ้าตัวก็สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ โดยในรอบชิงชนะเลิศนั้น หมู ปากน้ำ เอาชนะนักกีฬาขวัญใจเจ้าถิ่นอย่าง โซฮีล วาเฮดี ไปแบบสนุกตื่นเต้น 9-8 เฟรม สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาเยาวชนไทยคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์รายการนี้ได้ จากที่ก่อนหน้านี้ ‘ขวัญ’ สุชาครีย์ พุ่มแจ้ง และ ‘ชิม ศิษย์ต่าย’ กอบกิจ พลาจิณ เคยทำได้ใกล้เคียงความสำเร็จโดยการคว้ารองแชมป์ไปในปี 1995 และ 2004 ตามลำดับ

หากถามว่ารายการ IBSF World U-21 Snooker Championship สำคัญอย่างไร คงตอบได้ว่านี่คือเวทีการแข่งขันที่เป็นจุดเริ่มต้นของนักกีฬาระดับโลกหลายต่อหลายคนไม่ว่าจะเป็น เคน โดเฮอร์ตี, ปีเตอร์ เอบดอน, มาร์โก ฟู, ติง จวินฮุย หรือแม้แต่ รอนนี โอซุลลิแวน ก็ล้วนเป็นอดีตแชมป์รายการนี้แทบทั้งสิ้น และการคว้าแชมป์ในรายการนี้ก็ทำให้เจ้าตัวมีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันรายการอาชีพสะสมคะแนนโลกในฤดูกาล 2010-2011 อีกด้วย

หมู ปากน้ำ มาทำผลงานกระหึ่มเวทีการแข่งขันในระดับเยาวชนอีกครั้งเมื่อเจ้าตัวสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกสนุกเกอร์เยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปีชิงแชมป์โลกในปี 2011 ที่ประเทศแคนาดา โดยต้องทำศึกสายเลือดกับ ‘แมน นครปฐม’ ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูล

โดยเกมนี้ หมู ปากน้ำ สู้อย่างเต็มที่แต่ก็ไม่สามารถต้านความแข็งแกร่งของแมน พ่ายแพ้ไป 3-9 เฟรม ได้รองแชมป์เยาวชนโลก IBSF World U-21 Snooker Championship ไปครอง จากนั้นเจ้าตัวก็กลับมาล้างตาคว้าแชมป์สนุกเกอร์เยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปีชิงแชมป์เอเชียได้ในปี 2013 ที่ประเทศอินเดีย ด้วยการโค่นเอาชนะ โมฮัมเหม็ด มาจิด อาลี จากประเทศปากีสถานไปในรอบชิงชนะเลิศแบบเฉียดฉิว 6-5 เฟรม ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นนักสนุกเกอร์ที่สามารถคว้าแชมป์และรองแชมป์ได้ทั้งการแข่งขันเยาวชนชิงแชมป์โลกและเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย นับเป็นผลงานที่ไม่ธรรมดา

 

เส้นทางการรับใช้ทีมชาติไทยกับความสำเร็จที่เหมือนเส้นขนาน

หมู ปากน้ำ คืออีกหนึ่งนักกีฬาทีมชาติไทยที่ลงสนามแข่งขันสนุกเกอร์มาแล้วทั้งการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ (SEA Games) และเอเชียน อินดอร์ แอนด์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ (Asian Indoor & Martial Arts Games) โดยเจ้าตัวเริ่มจากการเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ปี 2011 ที่ประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ ซึ่งในตอนนั้นหมูปากน้ำจับคู่กับ ‘แมน นครปฐม’ ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูล ลงไล่ล่าเหรียญทองในประเภทชายคู่ และก็เป็นอีกหนึ่งความหวังเหรียญทองของทัพนักกีฬาไทย

