“โรดา มูลอดซี” เจ้าหญิงแห่งเวนด้า ผู้สละมงกุฎเพื่อค้าแข้งในลีกอาชีพ

“โรดา มูลอดซี” เจ้าหญิงแห่งเวนด้า ผู้สละมงกุฎเพื่อค้าแข้งในลีกอาชีพ
ส่งลูกไปนอนนิ่งก้นตาข่ายทีมตรงข้าม 4 ครั้ง จ่ายบอลสุดสวยอีกหนึ่งดอก นี่คือสถิติในการเล่น 1,004 นาที ใน 12 นัด ที่ลงสนามของ “โรดา มูลอดซี” (Rhoda Mulaudzi) แข้งสาวแอฟริกาใต้ ที่เคยเป็นถึงเจ้าหญิงสูงศักดิ์ในราชวงศ์หนึ่งของแอฟริกาใต้ ผู้ซึ่งยอมลาออกจากฐานันดรศักดิ์ เพื่อทำตามความฝันคือ การเป็นสุดยอดนักเตะ แต่การจะไปถึงจุดนั้น เรื่องราวไม่ได้ง่ายดายเหมือนดั่งเทพนิยายดิสนีย์ “ตอนเด็ก ๆ ฉันเคยถูกห้ามไม่ให้เตะบอล ซึ่งฉันไม่ยอม เพราะฉันไม่ได้สนใจในราชกรณียกิจ แน่นอนท่านแม่ไม่ถูกใจสิ่งนี้ แต่ฉันได้ท่านพ่อที่รักฟุตบอลคอยให้ท้าย ท่านบอกว่าไม่ว่าฉันจะตัดสินใจอย่างไร ท่านจะคอยสนับสนุนไปตลอด” โรดา มูลอดซี ได้ให้สัมภาษณ์กับ Sydney Morning Herald โรดา มูลอดซี มีชาติกำเนิดอันสูงศักดิ์ เธอเป็นหลานของกษัตริย์แห่งแวนดา ชนเผ่าหนึ่งในแอฟริกาใต้ ที่มีประชากรราวหนึ่งล้านคน กระจายตัวตามลุ่มแม่น้ำลิมโพโพแถบชายแดนตอนเหนือของแอฟริกาใต้ติดซิมบับเว การที่แม่ของเธอไม่สนับสนุนให้เล่นกีฬาแมน ๆ อาจเป็นเพราะเธอเป็นลูกคนแรก เธอเกิดที่แวนดา แล้วถูกเลี้ยงในโซเวโต ทางใต้ของโยฮันเนสเบิร์ก ทำให้ได้มีโอกาสเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็ก เส้นทางนักเตะของเธอเริ่มต้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่การลงแข่งให้กับทีม Chiawelo RYI ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 13 ปี ในโซเวโต ซึ่งเธอต้องฟาดแข้งกับเด็กผู้ชายในทีมอยู่ถึงสองปี ก่อนจะย้ายไปสังกัดสโมสรฟุตบอลหญิง Colochester แล้วย้ายไปสโมสรฟุตบอลมาเมโลดี้ ซันดาวน์ส (Mamelodi Sundowns) เป็นเวลาหนึ่งปี ในปี 2010 เธอตัดสินใจเรียนหนังสือ เลยได้ไปอยู่ทีม VUT ทีมในสังกัดของ มหาวิทยาลัยวาล (Vaal University of Technology) ที่มีทุนการศึกษาให้กับนักเตะ ก่อนจะย้ายกลับมารับใช้มาเมโลดี้ ซันดาวน์ส เมื่อสำเร็จการศึกษา ปัจจุบันเธอโกอินเตอร์โดยเล่นตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้าให้กับสโมสรฟุตบอลแคนเบอร์รายูไนเต็ดในออสเตรเลีย “สิ่งเดียวที่ฉันต้องการคือการเล่นฟุตบอล นั่นทำให้ฉันมายืนอยู่ที่นี่ได้ เพราะฉันเชื่อมั่นในโชคชะตา และตัวเอง ฉันฝันว่าวันหนึ่งต้องมีโอกาสใส่เสื้อทีมชาติ แล้วได้ไปเล่นในลีกต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ฉันกำลังเล่นให้กับแคนเบอร์รายูไนเต็ดในออสเตรเลีย ไม่มีอะไรมาฉุดไม่ให้ฉันทำตามสิ่งที่รักได้ ตอนแรกท่านแม่ไม่ปลื้ม แต่ตอนนี้ท่านกลับลำมาเชียร์ฉันยิ่งกว่าท่านพ่อซะอีก” แข้งสาววัย 29 เจ้าของเสื้อเบอร์ 9 ของสโมสรฟุตบอลแคนเบอร์รายูไนเต็ดเปิดเผยความในใจ แต่เส้นทางสู่เมืองหลวงของออสเตรเลียไม่ได้ราบเรียบอย่างที่ใครหลายคนคิด แม้กระทั่งราชนิกุลอย่างเธอ เธอต้องพยายามอย่างมากหลังโค้ชของแคนเบอร์รายูไนเต็ดได้เห็นฝีเท้าเธอจากวิดีโอที่มีคนส่งไปให้ดู แล้วเรียกเธอไปทดสอบที่ออสเตรเลีย ซึ่งปัญหาของเธอไม่ใช่เรื่องความกล้า แต่เป็นเรื่องเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าใช้ง่ายต่าง ๆ ที่เธอต้องออกก่อน ซึ่งเพื่อนร่วมทีมได้ช่วยเรี่ยไรเงิน เพื่อส่งให้เธอไปสู่ฝั่งฝัน เธอต้องเดินทางกว่า 8 ชั่วโมงไปประเทศกาตาร์ เพื่อต่อเครื่องบินไปลงซิดนีย์ซึ่งใช้เวลาบินอีกกว่า 14 ชั่วโมง แล้วจากซิดนีย์เธอต้องเดินทางต่ออีกครึ่งชั่วโมงไปยังกรุงแคนเบอร์รา โดยตลอดเส้นทางเธอมี “รีฟิโอเล เจน” (Refiloe Jane) คู่หูนักเตะเป็นเพื่อนร่วมทาง ซึ่งเธอได้ร่วมทีมกับ รีฟิโอเล เจน กองกลางดาวรุ่งซึ่งมีอายุน้อยกว่าเธอ 2 ปี ครั้งแรกในทีม VUT ก่อนที่ทั้งสองจะแพ็กคู่ย้ายไปค้าแข้งที่ออสเตรเลียด้วยกัน เพื่อนร่วมทีมแคนเบอร์รายูไนเต็ดหลายคน เปิดเผยว่าเพิ่งมารู้ความจริงว่ามีเกียรติได้เตะบอลเคียงข้างอดีตราชนิกุลเยี่ยงเธอ เมื่อกลางฤดูกาล ซึ่งอดีตเจ้าหญิงแห่งแวนดาบอกว่า ไม่ได้ตั้งใจปกปิดชาติกำเนิดที่แท้จริง เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสบอกเท่านั้นเอง ล่าสุดกองหน้าที่มีส่วนสูงเพียง 150 เซนติเมตร ถูกเรียกตัวมารับใช้ทีมชาติในการลุยศึกฟุตบอลโลกหญิงที่ประเทศฝรั่งเศส โดยทีมแอฟริกาใต้อยู่สายบี ร่วมกับ สเปน จีน และเยอรมนี “แม้เส้นทางการค้าแข้งจะไม่สวยหรู แล้วต้องพยายามอย่างหนักมากเป็นพิเศษกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ แต่ฉันไม่เคยท้อถอยหรือตัดพ้อเลย เพราะนั่นคือประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าที่ขีดทางชีวิตไว้ให้ อยากให้เชื่อในความฝันของตัวเองไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม อย่ายอมให้ใครมาบอกว่าคุณทำไม่ได้ ไม่ยอมแพ้แล้วพยายามทำให้ดีที่สุด ที่เหลือเป็นหน้าที่ของพระผู้เป็นเจ้า” ที่มา : http://www.sundownsfc.co.za https://www.smh.com.au https://wwos.nine.com.au https://us.soccerway.com https://www.parliament.go.th https://www.youtube.com