ริชาร์ด อี แกรนท์: ลุงเก๋าเก่งข้ามยุคกับคลาสสิกโลกิ

ริชาร์ด อี แกรนท์: ลุงเก๋าเก่งข้ามยุคกับคลาสสิกโลกิ
"เฮ้ ริชาร์ด มีคนเคยบอกคุณไหมว่าคุณดูเหมือนพ่อของโลกิ" ทอม ฮิดเดิลสตัน เคยกล่าวเอาไว้ในคลิปขอบคุณที่ได้รับรางวัล ELLE Man Of The Year 2014 ซึ่งเขาไม่สามารถไปรับรางวัลได้ แต่ริชาร์ด อี แกรนท์ (Richard E. Grant) เป็นผู้ขึ้นรับรางวัลให้แทนและไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิตมาแล้วให้ทั้งสองได้มาร่วมงานกันในซีรีส์ Loki เทพแสนกลตัวร้ายแสนรักของแฟนๆ Marvel ฮิดเดิลสตันกับแกรนท์รู้จักกันมานานหลายปีแล้วพวกเขาเคยคุยกันว่า ควรหาโปรเจ็กต์แสดงร่วมกันสักเรื่อง โดยฮิดเดิลสตันรักและชื่นชมแกรนท์มาตั้งแต่สมัยยังเด็ก โดยเล่าถึงความสัมพันธ์ของพวกเขากับ Slashfilm ว่า "ผมชื่นชม ริชาร์ด อี แกรนท์ มาตั้งแต่ผมอายุประมาณ 12 ปี นับตั้งแต่ดูผลงานของเขาเรื่อง Withnail and I (1987) ซึ่งตอนนี้จัดว่าเป็นผลงานหนังอังกฤษคลาสสิก เกี่ยวกับนักแสดงสองคนที่หลงทาง พวกเขาพยายามที่จะออกจากลอนดอน แต่ก็นั่นแหละพวกเขาหลงทาง ผมได้มีโอกาสรู้จักกับเขามากว่า 10 ปีแล้ว และเขาก็มากล้นไปด้วยประสบการณ์ ผมคิดว่าเขาอยู่ในสถานะที่ชีวิตและการทำงานของเขาโดดเด่นอย่างที่สุด ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับเขา ผมแทบรอไม่ไหว อยากจะให้ผู้ชมได้เห็นในสิ่งที่เขาทำในซีรีส์นี้" 7 กรกฎาคมคือวันที่แฟนคลับทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ของ Loki ได้ชมฝีมือและจากนักแสดงสุดเก๋าอย่างแกรนท์และต่างชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันว่า "สุดยอด" ประสบการณ์และฝีไม้ลายมืออันเด็ดดวงของแกรนท์ ในบทบาท Classic Loki สร้างความประทับใจแบบสุด ๆ ถึงขั้นที่นำพาซีรีส์ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในหลากหลายประเทศและต่างยกให้เขาเป็น MVP (Most Valuable Player) ตัวละครที่ทรงคุณค่าที่สุดในบรรดาโลกิ อีกหลายรูปแบบในซีรีส์ หลายคนชื่นชมว่าแกรนท์กับฮิดเดิลสตันมีความคล้ายคลึงกันอย่างมากและสามารถเชื่อได้อย่างสนิทใจว่าเขาคือโลกิเวอร์ชันที่สูงวัยกว่า และประสบการณ์มากกว่า สมกับที่ฮิดเดิลสตันเคยกล่าวชมเอาไว้ ซึ่ง ถ้าดูจากประวัติของเขาแล้วก็ไม่แปลกใจเลย เพราะเขาคือนักแสดงมืออาชีพที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน   ปังตั้งแต่หนังเรื่องแรก ริชาร์ด อี แกรนท์ ไม่ใช่ชื่อจริงของเขา ชื่อของเขาคือ ริชาร์ด แกรนท์ เอสเตไฮเซน (Richard Grant Esterhuysen) เกิดที่ประเทศ สวาซีแลนด์ (ปัจจุบันประเทศ Swaziland เปลี่ยนชื่อเป็นประเทศ เอสวาตีนี -Eswatini) เนื่องจากพ่อของเขาเป็นหัวหน้าฝ่ายการศึกษาของรัฐบาลอังกฤษในสวาซีแลนด์ เขาแอบเห็นแม่ของเขาลักลอบคบชู้กับเพื่อนสนิทของพ่อเมื่ออายุได้ 10 ปี ซึ่งทำให้ทั้งสองหย่ากันในเวลาต่อมา แกรนท์ย้ายมายังแอฟริกาใต้เมื่อเข้าเรียนชั้นมัธยม และเข้าเรียนมหาวิทยาลัย University of Cape Town ในสาขาภาษาอังกฤษและการละครซึ่งเขาได้ตั้งชื่อในวงการของเขาเป็น ริชาร์ด อีแกรนท์ และย้ายกลับมายังประเทศอังกฤษ ในปี 1982 และเริ่มเอาดีทางการแสดงด้วยการรับบทเล็ก ๆ ในซีรีส์ ไม่ใช่นักแสดงทุกคนที่จะโด่งดังตั้งแต่แสดงภาพยนตร์เรื่องแรก แต่ ริชาร์ด อี แกรนท์คือคนนั้น เรื่อง Withnail and I หนังตลกร้ายสไตล์อังกฤษของผู้กำกับบรู๊ซ โรบินสัน ทำให้เขาดังเป็นพลุแตกและเริ่มมีแฟนคลับตั้งแต่นั้นมา เพราะหนังเรื่องนี้โด่งดังแบบหนัง Cult (คัลต์) ที่สร้างกระแสให้ผู้ชมรักและติดตามหนังเรื่องนี้อย่างเหนียวแน่นและยาวนาน โดยในปี 1999 ทาง British Film Instituteได้จัดให้หนังเรื่องนี้อยู่ที่อันดับที่ 29 ของหนังอังกฤษที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล ในปี 2017 ผู้กำกับ มือเขียนบท โปรดิวเซอร์ นักวิจารณ์ ก็ได้รวมตัวกันโหวตให้กับ Time Out magazine ให้หนังเรื่องนี้ติดอันดับที่ 15 หนังอังกฤษที่เยี่ยมยอดที่สุดตลอดกาล และประโยคเด็ดของ ริชาร์ด อี แกรนท์ ที่พูดในเรื่องนี้ว่า "เราต้องการไวน์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่มีอยู่ของมวลมนุษยชาติ เราต้องการพวกมันตรงนี้และเดี๋ยวนี้" ได้รับการโหวตให้เป็นอันดับสามของ "วรรคทอง" สุดเด็ดในโลกภาพยนตร์ ในโพลของปี 2003 ที่สำรวจความนิยมของผู้ชมภาพยนตร์ 1,000 คน การที่อ้างตัวว่าเป็นแฟนคลับของริชาร์ด อี แกรนท์ แล้วไม่พูดถึงประโยคเด็ดของเขาในเรื่อง Withnail and I ก็คงไม่ได้ ดังนั้นฉากไวน์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในมวลมนุษยชาตินี้ ซีรีส์ Loki จึงแอบเอามาใส่เป็นหนึ่งใน Easter Eggs เล็ก ๆ ในซีรีส์ Loki ตอนที่ 5 Journey Into Mystery โดยบรรดาโลกินั่งดื่มไวน์ Roxxi Wine ด้วยกัน ซึ่งข้างกล่องเขียนว่า ( Roxxi Wine Exceptional Pinot Noir ร็อกซี่ไวน์ ปิโนต์นัวร์ชั้นยอด) ซึ่งไวน์นี้มาจาก Roxxmart ซูเปอร์มาเก็ตที่ปรากฎในตอนที่ 2 ซึ่งมีบริษัทแม่คือ Roxxon บริษัทตัวร้ายแห่งจักรวาล Marvel ที่มีบทบาทในหลายเรื่องรวมถึงเป็นวายร้ายในช่วงเวลาที่เจน ฟอสเตอร์ได้รับบทบาทเป็นธอร์ด้วย เท่ากับว่า Easter Egg ชิ้นนี้ เป็นทั้งการคารวะริชาร์ด อี แกรนท์ จากหนัง Withnail and