และก็เหมือนว่าทั้งคู่จะเป็นดังเช่นที่ถูกตั้งความหวังไว้ เมื่อทั้งหมูและแมนสามารถเริ่มต้นในการรับใช้ทีมชาติอย่างสวยงามต้อนเอาชนะคู่ของทีมชาติเวียดนามไปอย่างสวยงาม 3-0 เฟรม ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปพบกับสองจอมเก๋าจากประเทศมาเลเซียอย่าง ทอร์ ชุน ลอง กับ ตอง ติน ชาน โดยรูปเกมในวันนั้นเป็นคู่จอมเก๋าจากมาเลเซียที่ใช้การแทงกัน จนสองดาวรุ่งไทยไม่สามารถทำอะไรได้และพ่ายแพ้ไปในที่สุด 0-3 เฟรม ได้เพียงเหรียญทองแดงมาปลอบใจเท่านั้น และนี่คือผลงานเดียวของ หมู ปากน้ำ ในเวทีซีเกมส์สำหรับกีฬาสนุกเกอร์

หมู ปากน้ำ มีโอกาสรับใช้ทีมชาติไทยอีกครั้งในการแข่งขันเอเชียน อินดอร์ แอนด์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 4 ปี 2013 ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ โดยเจ้าตัวลงแข่งขันสนุกเกอร์ในประเภทชายเดี่ยว ก่อนจะพ่ายแพ้ตกรอบ 32 คนสุดท้ายไปโดยแพ้แก่ โมฮัมเหม็ด อัล โจการ์ จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไป 2-4 เฟรม ด้านประเภททีมแม้จะเอาชนะทีมชาติกาตาร์มาได้ในรอบแรก แต่ก็ต้องมาตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยน้ำมือของทีมชาติจีน ชวดเหรียญรางวัลไปอย่างน่าเสียดาย

ขณะที่ในเวทีการแข่งขันเวิลด์ เกมส์ (World Games) หมู ปากน้ำ ก็มีโอกาสรับใช้ทีมชาติไทยในการแข่งขันเวิลด์เกมส์ ครั้งที่ 9 ปี 2013 ณ เมืองคาลี ประเทศโคลอมเบีย แต่เจ้าตัวก็ต้องพบกับความอกหักตั้งแต่รอบแรกของการแข่งขันเมื่อต้องพ่ายให้กับ เหลียง เว่ย โบ ของจีนเจ้าของเหรียญเงินการแข่งขันสนุกเกอร์ ประเภทชายเดี่ยวในกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 15 ปี 2006 ที่ประเทศกาตาร์

เรียกได้ว่าการรับใช้ทีมชาติไทยของ ‘หมู ปากน้ำ’ หรือ นพพล แสงคำ ยังไร้ซึ่งชัยชนะจนราวกับว่าการคว้าแชมป์กับทีมชาติไทยมันคือเส้นขนาน แม้ว่าเจ้าตัวเองจะมุ่งมั่นทุ่มเทมากเพียงใดก็ตาม แต่ก็ยังไม่อาจก้าวข้ามกำแพงตรงจุดนี้ไปได้

 

ระดับอาชีพที่แสนยากเย็น

หมู ปากน้ำ เริ่มแข่งขันรายการระดับอาชีพตั้งแต่ฤดูกาล 2010-2011 ซึ่งในช่วง 2 ฤดูกาลแรกเจ้าตัวยังวนเวียนอยู่ที่การแข่งขันในรอบคัดเลือกเท่านั้น ยังไม่อาจผ่าไปถึงรอบเมนดรอว์ได้ จนในฤดูกาล 2013-2014 หมูปากน้ำ สามารถสร้างผลงานที่น่าจับตามองได้โดยการผ่านเข้าไปถึงรอบที่ 3 หรือรอบ 32 คนสุดท้ายในศึกการแข่งขันรายการ UK Championship 2013 ก่อนจะไปพ่ายแพ้แก่ ฌอน เมอร์ฟี นักสนุกเกอร์เจ้าถิ่นไป 2-6 เฟรม

นอกจากนั้น ในรายการ Welsh Open 2014 หมูปากน้ำยังสามารถเอาชนะอดีตยอดนักสนุกเกอร์อย่างสตีฟ เดวิส ได้ ในรอบแรกของการแข่งขันก่อนจะไปพ่ายแพ้แก่มาร์ค อัลเลน ในรอบถัดมา

