โซฟี ทาลส์ ทิลด์ “Invisibobble” ยางรัดผมสุดเก๋ ที่ปิ๊งไอเดียจากสายโทรศัพท์

โซฟี ทาลส์ ทิลด์ “Invisibobble” ยางรัดผมสุดเก๋ ที่ปิ๊งไอเดียจากสายโทรศัพท์
สำหรับคนผมยาวเเล้วคงไม่มีใครไม่เคยรัดผม ยิ่งในวันอากาศร้อนหรือตอนปั่นงานในออฟฟิศ มักจะเผชิญกับอาการปวดหัว ผมเป็นรอย หรือแม้กระทั่งยางกินผมเวลารวบผมนาน ๆ แต่ด้วยไอเดียแบบไม่ตั้งใจของ โซฟี ทาลส์ ทิลด์ (Sophie Trelles-Tvede) ที่กำลังจะออกไปปาร์ตี้ กลับกลายเป็นจุดกำเนิด Invisibobbleนวัตกรรมยางรัดผมที่ออกมาช่วยชีวิต “ผม” ของคนผมยาว และกลายเป็นธุรกิจที่ส่งออกไปกว่า 70 ประเทศทั่วโลก โซฟีเป็นชาวเดนิช เข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่ Warwick Business School ประเทศอังกฤษ ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของเธอคือการไปเรียน กลับหอ แล้วก็ออกไปปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ในตอนนั้นเหมือนโซฟีกำลังค้นหาตัวเอง เธอไม่รู้ว่ามาเรียนมหาวิทยาลัยเพื่ออะไร คิดแค่เพียงว่าทำตามสเต็ปชีวิตที่หลาย ๆ คนปฏิบัติกันก็คือ เรียนให้จบปริญญาตรี ต่อปริญญาโท แล้วก็หางานดี ๆ สักงานทำ แค่นั้นก็คงพอแล้ว “ฉันมีความรู้สึกเหมือนหาตัวเองไม่เจอ เพราะมัวเเต่หาวอดก้าเเละกระทิงเเดง” โซฟีบอก สำหรับโซฟีที่ตอนนั้นเรียนอยู่ปี 1 การออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ปาร์ตี้กันสุดเหวี่ยง เป็นกิจวัตร (เกือบ) ประจำวัน และเป็นความสุขแบบสุด ๆ คืนนั้นไปที่นี่ คืนนี้ไปที่นั่น กระทั่งคืนหนึ่งที่ถึงคราวปาร์ตี้ซึ่งมีธีมว่า “รสนิยมแย่” โซฟีจึงคว้าเสื้อมัดย้อมมาใส่ คาดด้วยเข็ดขัดสุดแวววาว พร้อมหยิบเครื่องประดับชิ้นนั้นชิ้นนี้มาห้อยให้ดูพะรุงพะรังไปหมด แถมยังแต่งหน้าให้ดูฉูดฉาดบาดตา แบบที่เรียกว่าดูยังไงทุกอย่างก็ไม่เข้ากันสมกับธีมปาร์ตี้ แต่ถึงขนาดนั้น โซฟีก็รู้สึกว่ายังแต่งให้แย่กว่านี้ได้อีก มันควรจะมีอะไรที่ผมสักหน่อย ทันใดนั้นเธอก็เหลือบไปเห็นโทรศัพท์เก่า ๆ ในหอพัก จึงดึงสายโทรศัพท์ออกมาผูกแล้วทำเป็นที่รัดผม จัดเต็มขนาดนี้แล้วก็ออกไปปาร์ตี้ได้เลย! เช้าวันต่อมา โซฟีตื่นขึ้นทั้ง ๆ ที่ยังรวบผมอยู่ แต่กลับไม่มีอาการปวดหัวแบบที่เคยเป็น พอเธอเอาสายโทรศัพท์ที่มัดผมออก ผมก็แทบไม่มีรอยจากการมัดเลย โซฟีในวัย 18 ปี เลยเกิดปิ๊งไอเดียว่าสิ่งนี้น่าจะขายได้และต้องไปได้สวยแน่นอน จึงโทรศัพท์หาเพื่อนสนิทอย่าง เฟลิกซ์ ฮาฟฟา (Felix Haffa) เพื่อชวนมาร่วมธุรกิจด้วยกัน แบรนด์ยางรัดผม Invisibobble จึงถือกำเนิดขึ้นด้วยแนวคิดที่ว่า ผลิตภัณฑ์ใกล้ตัว ต้นทุนถูก และไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ

โซฟี ทาลส์ ทิลด์ “Invisibobble” ยางรัดผมสุดเก๋ ที่ปิ๊งไอเดียจากสายโทรศัพท์

ในมุมของโซฟี สินค้าไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ขนาดคิดได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในโลก แต่เป็นสินค้าที่สามารถหาได้ใกล้ ๆ ตัว และอุดจุดอ่อนของสินค้านั้น ๆ ให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น บางธุรกิจอาจเริ่มจากสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างเธอเองที่ชอบมัดผมอยู่ตลอด แต่ต้องหงุดหงิดเมื่อมีอาการปวดหัวและผมเป็นรอยจากการรวบผมเป็นเวลานาน พอได้เจอกับสิ่งที่แก้ปัญหาให้ตัวเองได้ โซฟีก็เลยคิดว่าสิ่งนี้น่าจะช่วยแก้ปัญหาให้คนอื่นได้เหมือนกัน ต้นทุนถูก คือโซฟีเริ่มธุรกิจด้วยเงิน 4,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 120,000 บาท ซึ่งด้วยความที่ชื่นชอบปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจ เงินจำนวนนี้สำหรับโซฟีจึงเทียบเท่ากับราคาวอดก้าประมาณ 1,350 ขวดเท่านั้น ซึ่งไม่ได้แพงมากนักกับการเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างหนึ่ง แถมยังมีแนวโน้มจะทำเงินได้ด้วย โซฟีเริ่มทำการบ้านอย่างหนัก หาข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ทำยางรัดผม เสิร์ชอินเทอร์เน็ตเพื่อหาร้านรับผลิต และหาร้านค้าออนไลน์เพื่อจะวางขายสินค้า เธอจ่ายค่าออกแบบโลโก้แบรนด์ไป 130 เหรียญ ที่เหลือคือค่าผลิตยางรัดผมล็อตแรก พร้อมศึกษาช่องทางการตลาดไปด้วย “ที่มันราคาถูกได้เพราะพวกเราใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการหาข้อมูล ซึ่งต้องเเลกมากับการนอนดึกเเละไม่ได้ทำอย่างอื่น” โซฟีเล่า ข้อสุดท้ายคือไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ เพราะโซฟีไม่ได้รู้เรื่องราวลึก ๆ ของยางรัดผมเลยสักนิด เธอรู้แค่ว่ามันเป็นปัญหาที่คนผมยาวส่วนใหญ่ต้องเจอ ส่วนเฟลิกซ์นั้นยิ่งกว่าโซฟีเสียอีก เขาไว้ผมสั้นมาตลอด เลยอาจไม่เข้าใจความรู้สึกของคนผมยาวมากนัก แต่สิ่งที่โซฟีและเฟลิกซ์ทำคือการหาข้อมูล การถามผู้ใช้งานจริง และการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้สินค้าที่ตอบความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง โซฟีแปลงร่างจากสาวปาร์ตี้มาสู่โหมดนักธุรกิจ ค่ำคืนที่เธอมักใช้ไปกับงานปาร์ตี้ กลายเป็นเวลาที่เธอใช้หาข้อมูลอย่างคร่ำเคร่งจริงจัง ซึ่งหลังจากใช้เวลาศึกษาธุรกิจอยู่ราว 6 เดือน ในที่สุด ปี 2012 โซฟีก็ปล่อยยางรัดผมออกวางขายออนไลน์ในประเทศเยอรมนี และยังขายแบบออฟไลน์ให้ช่างทำผม จากนั้นก็ฟังเสียงตอบรับจากผู้ใช้ ทั้งเรื่องความยากง่ายในการใช้งาน สีสัน และรูปแบบ เพื่อให้ได้สินค้าที่ดีที่สุด หลังจากนำกระแสตอบรับทั้งข้อดีและข้อด้อยมาพัฒนาสินค้า ในปี 2013 โซฟีก็เริ่มส่งออกตลาดประเทศอื่น ๆ มากขึ้น คราวนี้ถึง 17 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่คือประเทศในยุโรปและประเทศสหรัฐอเมริกา “ตอนนั้นฉันอายุแค่ 18-19 ปี แต่ต้องเข้าประชุมกับผู้ค้ารายใหญ่ ๆ เอาจริงแล้วฉันก็รู้สึกเขินอยู่เหมือนกัน แล้วก็ไม่ค่อยอยากบอกอายุเท่าไหร่เลยเวลามีคนถาม” ปัจจุบัน ยางรัดผมแบรนด์ Invisibobble วางขายราว 70 ประเทศทั่วโลก ทั้งช่องทางออนไลน์ ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา แม้แต่บนเครื่องบินหรือเรือสำราญก็ยังมี โดยในปี 2018 สามารถขายได้กว่า 4 ล้านชิ้น หรือถ้าให้เทียบคือทุก 1 นาที จะมีคนซื้อยางรัดผม Invisibobble ถึง 8 ชิ้นเลยทีเดียว และด้วยขนาดธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น ทำให้จากเดิมที่บริษัทมีพนักงานเพียง 2 คนคือโซฟีและเฟลิกซ์ ตอนนี้ก็มีจำนวนพนักงานเพิ่มเป็นกว่า 100 คนแล้ว ถึงจะประสบความสำเร็จกลายเป็นยางรัดผมขวัญใจคนผมยาวในหลายประเทศทั่วโลก แต่ Invisibobble ก็ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เพราะทุกวันนี้มีทั้งยางรัดผมที่ออกแบบมาสำหรับเด็ก ยางรัดผมสำหรับคนผมน้อยหรือผู้ที่ต้องการแบ่งผมเป็นช่อเล็ก ๆ รวมถึงยางรัดผมสำหรับผู้ที่รักการออกกำลังกาย สามารถรัดผมได้แน่นแม้เวลากระโดดหรือเคลื่อนไหวร่างกายแรง ๆ และอีกหลายรุ่นที่สร้างมาเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป “สำหรับนักศึกษาอย่างฉันเเล้ว ถ้าตอนนั้นล้มเหลว ฉันก็คงไม่ได้เสียอะไรมากมาย คิดซะว่าเเค่เสียเงินซื้อวอดก้า 1,350 ขวดเท่านั้น” อดีตสาวปาร์ตี้อย่างโซฟีบอก   ที่มา https://www.forbes.com/pictures/mlf45emidk/felix-haffa-23-sophie/#6f3954a1588d https://www.salonmagazine.ca/catching-up-with-invisibobble-co-founder-sophie-trelles-tvede/ https://www.invisibobble.com/our-story/ https://www.youtube.com/watch?v=8QndiGDebeE&t=86s https://www.allure.com/story/invisibobble-kink-free-hair-ties   เรื่อง : อนัญญา นิลสำริด (The People Junior) ภาพ: https://www.invisibobble.com/