I (ที่สุดท้ายพวกเขาได้ไวน์ที่ดีที่สุดเท่าที่มีคือไวน์กล่องจากซูเปอร์) และอาจจะเป็นการโยงไปสู่เรื่อง Thor Love and Thunder อีกด้วย หลังจากหนัง Withnail and I แกรนท์ได้แสดงหนังดังอีกมากมายและหลากหลาย เขารับงานแสดงทั้งระดับอินดี้เล็ก ๆ ไปจนถึงหนังบล็อกบัสเตอร์ฮอลลีวู้ดเช่น Bram Stoker's Dracula (1992) The Age of Innocence (1993), The Portrait of a Lady (1996), Gosford Park (2001), Star Wars: The Rise of Skywalker (2019) ซึ่งปัจจุบันเขาก็จัดว่าเป็นนักแสดงงานชุกที่มีผลงานทั้งภาพยนตร์และซีรีส์อย่างต่อเนื่อง   รักเมียที่สุดในโลก แม้จะอยู่ท่ามกลางแสงสีและสาวสวยมากมายแต่หัวใจของ ริชาร์ด อี แกรนท์ได้มอบให้กับ โจน วอชิงตัน (Joan Washington) ภรรยาคนแรกของหัวใจและคนสุดท้ายของชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว เรื่องราวการครองคู่อันยาวนานกว่า 37 ปี ของเขาเป็นหนึ่งในสิ่งที่แฟน ๆ ของเขาชื่นชมเสมอมา เพราะทุกวันนี้เขายังลงรูปภรรยาในสื่อโซเชียลคอยเติมความหวานให้แก่กันและยังจำวันแรกที่พวกเขาได้เจอกันเหมือนกับเกิดขึ้นเมื่อวาน ริชาร์ด อี แกรนท์ เล่าตำนานความรักของเขาให้สื่อต่าง ๆ ฟังซ้ำได้ไม่มีเบื่อ เขาเล่าว่าครั้งแรกที่เจอกันคือเดือนธันวาคม ปี 1982 ในตอนนั้น โจนทำงานเป็นครูสอนการออกเสียงให้กับนักแสดง (Voice Dialect Coach) ซึ่งตอนนั้นมีผู้คนมาเรียนกับเธอมากมาย และริชาร์ดต้องทำงานที่ต้องพูดสำเนียง Belfast เลยไปสมัครเรียนด้วย ทันทีที่เขาเห็นเธอเขาก็รู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้พิเศษมากเธอโคตรเท่ด้วยชุดหมี ผมสั้น ใส่รองเท้าส้นหน้า และสูบบุหรี่มวนต่อมวน แต่เสียงของเธอเวลาสอนไพเราะที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยิน อย่างไรตอนนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้สานสัมพันธ์กันเนื่องจากตอนนั้นโจนแต่งงานมีลูกแล้ว และยังไม่ได้หย่ากับสามีเก่า ทั้งคู่จึงคงความสัมพันธ์เป็นแค่เพื่อน แม้ว่าโจนเองก็รู้สึกดีกับนักเรียนคนนี้ ที่มักจะมานั่งหัวเราะคิกคักรบกวนการสอนในคลาสของเธอ แต่เขาก็เป็นคนที่มีพรสวรรค์มากเขาเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว โจนรู้ได้ทันทีผู้ชายคนนี้ไม่เหมือนใคร ทั้งสองคอยช่วยเหลือกันอยู่เสมอจนวันหนึ่ง โจนต้องทำงานที่ต้องหาคนพูดภาษาซูลู (Zulu) ของภาษาที่ใช้กันมากในแอฟริกาใต้ มาคอยพูดคุยกับลูกค้า และบังเอิญมากที่ ริชาร์ด เกิดที่สวาซีแลนด์ เขาจึงพูดได้อยู่แล้ว เขามาช่วยงานเธอในวันนั้นจนผ่านพ้นไปด้วยดี