อย่างไรก็ตาม หมู ปากน้ำ ยังคงไม่ประสบความสำเร็จในการลงสนามแข่งขันระดับอาชีพมากนัก การผ่านเข้าสู่รอบเมนดรอว์เป็นอะไรที่ไม่ใช่งานง่ายเลย เจ้าตัวได้แต่เก็บประสบการณ์และแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดในรอบคัดเลือกเท่านั้น ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะไม่เป็นไปดั่งหวัง หมู ปากน้ำ ยังคงไม่ท้อแท้หรือคิดจะทิ้งเอาความฝันไว้กลางทางเพียงเท่านี้ เจ้าตัวยังคงมุ่งมั่นฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาฝีมือต่อไป

ฤดูกาล 2016-2017 ถือได้ว่าเป็นฤดูกาลที่ผลแห่งความมุ่งมั่นพยายามเริ่มออกดอกออกผล เจ้าตัวสามารถผ่านเข้าสู่รอบเมนดรอว์ได้หลายรายการ โดยผลงานเด่นก็คือรายการ Scottish Open 2016 ที่หมู ปากน้ำ สามารถฝ่าฟันไปถึงรอบที่ 3 หรือรอบ 32 คนสุดท้ายได้ และก็ได้พบกับจัดด์ ทรัมป์ ยอดนักสนุกเกอร์ระดับโลกก่อนที่เจ้าตัวจะพ่ายไป 0-4 เฟรม

นอกจากนี้ ในฤดูกาลดังกล่าว หมู ปากน้ำ ยังสามารถผ่านเข้าสู่รอบเมนดรอว์ของศึกสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกหรือ World Snooker Championship 2017 ณ ครูซิเบิล เธียเตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งแม้เจ้าตัวจะต้องตกรอบแรกด้วยการพ่ายแพ้แก่ นีล โรเบิร์ตสัน อดีตแชมป์โลกปี 2010 จากออสเตรเลียไป 4-10 เฟรม แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนจดจำและพูดถึงคือการที่เขาเอาเพลง ‘แสงสุดท้าย’ ของวงบอดีสแลม (Bodyslam) ไปเป็นเพลงเปิดตัวของตัวเองในการแข่งขันนัดดังกล่าว

 

ความสำเร็จต้องใช้เงินลงทุน

กีฬาสนุกเกอร์โดยเฉพาะการออกไปเล่นอาชีพยังต่างประเทศ หากอยากจะประสบความสำเร็จก็ต้องใช้เงินลงทุน ยิ่งในช่วงของการทำอันดับโลกด้วยแล้ว หากสายป่านไม่ยาวพอ โอกาสจะประสบความสำเร็จก็เป็นไปได้ยาก นี่คือความจริงที่บรรดานักสนุกเกอร์อาชีพของไทยต้องพบเจอ ซึ่งหมูปากน้ำเองก็เป็นหนึ่งในนั้น 

เจ้าตัวเคยออกมาโพสต์ผ่านแฟนเพจของตนเองเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2022 ว่า ฤดูกาลแข่งขันที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เขาเองยังไม่มีผู้สนับสนุน หากมีผู้สนใจก็สามารถติดต่อไปกับเจ้าตัวได้ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการไปใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษเพื่อฝึกซ้อมและลงทำการแข่งขัน หากขาดผู้สนับสนุนแล้วก็ยากที่นักกีฬาจะประสบความสำเร็จได้

แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือการที่นักกีฬาคนหนึ่งจะมีผู้สนับสนุนได้นั้น ต้องมีผลงานที่ดีและมีมูลค่าน่าลงทุนในสายตาของผู้จ่ายเงินก่อน ปัญหานี้มีกันมานานแล้วในวงการกีฬาของประเทศไทยที่ผู้สนับสนุนส่วนใหญ่มักจะเข้ามาตอนนักกีฬาประสบความสำเร็จแล้ว มีมูลค่าทางการตลาดแล้ว 

แต่ในความเป็นจริง นักกีฬาต้องการผู้สนับสนุนในช่วงเริ่มต้นวางรากฐานสำหรับสร้างความสำเร็จต่างหาก จึงไม่น่าแปลกใจถ้าเราจะเห็นนักกีฬาที่มีโอกาสจะประสบความสำเร็จหลายคน แต่ไม่สามารถเดินทางไปถึงฝันได้ 
 

