24 ต.ค. 2567 | 16:30 น.
แกร็บฟู้ด ผู้นำแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรียอดนิยม เผยคนไทยขี้เบื่อ ชอบลองเมนูใหม่ ชงพาร์ทเนอร์ร้านอาหารเพิ่มเมนูใหม่เฉลี่ย 25% ต่อปี ผุดกลยุทธ์ Collaborative Marketing จับคู่ร้านฮิตติดกระแส ส่งเมนูพิเศษแบบโค-ครีเอชัน (Co-Creation Menu) เอาใจสายกินตลอดทั้งปี ซึ่งช่วยต่อยอดธุรกิจและเพิ่มทราฟิกเข้าร้านได้ถึง 2 เท่า พร้อมเปิดตัวแคมเปญล่าสุด #GrabThumbsUp อร่อยจริง จากคนกินจริง ตอกย้ำจุดแข็งในด้านคุณภาพและความหลากหลาย มาพร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 500 บาท พร้อมโปรฯ เด็ดส่งฟรีทั้งเมือง*
จิรกิตต์ กว้างสุขสถิตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเดลิเวอรี แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “คนไทยถือเป็นชาติที่ยืนหนึ่งในเรื่องอาหารและให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องการกิน โดยเฉพาะกลุ่มเจน Y และเจน Z ที่ชอบสรรหาร้านอาหาร รวมถึงเมนูใหม่ๆ มาลิ้มลองเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลพฤติกรรมการใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี โดยเราพบว่าหนึ่งในปัจจัยหลักที่ผู้ใช้บริการ GrabFood ให้ความสำคัญคือ การมีตัวเลือกของร้านอาหารที่หลากหลาย รวมถึงการนำเสนอเมนูอาหารที่แปลกใหม่และน่าสนใจ ดังนั้น เราจึงได้พยายามส่งเสริมให้ผู้ประกอบการร้านอาหารที่อยู่บนแพลตฟอร์มพยายามพัฒนาสินค้าและเมนูใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยในแต่ละปีพาร์ทเนอร์ร้านอาหารของแกร็บได้เพิ่มเมนูใหม่ๆ เฉลี่ยมากกว่า 25% เพื่อตอบโจทย์และเอาใจผู้ใช้บริการสายกิน”
“นอกจากการคัดสรรร้านอร่อยชื่อดังจากทั่วประเทศมาแนะนำให้ผู้ใช้บริการผ่านแฟลกชิปแบรนด์อย่าง #GrabThumsUp แล้ว อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่แกร็บบุกหนักในปีนี้ คือ การทำ Collaborative Marketing โดยจับคู่ร้านเด็ดที่มีเมนูฮิตติดเทรนด์มาร่วมมือกันสร้างสรรค์อาหารหรือเครื่องดื่มใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างและประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่หาได้เฉพาะที่แกร็บ โดยเราเริ่มทดลองคอนเซ็ปต์นี้มาตั้งแต่ปี 2565 ผ่านการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลบนแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มพฤติกรรมการสั่งอาหาร ยอดขายของร้านหรือเมนูที่ได้รับความนิยม ควบคู่ไปกับการจับเทรนด์ที่กำลังมาแรง โดยแกร็บทำหน้าที่เป็นตัวกลางคอยเชื่อมให้ร้านเด็ดแบรนด์ดังได้ผนึกความร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมหรือสินค้าใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการและถือเป็นการต่อยอดธุรกิจ ทั้งนี้ เราพบว่า การสร้างสรรค์เมนูพิเศษแบบโค-ครีเอชัน (Co-Creation Menu) ช่วยเพิ่มทราฟิกหรือการเข้าถึงร้านค้าบนแพลตฟอร์มได้ถึง 2 เท่า เมื่อเทียบช่วงก่อนและหลังการทำ Collaborative Marketing โดยตลอดทั้งปีนี้ GrabFood ได้นำเสนอเมนูพิเศษรวมกว่า 20 เมนูจากมากกว่า 30 ร้านดัง โดยได้รับเสียงตอบรับที่ดีและกระแสความนิยมจากผู้ใช้บริการอย่างล้นหลาม”
ภายใต้กลยุทธ์ Collaborative Marketing แกร็บได้ผนึกความร่วมมือกับแบรนด์ร้านอาหารต่างๆ ใน 3 รูปแบบ คือ
“สำหรับในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แกร็บฟู้ดเตรียมเปิดตัวแคมเปญใหม่ล่าสุด #GrabThumbsUp อร่อยจริง จากคนกินจริง เพื่อตอกย้ำจุดแข็งของแฟลกชิปแบรนด์อย่าง #GrabThumbsUp ที่คอยคัดสรรร้านอร่อยจากทั่วประเทศที่มีคะแนนเรตติ้งสูงและได้รับการรีวิวจากคนกินจริงมาแนะนำให้ผู้ใช้บริการ ซึ่งรวมถึงเมนูโค-ครีเอชันจากหลายแบรนด์ชั้นนำที่เตรียมทยอยเปิดตัวเพื่อเอาใจสายกิน มาพร้อมความคุ้มค่าด้วยการมอบส่วนลดคืนสูงสุดถึง 500 บาทสำหรับการสั่งอาหารในครั้งต่อไป พร้อมโปรฯ เด็ดส่งฟรีทั้งเมือง* เพียงใส่โค้ด 0BAHT ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม - 24 พฤศจิกายนนี้” จิรกิตต์ ทิ้งท้าย
*หมายเหตุ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด