01 เม.ย. 2568 | 17:00 น.
YOLK (โยล์ค) แบรนด์ทาร์ตไข่ฝีมือคนไทย จาก The Holiday Group (เดอะ ฮอลิเดย์ กรุ๊ป) ภายใต้การปลุกปั้นโดย นายสาริน รณเกียรติ และ นายวสุวัส คูหาเปรมกิจ สองผู้บริหารหนุ่มไฟแรง ที่มุ่งมั่นสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการขนมของไทยก้าวไปไกลระดับโลก ด้วยแนวคิด The Rise of YOLK – The Next-Level Thai Egg Tart หลังเปิดแบรนด์เพียง 4 เดือน สร้างกระแสฟีเวอร์ ลูกค้าต่อแถวตั้งแต่ร้านเปิดจนร้านปิด เสิร์ฟความอร่อยเดือนละกว่า 100,000 ชิ้น ครองใจทั้งกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างชาติ ด้วยจุดเด่นของทาร์ตไข่สูตรออริจินัล แป้งครัวซองต์ที่กรอบนอก ฉ่ำใน ไปจนถึงไส้คัสตาร์ดรสละมุน โดยในปีนี้ มีแผนจะขยายสาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑลเพิ่มอีก 5 สาขา พร้อมเดินหน้า Collaboration กับแบรนด์ไทยในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง ต่อยอดการเป็นเกตุเวย์พาแบรนด์ไทยไปสู่ระดับโกลบอล
สาริน รณเกียรติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ร่ำรวยที่สุด จำกัด ในเครือเดอะ ฮอลิเดย์ กรุ๊ป กล่าวว่า หลังจากสั่งสมประสบการณ์ในการปั้นแบรนด์ Holiday Pastry มา 5 ปีเต็ม จึงตัดสินใจต่อยอดความสำเร็จด้วยการเปิดแบรนด์น้องใหม่ YOLK หลังจากเปิดตัวมา 4 เดือน ได้รับการตอบรับจากลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติอย่างล้นหลาม มีอัตราการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าอยู่ที่คนไทย 60 % และต่างชาติ 40% ส่วนหนึ่งเพราะได้อานิสงส์จากโลเคชั่นร้าน สาขาบรรทัดทองและเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นย่านเดสทิเนชั่นของคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะฐานลูกค้าจากจีน ฮ่องกง เกาหลี และญี่ปุ่น โดยเหตุผลที่เลือกแตกแบรนด์ใหม่ พร้อมเลือกเมนูทาร์ตไข่ เพราะมองว่าเป็นขนมสุดคลาสสิกที่สามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของทุกคน
“เราเชื่อในพลังของการเป็นเทรนด์เซ็ตเตอร์ เพราะที่ผ่านมา เดอะ ฮอลิเดย์ กรุ๊ป ก็เคยสร้างปรากฏการณ์ให้เมนูขนมหลายๆ เมนูเป็นกระแสมาแล้ว ดังนั้น พอจะปั้นแบรนด์ใหม่ เราเล็งเห็นว่าทาร์ตไข่ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด และสำหรับตลาดเมืองไทย ก็ยังมีโอกาสทางการตลาดสำหรับขนมทาร์ตไข่อีกมากที่จะก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์เลิฟ ซึ่งเราก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเราทำได้สำเร็จอีกครั้งหนึ่งสำหรับ
แบรนด์ YOLK ที่กลายเป็นแบรนด์ทาร์ตไข่ของคนไทยที่เป็นท็อปแบรนด์ในใจทาร์ตไข่เลิฟเวอร์ไปแล้วในตอนนี้ แม้เราจะได้สูตรทาร์ตไข่ต้นตำรับจากเชฟชาวฮ่องกง ที่เคยช่วยเราพัฒนาขนมไหว้พระจันทร์จนได้รับความนิยมอย่างมากมาแล้ว แต่เราได้รับคำชมจากลูกค้าเยอะเลยว่า ชอบและถูกใจในความอร่อยรสชาติของ YOLK มากกว่าแบรนด์ในต่างประเทศ ซึ่งตรงกับความตั้งใจของเรามากๆ เพราะเรานำทาร์ตไข่ของ YOLK มาพัฒนาและปรับสูตรอย่างพิถิพิถันในทุกขั้นตอน เพื่อให้ถูกปากคนไทยมากที่สุด ตลอดจนความใส่ใจในการเลือกวัตถุดิบพรีเมียม เพื่อให้ทุกคำที่กัดลงไป หอม กรอบ ละมุน ไม่เหมือนใคร อาทิ ไข่ไก่ที่ใช้ มาจากแม่ไก่อารมณ์ดี จึงให้รสชาติกลมกล่อม เนย (French AOP Butter) ที่ผ่านการบ่มสูตรพิเศษ เพิ่มความหอมและรสสัมผัสที่ล้ำลึก, แป้งครัวซองต์ฝรั่งเศส (Croissant Dough) บางกรอบ เรียงชั้นสวยทุกคำ, คาราเมลเนยหมักบ่มพิเศษ (Salted Butter Caramel Sauce) ที่มาเพิ่มมิติความหวานละมุนและกลมกล่อม และวานิลลามาดาร์กัสการ์ (Madagascar Vanilla ซึ่งถือเป็นแหล่งที่ดีที่สุด มอบกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้ลูกค้าต่างประทับใจ คือ ทาร์ตไข่ของ York อบสดใหม่จากเตา ทุก 30 นาที และมีการปรับสูตรให้คงความกรอบได้นาน”