แสงแห่งความสำเร็จเริ่มปรากฏ

หมู ปากน้ำ ยังคงฝึกฝนพัฒนาฝีมือของตัวเองอย่างต่อเนื่องและก็มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันรายการระดับอาชีพในรอบเมนดอร์มากขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถพัฒนาอันดับโลกมาถึงอันดับที่ 28 ในช่วงเดือนมีนาคมปี 2019 และปัจจุบันนี้ (มกราคม 2023) เจ้าตัวคือมือวางอันดับที่ 33 ของโลก

โดยผลงานที่ดีที่สุดเมื่อถึงสิ้นปี 2022 คือมีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกทั้งหมด 3 ครั้งในปี 2017, 2020 และ 2022 รวมทั้งการผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในรายการอาชีพสะสมคะแนนโลก Welsh Open 2018 โดยรายการดังกล่าว หมู ปากน้ำ สามารถพลิกล็อคเอาชนะ จัดด์ ทรัมป์ ไป 4-1 เฟรมในรอบ 64 คน ก่อนจะมาปราบ ไคเรน วิลสัน ได้ 4-0 เฟรมในรอบ 16 คนสุดท้าย เป็นการโค่น 2 มือวางของรายการชนิดที่แฟนสนุกเกอร์ต้องตกตะลึง

จากนั้น ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2022 หมู ปากน้ำ สร้างผลงานกระหึ่มวงการสนุกเกอร์อีกครั้งเมื่อสามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศรายการ British Open 2022 รายการสะสมคะแนนโลกที่เก่าแก่รายการหนึ่งของเวิลด์ สนุกเกอร์ ก่อนที่จะไปพ่ายแพ้แก่มาร์ค อัลเลน อีกครั้งด้วยคะแนน 1-6 เฟรม ชวดการเข้าชิงชนะเลิศไปสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อย่างน่าเสียดาย

และล่าสุดในรายการ World Grand Prix 2023 ที่แข่งขันกันช่วงวันที่ 16-22 มกราคม 2023 หมู ปากน้ำ สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้อีกครั้ง เพียงแต่ในครั้งนี้วงการสนุกเกอร์โลกต้องหันหลังกลับมามองชายคนนี้กันอย่างจริงจัง การโค่น มาร์ค เซลบี แชมป์โลก 4 สมัยจากอังกฤษไป 4-1 เฟรมในรอบแรก ต่อด้วยการปราบ รอนนี โอซุลลิแวน แชมป์โลก 7 สมัย ไป 4-2 เฟรมในรอบ 16 คนสุดท้าย และการเอาชนะ มาร์ค วิลเลียม แชมป์โลก 3 สมัยไป 5-3 เฟรมในรอบถัดมาเป็นอะไรที่เกินคำบรรยาย

อีกทั้งการให้สัมภาษณ์ของ รอนนี โอซุลลิแวน ที่ว่า

“ผมขอแสดงความยินดีกับ นพพล ที่เอาชนะได้ สำหรับเขานั้นมีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม เป็นนักกีฬาที่สามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้อย่างดี”

ถือว่าเป็นการให้เกียรติจากยอดนักสนุกเกอร์ของโลกที่มีต่อ หมู ปากน้ำ นักสนุกเกอร์ของไทย แม้ในท้ายที่สุดหมู ปากน้ำ จะต้องตกรอบรองชนะเลิศด้วยน้ำมือของคู่ปรับเก่า มาร์ค อัลเลน อีกครั้ง แต่เชื่อได้ว่านับจากนี้เจ้าตัวเองคงมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นในการไล่ล่าความสำเร็จต่อไป

ครับ และนี่คือเรื่องราวของ ‘หมู ปากน้ำ’ หรือ นพพล แสงคำ นักสนุกเกอร์ที่ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อทำตามความฝัน นักสนุกเกอร์ที่ยังมุ่งมั่นจะไปยืนยังแถวหน้าของวงการสนุกเกอร์โลกคนต่อไป

 

เรื่อง: ธิษณา ธนคลัง (เต้นคุง)