คลิกฟังข่าว!!
กำลังโหลด
event
26 มี.ค. 2564 | 23:41 น.
‘สตูล’ มัลดีฟส์เมืองไทย ในดินแดนเก่าแก่แห่งอันดามัน
หาดทรายสีขาวค่อย ๆ ไล่ระดับจากสีฟ้าอ่อนไปยังสีครามเข้ม ตัดกับขอบฟ้ายามบ่ายชวนให้รู้สึกสงบท่ามกลางแดดจ้าของเดือนมีนาคม ภาพตรงหน้าทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสถานที่แห่งนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นมัลดีฟส์เมืองไทย
ที่นี่คือ ‘เกาะหลีเป๊ะ’ หนึ่งในหมุดหมายของการเดินทางตลอดระยะเวลา 5 วัน 4 คืน ใน ‘สตูล’ จังหวัดทางใต้สุดของฝั่งอันดามันที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติทางทะเล และมนตร์ขลังของสถานที่ต่าง ๆ ตั้งแต่หาดทรายซึ่งยังมีฟอสซิลอายุหลายร้อยล้านปี ไปจนถึงสถานที่ที่เคยเป็นคุกสำหรับขังนักโทษการเมือง
ย้อนเวลาไปสัมผัสธรรมชาติจากยุคดึกดำบรรพ์
วันแรกของการเดินทาง เรามีจุดมุ่งหมายคือ ‘ปราสาทหินพันยอด’ หมู่เกาะหินปูนที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเล โดยแท่งหินขนาดใหญ่รูปร่างสวยงามแปลกตาที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นมานี้ คล้ายกับปราสาทในเทพนิยายจนกลายเป็นที่มาของชื่อ ‘ปราสาทหินพันยอด’
บริเวณโดยรอบโอบล้อมด้วยผืนทะเลสีเขียวครามสุดลูกหูลูกตา ทั้งยังเพิ่มความท้าทายและใกล้ชิดธรรมชาติให้มากขึ้นด้วยการพายเรือคายัคฝ่าเกลียวคลื่นเข้าไปรับชมหมู่เกาะหินปูนนี้ในระยะใกล้
เมื่อชมความตระการตาของปราสาทหินพันยอดแล้ว เราเดินทางต่อไปยัง ‘หาดตะโล๊ะการะ’ เพื่อถ่ายภาพร่วมกับโพรงหินรูปหัวใจพร้อม ‘ฟอสซิลนอติลอยด์’ (Nautiloid) ซากดึกดำบรรพ์ที่มีอายุมากกว่า 480 ล้านปีที่อยู่อีกด้านของชายหาด
วันแรกของการเดินทางจึงคล้ายกับการต้อนรับผู้มาเยือนด้วยการพาเราย้อนเวลาไปสัมผัสธรรมชาติของสตูลที่คงอยู่มาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์
เรียนรู้ประวัติศาสตร์จากเกาะตะรุเตา
เมื่อตะวันสาดแสงเป็นสัญญาณของเช้าวันใหม่ เราออกเดินทางต่อไปเยือน ‘เกาะตะรุเตา’ อุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทย กว่าครึ่งชั่วโมงที่รถหกล้อพาเราขึ้นทางลาดชัน ผ่านผืนป่าที่ขนาบสองข้างทางไปยังเส้นทางศึกษาประวัติศาสตร์ ‘อ่าวตะโละวาว’ เพื่อย้อนฟังตำนาน ‘คุกตะรุเตา’ สถานที่ตั้งนิคมฝึกอาชีพหรือทัณฑสถานนักโทษเด็ดขาดและนักโทษการเมืองระหว่างปี พ.ศ. 2481 - 2491 ว่ากันว่าเรือในอดีตไม่กล้าแล่นผ่านบริเวณนี้เพราะท้องทะเลเต็มไปด้วยฉลาม ทั้งยังมีโจรสลัดเข้าปล้นสะดมอยู่บ่อย ๆ
ปัจจุบันพื้นที่ภายในเกาะได้กลายเป็นสถานที่ที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ทั้งหาดทรายขาว น้ำทะเลใส และปะการังหลากสี ผืนป่าบนเกาะแห่งนี้กลายเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่านานาพันธุ์จนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2525 ให้เป็นมรดกแห่งอาเซียน ส่วนร่องรอยในอดีต เหลือทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังของอาคารไม้เก่าไม่กี่แห่ง รวมทั้งแบบจำลอง ‘ตึกแดง’ โดมครึ่งวงกลมสำหรับขังนักโทษที่ทำผิดกฎร้ายแรงในยุคนั้น
เมื่อฟังเรื่องราวบนเส้นทางประวัติศาสตร์แล้ว เรือลำเก่าพาเราฝ่าเกลียวคลื่นยามบ่ายไปยังหาดทรายขาวใน ‘เกาะไข่’ สัญลักษณ์ของจังหวัดสตูล ลมทะเลที่โชยพัดมา และความเย็นของคลื่นที่กำลังสาดซัดสองเท้าขณะก้าวเดินริมหาด ทำให้เราลืมไอร้อนจากแดดยามบ่ายไปโดยสิ้นเชิง ไม่ไกลจากบริเวณที่จอดเรือ มีซุ้มประตูหินขนาดใหญ่ซึ่งเชื่อว่าหากหนุ่มสาวคู่ใดได้ลอดซุ้มประตูหินนี้ จะได้เข้าสู่ประตูวิวาห์สมดั่งใจ เรียกว่าเกาะไข่เป็นสถานที่แสนโรแมนติกทั้งบรรยากาศและเรื่องราวที่เล่าขานสืบต่อกันมาเลยทีเดียว
