โมแมว - เซ็กซ์ครีเอเตอร์: เมื่อการเปลือยกายสั่นคลอนศีลธรรมอันดี(?)ในสังคม

โมแมว - เซ็กซ์ครีเอเตอร์: เมื่อการเปลือยกายสั่นคลอนศีลธรรมอันดี(?)ในสังคม
ขณะที่เรากำลังเดินปะปนอยู่ท่ามกลางฝูงชน บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ฝั่งถนนราชดำริ ในเย็นวันที่ 1 พฤษภาคม 2022 (ใช่...วันนี้คือวันแรงงาน วันที่แรงงานทั่วโลกหยุดทำงานเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะเหนือนายทุน) เราก็ได้พบกับหญิงสาวร่างเล็กรายหนึ่ง เนื้อตัวของเธอเต็มไปด้วยถ้อยคำอย่าง กะหรี่, sex work is work, 1,500 ขีดเขียนอยู่บนผิวกายของเธอ ด้วยตัวอักษรสีแดงสด แม้จะมองเห็นไม่ชัดนักว่าบนเรือนร่างของเธอมีกี่ข้อความกันแน่ แต่ ‘โมแมว’ (นามสมมติ) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยย่านรังสิต ผู้ผันตัวมาทำ ‘เซ็กซ์ครีเอเตอร์’ (Sex Creator) บอกกับเราอย่างภาคภูมิใจถึงเหตุผลที่เธอออกมาเรียกร้องสิทธิในวันนี้ ว่าเป็นเพราะต้องการให้คุณภาพชีวิตของ ‘เซ็กซ์เวิร์กเกอร์’ ในประเทศไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ต้องคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ในมุมมืด เหมือนอย่างในปัจจุบัน แม้ภาพฝันเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นในเร็ววันก็ตาม เพื่อทำความเข้าใจ ‘อาชีพ’ นี้มากขึ้น The People จึงติดต่อพูดคุยกับเธออีกครั้ง เราใช้เวลายามค่ำคืนแลกเปลี่ยนบทสนทนาร่วมกันราว 2 ชั่วโมง บทสนทนาที่ทำให้เราหัวหมุนไม่น้อย เพราะเรื่องราวของเธอเรียกทั้งเสียงหัวเราะ หยาดน้ำตา และความหวัง พร้อมกับทำให้เข้าใจคำว่า ‘คุณค่า’ ของชีวิตมากขึ้น นี่คือเรื่องราวของเธอ เซ็กซ์ครีเอเตอร์สาวผู้บอกว่าคุณค่าหาใช่สิ่งที่เขาบอกว่าต้องทำสิ่งนี้ ต้องเป็นสิ่งนั้นจึงจะมีคุณค่า แต่เป็นการกระทำและเจ้าของจิตวิญญาณต่างหากที่จะบอกว่า ‘คุณค่า’ ที่แท้จริงคืออะไร โมแมว - เซ็กซ์ครีเอเตอร์: เมื่อการเปลือยกายสั่นคลอนศีลธรรมอันดี(?)ในสังคม ไม่ใช่ไม่พยายาม แต่เพราะพยายามเลยต้องทำ ย้อนกลับไปในช่วงปี 2020 - 2021 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำลายชีวิตผู้คนไปเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือ ‘โมแมว’ นักศึกษาผู้ต้องหาเลี้ยงชีพตัวเอง พร้อมกับเรียนหนังสือไปด้วย ภาระอันหนักอึ้งผลักให้เธอ ‘เลือก’ ทำในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด นั่นคือการเข้าสู่วงการสร้างสรรค์สื่อในเชิงวาบหวิวหรือว่าโป๊เปลือยขึ้นมา โดยได้รับคำแนะนำจากเพื่อนสาวนักกิจกรรมคนสนิท “เราพยายามหางานทำทุกอย่างแล้ว ทั้งงานพาร์ตไทม์ งานฟรีแลนซ์ เรารับทำงานตัดต่อ ทำกราฟิก เราทำหมด ไม่ใช่เราไม่พยายาม เพราะเราพยายามไง มันถึงมาอยู่ในจุดนี้” ถ้อยคำของเธอพรั่งพรูออกมาราวสายน้ำหลาก หลังจากเรายิงคำถามไปว่าเพราะอะไรทำไมเธอจึงเลือกทำงานที่ถูกสังคมตีตราว่าผิดศีลธรรม เธอยังบอกอีกว่าหลังจากโควิด-19 ระบาดหนักข้อมากขึ้นเรื่อย ๆ มหาวิทยาลัยของเธอก็ประกาศปิดอย่างกะทันหัน จากที่เคยเปิดซุ้มดูดวงหารายได้ในตลาดนัดของมหาวิทยาลัย เธอก็ต้องหอบร่างและศาสตร์การดูดวงไปทำมาหากินในช่องทางอื่น แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ทุกอย่างในชีวิตมืดหม่นไปหมด “ช่วงที่เราหาเงินไม่ได้ แฟนให้เงินเราตลอด ซึ่งเราไม่อยากได้แล้ว เราอยากหาเงินเอง แล้วเราก็เป็นผู้หญิงที่ถูกสอนว่าต้องยืนได้ด้วยตัวเอง อย่าพึ่งพาใครให้มาก เพราะไม่มีใครอยู่กับเราได้นานเท่ากับตัวเราเอง” เธอจึงเริ่มจากซื้อชุดแนวเซ็กซี่มาแต่งพร้อมกับถ่ายรูปเล่น ๆ และลองเอาไปให้เพื่อนสาวคนสนิทดู ปรากฏว่าเพื่อนตาลุกวาว พร้อมกับบอกเธอว่านี่มันสวยเกินกว่าจะเก็บไว้ดูคนเดียว แถมภาพถ่ายแนวนี้สามารถหาเงินได้! หาเงินได้...คำสั้น ๆ แต่ทำให้นักศึกษาที่กำลังเคว้ง เหมือนมีขอนไม้ลอยมาให้เกาะเกี่ยว นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเบนเข็มการทำงานมาเป็นเซ็กซ์ครีเอเตอร์อย่างเต็มตัว ซึ่งการทำงานเสริมนี้ ทำให้เธอมีรายได้เข้ามาเดือนละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท สูงสุดที่เคยได้ต่อเดือนคือ 15,000 บาท แม้รายได้ไม่สูงมากนัก (ตามที่เธอบอก) เพราะยังเป็นแอคล็อคเล็ก ๆ ในทวิตเตอร์ แต่เงินเพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะมีชีวิตรอดในโลกเช่นนี้ “นี่ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดในชีวิตเรา แต่เป็น ‘ทางเลือก’ เดียวที่เหลือ ถ้าพูดอย่างหยาบคายเลยนะ เราจะไม่มีวันอดตาย ถ้าเรายังมีหx เพราะว่ามันยังขายได้ “เราไม่อยากขอเงินที่บ้าน พ่อกับแม่แยกทางตั้งแต่เรา 3 ขวบ เราอยู่แต่กับย่า มันไม่มีคำว่า ‘ครอบครัว’ อะไรทั้งนั้น” เธอเงียบไปชั่วขณะ “ครอบครัวของเขากับเรามันไม่ได้ไปด้วยกันแล้ว เขามีครอบครัวใหม่ เราเป็นแค่ลูกที่เกิดมาก่อน พอวันหนึ่งเราเข้าไปขอความช่วยเหลือ กลายเป็นว่าทุกคนเบือนหน้าหนี ทุกคนไม่สนใจ เขาพูดแค่ว่า ‘ฉันไม่มีให้แกหรอก’ ทั้ง ๆ ที่เรารู้ว่าเขามี เขาแค่ไม่ให้ “มันง่ายแค่นั้นเลย เรามีพ่อ เรามีแม่ แต่ครอบครัวเราไม่มีอยู่จริง” ความรุนแรงในครอบครัว นรกที่เธอไม่ได้เลือก ใจของเราแตกร้าวไปหมดหลังจากฟังเรื่องของเธอ แต่ความโหดร้ายที่โมแมวได้รับในชีวิตยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะเธอยังเป็นหนึ่งในเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว ทั้งจากคำพูดและการถูกคนที่รักมากที่สุดทำร้ายร่างกาย ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ต้องตกอยู่ในนรก เธอผ่านมันมาได้ด้วยคำว่า ‘อดทน’ คำคำเดียวที่เธอบอกกับเราแล้วนิ่งเงียบ “เราถูกห้ามออกจากบ้าน เราไม่สามารถเดินไปหาย่าที่ถนนฝั่งตรงข้ามได้ ถ้าเราออกไปเราก็จะถูกตี เพราะเขาแค่ไม่พอใจ เขาทำมันลงไป ทำโดยไม่รู้สึกผิด ซึ่งเราเชื่อว่าเขารู้ว่าการกระทำของเขาจะทำให้เสียลูกสาวคนนี้ไปก็ตาม “ถามว่าทนได้ยังไง เราก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าเราอดทนเก่งมาก” เธอหัวเราะปนขมขื่น แน่ละ...คงไม่มีใครอยากย้อนความหลังที่ไม่น่าจดจำมากนัก แต่โมแมวกลัวทำให้เราประหลาดใจอีกครั้ง เธอบอกกับเราว่าไม่เคยโกรธหรือเกลียดพ่อเลยสักครั้ง มันเป็นความรู้สึกเสียใจมากกว่า เสียใจที่ทำให้พ่อต้องรู้สึกผิดที่ทำร้ายเธอ พ่วงมาด้วยรอยแผลที่ไม่มีวันหาย “เราให้อภัยเขานะ เพียงแค่สิ่งที่เขาทำมันไม่สามารถลบออกไปได้ มันยังติดอยู่ในใจ แล้วเราก็มั่นใจว่ามันไม่มีวันหาย” อาจเป็นเพราะเหตุนี้ เธอจึงเลือกเข้าเรียนในคณะที่ศึกษาเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ เพื่อทำให้เพื่อนมนุษย์หลุดพ้นออกจากความรุนแรงในครอบครัว เพื่อให้ทุกคนไม่ต้องตกอยู่ในนรกเหมือนกับเธอเมื่อครั้งวัยเยาว์ “เราผ่านความรุนแรงในครอบครัวมาหนักมาก ๆ โอเค...เราอาจจะไม่ได้เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ปลูกมาด้วยความใส่ใจ ไม่ได้รดน้ำ-พรวนดิน ไม่ได้ใส่ปุ๋ย แต่เราจะเป็นเมล็ดพันธุ์ที่เติบโตขึ้นอย่างสง่างาม เพราะฉะนั้น ณ วันนี้ วันที่เรายังไม่ตาย เราก็อยากทำงานเพื่อคนอื่น เพื่ออะไรสักอย่างที่มันสามารถทำให้คนที่ถูกปลูกบนผืนดินที่ไม่ดี ถูกละเลย มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ ด้วยบางสิ่งบางอย่างที่เราสร้างขึ้น” โมแมว - เซ็กซ์ครีเอเตอร์: เมื่อการเปลือยกายสั่นคลอนศีลธรรมอันดี(?)