ความประทับใจนั้นทำให้โจนได้รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้แหละที่สวรรค์ประทานมาให้คู่กับเธอ เธอจึงดำเนินการหย่ากับสามีเก่าที่ระหองระแหงกันมานานแล้ว และแต่งงานกับริชาร์ดในปี 1986 โดยริชาร์ดรับเป็นพ่อบุญธรรมลูกชายของโจน และต่อมา ทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนชื่อโอลิเวีย ซึ่งครอบครัวของเขายังมีความสุขอยู่ร่วมกันและทำกิจกรรมด้วยกันอย่างสม่ำเสมอ   ติ่งตัวพ่อของบาร์บรา สไตรแซนด์ นอกจากภรรยา ผู้หญิงอีกคนที่เขารักมากแบบสุดใจก็คือบาร์บรา สไตรแซนด์ นักร้องนักแสดงที่แกรนท์ถือว่าเธอคือเทพธิดาในดวงใจมาตั้งแต่ตอนที่ได้ดูหนังเรื่อง Funny Girl (1968) ความคลั่งรัก 50 ปีไม่มีเปลี่ยนของแกรนท์มีบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อเดือนมกราคมปี 2019 แกรนท์โชว์จดหมายที่เขาเคยเขียนเมื่อตอนอายุ 14 ปี ซึ่งเขาตั้งใจส่งไปหาสไตรแซนด์ เมื่อตอนได้รู้ข่าวว่าเธอกำลังมีปัญหาเรื่องความรัก เขาเลยเสนอให้เธอมาพักใจที่บ้านของเขาที่สวาซีแลนด์ จดหมายนี้ถูกเผยแพร่ผ่านทางทวิตเตอร์ พร้อมกับภาพของแกรนท์ยืนยิ้มกริ่มอยู่ที่หน้าทางเข้าบ้านของสไตรแซนด์ (ดูภาพที่ https://twitter.com/RichardEGrant/status/1090256751520145408?) และผลจากการแชร์ในโลกโซเชียล จดหมายนี้ก็ได้ส่งถึงบาร์บรา สไตรแซนด์ซึ่งเธอก็มาตอบทวิตนี้อย่างอ่อนหวานและบอกว่าเธอเองก็ติดตามผลงานของเขาอยู่เช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องหนังเรื่อง Can You Ever Forgive Me? แกรนท์ตอบทวีตนี้ด้วยภาพตัวเองกำลังตื้นตันใจสุดชีวิตจนภาพของเขากลายเป็น meme ในอินเตอร์เน็ต (https://www.reddit.com/r/wholesomememes/comments/alo19n/barbra_streisand_responds_to_a_letter_that/) ต่อมาไม่นานนักแกรนท์ก็ได้รับสิ่งที่เขาเขาเฝ้ารอมาตลอดชีวิต หนังเรื่อง Can You Ever Forgive Me? ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ตัวแรกในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม และการที่เขาได้เข้าร่วมงานประกาศรางวัลออสการ์ในเดือนกุมพาพันธ์ ก็ทำให้เขาได้พบกับนางในฝันบาร์บรา สไตรแซนด์ ตัวจริง ๆ มายืนอยู่ตรงหน้าเขา ความตื่นเต้นนี้ทำให้เขารีบเซลฟีลงทวิตเตอร์ไปอย่างเบลอ ๆ แต่แฟนๆ ก็เห็นได้ชัดถึงความสุขที่เขาเฝ้ารอมานานและร่วมยินดีที่ฝันของเขาเป็นจริง) (https://twitter.com/RichardEGrant/status/1100028344882552832?) ความติ่งของแกรนท์ยังไม่หมดเท่านี้ ในงานวันนั้นเขาได้บอกกับ สไตรแซนด์ ว่าเขาจะสั่งทำรูปปั้นหน้าของเธอเอาไว้ประดับสวนที่บ้าน  1 ปีผ่านไปกุมภาพันธ์ปี 2020  