ดื่มด่ำความงามของทะเลใต้
หลังจากที่เราได้ย้อนเวลาไปเยือนมนตร์ขลังของธรรมชาติในยุคดึกดำบรรพ์ พร้อมฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์บนเกาะตะรุเตาแล้ว สถานที่ในวันถัดมาคือหมู่เกาะจำนวนมากที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของทะเลทางฝั่งอันดามัน เช่น ‘เกาะหินงาม’ ที่มีหินสีดำขลับใต้ผืนน้ำสะท้อนแสงแดดระยับแล้วดูงดงามสมชื่อเกาะหินงาม ‘เกาะราวี’ ที่มีหาดทรายขาวละเอียด น้ำสีฟ้าใส เหมาะสำหรับนั่งหย่อนใจหรือเล่นน้ำทะเล และ ‘เกาะหินซ้อน’ ที่อยู่หน้าเกาะดง และ ‘เกาะผึ้ง’ มีลักษณะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่สองก้อนอยู่ซ้อนกัน คล้ายกับงานประติมากรรมธรรมชาติ บ้างก็เรียกกองหินซ้อนนี้ว่า กองหินเรือดำน้ำ ทั้งยังได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกอาเซียน (ASEAN Heritage Parks and Reserves) มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525
แม้จะมีเกาะแก่งและหาดทรายขาวสะอาดจำนวนมากที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่สตูลก็ยังอนุรักษ์พื้นที่บางส่วนไว้สำหรับสัตว์ป่าและพรรณพืชต่าง ๆ เช่น ‘เกาะยาง’ ที่ไม่อนุญาตให้เดินทางขึ้นไปบนเกาะ เพราะทางอุทยานฯ ต้องการอนุรักษ์พื้นที่แนวชายหาดไว้เป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเล และป้องกันไม่ให้คลื่นกระแทก รวมทั้งใบพัดของเรือหางยาวทำลายแนวปะการังใกล้ ๆ ชายหาด สตูลจึงเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยเกาะแก่งจำนวนมากที่มีธรรมชาติหลากหลาย และเรื่องราวบนเกาะแตกต่างกันออกไป
เมื่อเราเดินทางตามเกาะต่าง ๆ ในสตูลจนเต็มอิ่มแล้ว วันที่สี่เราพักผ่อนในโรงแรมอาคีรา หลีเป๊ะ รีสอร์ท และเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ใน Walking Street ที่จะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงค่ำคืน แม้ร้านรวงจำนวนมากจะปิดตัวลงเพราะสถานการณ์โควิด-19 แต่ก็ยังพอมีร้านอาหารรสเลิศ ร้านนวดให้ได้ผ่อนคลาย รวมทั้งร้านของที่ระลึกแสนเก๋ที่ชวนให้นึกถึงทะเลและหมู่เกาะต่าง ๆ
ต้องยอมรับว่าการมาเที่ยวสตูลโดยเฉพาะเกาะหลีเป๊ะนั้นควรจะเผื่อหนึ่งวันไว้สำหรับชาร์จแบตร่างกายก่อนการเดินทางกลับไปยังสนามบินหาดใหญ่ ซึ่งกินเวลาหลายชั่วโมง เราจึงเลือกใช้เวลาช้า ๆ ในวันที่สี่บนหาดพัทยาและ Walking Street แห่งนี้
แม้การมาเยือนเกาะหลีเป๊ะและสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสตูลจะใช้เวลาค่อนข้างนาน และมีวิธีการเดินทางค่อนข้างหลายต่อ แต่เราเชื่อว่าเมื่อเดินทางมาถึงแล้วจะได้ชาร์จแบตหัวใจอย่างเต็มที่ ทั้งการสัมผัสธรรมชาติและมนตร์ขลังของประวัติศาสตร์อันยาวนานคุ้มค่ากับความเหนื่อยล้าระหว่างที่เดินทางมาอย่างแน่นอน
ขอบคุณบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือเคทีซี สำหรับงานแถลงข่าวแผนขยายขอบเขตธุรกิจสินเชื่อ ก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อเบ็ดเสร็จครบวงจร ในบรรยากาศริมหาดพัทยาของเกาะหลีเป๊ะ และการจัดทริปดี ๆ ตลอด 5 วัน 4 คืนในครั้งนี้ ที่ทำให้เราได้ทั้งความประทับใจ ความสนุก และความสุขเก็บใส่กระเป๋ากลับบ้านไปพร้อมกับของฝากจาก Walking Street เลยทีเดียว
ขอบคุณภาพจาก KTC
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ททท. ร่วม แม็คยีนส์ เปิดแคมเปญ เที่ยวฟิน In ภาคกลาง
29 มี.ค. 2567
The People Awards 2024 รางวัลที่สุดแห่งปีของ 'คนต้นแบบ' ผู้ทะยานก้าวข้ามขีดจำกัด
28 มี.ค. 2567
57
2024 Canon Partner Gathering เปิดตัว 2 เครื่องพิมพ์ซีรีส์ใหม่แห่งปี
28 มี.ค. 2567
1
แท็กที่เกี่ยวข้อง
Event
The People
KTC
Satun
KTC Journey