ซูฉี: ลูกเป็ดขี้เหร่ในสายตาแม่ จากหนังเรตอาร์ สู่ดาราฮอลลีวูด

ซูฉี: ลูกเป็ดขี้เหร่ในสายตาแม่ จากหนังเรตอาร์ สู่ดาราฮอลลีวูด
“แม่ชอบบอกว่า ฉันหน้าตาขี้เหร่มาก ๆ มากแบบที่แม่ว่าไม่เคยเห็นใครขี้เหร่เท่านี้เลยนะคะ”  แม้ว่าครั้งหนึ่ง ซูฉี จะเคยให้สัมภาษณ์ว่าเธอคือลูกเป็ดขี้เหร่ในสายตาของแม่ แต่ลูกเป็ดขี้เหร่คนนี้นั่นแหละ ที่ครั้งหนึ่งเคยเจิดจรัสไกลถึงฮอลลีวูดมาแล้ว เราอาจเคยได้ยินการยกย่อง “เอลวิส เพรสลีย์ เมืองไทย” อย่าง ตี๋-จิระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ หรือ “อาแล็ง เดอลงเมืองไทย” อย่าง ชาย เมืองสิงห์ ซึ่งฉายาดังกล่าวนั้นเป็นการคารวะต้นฉบับว่ามีเสน่ห์เป็นที่นิยมและจดจำ และในยุคสมัยหนึ่งเราก็มี เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร ดาราสาวคนดังมากความสามารถของไทย ที่ถูกเรียกว่า “ซูฉีเมืองไทย”  เพราะรูปร่างหน้าตานั้นแทบจะถอดบล็อกกันมาเลยทีเดียว และเป็นเหมือนการสะท้อนว่า “ซูฉี” นั้นดังและมีอิทธิพลกับวงการบันเทิงไทยแค่ไหน ซูฉี หรือ แฟนนี มีชื่อตอนเกิดว่า หลิน ลี่ฮุ่ย(林立慧)เป็นชาวไต้หวัน เรียนจบระดับมัธยมศึกษา เพราะพ่อประสบปัญหาจากธุรกิจ เธอจึงต้องดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยการก้าวสู่วงการบันเทิงด้วยความหวังว่าชีวิตของเธอจะดีขึ้น ซูฉีตัดสินใจเสี่ยงโชคข้ามน้ำข้ามทะเลไปฮ่องกงในช่วงที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของฮ่องกงเฟื่องฟู ผลิตดาราระดับแถวหน้าเอเชียอย่าง เฉินหลง, หลิวเต๋อหัว หรือ โจวซิงฉือ ออกมากวาดรายได้ทั่วเอเชีย แต่ไม่ใช่ว่าทุกรายจะประสบความสำเร็จ เพราะชื่อดาราทั้งสามที่เอ่ยมาข้างต้นนั้น ก่อนจะดังเปรี้ยงปร้างก็ล้วนแล้วแต่ผ่านบทสตันต์แมน ตัวประกอบอดทน หรือแม้กระทั่งเล่นเป็นศพนอนนิ่ง ๆ มาแล้ว เช่นกันกับ ซูฉี ที่เริ่มงานจากการถ่ายแบบแนวเซ็กซี่ รวมไปถึงวิดีโอ MV แนวปลุกใจเสือป่า ซึ่งเป็นบันไดสำหรับคนที่อยากจะมีชื่อเสียงในระยะอันสั้น แต่คำสาปและคำสบประมาทของคนที่ทำงานด้านขายภาพความเซ็กซี่ก็คือคนมักจะติดตากับภาพลักษณ์สาวฮอตทรงเสน่ห์ จนไม่สามารถก้าวข้ามไปรับบทบาทอย่างอื่นได้ บางคนอาจสบประมาทว่าเป็นเพียงพวกแค่ขายความสาวและความสวยเพียงชั่วคราวเท่านั้น ซูฉี: ลูกเป็ดขี้เหร่ในสายตาแม่ จากหนังเรตอาร์ สู่ดาราฮอลลีวูด