ในสังคม ความรักที่ผลิบานท่ามกลางความผุพังของชีวิต โมแมวไม่ได้บอกว่างานที่เธอทำช่วยยกระดับสังคมอะไรขนาดนั้น แต่อย่างน้อยเธอก็มีความสุขในเส้นทางที่เธอได้เลือกด้วยตัวเอง และแฟนหนุ่มก็ยังเป็นกำลังสำคัญคอยซัพพอร์ตเธออยู่ห่าง ๆ จึงทำให้เธอยังสามารถยืนหยัดต่อสู้ในสิ่งที่อยากทำ และสิ่งที่ ‘จำเป็น’ ต้องทำอยู่นั่นคือการ ‘เปลือยกาย’ แลกเงิน “เราเจออะไรมาด้วยกันเยอะมาก ตั้งแต่ปีแรกที่คบกัน แต่พอเรากลับมาทบทวนเราก็พบว่าคงไม่มีใครเข้าใจเราไปมากกว่าคนตรงหน้าแล้ว อย่างตอนแรกที่ทำงานนี้ เราก็ไม่ได้ปรึกษาเขาก่อนนะ เราเลือกที่จะทำ พอทำเสร็จแล้วได้เงินมาจริง ๆ เราเลยตัดสินใจโทรฯ ไปบอกเขาว่าเราทำงานอย่างนี้ ๆ นะ “เราเตรียมใจว่าต้องโดนบอกเลิกแน่ ๆ แต่กลายเป็นว่าแฟนเราเข้าใจทุกอย่าง ทุกวันนี้เขาเป็นคนเลือกเสื้อผ้าทุกเซตให้เราถ่าย รูปทุกใบเขาเป็นคนคัดว่าอันไหนดีอันไหนไม่ดี เราให้เกียรติเขาโดยการบอกทุกอย่าง” แน่นอนว่าเธอก็เคยได้รับคำขอ ‘คลิปคู่’ ระหว่างเธอกับแฟน แต่เธอก็ต้องมานั่งจับเข่าคุยกับแฟนอีกว่า นี่คือสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ หรือเปล่า หากไม่ต้องการทำ ก็ไม่ต้องทำ เพราะคำขอจากคนแปลกหน้า ไม่สำคัญมากไปกว่าความรู้สึกของคนรัก “เราไม่เคยบังคับเขา ถ้าเขาอยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ เราสองคนมักจะเจอกันครึ่งทางได้เสมอ ได้เสมอเลยอย่างไม่น่าเชื่อ (ย้ำ) ด้วยความที่อายุเราค่อนข้างห่างกัน สังคม การใช้ชีวิตก็ต่างกัน แต่เราใช้วิธีการคุยกันตรง ๆ บอกเหตุผลว่าทำไมถึงทำสิ่งนั้น ทำไมถึงทำสิ่งนี้ เท่านี้ก็จบ มันดูเป็นความรักที่เพอร์เฟกต์ไปหมดเลยสำหรับเรา” (หัวเราะ) โมแมว - เซ็กซ์ครีเอเตอร์: เมื่อการเปลือยกายสั่นคลอนศีลธรรมอันดี(?)ในสังคม คุณค่า นิยามที่ขอเลือกเอง แน่นอนว่าการทำอาชีพเผยแพร่รูปภาพโป๊เปลือย ย่อมเข้าไปกระตุกต่อมศีลธรรมอันดีที่ถูกบัญญัติขึ้นในสังคมเข้าอย่างจัง ซึ่งโมแมวเองก็เคยคิดประเด็นนี้ แต่หลังจากทบทวนอย่างหนัก และพบว่าการทำงานของเธอไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร เพราะนี่คือร่างกายของเธอ เธอก็ทำงานนี้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ “เรารู้สึกว่า ‘คุณค่า’ มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครนิยามได้ว่ามันคืออะไร เหมือนกับคำว่า ‘ศีลธรรม’ นั่นแหละ แต่ถ้าให้บอกว่าคุณค่าของเราคืออะไร เราก็จะบอกว่าคุณค่าของเราคือ สิ่งที่เราเจอ สิ่งที่เราทำ สิ่งที่เราขับเคลื่อน สิ่งที่เราได้ช่วยเหลือคนอื่น ได้ทำหลาย ๆ อย่าง นี่คือคุณค่าของตัวเรา “คุณค่าที่ไม่ได้ถูกวัดด้วยอวัยวะเพศ” เธอย้ำ ส่วนคำว่าศีลธรรม เธอยังหาคำตอบของคำคำนี้ไม่ได้ เพราะเธอเลือกที่จะเชื่อมั่นในการกระทำของตัวเอง มากกว่า ‘ศรัทธา’ ทางศาสนามานานหลายปีแล้ว “เราไม่ได้อยู่ในจารีตมาตั้งนานแล้ว เป็นเด็กหัวขบถมาตลอด คำว่าศีลธรรมมันเลยเป็นอะไรที่ไกลตัว แต่เราก็มีศีลธรรมเป็นของตัวเองนะ (หัวเราะ) เราแค่ใช้คำนี้ในบริบทอื่น ไม่ใช่ในอาชีพที่เราทำ” โมแมว - เซ็กซ์ครีเอเตอร์: เมื่อการเปลือยกายสั่นคลอนศีลธรรมอันดี(?)ในสังคม อนาคตที่ยังคงต้องดิ้นรนต่อไป “พูดตามตรงเลยว่า ถ้าเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ถูกกฎหมาย มันไม่ใช่แค่อาชีพ แต่มันมีเรื่องของภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้ามันถูกกฎหมายขึ้นมา มันจะกลายเป็นว่าภาษีตรงนี้จะเข้าไประบบกลาง คนที่เคยได้เงินส่วนต่างเขาก็จะไม่ได้ มันเป็นเรื่องใหญ่ และฝังรากลึกมานาน” แม้ดูเหมือนไม่มีหวังว่าเซ็กซ์เวิร์กเกอร์จะถูกกฎหมายได้จริง ๆ ในสังคมที่ศีลธรรมสูงอย่างประเทศไทย แต่โมแมวกลับมองว่า สังคมนี้ยังมีความหวัง “เรายังมีหวังนะ ถึงมันจะเป็นไปได้ยาก มันอาจจะเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าเรายังสู้อยู่ แสดงว่าเรายังไม่แพ้ เรารู้ว่ามันยาก รู้ว่ามันเสี่ยง แต่เราอยากจะบอกเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ทุกคนว่า ออกมาเถอะ ออกมาสู้ ออกมาแสดงจุดยืนให้มันถูกต้องตามกฎหมาย แล้วจะรู้ว่าเสียงของเรามันมีความหมายจริง ๆ” คำถามสุดท้ายของเรา คือโมแมวจะทำอาชีพนี้ไปอีกนานแค่ไหน? เธอบอกก็คงทำงานตรงนี้ต่อไป เพราะยังสนุกกับงานอยู่ ไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย “บางทีเราไม่ได้คิดถึงเรื่องเงิน เราแค่อยากจะเป็นไปในแบบที่ตัวเองอยากเป็น แต่ก็ไม่แน่ว่าบางทีเราอาจจะเลิกทำตอนเรียนจบ หลังจากมีงานประจำทำเป็นหลักแหล่ง” หลังจบบทสนทนา คำถามที่ติดอยู่ในหัวทั้งหมด กลับถูกคลี่คลายลงอย่างง่ายดาย จากเคยสงสัยว่าทำไมเธอจึงเลือกเปลือยกายหาเงิน ทำไมจึงไม่เลือกเส้นทางอื่นที่ไม่ต้องตกเป็นจำเลยสังคม ทำไมถึงต้องยอมเสี่ยง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าต้องถูกสายตาจากคนรอบข้างจับจ้อง และดูหมิ่นคุณค่าในตัวเธอ คำตอบนั้นกลับเรียบง่าย ทุกการกระทำเธอได้ขบคิดมาอย่างดีว่า เส้นทางที่เลือกไม่ได้ลดคุณค่าหรือลดเกียรติ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเธอแต่อย่างใด    ภาพ: โมแมว