ซากาโมโตะ คีว: หนึ่งเดียวที่นำเพลงภาษาเอเชีย Sukiyaki ติดที่ 1 Billboard

ซากาโมโตะ คีว: หนึ่งเดียวที่นำเพลงภาษาเอเชีย Sukiyaki ติดที่ 1 Billboard

หนึ่งเดียวที่นำเพลงภาษาเอเชีย Sukiyaki ติดที่ 1 Billboard

หลายคนกำลังฮือฮากับกระแส K-Pop ที่กำลังบุกไปยังฝั่งตะวันตก ไม่ว่าจะเป็น Blackpink กลุ่มศิลปินหญิงที่มีโอกาสไปขึ้นเวทีมหกรรมคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่อย่าง Coachella 2019 ที่สะกดสายตาแฟนเพลงมหาศาล หรือจะเป็นกลุ่มศิลปินชายอย่าง BTS ที่สร้างสถิติมีผู้เข้าชม YouTube 74.6 ล้านวิวใน 24 ชั่วโมง กับเพลง “Boy with Luv” แถมยังพาเพลงขึ้นชาร์ตเพลงระดับโลกอย่าง Billboard Hot 100 ในอันดับที่ 8 แต่ย้อนไปเกือบ 50 ปี Billboard Hot 100 เคยมีเพลงที่ร้องเป็นภาษานอกภาคพื้นยุโรปเช่น สเปน ฝรั่งเศส หรืออังกฤษ ขึ้นอันดับที่ 1 มาแล้ว และยังเป็นเพลงเดียวที่ยังรักษาสถิติดังกล่าวได้จนถึงปัจจุบัน นั่นคือเพลง Ue o Muite Arukō หรือที่คนไทยและชาวต่างชาติรู้จักในนามเพลง “Sukiyaki” ที่ทะยานเป็นที่ 1 ในปี 1963 ได้ถึง 4 สัปดาห์ และยังถูกซื้อลิขสิทธิ์นำไปคัฟเวอร์เป็นภาษาต่าง ๆ ทั่วโลก นี่คือตำนานของศิลปินชายที่ชื่อ “ซากาโมโตะ คีว” (Sakamoto Kyū) คีว นั้นมีชื่อจริงว่า “ฮิซาชิ โอชิมะ” เกิดที่เมืองคาวาซากิ จังหวัดคานากาวะ ในปี 1941 ช่วงที่จักรวรรดิญี่ปุ่นกำลังทำสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาเป็นลูกคนสุดท้องจากจำนวนพี่น้อง 9 คน ซึ่งอิทธิพลของสงครามเกิดผลกระทบต่อครอบครัวของคีวโดยตรง หลังโดนยุทธการถล่มน่านฟ้าโตเกียวในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ครอบครัวของเขาต้องระเห็จไปอยู่จังหวัดอิบารากิ ก่อนที่จะเดินทางกลับมาอยู่คาวาซากิอีกครั้งเมื่อมารดากลับมาเปิดร้านอาหาร ชีวิตของตำนานนักร้องนั้นไม่ราบรื่นเมื่อครอบครัวต้องประสบปัญหาหย่าร้าง นั่นทำให้เกิดปัญหาทางการเงิน เขาเลือกที่จะอยู่กับแม่โดยใช้นามสกุล “โอชิมะ” แทน “ซากาโมโตะ”ที่เป็นของพ่อ และต้องเริ่มหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว ด้วยความที่เป็นคนรักเสียงเพลง คีวได้เข้าไปอยู่ในวงดนตรีป๊อปของญี่ปุ่นชื่อ The Drifters แต่อยู่ได้ไม่นานก็มีเรื่องทะเลาะวิวาททำให้ตัวเขาต้องออกจากวงไป จากนั้นเขาคิดจะมุ่งมั่นกับการศึกษาอีกครั้ง แต่โชคชะตาดูเหมือนจะขีดให้เขาเป็นซูเปอร์สตาร์ เมื่อถูกเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยชักชวนไปเป็นนักร้องในวง Danny Iida and Paradise King และเริ่มเป็นที่จับตามอง วงของเขาได้ออกแผ่นเสียงกับค่าย JVC และออกซิงเกิ้ลเดบิวท์ "Kanashiki rokujussai" ด้วยน้ำเสียงที่เอกลักษณ์อบอุ่นและนุ่มลึก ทำให้เขาถูกค่ายโตชิบาเรคคอร์ด (ปัจจุบันคือ EMI Music Japan) ทาบทามให้เป็นศิลปินเดี่ยว และเริ่มปล่อยผลงานเดี่ยวจนถึงปี 1962 ตั้งแต่นั้นมา ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปตลอดกาล ซิงเกิ้ล Ue o Muite Arukō หรือ Sukiyaki ถูกปล่อยออกมา ด้วยทำนองที่เรียบง่ายติดหูเหมาะแก่การฮัมตาม