ภาพยนตร์ Sex and Zen II

คำถามก็คือ แล้วซูฉีจะก้าวข้ามคำสาปเหล่านี้ได้หรือไม่? สิ่งที่พิสูจน์เธอ คืองานของเธอที่ค่อย ๆ เปลี่ยนผ่านจากนักแสดงเรตอาร์ พัฒนาสู่นักแสดงคุณภาพนั่นเอง สำหรับโลกเซลลูลอยด์ ซูฉีเองก็เริ่มต่อยอดจากงานถ่ายแบบและมีโอกาสแสดงภาพยนตร์ไต้หวันอย่าง Unexpected Challenges ในปี 1995 แต่ไม่ได้ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด จนปี 1996 ชื่อของเธอเริ่มเป็นเป็นที่รู้จักในวงการภาพยนตร์เกรด 3 ของฮ่องกงที่เน้นความรุนแรงและฉากวับ ๆ แวม ๆ กับหนังอีโรติกกำลังภายในย้อนยุค อย่าง “อาบรักกระบี่คม 2 “ (Sex and Zen II) ซึ่งเป็นภาคต่อจากหนังอีโรติกในตำนานภาคแรกที่สร้างขึ้นในปี 1988 โดยภาคสองนี้ หวังจิง ผู้กำกับจอมขยัน ที่เคยสร้างผลงานคลาสสิกอย่าง “คนตัดคน” ที่นำโจวเหวินฟะมาปะทะหลิวเต๋อหัว เป็นคนกุมบังเหียนอำนวยการสร้าง Sex and Zen II Sex and Zen II มีความผสมผสานระหว่างหนังกำลังภายใน คอเมดี และอีโรติก ได้อย่างลงตัว หนังเล่าเรื่องในยุคราชวงศ์หมิง โดยล้อเลียนไปกับนิยายคลาสสิกอย่าง “ม่านประเพณี” เป็นเรื่องของลูกสาวเศรษฐีที่เกิดในบ้านของพ่อซึ่งเป็นคนมักมากในกาม และฝึกวิชา “จู๋เหล็ก” แข็งแกร่งระดับหิ้วลูกตุ้มได้ เธอเบื่อหน่ายที่พ่อกดขี่ผู้หญิงจึงหนีออกจากบ้าน ปลอมตัวเป็นผู้ชาย โดยใส่เกราะพรหมจรรย์เพื่อไม่ให้ชายใดล่วงล้ำ บทบาทที่ซูฉีได้รับในเรื่องนี้คือ “ปีศาจไร้เพศ” ที่แฝงตัวเข้ามาแต่งงานกับพี่ชายปัญญาอ่อนของนางเอก และหว่านเสน่ห์ใส่พ่อผู้มักมากในกาม จนนางเอกพยายามที่จะเปิดโปงเธอ ภาพของตัวร้ายในชุดเซ็กซี่สีแดงในฉากโชว์เนื้อหนังตัดกับผิวสีขาวในฉากอาบน้ำ รวมไปถึงการร่วมรักในแบบที่มีฝนสาด ทำให้ชื่อเสียงของซูฉีเริ่มเป็นที่รู้จัก ทำให้หลังจากนั้นเธอมีโอกาสได้รับงานมากขึ้น ซูฉี: ลูกเป็ดขี้เหร่ในสายตาแม่ จากหนังเรตอาร์ สู่ดาราฮอลลีวูด