ริชาร์ด อี แกรนท์ กลับมาทำตามสัญญาเขาลงวิดีโอ อวดรูปปั้นขนาด 2 ฟุตที่เขาสั่งทำพิเศษมาเพื่อเป็นอนุสรณ์ของความเป็นแฟนพันธ์แท้ตลอด 50 ปี ให้แฟน ๆ ได้ชมกันจริง ๆ (ชมคลิป) https://twitter.com/RichardEGrant/status/1225445899440140290)   จมูกดีจนทำน้ำหอมขาย นอกจากจะทำงานในวงการบันเทิงแล้ว ความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งของริชาร์ด อี แกรนท์ ก็คือเขา จมูกดีมากมีประสาทสัมผัสรับกลิ่นได้ยอดเยี่ยม ซึ่งการันตีด้วยภรรยาของเขาเองที่ยืนยันว่าเขาเป็นคนชอบดมกลิ่นของทุก ๆ สิ่งไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผลไม้ สิ่งของ หรือกลิ่นตามธรรมชาติต่าง ๆ และนิสัยชอบดมกลิ่นนี้เคยทำให้เป็นปัญหาเหมือนกันเวลาไปทานอาหารนอกบ้าน เพราะแกรนท์มักจะเอาหน้าจุ่มไปดมอาหารอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินว่ามันน่าอร่อยยังไง ทำให้ร้านหลายร้านเข้าใจผิดและกังวลว่าอาหารของพวกเขามีกลิ่นเหม็น สาเหตุที่แกรนท์ชื่นชอบการดมกลิ่นมาก ๆ เป็นเพราะเขาได้รู้มากว่า “กลิ่น” เป็นสิ่งที่ทำให้สมองเชื่อมต่อกับความทรงจำได้ดีที่สุด เพราะทันทีที่เราได้กลิ่นเราจะรู้ว่าที่มาของสิ่งนั้นคืออะไร มาจากที่ไหน และทำให้หวนรำลึกถึงความหลังได้อย่างชัดเจนแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแล้ว หลังจากเก็บความสามารถในการ “ดม”มานาน ตอนนี้เขาก็ได้เปิดแบรนด์ขายเครื่องหอม ที่มีชื่อว่า JACK ซึ่งมีทั้งน้ำหอม โคโลญจน์ เทียนหอมซึ่งมีความพิเศษตรงที่ออกแบบกลิ่นให้ใช้ได้ทุกเพศ เป็นน้ำหอม Unisex ที่นักแสดงหลายคนเลือกใช้ นอกจากความสามารถในการดมกลิ่นแล้ว ริชาร์ด อี แกรนท์ ยังมีความสามารถในการใช้เสียงที่ผ่านมาเขาเคยทำงานพากย์เสียงตัวละครอนิเมชัน เกม และเป็นผู้บรรยายงานต่าง ๆ มาแล้วหลายครั้งหลายครา ล่าสุดเขาได้รับเลือกให้เป็นผู้พากย์เสียงภาษาอังกฤษ Aya to Majo (Earwig and the Witch) แอนิเมชันสามมิติเรื่องแรกจากสตูดิโอดัง Ghibli และกำลังจะมีผลงานแสดงหนังเรื่อง Persuasion ซึ่งสร้างมาจากนิยายของ เจน ออสติน (Jane Austen) โดยเขาจะได้ร่วมงานกับ เฮนรี่ โกลดิ้ง และ ดาโกตา จอห์นสัน อีกด้วย   อ้างอิง https://decider.com/2021/07/07/loki-episode-5-easter-eggs-journey-into-mystery/ https://www.slashfilm.com/tom-hiddleston-loki-interview/ https://www.richard-e-grant.com/ https://www.hellomagazine.com/film/2019022570188/richard-e-grant-finally-meets-barbra-streisand/   เรื่อง: ผู้ชายคนนั้นจากหนังเรื่องนี้ ภาพ: Gareth Cattermole/Getty Images