แต่แฝงความหม่นเศร้าในเนื้อเพลงที่บอกเล่าถึงชายคนหนึ่งที่ต้องแหงนมองฟ้าในยามค่ำคืนเพื่อเดินต่อไปข้างหน้า เพราะไม่อยากให้น้ำตาที่ไหลรินนั้นหยดลงบนพื้น ดั่งคำแปลที่มาของเพลง Ue o Muite Arukō หรือ “ฉันเงยหน้ามองฟ้าเพื่อเดินหน้าต่อไป” ซึ่งมาจากปลายปากกาของนักแต่งเพลงผู้ยิ่งใหญ่ “โรกุสุเกะ เอ.” ที่เพิ่งเสียชีวิตด้วยโรคพาร์กินสันในปี 2016 ซึ่งในเบื้องลึกนั้นเขาแต่งเพื่อรำลึกถึงความขมขื่นที่ญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงคราม และเปิดให้ทหารของสหรัฐฯ เข้ามาตั้งกองทัพในดินแดนของตน แต่ Soft Power ดังกล่าว กลับกลายเป็นอาวุธที่ทรงประสิทธิภาพของญี่ปุ่นในการบุกอเมริกา เพลงนี้ไต่ขึ้นชาร์ต Billboard100 อย่างรวดเร็วและขึ้นไปสู่อันดับที่ 1 ได้สำเร็จ นั่นทำให้ ซากาโมโตะ คีว ได้จัดคอนเสิร์ต World Tour ยาวนานเกือบ 1 ปี และได้มีโอกาสไปออกรายการโทรทัศน์ชื่อดังในขณะนั้นของสหรัฐฯ อย่าง The Steve Allen Show รวมไปถึงรายการเดียวกันกับที่พา “สี่เต่าทอง” The Beatles มาเขย่าโลกอย่างรายการ The Ed Sullivan Show ด้วย และยังมีโอกาสได้ร้องเพลงผ่านรายการโทรทัศน์ ในช่วงที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก ฤดูร้อนปี 1964 ผลงานของคีวยังออกมาอย่างต่อเนื่อง "China Nights (Shina no Yoru)" ก็สามารถขึ้นชาร์ต Billboard100 ในอันดับที่ 58 ส่วนเรื่องผลงานการแสดงภาพยนตร์ในญี่ปุ่น เขามีผลงานการแสดงมากเกือบ 10 เรื่อง เรียกได้ว่าเป็นดาวค้างฟ้าของวงการบันเทิงของญี่ปุ่นก็ว่าได้ และมีโอกาสขึ้นแสดงในเทศกาล Kōhaku Uta Gassen หรือ มหกรรมดนตรีขาว-แดง รายการดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นทาง NHK ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่หลายครั้งหลายครา แต่แล้ว 12 สิงหาคม 1985 โลกก็ต้องช็อกเมื่อคีวที่กำลังเดินทางด้วยสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ JAL123 เครื่องบินรุ่นโบอิง 747-146SR ประสบอุบัติเหตุจากการเดินทางจากโตเกียวไปโอซาก้า หลังจากเทคออฟเพียง 12 นาที เครื่องได้ประสบอุบัติเหตุแพนหางฉีกขาดเสียการควบคุม และตกลงในบริเวณจังหวัดกุนมะ ลูกเรือพร้อมผู้โดยสารเสียชีวิตรวม 520 คน รวมไปถึงคีวและผู้จัดการส่วนตัวของเขาด้วย ทั้งลำรอดชีวิตเพียง 4 คนเท่านั้น สิ่งที่เขาสร้างไว้ยังคงยิ่งใหญ่และถูกจารึก งานศพของคีวได้รับการจัดขึ้นที่โตเกียวท่ามกลางญาติสนิทและเพื่อนร่วมวงการ ปัจจุบันมีการสร้างพิพิธภัณฑ์ Kyu Sakamoto Memorial Hall ที่จังหวัดฮอกไกโด รวบรวมผลงานและเครื่องใช้ส่วนตัวของนักร้องเอเชียคนแรกที่พาเพลงขึ้นอันดับที่ 1 Billboard Hot 100 และเมื่อคีวคือดาวค้างฟ้า เมื่อนักดาราศาสตร์ชาวญี่ปุ่นค้นพบดาวเคราะห์น้อยในปี 1993 เขาได้ตั้งชื่อว่า “ดาว 6980 Kyusakamoto” เวลารำลึกความยิ่งใหญ่ที่มีทั้งสุขและทุกข์ของคีว ให้ลองแหงนไปบนท้องฟ้าดังเนื้อเพลงที่บอกว่า Shiawase wa kumo no ue ni (ความสุขที่ล่องลอยห่างไกลเหนือกลุ่มเมฆ) Shiawase wa sora no ue ni (ความสุขที่ไกลโพ้นเหนือท้องฟ้า)   เรื่อง: พิเชฐ ยิ่งเกียรติคุณ