ภาพยนตร์ Unexpected Challenges

“รักที่ตัว หัวใจไม่เกี่ยว” (Viva Erotica-1996) และ “ผู้หญิงกินอร่อยรัก” (The Fruit is swelling-1997) เป็นผลงานที่เธอฉายแววดารามากฝีมือ โดยเฉพาะเรื่องแรกถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของซูฉี ด้วยเนื้อหาที่ตีแผ่วงการหนังเกรด 3 ของฮ่องกง ที่ได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง เลสลี จาง มารับบทนำในบทผู้กำกับหนังเกรด 3 ที่ทนรับสภาพตัวเองไม่ได้ เขาอยากสร้างงานที่ทรงคุณค่ามากกว่านั้น เรื่องนี้ซูฉีแสดงบทบาทได้ดีในบทดาราที่ต้องเข้าฉากเลิฟซีน ซึ่งเธอถ่ายทอดผ่านประสบการณ์จริง เพราะตัวละครที่เธอได้รับบทบาทนั้นเดินทางมาจากไต้หวันและก้าวเข้าสู่วงการหนังเกรด 3 หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จด้านเสียงวิจารณ์อย่างล้นหลามบนเวที Hong Kong Film Awards ปี 1997 ที่เข้าชิงถึง 8 รางวัล ซึ่งซูฉีคว้ารางวัลมาได้ถึง 2 รางวัล ทั้งนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมและนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม เมื่อโอกาสเป็นของเธอ ซูฉีก็คว้ามันในการร่วมแสดงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง “เบ่งหัวใจฟัดให้ใหญ่” (Gorgeous-1999) ประกบกับนักบู๊เบอร์หนึ่งอย่าง เฉินหลง ทำเงินใน Box Office ฮ่องกงไปกว่า 41 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง รวมไปถึงภาพยนตร์กำลังภายในที่นำเอฟเฟกต์ระดับโลกในขณะนั้นมาใช้อย่าง “ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า” (The Storm Riders-1998) ในบท “ฉูฉู่” ลูกสาวของ “แขนกิเลน” ผู้สละแขนของตนเองให้กับเมฆา (Cloud) “ปู้จิ้งอวิ๋น” ภาพยนตร์สองเรื่องนี้เข้าฉายในไทย ทำให้ชื่อของซูฉีเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งวงการบันเทิงไทยตอนนั้นพยายามจะขายข่าวเรื่องที่ว่า ซูฉีเคยผ่านงานแนวอีโรติกมาก่อน มากกว่าจะโฟกัสเรื่องฝีไม้ลายมือในการแสดงของเธอ ซูฉี: ลูกเป็ดขี้เหร่ในสายตาแม่ จากหนังเรตอาร์ สู่ดาราฮอลลีวูด

ภาพยนตร์ Gorgeous

ที่จริงซูฉีเป็นคนที่มีทักษะการแสดงหลากหลายบทบาท อย่างเรื่อง City of Glass(1998) ภาพยนตร์โรแมนติกที่เธอประกบกับ หลี่หมิง 1 ใน 4 จตุรเทพ เธอก็ถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อย่างซาบซึ้ง และทั้งสองคนก็คบหากันอยู่ช่วงหนึ่ง สาเหตุจากการเลิกรากันนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแฟนคลับของหลี่หมิงรับไม่ได้กับผลงานแนวอีโรติกของซูฉีที่เคยถ่ายในอดีต อย่างไรก็ตาม หลี่หมิงเคยให้สัมภาษณ์ถึงซูฉีว่าเป็นคนที่เขารักและชื่นชมที่สุด เมื่อฮ่องกงเล็กไปสำหรับคนฝันใหญ่ ซูฉีประเดิมแสดงภาพยนตร์แอ็คชันฟอร์มยักษ์ของฮอลลีวูดอย่าง The Transporter (2002) โปรดิวซ์โดย ลุค เบซง ประกบกับ เจสัน สเตแธม ที่มารับบท “แฟรงก์ มาร์ติน” นักส่งของมืออาชีพผู้ไม่ถามว่าใครเป็นผู้ส่งและจะส่งไปให้ใคร แต่วันหนึ่งเขาละเมิดกฎโดยเปิดห่อที่เขาบรรทุกไปแล้วพบ “บราย” (ซูฉี) ถูกจัดส่งในขบวนการค้ามนุษย์ หนังเรื่องนี้มีทุนสร้างกว่า 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกวาดรายได้ทั่วโลกไป 43.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ชื่อเสียงของซูฉีไม่ได้จำกัดแค่ในเอเชียอีกต่อไป ซูฉี: ลูกเป็ดขี้เหร่ในสายตาแม่ จากหนังเรตอาร์ สู่ดาราฮอลลีวูด