สาริน ยังกล่าวด้วยว่า ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ทำเลของร้านที่อยู่ในจุดยุทธศาสตร์ และการสร้างแบรนด์ดิ้งที่ชัดเจนมาตั้งแต่วันแรก ทำให้ YOLK ไม่เพียงเป็นกระแสตั้งแต่เปิดตัว แต่ยังเป็น
แบรนด์ที่รักษากระแสความนิยมได้ต่อเนื่อง จนเป็นเสมือนแลนด์มาร์ก ที่ชาวต่างชาติอยากมาลิ้มลองรสชาติของทาร์ตไข่ที่ไม่เหมือนใคร และครองใจลูกค้าคนไทยที่ได้มาลองแล้วต่างติดใจ ทำให้แบรนด์มียอดขายเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง มีคิวแน่นทุกสาขา ทั้งที่สาขาแรก ย่านบรรทัดทอง (ฝั่งตรงข้ามจุฬา ซอย14) สาขา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด ชั้น 7 (หน้าลิฟท์แก้ว ใกล้โรงภาพยนตร์ SF) ตลอดจนสาขาเจริญนคร 10 (เฉพาะเดลิเวอรี่) กระทั่ง ปัจจุบัน แบรนด์ YOLK มียอดขายทะลุ 100,000 ชิ้นต่อเดือน
“เราเชื่อว่า specialty is a new normal ยิ่งลูกค้ามีตัวเลือกเยอะ ยิ่งต้องทำแบรนด์ดิ้งให้ชัด เราจึงนำประสบการณ์ 5 ปี จาก Holiday Pastry มาต่อยอด นอกจากโพรดักส์ต้องแข็งแรง อร่อย ยังต้องสื่อสารตัวตนให้ชัดตั้งแต่วันแรก ในทุกช่องทางทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ที่สำคัญกว่านั้นคือ กว่าจะเป็นทาร์ตไข่เล็กๆ 1 ชิ้น เราทดลองเยอะมาก เพื่อให้ได้ทาร์ตไข่รสชาติที่ใช่จริงๆ เราคิดเสมอว่า เวลาทำสินค้าเราไม่ได้ทำให้ตัวเอง แต่ทำให้ลูกค้ารับประทาน ดังนั้น นอกจากจะเทสต์รสชาติกันในบริษัท ยังนำไปให้คนรอบตัวและกลุ่มตัวอย่างช่วยชิม เพื่อให้มั่นใจว่ารสชาติต้องถูกปากคนไทยให้มากที่สุด ถึงจะเสิร์ฟ เพราะคำว่าอร่อยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่เราก็พยายามทำให้อร่อยสำหรับทุกคน”
สำหรับกลยุทธ์ในการเดินเกมรุกจากนี้ นายสาริน กล่าวว่านอกจากจะเดินหน้าขยายสาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑลเพิ่มอีก 5 สาขาในปีนี้ พร้อมขยายครัวกลางให้พร้อมรองรับความต้องการของลูกค้า ยังมีแผนจะแท็กทีมกับแบรนด์ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มของไทย เพื่อนำเสนอรสชาติใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เพื่อสร้างชื่อให้แบรนด์ไทยไปไกลในระดับสากล โดยคาดว่าจะทยอยเปิดตัวผลงาน Collaboration ในช่วงไตรมาสสาม ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา YOLK ได้ประเดิมความร่วมมือกับ MTCH
แบรนด์มัทฉะสเปเชียลตี้ของไทย รังสรรค์ทาร์ตไข่มัทฉะโมจิสด (Uji Matcha Mochi Egg Tart) เปิดประสบการณ์ใหม่ให้เหล่านักชิมได้สัมผัสศิลปะของทาร์ตไข่ต้นตำรับและมัทฉะสเปเชียลตี้ในคำเดียว เหตุผลที่เราเน้น Collaboration กับแบรนด์ไทยด้วยกัน เพราะในฐานะผู้ประกอบการ SME เราเข้าใจดีว่า ปัจจุบัน SME ไทยต้องรับมือกับความท้าทายรอบด้าน เราเห็นเพื่อนๆหลายๆ แบรนด์ค่อยๆล้มหายไปจากตลาดเอฟแอนด์บี
“YOLK มองว่าถึงเวลาที่แบรนด์ไทยด้วยกันจะจับมือกันโต และร่วมมือกันทำให้ทุกคนเห็นว่า แบรนด์ไทยก็มีดีไม่แพ้แบรนด์ต่างชาติ โดย YOLK พร้อมจะทำหน้าที่เป็นเหมือนเกตเวย์ที่พาแบรนด์ไทยไปให้กลุ่มลูกค้าต่างชาติได้สัมผัสและเติบโตไปด้วยกัน อยากให้แบรนด์ YOLK เข้ามาช่วยยกระดับมาตรฐานแบรนด์ขนมของคนไทย เป็นหนึ่งในแม่เหล็กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้อยากมาไทย เมื่อไหร่ที่คิดถึงทาร์ตไข่ต้องคิดถึงประเทศไทย”
สำหรับเป้าหมายในอนาคต สาริน กล่าวทิ้งท้ายว่า วิสัยทัศน์ของ The Holiday Group ต้องการนำรสชาติความเป็นไทยไปสู่ระดับโลก (Local to Global) ทั้งนี้ คาดว่า หาก YOLK ขยายครบ 7 สาขา จะทำให้มียอดขายทาร์ตไข่แตะล้านชิ้นต่อเดือน