ภาพยนตร์ My Wife is a Gangster 3

ซูฉียังมีผลงานต่อเนื่องในวงการภาพยนตร์เอเชีย ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ที่ชาวไทยรู้จักเธอก็เช่น So Close (2002) หนังแอ็คชันสุดมันทีมสาวล้วน คล้าย ๆ กับ Charlie’s Angels ที่ซูฉีนำแสดงร่วมทีมกับ คาเรน ม็อก และ เจ้าเหว่ย รวมไปถึง The Eye 2 (2004) ฝีมือกำกับของ ออกไซด์ และ แดนนี แปง ประกบกับพระเอกไทยอย่าง ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี เธอยังข้ามประเทศไปเล่นบทนำในหนังเกาหลีอย่าง My Wife is a Gangster 3 - ขอโทษอีกที แฟนผมเป็น ยากูซ่า 3 (2006) อีกด้วย นอกจากนี้ ช่วงหลังเธอผันตัวไปรับแสดงภาพยนตร์จากจีนแผ่นดินใหญ่ หลังจีนเปิดประเทศและอุตสาหกรรมภาพยนตร์คึกคัก อย่างเรื่อง The Island และ Shanghai Fortress อีกทั้งยังเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์สินค้าทั้งแฟชันและเครื่องประดับอีกหลายแบรนด์ด้วย ซูฉีเคยให้สัมภาษณ์กับ VOGUE ว่าตัวจริงเธอเป็นคนตรงไปตรงมา และด้วยความที่มาจากครอบครัวที่เคยยากไร้มาก่อน มีบางช่วงเธอยอมรับว่าเตลิดไปกับการใช้เงินฟุ่มเฟือย แต่ก็ได้สติกลับมาหลังจากมีโอกาสเดินทางไปยังแอฟริกา และพบว่ายังมีคนที่ลำบากและขาดแคลนกว่าอีกมากมาย ซูฉียังยอมรับว่าเธอเป็นคนค่อนข้างขี้เกียจและไม่อยากทำงานหนัก ชื่อเสียงของเธอก็พอมีอยู่ ทำให้ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนไปพิสูจน์ตัวเองที่ฮอลลีวูดอีกแล้ว เพราะเธอเคยทำมันมาแล้ว เมื่อพูดถึงซูฉี ทุกคนมักจะนึกถึงปากอิ่มทรงเสน่ห์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเธอ แต่ซูฉีกลับบอกว่า “แม่ชอบบอกว่า ฉันหน้าตาขี้เหร่มาก ๆ มากแบบที่แม่ว่าไม่เคยเห็นใครขี้เหร่เท่านี้เลยนะคะ” ครั้งหนึ่งสื่อบันเทิงจากสิงคโปร์ 8 Days พยายามถามถึงผลงานในอดีต แต่ซูฉีตอบกลับไปว่า “มันเป็นเรื่องนานกว่าสิบปีแล้ว ซึ่งการที่ยังถูกถามเรื่องนี้ ค่อนข้างจะทำให้น่าหงุดหงิดใจเหมือนกัน” เพราะสำหรับเธอ การมองไปข้างหน้านั้นสำคัญกว่ามองย้อนกลับหลัง ซูฉีเข้าพิธีวิวาห์กับผู้กำกับหนุ่ม ฝง เต๋อหลุน เมื่อปี 2016 ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมากว่า 20 ปีก่อนที่จะตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ เธอเคยให้สัมภาษณ์ถึงสามีว่า รู้จักกันตั้งแต่เล่นหนังเรื่อง Bishonen ด้วยกันในปี 1998 แล้วพัฒนาความสัมพันธ์เรื่อยมาจนใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เธออยากมีลูกเป็นอย่างมากเพื่อให้ครอบครัวสมบูรณ์ถึงกับเลิกเหล้าและบุหรี่ แต่ว่าสามีก็ทำแต่งานจนยังไม่มีลูก ซึ่งในปี 2017 สามีของเธอได้กำกับหนัง The Adventurers โดยมีซูฉีเป็นนางเอก ถือเป็นการกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งในฐานะสามีภรรยา ซูฉี: ลูกเป็ดขี้เหร่ในสายตาแม่ จากหนังเรตอาร์ สู่ดาราฮอลลีวูด

 ภาพยนตร์ The Adventurers

หากมองจากจุดเริ่มต้นแล้ว ชีวิตของซูฉีเดินทางมาไกลเหลือเกิน และเป็นบทเรียนว่าชีวิตทุกคนนั้นไม่สมบูรณ์แบบ บางคนอาจจะต้องดิ้นรน แต่ท้ายที่สุดคุณก็สามารถประสบความสำเร็จได้ หากคุณสามารถไขว่คว้าโอกาสของตัวเองเมื่อมาถึงไว้กับมือ เช่นเดียวกับซูฉีที่เป็นดาวค้างฟ้าของวงการบันเทิงเอเชีย และเมื่อนึกถึงซูฉี ไม่มีใครลืมแววตาแสนซน รอยยิ้มที่ขี้เล่น และริมฝีปากที่อวบอิ่มของเธอได้เป็นอันขาด ... เรื่อง: พิเชฐ ยิ่งเกียรติคุณ